 |
| วันหยุดสุดสัปดาห์ วางแผนไปเที่ยวนครปฐม ไปเช็คอินถ่ายรูปที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนดี วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจังหวัดนครปฐมในปี2565 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ เมืองต้องห้ามพลาดไปเสพสมกันสักครั้ง มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปกันเลยจ้า |
สวัสดีเพื่อนคุณผู้อ่านบนโลกออนไลน์ และเหล่านักรักการทัศนาจร ออนซอนหัวใจทุกๆคน วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ หากเพื่อนๆสายเที่ยวคนใหน ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวจังหวัดนครปฐม หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ แวะไปเสพสุขสม ได้อย่างน่าภิรมย์ใจ ไม่ว่าจะไปเที่ยวเช้าไปเย็นกลับ หรือว่าจะขยับตัวล้มนอนสักคืน ก็สุดแสนจะดูดดื่ม สัมผัสมนต์เสน่ห์ของวิถีความเป็นไทยที่เมืองนี้ นอกจากนครปฐมยังเป็นเมืองเก่าแก่ มีประวัติศาตร์เป็นมาอย่างยาวนานแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายหลายแห่งเลย เรียกว่าหากจะเที่ยวนครปฐมใน 1 วัน หรือวันเดียว คงเที่ยวไม่หมด หากจะเที่ยวให้จบครบทั้งหมด เดี๊ยนว่า คงต้องเที่ยวเป็นทั้งสัปดาห์ หรือมาเที่ยวทั้งเดือนเลยล่ะค่ะ
โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองนครปฐมเอง ที่มีทั้งวัดวาอาราม โบราณสถานเก่าแก่ ที่บ่งบอกร่องรอยอารยะธรรมความความเจริญรุ่งเรืองของดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้มาอย่างช้านาน และหากเดินทางออกนอกตัวเมืองนครปฐมมา ก็ยังมีเทือกสวนไร่นา วิถีชีวิตของชาวบ้านแสนเรียบง่าย ให้ได้ไปชม มีตลาดน้ำและร้านอาหารอร่อยๆให้ได้แวะทานอย่างสำราญบานใจ และยังเป็นเมืองที่มีคาเฟ่เปิดใหม่สไตล์น่ารักให้ไปจิบชากาแฟ และถ่ายรูปสวยๆ ที่ผู้คนนิยมไปถ่ายภาพสวยๆลงสื่อสังคมโซเชียล อย่างฟ้าวเฟี้ยวหัวใจอีกด้วย
ส่วนเพื่อนๆคนใหน ที่กำลังจะปักหมุด หรือจะหยุดงาน มาเที่ยวนครปฐมในวันหยุดนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนดี เพื่อไม่บทความร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครปฐม ที่ใครก็ต้องไปเที่ยวชื่นชม แวะเช็คอินถ่ายรูปภาพกัน ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวกันเลยค่ะ
 |
| 1.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (Phra Pathom Chedi) |
 |
| 1.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (Phra Pathom Chedi) |
 |
| 1.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (Phra Pathom Chedi) |
 |
| 1.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (Phra Pathom Chedi) |
 |
| 1.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (Phra Pathom Chedi) |
 |
| 1.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (Phra Pathom Chedi) |
1.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (Phra Pathom Chedi)
จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตติดลมบนตลอดกาล สำหรับใครที่มาเที่ยวเมืองนครปฐมครั้งแรก หากไม่ได้มาไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ ถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดนครปฐมเลยทีเดียว เพราะถือเป็นองค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่บ้านคู่เมืองนครปฐมมาอย่างยาว เป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในอดีตจนถือปัจจุบัน ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง โดยจุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ พระปฐมเจดีย์ หรือ พระธมเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่และสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีความสูงถือ 120.45 เมตร เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทย อยู่ภายในวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร มีประวัติความเป็นมายาวนาน เชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระโคตมพุทธเจ้า องค์พระปฐมเจดีย์ปัจจุบันนี้ เป็นพระเจดีย์ทรงลังกา แบบสุโขทัย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งสร้างครอบเจดีย์เดิมถึงสององค์ ได้แก่ เจดีย์ทรงสถูปสาญจีตามแบบอินเดียยุคพระเจ้าอโศกมหาราช และเจดีย์ทรงขอมโบราณ
 |
| 2.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ (Phra Pathom Chedi National Museum) |
 |
| 2.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ (Phra Pathom Chedi National Museum) |
 |
| 2.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ (Phra Pathom Chedi National Museum) |
 |
| 2.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ (Phra Pathom Chedi National Museum) |
 |
| 2.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ (Phra Pathom Chedi National Museum) |
2.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ (Phra Pathom Chedi National Museum)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าเรียนรู้ที่ใครหลายๆคนแอบมองข้าม แต่ด้านในพิพิธภัณฑ์กลับมีเรื่องราวประวัติศาสตร์และจัดแสดงโบราณวัตถุอันล้ำค่าที่น่าเข้าไปศึกษาเรียนรู้อย่างยิ่ง โดยพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ ตั้งอยู่ด้านทิศใต้องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น ภายในจัดแสดงนิทรรศการ โบราณวัตถุที่รวบรวมได้ในระยะแรกได้ถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่ระเบียงคตรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ตั้งแต่สมัยทราวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 12-16 ถือเป็นช่วงรุ่งเรืองของดินแดนแห่งนี้ ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ฯ มีบทบาทในการเก็บรักษามรดกอันล้ำค่าทั้งด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาติ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาของประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเรียนรู้กัน
 |
| 3.วัดพระประโทณเจดีย์ (Phra Prathn Chedi) |
 |
| 3.วัดพระประโทณเจดีย์ (Phra Prathn Chedi) |
 |
| 3.วัดพระประโทณเจดีย์ (Phra Prathn Chedi) |
 |
| 3.วัดพระประโทณเจดีย์ (Phra Prathn Chedi) |
 |
| 3.วัดพระประโทณเจดีย์ (Phra Prathn Chedi) |
3.วัดพระประโทณเจดีย์ (Phra Prathn Chedi)
เป็นโบราณเก่าแก่ที่สำคัญอีกแห่ง เดิมเป็นวัดสำคัญที่อยู่ใจกลางเมืองสมัยโบราณ อยู่ห่างจากพระปฐมเจดีย์ไปตามถนนเพชรเกษมทางทิศตะวันออกเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จุดเด่นของวัดคือ พระประโทณเจดีย์ เป็นเจดีย์สมัยทวารวดี มีรูปแบบเดิมเป็นทรงโอคว่ำ มีการขุดพบวัตถุโบราณจำนวนมากที่วัดแห่งนี้ เช่น พระพุทธรูป เศียรพระพุทธรูปปูนปั้น พระดินเผา รวมทั้งโลหะสำริดรูปพญาครุฑเหยียบนาค ซึ่งรัชกาลที่ 6 ทรงใช้เป็นเครื่องหมายราชการของพระองค์ นับเป็นอีกหนึ่ง ภายในวัดมีเจดีย์จุลประโทณประดับภาพปูนปั้นยุคทวาราวดี รูปเรือสำเภาและรูปคนอินเดีย เป็นหลักฐานสำคัญที่สรุปได้ว่าที่นี่เคยเป็นเมืองท่าสำคัญ ปัจจุบันภาพปูนปั้นได้แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐม
 |
| 4.พระราชวังสนามจันทร์ (Sanamchan Palace) |
 |
| 4.พระราชวังสนามจันทร์ (Sanamchan Palace) |
 |
| 4.พระราชวังสนามจันทร์ (Sanamchan Palace) |
 |
| 4.พระราชวังสนามจันทร์ (Sanamchan Palace) |
 |
| 4.พระราชวังสนามจันทร์ (Sanamchan Palace) |
 |
| 4.พระราชวังสนามจันทร์ (Sanamchan Palace) |
 |
| 4.พระราชวังสนามจันทร์ (Sanamchan Palace) |
4.พระราชวังสนามจันทร์ (Sanamchan Palace)
เป็นหนึ่งในพระราชวังที่เก่าแก่ของไทย โดยสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบริเวณที่เชื่อว่าเป็นพระราชวังเก่าของกษัตริย์สมัยโบราณที่เรียกว่า "เนินปราสาท" เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับเวลาเสด็จมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ และทรงเห็นว่านครปฐมเป็นเมืองที่มีชัยภูมิเหมาะสำหรับต้านทานข้าศึก ซึ่งจะยกเข้ามาทางน้ำได้อย่างดี ด้วยทรงจดจำเหตุการณ์ เมื่อ ร.ศ. 112 ที่ฝรั่งเศสนำเรือรบเข้ามาปิดปากอ่าวไทยได้ และไม่ต้องการที่จะให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพดังกล่าว จึงตั้งพระทัยที่จะสร้างพระราชวังสนามจันทร์ไว้สำหรับเป็นเมืองหลวงที่สอง หากประเทศชาติประสบปัญหาวิกฤติ พระราชวังใช้เวลาก่อสร้างนาน 4 ปี โดยมีพระยาวิศุกรรมศิลป์ประสิทธิ์ (น้อย ศิลป์) เป็นแม่งาน สร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2450 และได้พระราชทานนามว่า "พระราชวังสนามจันทร์"
จุดเด่นของพระราชวังสนามจันทร์ คือ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ซึ่งจุดเด่นของพระตำหนักองค์นี้เป็นสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะคล้ายกับปราสาท ซึ่งเป็นการผสมระหว่างศิลปะเรอแนซ็องส์ของประเทศฝรั่งเศส กับอาคารแบบฮาล์ฟ ทิมเบอร์ของประเทศอังกฤษ แต่ดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย ผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบสมมาต ที่มีความสวยงามสมส่วน
ปัจจุบันภายในตัวอาคารของพระราชวังมีการปรับปรุงอยู่ โดยเปิดเฉพาะให้เข้าไปเดินชมและออกกำลังกายเท่านั้น โดยทางพระราชวังเปิดให้เข้าไปเดินชมวิ่งได้ 2 ช่วงเวลา ช่วงเช้าเปิดเวลา 05:00 น. จนถึง 9.00 น. หลังจากนั้นจะเปิดให้เข้าไปวิ่งออกกำลังกายอีกครั้งเวลา 16.00 ได้อีกช่วงจนถึง 20:00 น. โดยผู้ที่เข้าไปวิ่งออกกำลังกายด้านในเขตพระราชฐาน ต้องแต่งกายให้เรียบร้อย ห้ามใส่กางเกงเลยเหนือหัวเข่า กางเกงที่แนะนำเป็นกางเกง 3 ส่วน เสื้อผ้าห้ามใส่เสื้อแขนกุด เอวลอย แนะนำแต่งกายให้เรียบร้อย
 |
| 5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing) |
 |
| 5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing) |
 |
| 5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing) |
 |
| 5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing) |
 |
| 5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing) |
 |
| 5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing) |
 |
| 5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing) |
 |
| 5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing) |
5. วัดไร่ขิง (Wat Rai Khing)
จัดเป็นวัดเก่าแก่มีชื่อเสียงโด่งดังมากอีกแห่งของนครปฐม โดยวัดไร่ขิง เป็นวัดสำคัญตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำท่าจีน ตั้งอยู่ในอำเภอสามพราน ภายในวัดประดิษฐาน หลวงพ่อวัดไร่ขิงซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธาน ที่ชาวนครปฐมเคารพนับถือ โดยองค์พระพุทธรูป ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้วเศษ สูง 4 ศอก 16 นิ้วเศษ ประดิษฐานอยู่บนฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ชั้น เบื้องหน้าผ้าทิพย์ปูทอดลงมาองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายในอุโบสถ หันพระพักตร์ไปทางทิศอุดร (ทิศเหนือ) ซึ่งหน้าวัดมีแม่น้ำนครชัยศรีหรือแม่น้ำท่าจีนไหลผ่าน สำหรับชื่อวัดนั้น มีเรื่องเล่าว่า พื้นที่วัดในอดีตมีชาวจีนปลูกบ้านอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมากและนิยมปลูกขิงกันอย่างแพร่หลาย จนเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านหรือชุมชนในแถบนี้ว่า “ไร่ขิง” ต่อมา เมื่อมีชุมชนหนาแน่นมากยิ่งขึ้นจึงได้มีการสร้างวัดเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ดังนั้น วัดจึงได้ชื่อตามชื่อของหมู่บ้านหรือชุมชนว่า “วัดไร่ขิง”
 |
| 6.ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri) |
 |
| 6.ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri) |
 |
| 6.ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri) |
 |
| 6.ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri) |
 |
| 6.ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri) |
 |
| 6.ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri) |
 |
| 6.ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri) |
 |
| 6.บรรยากาศริมแม่น้ำท่าจีน ใกล้ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri) |
6.ตลาดท่านา นครชัยศรี (Thana Market- Nakhon Chaisri)
เป็นหนึ่งในตลาดสดเก่าแก่ของนครชัยศรี มีอายุกว่า 140 ปี โดยพื้นที่ของตลาดนั้น พื้นที่ของตลาดเป็นของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นับเป็นตลาดสดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่คู่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชุมชนริมแม่น้ำนครชัยศรี โดยความโดดเด่นของตลาดแห่งนี้ มีอาคารตึกแถวไม้ที่มีอายุกว่า 90 ปี ทางตลาดท่านาได้อนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยว สัมผัสความสวยงามเชิงศิลปกรรม และสถาปัตยกรรม และสำหรับที่มาของชื่อตลาดท่านานั้น ก็มาจากการที่พื้นที่บริเวณโดยรอบตลาดในสมัยก่อนชาวบ้านจะใช้พื้นที่ตรงนี้ปลูกข้าวทํานา รวมถึงเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าและท่าขึ้นข้าวในอดีตด้วย เพราะทำเลที่ตั้งติดริมแม่น้ำนครชัยศรี ทำให้สะดวกต่อการคมนาคมค้าขายทางเรือ
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
 |
| 7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market) |
7.ตลาดน้ำวัดดอนหวาย (Wat Donwai Market)
จัดเป็นตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครปฐม ที่เป็นรู้จักแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเป็นตลาดน้ำริมแม่น้ำท่าจีน ลักษณะของตลาด มีตัวอาคารเป็นอาคารไม้เก่า ๆ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน มีพ่อค้า แม่ค้า พายเรือนำสินค้า และอาหารมาจำหน่ายในบริเวณวัดดอนหวาย มีตลาดนัดสินค้าทางการเกษตรที่วัดดอนหวาย ป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการจับจ่ายซื้อของฝาก การท่องเที่ยวทางน้ำ มีวิถีชีวิตเรียบง่าย บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น และความโดดเด่นของอาหารการกินที่หลากหลาย และมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นอาหารทั้งคาว และหวาน รสชาติอร่อย ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเลือกซื้อของฝากที่ตลาดดอนหวายอย่างไม่ขาดสาย
 |
| 8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market) |
 |
| 8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market) |
 |
| 8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market) |
 |
| 8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market) |
 |
| 8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market) |
 |
| 8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market) |
 |
| 8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market) |
 |
| 8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market) |
8.ตลาดน้ำวัดลำพญา (Lam Phaya Floating Market)
ตลาดน้ำวัดลำพญา ตลาดน้ำมีชื่อเสียงอีกแห่งของนครปฐม ตั้งอยู่ในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม โฮไลท์ของตลาดแห่งนี้คือ เป็นตลาดที่จะเปิดเฉพาะในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ภายในตลาดลำพญามีร้านขายอาหารของกินหลายกหลายอย่างให้เลือกทานมากมาย มีสินค้าผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านที่นำมาขายด้วยราคาย่อมเยาว์ ด้วยตัวเรือนแพที่ทอดตัวยาวในแม่น้ำมากกว่า 20 แพ ยาวกว่า 200 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาแวะเดินตลาด สามารถเดินเลือกซื้อ เลือกหาอาหารที่ต้องการทาน หรือว่าเลือกซื้อขนมของฝากติดไม้ติดมือกลับไปให้คนทางบ้านแทบทุกราย และบริเวณตลาดยังมีโต๊ะและที่สำหรับนั่งรับประทานอาหาร และให้อาหารปลาอีกด้วย
 |
| 9.โบราณสถานโบสถ์เก่าวัดละมุด (Wat Lamud) |
 |
| 9.โบราณสถานโบสถ์เก่าวัดละมุด (Wat Lamud) |
 |
| 9.โบราณสถานโบสถ์เก่าวัดละมุด (Wat Lamud) |
 |
| 9.โบราณสถานโบสถ์เก่าวัดละมุด (Wat Lamud) |
 |
| 9.โบราณสถานโบสถ์เก่าวัดละมุด (Wat Lamud) |
 |
| 9.โบราณสถานโบสถ์เก่าวัดละมุด (Wat Lamud) |
 |
| 9.โบราณสถานโบสถ์เก่าวัดละมุด (Wat Lamud) |
9.โบราณสถานโบสถ์เก่าวัดละมุด (Wat Lamud)
เป็นหนึ่งในโบราณสถานเก่าแก่สำคัญ วัดละมุด ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของคลองบางพระ ในหมู่ที่ 5 บ้านสวนถั่ว ตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม มีโบราณสถานที่สำคัญคือ อุโบสถหลังเก่า สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย โดบโบสถ์เก่าอายุ 200 กว่าปี สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2330 เป็นอาคารทรงทรงไทย ลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร มีประตูทางเข้าด้านหน้า 2 ประตู หน้าบันติดประดับด้วยเครื่องถ้วยลายคราม หลังคาเครื่องไม้มีช่อฟ้า ใบระกา นาคสะดุ้ง หางหงส์ บริเวณโดยรอบอุโบสถมีซุ้มเสมาอยู่ทั้ง 8 ทิศ ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ส่วนอุโบสถหลังใหม่ ถัดไปทางด้านซ้าย ยังมีงานปฏิมากรรม ปูนปั้นสด ซึ่งหาชมได้แห่งเดียวในจังหวัดนครปฐมอีกด้วย
 |
| 10.วัดหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ (Wat Klang Bang Phra) |
 |
| 10.วัดหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ (Wat Klang Bang Phra) |
 |
| 10.วัดหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ (Wat Klang Bang Phra) |
 |
| 10.วัดหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ (Wat Klang Bang Phra) |
 |
| 10.วัดหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ (Wat Klang Bang Phra) |
10.วัดหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ (Wat Klang Bang Phra)
วัดกลางบางพระ ตั้งอยู่ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของเมืองไทย วัดกลางบางพระ วัดเก่าแก่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ร์ราวๆ ปี 2326 จากวัดร้างในอดีต และยังเป็นที่มาของสติ๊กเกอร์ที่มักติดกับรถว่า ขอให้สมหวัง ความโดดเด่นของของวัดแห่งนี้คือ ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์โต หรือองค์หลวงพ่อสมหวัง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หรือสะดุ้งมาร ก่ออิฐถือปูนประดับด้วยกระเบื้องโมเสก พร้อมบรรจุมวลสารและแผ่นชนวนต่างๆอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนที่มากราบไหว์องค์ หลวงพ่อแล้วสมหวังจะเป็นเรื่องขอพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก การงาน การค้าขาย ขอให้ครอบครัวมีความมั่นคงให้สมดังความที่หวังไว้
 |
| 11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra) |
 |
| 11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra) |
 |
| 11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra) |
 |
| 11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra) |
 |
| 11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra) |
 |
| 11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra) |
 |
| 11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra) |
 |
| 11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra) |
11.วัดบางพระ หรือวัดหลวงพ่อเปิ่น (Wat Bang Phra)
สำหรับวัดบางพระนั้น เดิมชื่อ วัดปากคลองบางพระ ตั้งอยู่ในตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม วัดบางพระสร้างราวปี พ.ศ. 2220 ในช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จากหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างวัด กรมศิลปากรพิจารณาดินเผาของพระอุโบสถ อยู่ในสมัยอยุธยาตอนกลาง ส่วนพระประธานที่เป็นพระปฏิมากรหินทรายแดงจัดให้อยู่ในสมัยอโยธยาสุพรรณภูมิ (อู่ทอง) หลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างวัด กรมศิลปากรพิจารณาดินเผาของพระอุโบสถ อยู่ในสมัยอยุธยาตอนกลาง ส่วนพระประธานที่เป็นพระปฏิมากรหินทรายแดงจัดให้อยู่ในสมัยอโยธยาสุพรรณภูมิ (อู่ทอง) และเมื่อหลวง หลวงพ่อเปิ่น เป็นเจ้าอาวาสวัดบางพระ ท่านได้ทำการพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ โดยได้บูรณะอุโบสถหลังใหม่ทำเป็นคอนกรีต ทั้งยังก่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ มากมาย
 |
| 12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land ) |
 |
| 12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land ) |
 |
| 12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land ) |
 |
| 12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land ) |
 |
| 12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land ) |
 |
| 12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land ) |
 |
| 12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land ) |
 |
| 12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land ) |
12.วู้ดแลนด์ เมืองไม้แฟนตาซี (Wood Land )
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นน่าสนใจของจังหวัดนครปฐม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน อำเภอนครชัยศรี โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานไม้แกะสลักจำนวนมากไว้ให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมความงดงามได้สัมผัสถึงมหัศจรรย์แห่งการก่อเกิดธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ และความงดงามทางศิลปะที่มนุษย์ได้บรรจงสร้างขึ้นมา โดยจัดเป็นโซนต่างๆไว้ได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป้นการแกะสลัก รากไม้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา การแกะสลักปั้นเป็นรูปหุ่นนางอัปสร การแกะสลักไม้เป็นรูปปลาและจัดแสดงไว้ได้อย่างสวยงาม พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชม : 09.30-17.00 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท บริเวณโดยรอบยังมีโรงแรม ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ติดริมแม่น้ำให้ไปนั่งดื่มชา กาแฟ และชมวิวสวยๆของแมน้ำท่าจีนอีกด้วย
 |
| 13.สวนสามพราน (Sampran Garden) |
 |
| 13.สวนสามพราน (Sampran Garden) |
 |
| 13.สวนสามพราน (Sampran Garden) |
 |
| 13.สวนสามพราน (Sampran Garden) |
 |
| 13.สวนสามพราน (Sampran Garden) |
 |
| 13.สวนสามพราน (Sampran Garden) |
13.สวนสามพราน (Sampran Garden)
จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงคู่จังหวัดนครปฐมมาอย่างยาวนาน อีกแห่งที่ใครผ่านเส้นถนนเพชรเกษม ก็ต้องแวะไปเที่ยวชมบรรยากาศสวนสามพรานแห่งนี้สักครั้ง โดยสวนสามพรานตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน อ.สามพราน จ.นครปฐม ในพื้นที่กว่า 130 ไร่ แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์ พื้นที่สวนไม้ดอก ไม้ประดั ไม้ผล สมุนไพร พร้อมที่พัก ที่ประชุมจัดเลี้ยง ร้านอาหาร แหล่งเรียนรู้และนันทนาการเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม และยังมีตลาดเกษตรอินทรีย์ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเลือกซื้อเลือกหากันด้วย
 |
| 14.วัดศรีษะทอง (Wat Srisathong) |
 |
| 14.วัดศรีษะทอง (Wat Srisathong) |
 |
| 14.วัดศรีษะทอง (Wat Srisathong) |
 |
| 14.วัดศรีษะทอง (Wat Srisathong) |
 |
| 14.วัดศรีษะทอง (Wat Srisathong) |
14.วัดศรีษะทอง (Wat Srisathong)
สำหรับ วัดศรีษะทองนั้น จัดว่าเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในอำเภอนครชัยศรี โดยวัดสร้างขึ้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมื่อ พ.ศ. 2358 และวัดแห่งนี้ถือเป็นศูนย์รวมของชาวลาวเวียงจันทน์และชุมชนใกล้เคียง แต่เดิมทีนั้นบริเวณวัดศีรษะทองเดิมเป็นป่ารกร้างไร้ผู้คนอาศัย เพราะอยู่ห่างจากแหล่งน้ำ จนในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้มีชาวลาวจากเวียงจันทร์อพยพมาตั้งถิ่นฐาน มีการถางป่าสร้างชุมชนขึ้น เมื่อมั่นคงแล้วจึงสร้างวัด และได้พบเศียรพระพุทธรูปทองจมดินอยู่ จึงตั้งชื่อว่า ‘วัดหัวทอง’ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัด ศรีษะทอง จุดโดดเด่นภายในวัดคือ มีองค์พระราหูขนาดใหญ่ ให้ได้สักการะบูชา โดยเชื่อว่ากันว่าหากมาไหว้องค์พระราหู จะช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่ดี จะเกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีความโชคดี โชคลาภา และก้างานเจริญก้าวหน้า ร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมาอีกด้วย จึงมีนักท่องเที่ยวสายมูเตลู ไม่พลาดมากราบไหว้ขอพรกัน
 |
| 15.เนินวัดพระงาม นครปฐม (Wat Phra Ngam) |
 |
| 15.เนินวัดพระงาม นครปฐม (Wat Phra Ngam) |
 |
| 15.เนินวัดพระงาม นครปฐม (Wat Phra Ngam) |
 |
| 15.เนินวัดพระงาม นครปฐม (Wat Phra Ngam) |
 |
| 15.เนินวัดพระงาม นครปฐม (Wat Phra Ngam) |
15.เนินวัดพระงาม นครปฐม (Wat Phra Ngam)
จัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่สำคัญตั้งอยู่ภายในวัดพระงาม อำเภอเมือง นครปฐม เป็นโบราณสถานสำคัญภายในวัดพระงาม เรียกกันว่า เนินพระงาม ซึ่งเป็นเนินที่มีการค้นพบพระเจดีย์ขนาดสูงใหญ่สมัยทวาราวดี รวมถึงขุดค้นพบโบราณวัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสมาธรรมจักระพิมพ์ดินเผากว่า 20 องค์ ประกอบด้วยปางมหาปาฏิหาริย์หรือยมกปาฏิหาริย์ เหมือนที่เคยพบที่วัดพระเมรุ จังหวัดนครปฐม และพระพิมพ์ปางสมาธิโดยมีฉัตรและเครื่องสูงประกอบ ชิ้นส่วนประติมากรรมสลักจากหินเนื้อละเอียดสีเขียวอมเทา คาดว่าเป็นชิ้นส่วนพระพุทธรูปปางสมาธิ ล้วนแต่เป็นของเก่าแก่ตั้งแต่สมัยทวารวดี ะพิมพ์ดินเผากว่า 20 องค์ ประกอบด้วยปางมหาปาฏิหาริย์หรือยมกปาฏิหาริย์ เหมือนที่เคยพบที่วัดพระเมรุ จังหวัดนครปฐม และพระพิมพ์ปางสมาธิโดยมีฉัตรและเครื่องสูงประกอบ ชิ้นส่วนประติมากรรมสลักจากหินเนื้อละเอียดสีเขียวอมเทา คาดว่าเป็นชิ้นส่วนพระพุทธรูปปางสมาธิ
 |
| 16.สวนส้มโอไทยทวี แหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร |
 |
| 16.สวนส้มโอไทยทวี แหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร |
 |
| 16.สวนส้มโอไทยทวี แหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร |
 |
| 16.สวนส้มโอไทยทวี แหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร |
 |
| 16.สวนส้มโอไทยทวี แหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร |
16.สวนส้มโอไทยทวี แหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการเกษตรอินทรีย์ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในอำเภอนครชัยศรี จัดเป็นสวนส้มโอเก่าแก่ มีพื้นที่ 40 ไร่ เซึ่งมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ภายในสวนมีการปลูกส้มโอหลากหลายสายพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ อีกทั้งยังมีสายพันธ์ส้มโอจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
ยังไงวันหยุดสั้นๆประจำสัปดาห์นี้ เพื่อนๆคนใหน ที่ยังไม่เคยมาเที่ยวจังหวัดนครปฐม ก็ลองวางแผนมาเช็คอินเที่ยวถ่ายรูปกันดูนะคะ ในจังหวัดนครปฐม ยังมีที่เที่ยวเปิดใหม่ให้แวะไปชมกันมากมายเลยล่ะค่ะ มาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ........
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Phra_Pathommachedi
https://thai.tourismthailand.org/Attraction/พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ-พระปฐมเจดีย์
-------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
รวมอัพเดทสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสิงคโปร์ล่าสุด ที่ต้องหยุดแวะไปถ่ายภาพเช็คอินสวยปังกันสักครั้ง ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงเลยนะ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
จัดทริปไปเที่ยวสิงคโปร์ล่าสุดด้วยตัวเองในปี 2022 ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง แบบผ่านด่านตม.ฉลุย สรุปมาให้แบบง่ายๆ รวบเดียวจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ฝ่าพระบาทที่เท้าของพระนอนวัดโพธิ์ รูปสัญลักษณ์ที่หลายคนสงสัย มีความหมายว่าอะไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
0 ความคิดเห็น