จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมาแรง ที่นักเดินทางที่รักการถ่ายรูป ต้องแวะมาเช็คอินถ่ายรูปกับอุโมงต้นไม้ ซึ่งอุโมงดังกล่าว มีการสร้างมานานแล้ว และด้วยภูมิทัศน์และสถานที่ดังกล่าวอยู่ในสวนสาธารณะมีต้นไม้ปกคลุมเขียวชะอุ่ม รวมทั้งยุคปัจจุบันมีการใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปภาพกันมากขึ้น ทำให้อุโมงต้นไม้ดังกล่าว ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดเช็คอิน แหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของสิงคโปร์ก็ว่าได้ สำหรับการเดินทางไปยังอุโมงค์ต้นไม้ ตั้งอยู่ที่สวน Fort Canning Park ใกล้ สถานี Dhoby Ghaut สามารถเดินเท้าออกจากสถานีรถไฟฟ้า ข้ามทางม้าลายไปได้ไม่ไกล ก็จะเห็นอุโมงค์ต้นไม้ โดยจุดถ่ายรูปเช็คอินอุโมงค์ต้นไม้ ถือเป็นมุมมหาชน มีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน แนะนำให้มาเที่ยววันธรรมดา แต่ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
|
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) |
2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆกับสวน อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park โดยหากใครที่แวะมาเที่ยวถ่ายรูปอุโมงค์ต้นไม้เสร็จ ก็ไม่ควรพลาดมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ โดยในพิพิธภัณฑ์ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของ Singapore จากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ จนกลายเป็นเมืองใหญ่แสนศิวิลัยในวันนี้ และยังเป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ ภายในพิพิธภัณฑ์มีห้องจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศในแบบสมัยใหม่ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมและเรียนรู้ที่วิวัฒนาการ ความเป็นมาตั้งแต่เริ่มต้นของสิงคโปร์ ไปจนถึงยุคปัจจุบัน ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆได้อย่างน่าสนใจ
ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ณ 93 ถนน Stamford Road, the National Museum of Singapore เป็นการรักษาประวัติศาสตร์อันยาวนานจากการพัฒนาเมืองของสิงคโปร์
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
|
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House) |
3.บ้านเปอรานากัน ย่าน Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)
สำหรับบ้านหลากสีสัน หรือบ้านเปอรานากัน จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของสิงคโปร์ โดยในย่าน Joo Chiat นี้ได้รับการตั้งชื่อตาม Chew Joo Chiat เจ้าของที่ดินชาวจีนผู้ร่ำรวยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นของย่านนี้คือ อาคารที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ในสไตล์สถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปตุกกีสช่วงก่อนสงครามโลก โดยเป็นตึกแถวสองชั้นและทาวน์เฮาส์ที่ทาสีสันสดใส โดยออกแบบด้านหน้าให้งดงามหรูหรา มีลวดลายที่สวยงามอ่อนช้อย และตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิก ทำให้เป็นมุมถ่ายรูปเช็คอินที่สวยงามอีกแห่งของสิงคโปร์ อีกทั้งบางบ้าน ยังจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชม ข้าวของ เครื่องใช้ ที่จัดแสดงให้ชมด้วย
การเดินทางไปบ้านเปอรานากันเฮ้าส์ (Singapore of Peranakan House) สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Eunos และเดินเท้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงถนน Joo Chiat ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารตึกเก่าแก่ สีสันสดใสสวยงาม
|
4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน ( The State of Merlion) |
|
4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน ( The State of Merlion) |
|
4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน ( The State of Merlion) |
|
สิงโตทะเลตัวเล็ก หรือตัวลูก อยู่ด้านหลังตัวแม่. 4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน ( The State of Merlion) |
|
4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน ( The State of Merlion) |
|
4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน ( The State of Merlion) |
4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน ( The State of Merlion)
สำหรับเมอร์ไลอ้อน ถูกจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงที่สุดของสิงคโปร์ โดยถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ ในปี 1964 – รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ต่อมาไม่นานทั่วโลกก็ถือกันว่าสิงโตทะเลตัวนี้คือเครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์ แต่เดิมรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่สวนสิงโตทะเล (Merlion Park) ข้างสะพานเอสพลาเนด (Esplanade Bridge) แม่สิงโตและลูกสิงโตได้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว มีการจัดพิธีติดตั้งสิงโตทะเลในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1972 โดยมีประธานในพิธีคือนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ณ เวลาดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายลี กวน ยู และนอกจากนี้ใกล้กับเจ้าสิงโตทะเลพ่นน้ำตัวใหญ่ ยังมีลูกสิงโตทะเลตัวเล็กๆ ที่สร้างไว้ใกล้ๆกันด้วย รูปปั้นสิงโตทะเลตัวที่สองจะมีขนาดเล็กกว่า ขนาดสูง 2 เมตรและหนัก 3 ตัน สิงโตตัวนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยนายลิมเช่นกัน ตัวสิงโตทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ ผิวหนังทำจากแผ่นกระเบื้อง และตาทำจากถ้วยชาสีแดงขนาดเล็ก ซึ่งหากใครที่มาเที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก ต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปคู่กับเจ้าสิงโตทะเลนี้สักครั้ง เรียกว่าหากมาสิงคโปร์แล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับเจ้าสิงโตทะเล ถือว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์กันเลยทีเดียว
|
5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city) |
|
5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city) |
|
5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city) |
|
5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city) |
|
5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city) |
|
5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city) |
5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)
สำหรับใครที่มาเที่ยวสิงคโปร์ และเป็นนักท่องเที่ยวสายมู น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนและสัมผัสกับพลังของน้ำพุที่นี่อย่างไม่ขาดสาย ตั้งอยู่ที่อาคารซันเทคทาวน์เวอร์ โดยจุดน้ำพุแห่งโชคลาภที่ตึกซันเทค น้ำพุในสิงคโปร์ ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1995 และยังเป็นลานน้ำพุที่ชาวจีนเชื่อว่าให้พลังดีที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงมีนักธุรกิจที่ทำการค้าขายหรือว่านักท่องเที่ยว ไม่พลาดต้องมารับพลังด้วยการขอพรที่น้ำพุแห่งความมั่งคงในสิงคโปร์กัน เพื่อให้กิจการค้า เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
|
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay) |
6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)
เป็นสวนพฤษศาสตร์หรือ สวนการ์เดนส์บายเดอะเบย์ เป็นอุทยานธรรมชาติขนาด 101 เฮกตาร์ (250 เอเคอร์) ในบริเวณภาคกลางของประเทศสิงคโปร์ อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำมารีนา อุทยานนี้ประกอบด้วยสวนริมน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ เบย์ เซาท์ การ์เดน, เบย์ อีสต์ การ์เดน, และเบย์ เซ็นทรัล การ์เดน สวนที่ใหญ่ที่สุดคือเบย์ เซาท์ การ์เดน มีขนาด 54 เฮกตาร์ (130 เอเคอร์) ถูกออกแบบโดยบริษัท Grant Associates นอกจากนี้ ภายในอุทยานยังมีโดมดอกไม้ (Flower Dome) เป็นเรือนกระจกแก้วที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจุดเด่นภายในสวนแห่งนี้คือ มีทางเดินลอยฟ้า OCBC Skyway เรียกว่า Super Tree ให้ได้เดินชม โดยเสียค่าเข้าชมบนทางเดินลอยฟ้าเพียงแค่ 8 เหรียญเท่านั้น และไฮไลท์อีกอย่างคือ การจัดแสดงแสงสีเสียงที่บริเวณ Super Tree ระหว่างเวลา 19.45 น. และ 20.45 น. ของทุกวันให้ได้ชม และถ่ายรูปภาพกันอีกด้วย
|
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) |
|
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) |
|
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) |
|
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) |
|
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) |
|
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) |
|
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) |
|
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) |
7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งที่คึกคักอีกแห่งในสิงคโปร์ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยว Merlion Park มากนัก สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟฟ้า หรือรถโดยสารสาธารณะ ย่าน Chinatown เป็นย่านท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยร้านขายสินค้าของที่ระลึก และยังมีร้านอาหารหลากหลายให้ได้เลือกทานอีกด้วย
|
8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) |
|
8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) |
|
8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) |
|
8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) |
|
8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) |
|
8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) |
8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)
จัดเป็นหนึ่งในย่านชุมชนคนอินเดียที่อพยพ ย้ายเข้ามาอยู่ในสิงคโปร์ตั้งแต่อดีต และอยู่อาศัยในย่านนี้ จนเกิดเป็นย่านการค้า มีวัฒนธรรมและมีศาสนสถานหลายแห่ง ทั้งวัดฮินดูและวัดจีน มัสยิด และโบสถ์ต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานของวัฒนธรรม โดยนักเดินทางที่มาเที่ยวย่านย่าน Little India จะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในประเทศอินเดียเลย มีบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลสีสันสดใสตลอดสองข้างทาง มีทั้งสีฟ้า สีเขียว แดง เหลือง และยังมีร้านค้าขายผลไม้ ขายพวงมาลัยสีสันงดงามตา อีกทั้งมีร้านขายเครื่องประดับสวยงามตระการตาอีกด้วย และหากใครที่มาถึงย่านนี้ ก็ไม่พลาดที่จะต้องแวะมาที่ วัดศรีวิรามกาลีอัมมัน ซึ่งเป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดวัดหนึ่งของสิงคโปร์ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เจ้าแม่กาลี มีประตูทางเข้าวัดเป็นซุ้มเจดีย์ มีรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ นอกจากวัดฮินดูแล้ว ยังมีมัสยิด อับดุลกาฟูร์เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่สวยคลาสสิคให้ได้ชมอีกด้วย
|
9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า Orchardgateway |
|
9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า Orchardgateway |
|
9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า Orchardgateway |
|
9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า Orchardgateway |
|
9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า Orchardgateway |
|
9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า Orchardgateway |
9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า Orchardgateway
ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่มาแรง และกลายเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปของวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ที่รักการการถ่ายภาพ ไม่พลาด ต้องแวะไปถ่ายภาพกันสักครั้ง โดยร้านหนังสือดังกล่าว เป็นห้องสมุด ดังกล่าวหากใครที่เข้าไปถ่ายภาพ จะต้องเบาเสียงให้มากที่สุด ห้ามเสียงดังเด็ดขาด โดยภายในห้องสมุด จะมีมุมให้ยืนถ่ายรูปภาพจากด้านบนลงไปด้านล่างได้อีกด้วย โดยภายในห้องสมุด มีการออกแบบได้อย่างทันสมัยและสวยงาม
สำหรับการเดินทางไปถ่ายรูปเช็คอินสวยๆที่ร้านหนังสือ Library@Orchard Singapore สามารถนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงมาลงที่สถานี Somerset เดินขึ้นมาที่ชั้น Orchard Gateway Shopping โดยห้องสมุดอยู่ที่ชั้น 3 และ ชั้น 4 ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า
|
10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam) |
|
10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam) |
|
10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam) |
|
10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam) |
|
10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam) |
|
10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam) |
10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam)
โดยย่าน Bugis เป็นย่านที่อยู่ติดกันที่ปัจจุบันแยกกันไม่ค่อยออก เป็นแหล่งที่อยู่ของชาวอาหรับและชาวมลายูที่นับถือศาสนาอิสลาม บริเวณดังกล่าวมีมัสยิดสุลต่านแห่งสิงคโปร์ Sultan Mosque สถาปัตยกรรมโดดเด่นสวยงาม โดยที่ถนน กัมปง กีลาม(Kampong Glam) เป็นย่านถนน Street Art มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส และมีร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่นิยมท่องราตรี ทำให้บรรยากาศช่วงกลางคืนดูคึกคัก สวนตอนกลางวัน ก็กลายเป็นถนนคนเดิน street art สุดชิค มีมุมถ่ายรูปสวยๆหลากหลายมุมให้ได้เช็คอินกัน
|
11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport) |
|
11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport) |
|
11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport) |
|
11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport) |
|
11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport) |
|
11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport) |
|
11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport) |
11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)
จัดเป็ฺนสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ภายในสนามบินชางงี และเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในอาคารแห่งใหม่ จีเวล ชางงี แอร์พอร์ต (Jewel Changi Airport) ภายในสร้างสวนและน้ำตกอินดอร์ The Rain Vortex ขนาด 130 ฟุต มีน้ำตกใหลจากหลังคากระจก มีความสวยงาม ตระการตา กลายเป็นหนึ่งในสนามบินที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ โดยอาคารน้ำตกแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อปี 2562 และภายในอาคารนอกจากเป็นสนามบินแล้ว ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร บริเวณน้ำตกเอง ก็มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุ มีสวนลอยฟ้าให้ไปถ่ายรูป ถือว่าเป็นที่เที่ยวเปิดใหม่ ที่ต้อนรับผู้ที่เดินทางเข้ามาสิงคโปร์ และต้องถ่ายรูปภาพไว้เป็นที่ระลึกกันแทบทุกคน
|
12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) |
|
12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) |
|
12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) |
|
12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) |
|
12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) |
|
12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) |
12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore)
หากเอ่ยถึงสวนสนุกระดับโลกที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองไทยมากนัก คงต้องนึกถึงสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ อย่างแน่นอน เพราะเป็นสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นมากที่สุดใน ASEAN ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่น การแสดงรวมถึงร้านค้าของที่ระลึกจากตัวละครในภาพยนตร์ของค่าย Universal Studios มากมายภายใน Universal Studios Singapore แบ่งออกเป็น 7 โซนให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในสวนได้ต่อคิวรอเล่นเครื่องเล่นแต่ละชนิดได้อย่างสนุกสนานเร้าใจ โดยสวนยูนิเวอร์แซล เป็นหนึ่งในสวนสนุกสำหรับครอบครัวที่พาเด็กมาเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลิน และโซนโดดเด่น อย่างปราสาทเจ้าหญิงเจ้าชาย หรือโซน Far Far Away ดินแดนอันแสนมหัศจรรย์ของ Shrek ก็เป็นหนึ่งเครื่องเล่นที่เด็กๆสามารถสนุกไปกับรถไฟเหาะมังกรไฟขนาดเล็ก ที่พาเหอะเหินได้อย่างเร้าใจด้วย
สำหรับค่าเข้าไปในสวนสนุก Universal Studio ราคา ณ ปัจจุบันเมื่อปี 2565 ซื้อที่เคาว์เตอร์อยู่ที่ 81 เหรียญ สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ทุกอย่าง แต่อาจจะต้องรอคิวนาน เพราะมีนักท่องเที่ยวต่อคิวรอเครื่องเล่นนานมากๆเช่นกัน ในส่วนของการเดินทางไปยังสวนสนุก Universal Studio of Singapore ตั้งอยู่ที่เกาะเซนโตซ่า สามารถเดินทางด้วยรถไฟลอยฟ้า เดินตามเส้นทาง Skywalk หรือนั่งกระเช้าลอยฟ้ามาที่เกาะเซนโตซ่าได้อย่างสะดวกสบาย
และสำหรับข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสวยในสิงคโปร์ ที่ได้นำมาเสนอไว้ในบทความนี้ น่าจะมีตัวที่เที่ยวโดดเด่นให้แวะไปเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ ตามจุดต่างๆในสิงคโปรอยู่ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าว ที่ได้นำเสนอไป มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยไว้ ณ ทีนี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณผุ้อ่านทุกๆคน ที่เข้ามาเปิดสไลด์เลื่อนอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดๆไปค่ะ.....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
---------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
จัดทริปไปเที่ยวสิงคโปร์ล่าสุดด้วยตัวเองในปี 2022 ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง แบบผ่านด่านตม.ฉลุย สรุปมาให้แบบง่ายๆ รวบเดียวจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
0 ความคิดเห็น