![]() |
เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวในสิงห์บุรี เมืองของดีแห่งลุ่มน้ำภาคกลาง มาให้เพื่อนๆผู้รักการเดิททาง แวะไปย่างกรายกันค่ะ |
ก็ขอสวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆและคุณผู้อ่านที่รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้นกันทุกๆคน หากช่วงนี้เพื่อนๆคนใหนกำลังจะวางแผนไปเที่ยวแบบไทยๆสไตล์ภาคกลาง หนึ่งในเมืองยอดนิยมที่ต้องแวะไปเช็คอินน์อีกแห่งคงหนีไม่พ้น เมืองสิงห์บุรี เมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดตาและตราตรึงใจให้แวะไปชมอยู่หลากหลายแห่งเลยล่ะค่ะ แถมอาหารการกินในเมืองนี้ก็อร่อยแซ่บสะเดิด ตะเลิดเปิดเปิงถึงทรวงในทีเดียว เพราะมีน่านฟ้าอาณาเขตติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ข้าวปลาที่นี้ก็อุดมสมบูรณ์ดีเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนัก หากใครอยากจะพักผ่อนเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ปักหมุดไปเที่ยวสิงห์บุรี วันเดียว ก็เที่ยวได้สบายใจเฉิบกันไปเลยทีเดียว
และอีกอย่างสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งก็อยู่ไม่ไกลกันด้วย ส่วนเพื่อนๆคนใหนที่ยังไม่รู้ว่าจะแวะจรลี หนีไปเที่ยวแวะชมที่ใหนบ้างนั้น วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า เลิกจากงานประจำ มานั่งเคาะแป้นพิมพ์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองสิงห์บุรี แบบเที่ยวได้ 1 วัน ก็สุขสันต์เริงร่า ช่ะช่ะช่าหัวใจ แวะไปได้อย่างสำราญเริงใจ ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวกันได้เลยจ้า
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองสิงห์บุรี เมืองงามแห่งลุ่มแม่น้ำภาคกลาง มีอะไรบ้าง
1.พระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี ( Wat Phra Non Chakkrasi Worawihan,) |
1.พระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี ( Wat Phra Non Chakkrasi Worawihan in Sing Buri,) |
1.พระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี (Wat Phra Non Chakkrasi in Sing Buri,) |
หากใครที่แวะมาสิงห์บุรี ต้องไม่พลาดมากราบสักการะพระนอนจักรสีห์ พระคู่บ้านคู่เมืองแห่งนี้ เรียกว่าหากใครจะมาเที่ยวสิงห์บุรี และไม่ได้แวะมากราบสักการะพระพุทธไสยาสน์ ถือว่าไม่ไม่ถึงเมืองสิงห์บุรีเลยนะ
สำหรับวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารนั้น ตั้งอยู่ที่ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมือง เป็นวัดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสิงห์บุรี เป็นสถานที่ประดิษบานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สุด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่ปรากฎหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ทราบแต่ว่าเมื่อปี 2292 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 หรือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ได้เสด็จมาทรงนมัสการและประทับแรมที่วัดแห่งนี้ เป็นเวลา 1 คืน เมื่อเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยาแล้วโปรดให้ทำการปฎิสังขรณ์ องค์พระพุทธไสยาสน์ใหม่ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วได้เสด็จมายังวัดแห่งนี้อีก เพื่อทรงสมโภชและเฉลิมฉลองวัดเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน แล้วจึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา
พระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนจักรสีห์ เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามองค์หนึ่ง
เป็นศิลปะสมัยสุโขทัย มีความยาว 1 เส้น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว
เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสิงห์บุรี
ที่ชาวเมืองและจังหวัดใกล้เคียงเคารพนับถือกันมากกว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์
2.วัดหน้าพระธาตุ (Wat Na Phrathat ) |
2.วัดหน้าพระธาตุ (Wat Na Phrathat) |
2.วัดหน้าพระธาตุ |
อีกหนึ่งวัดสำคัญอยู่ติดๆกันกับวัดพระนอนจักสีห์ สามารถเดินเท้าไปได้ไม่ไกล เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญอีกแห่งในสิงห์บุรี โดยวัดหน้าพระธาตุนี้ แต่เดิมเรียกกันว่าวัดศรีษะเมือง ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดหน้าพระธาตุ และเชื่อกันว่าเป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมลำน้ำจักร์สีห์ บริเวณเมืองสิงห์เก่าตัววัดตั้งอยู่บนลานดินยกพื้นสูง มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดประมาณ 34x116 เมตร ล้อมรอบไปด้วยกำแพงแก้ว ภายในประกอบด้วยเจดีย์ประธานทรงปรางค์เป็นหลักของวัด องค์ปรางค์ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นรูปครูฑขนาบด้วยอสูรถือกระบองบนชั้นอัสดง วิหารตั้งอยู่ทางด้านตะวันออก และพระอุโบสถตั้งอยู่ด้านตะวันตก
และจากการดำเนินงานศึกษาทางด้านโบราณคดี สันนิษฐานว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงก่อนสมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 19 แล้วมีการเปลี่ยนแปลงระเบียบแผนผัง ขนาดและรูปแบบศิลปกรรมของวัดหลายครั้งมาโดยตลอด จนถึงสมัยอยุธยาตอนกลาง ราวพุทธศตวรรณที่ 22 จึงได้ละทิ้งไป อันเนื่องจากเกิดสงครามบริเวณพื้นที่นี้หลายครั้ง ในช่วงระยะเวลานั้นกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดหน้าพระธาตุ เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478
3.วัดพิกุลทอง (pikulthong temple) |
3.วัดพิกุลทอง (pikulthong temple) |
3.วัดพิกุลทอง (pikulthong temple) |
วัดสวยงามโดดเด่นที่สามารถมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาแต่ระยะไกล หากใครแวะผ่านก็ต้องมายลตระการ กราบสักการะนมัสการกันสักครั้งครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน สำหรับวัดพิกุลทอง (เดิมชื่อวัดใหม่พิกุลทอง) เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้านตำบลพิกุลทองนั้น น่าจะเป็นเพราะความเสื่อมใสในหลวงพ่อแพ (พระเทพสิงหบุราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี) อดีตเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้ซึ่งเป็นพระนักพัฒนารูปหนึ่งที่ทำประโยชน์ต่อพุทธศาสนามากมาย ทั้งยังมีส่วนทำให้วัดพิกุลทองแห่งนี้สวยงามอยู่ตลอดเวลา จนชาวบ้านพากันเรียกวัดนี้อีกชื่อหนึ่งว่า “วัดหลวงพ่อแพ” และนี่เองคือที่มาของพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ ที่ตั้งอยู่ภายในวัดซึ่งจัดแสดงเรื่องราวประวัติของหลวงพ่อแพ และเครื่องอัฐบริขารของท่านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้แล้วไม่ควรพลาดชมพระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือ หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว ภายในเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติชนิด 24 อีกทั้งรอบพระวิหารใหญ่ยังมีวิหารคตซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันต่างๆ และพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่และด้วยบรรยากาศภายในวัดมีความร่มรื่น สะอาดสะอ้าน จึงทำให้มีผู้เดินทางมาชมวัดนี้กันอยู่เสมอโดยเฉพาะ ในช่วงสุดสัปดาห์หรือวันหยุดพิเศษ ก็จะแน่นขนัดไปด้วยนักเดินทางจากทั่วสารทิศ
4.ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันที่วัดโพธิ์เก้าต้น |
4.ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันที่วัดโพธิ์เก้าต้น (Ban Rachan, Retro market of Sing Buri) |
4.ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันที่วัดโพธิ์เก้าต้น |
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวช๊อปปิ้งมาแรงแซงโค้งกว่าตลาดใหนๆ เพราะมีเอกลักษณ์โดดเด่นไฉไลด้วยการดึงมนต์เสน่ห์ของจังหวัดสิงห์บุรีมาใช้ โดยจำลองบรรยากาศค่ายบ้านระจันไว้ คนขายแต่งกายด้วยช่วยไทยสมัยโบราณ ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากันอย่างไม่ขาดสายในช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ ปลายสัปดาห์เลยทีเดียว
สำหรับตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ที่วัดโพธิ์เก้าต้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณกลางปี 2559 จากการรวมตัวของชาวบ้านทำตลาดเล็กๆ บริเวณหน้าวัดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวด้านอาหารการกิน ตานนโยบายของพระครูวิิชิตวุฒิคุณ เจ้าคณะอำเภอค่ายบางระจัน เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เก้าต้น ที่ต้องการให้วัดเป็นที่พึ่งของชาวบ้านอย่างแท้จริ เนื่องจากช่วงสองสามปีที่ผ่านมาชาวบ้านประสบปัญหาความยากจน เนื่องจากภัยแล้ง ต่อมาพอจะทำการเพาะปลูกได้ ราคาผลิตก็ตกต่ำอีก ชาวบ้านเป็นคนชนบท ไม่มีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากนัก ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดรายได้ และปัญหาหนี้สิน
พระครูวิชิตวุฒิคุณจึงออกดำริว่าชาวบ้านแถวบ้านแถบนี้ มีภูมิปัญญาอาหารไทยพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น จึงมีการพูดคุยกับคุณทำงานที่ใกล้ชิดในการรวบรวมจัดทำร้านค้าชุมชน ช่วงนั้นมีประมาณ 20 ร้าน ที่สนใจเข้ามาจัดทำตลาดพื้นบ้านบริเวณสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ด้านหน้าของวัด เนื่องจากวัดโพธิ์เก้าต้นก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีผู้คนแวะเวียนมาเป็นประจำโดยเฉพาะช่วงเสาร์ อาทิตย์ จากจุดนั้นผ่านมาปีเศษ กลับกลายเป็นตลาดไทยย้อนยุค บ้านระจัน มีร้านค้ากว่า 300 ร้านค้า ในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่เศษ ด้านหลังของวัดซึ่งติดกับคลองประวัติศาสตร์บางระจัน
ปัจจุบันตลาดไทยย้อนยุคได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จนประมาณปี 2559 ช่วงงานลอยกระทง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้พิจารณาให้ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน เป็นหนึ่งในอันซีนทัวร์ไทยแลนด์ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ มีงานทำ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้
5.อนุสรณ์วีรชนค่ายบางระจัน (bang rachan heroes monument) |
5.อนุสรณ์วีรชนค่ายบางระจัน (bang rachan heroes monument) |
5.อนุสรณ์วีรชนค่ายบางระจัน (bang rachan heroes monument) |
และตรงข้ามกับวัดโพธิ์เก้าต้น ก็เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์ค่ายบางระจัน อีกหนึ่งจุดเช็คอินน์ที่ไม่ควรพลาดเช่นเดียวกัน เมื่อมาเที่ยวสิงห์บุรี โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่แวะมาเที่ยวตลาดบ้านระจัน ก็มักมาสักการะนมัสการอนุสรณ์แห่งนี้ด้วยทุกครั้ง
โดยบางระจัน เป็นค่ายป้องกันตัวเองของชาวบ้านเมืองสิงห์บุรีและเมืองต่าง ๆ ที่พากันมาหลบภัยจากกองทัพพม่าที่บางระจัน ก่อนการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง สามารถต้านทานการเข้าตีของกองทัพพม่าได้หลายครั้ง และมีกิตติศัพท์เลื่องลือในด้านวีรกรรมความกล้าหาญในประวัติศาสตร์ไทย โดยมีอนุสาวรีย์สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมในครั้งนี้ในตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
ซึ่งณ สถานที่นี้ประมาณ 240 ปีเศษมาแล้ว ชาวบ้านบางระจันได้ประกอบวีรกรรมพลีชีวิต ต่อสู้กับกองทัพพม่า ข้าศึกที่รุกกราน เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยเป็นมรดก ตกทอดมาถึงทุกวันนี้
ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะเสียแก่พม่า กองทัพพม่าได้ล้อมกรุงศรีอยุธยาโดยมี เนเมียวสีหบดีเป็นแม่ทัพ ได้ให้กองทหารพม่าไปปล้นทรัพย์และจับชาวบ้านเมืองวิเศษชัยชาญ พวกชาวบ้านพากันโกรธ จึงคิดแก้แค้น ผู้นำชาวบ้านซึ่งมีนายดอก นายทองแก้ว ได้ลวงทหารพม่าไปฆ่าเสียหลายนาย แล้วพากันมายังบ้านบางระจันสมทบกับชาวบ้านบางระจันซึ่งมี นายแท่าน นายโชติ นายอิน นายเมือง นายทองเหม็น นายจันหนวดเขี้ยว นายทองแสงใหญ่ ขุนสรรค์ พันเรือง เป็นผู้นำได้รวบรวมกำลังชายชกรรจ์กว่า 400 คน ตั้งค่ายขึ้น ณ บ้านบางระจัน เพื่อต่อสู้กับกองทัพพม่าและได้นิมนต์ พระอาจารย์ธรรมโชติ ผู้เรืองวิทยาคม มาเป็นขวัญกำลังใจ ให้ชาวบ้านบางระจันด้วย
เมื่อกองทัพพม่า รู้เรื่องค่ายบางระจัน ก็จัดกองทัพมาปราบแต่ก็แตกพ่ายไปถึง 7 ครั้ง ชาวบ้านบางระจัน ซึ่งกำลังคนและอาวุธน้อยกว่า ได้ต่อสู้กับกองทัพที่กำลังพลและอาวุธเหนือกว่าจนเสียชีวิตทั้งหมดในค่ายบางระจันแห่งนี้ ค่ายบางระจันเสียแก่พม่า เมื่อวันแรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปี 2309 ถึงกระนั้นทัพพม่าก็ต้องใช้เวลาตีค่ายบางระจันนานถึง 5 เดือนเศษ
และข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองสิงห์บุรี ที่ได้แนะนำไว้ในเว็บบล็อกนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น จริงๆแล้วในจังหวัดสิงห์บุรี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งให้เพื่อนๆได้แวะไปเที่ยวกัน ยังไงวันหยุดนี้ หากเพื่อนๆคนใหนที่ยังไม่เคยมาเที่ยวสิงห์บุรี ก็ลองแวะมาเที่ยวเมืองนี้สักครั้งนะคะ รับรองว่าได้ไหว้พระอิ่มบุญไม่พอ ยังอิ่มท้อง เพราะมีของคาวหวานอร่อยๆให้ได้ทานอย่างจุใจเลยเชียวล่ะ...แวะไปเที่ยวกันนะคะ Let's go to Singburi
-----------------------------------------------------------------------
บทความอื่นๆ มีดังนี้
![]() |
รีวิวเที่ยวมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้สุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่บ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย>> |
![]() |
แนะนำชายหาดสวยๆในจังหวัดตรัง แวะมาถ่ายรูปสวยปังสักครั้งสิ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>> |
![]() |
รีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวเมืองปราจีนบุรี ต้องไปฉิมพลีกันสักครั้งครา คลิ๊กดูรีวิว>> |
![]() |
เที่ยวนครนายกไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวไปทั่วได้ด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิว>> |
![]() |
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองนครสวรรค์ใน 1 วัน ยลสุขสันต์เมืองชุมทางสี่แคว คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
![]() |
แนะนำ 7 ที่เที่ยวในเมืองอุทัยธานี ชื่นชมวิถีไทยๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>> |
![]() |
รีวิวเที่ยวเมืองพัทลุง ชมมนต์ลูกทุ่งแห่งคุ้งน้ำทะเลน้อย แวะไปสอยเที่ยวชมกันเลย>> |
![]() |
รีิวิวเที่ยวเมืองลพบุรี เดินยวลยีชมวังเก่า เคล้าความหลัง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/7ZB3pt
![]() |
รีิวิวเที่ยวประจำเดือน เม.ย.นี้ แวะไปเที่ยวสิงห์บุรีมาค่ะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/eL6fHw
![]() |
รีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน เม.ย.2018 ล่องเรือไหว้แม่น้ำเจ้าพระยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/HrLddq
0 ความคิดเห็น