แต่เนื่องจากเห็นว่าบุฟเฟ่ต์ดังกล่าว มีเมนูอย่างอื่นให้ทานด้วย ดิฉันเลยขอเป็นทานสักครั้ง และอีกอย่างต้องไปส่งของให้ลูกค้าในย่านนั้นด้วย ก็เลยจัดไปสัก 1 มื้อ ราคาบุฟเฟ่ต์โปรโมชั่น 490 บาทต่อคน ให้เวลาทาน 1 ชั่วโมงครึ่ง แถมบัตรเข้าชมวิวดาดฟ้าด้านบนสุดด้วย บุฟเฟุ่ต์ทุเรียนนี้น่าสนใจดีค่ะ เพราะปกติแค่ซื้อทุเรียนหมอนทอง 1 ลูก ราคาก็ปาไป 300 กว่าบาทแล้ว ใหนๆมีโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ทุเรียนให้ทานทั้งที ก็ไปลองซัดทานดูสักตั้งสิว่า จะทานได้เยอะไหม๊
เอาล่ะค่ะและไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้ดิฉันคุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า มาเก็บตก รีวิวบุฟเฟ่ต์ทุเรียนฟีเว่อร์!!ทีโรงแรมใบหยกมาให้เพื่อนได้ดูกัน ไปดูสิว่ามีอะไรให้ทานบ้าง ซึ่งดิฉันได้ไปทานมาแล้ว ให้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งในการทานบุฟเฟ่ต์ แต่ถ้าให้ทานครบทุกเมนู คงไม่ไหว ท้องแตกตายก่อนแน่เลย
ก่อนจะเข้าสู่ภาพรีวิว ดิฉันก็ขอแสดงความพึงพอใจส่วนตัวในการให้คะแนนดังนี้
รสชาติอาหาร : คะแนนเต็ม 5 ล้านดาว เดี๊ยนให้ 4 ล้านดาวจ้า
การเอาใจใส่ในการบริการ : เดี๊ยนให้ 5 ล้านดาว
ความคุ้มค่าของราคา : ให้ 4 ล้านดาว
ความสะอาด : ให้ 5 ล้านดาวจ้า
เริ่มต้นอาหารมื้อเที่ยงนี้ หลังจากไปส่งของให้ลูกค้าเสร็จ ดิฉันก็เดินทางมาที่โรงแรมใบหยก ด้านหน้าตึกมีทุเรียนลูกเบ้อเริ่มเทิ่มอยู่ตรงทางเข้า |
จากนั้นก็ขึ้นลิฟท์มาชั้นที่ 18 ติดต่อเคาว์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แสดงหมายเลขยืนยันการซื้อคูปองบุฟเฟ่ต์ทุเรียนราคา 490 บาท ผ่านทางอีเมลล์ให้เจ้าหน้าที่โรงแรมดู โดยรอบที่ดิฉันเลือกทาน คือรอบเวลา 12.00-13.30 น.ค่ะ ให้เวลาทานบุฟเฟ่ต์อย่างสำราญใจ 1 ชั่วโมงกับอีก 30 นาที
จากนั้นทางโรงแรมก็จะบัตรหมายเลขโต๊ะสายรัดข้อมือ และสติกเกอร์มาให้ เพื่อจะได้รู้ว่าเป็นลูกค้าที่มาทานบุฟเฟ่ต์โดยเฉพาะ
เพราะถ้าไม่ติดผูดไว้ที่ข้อมือ มีหวังโดนเรียกเก็บเงินเพิ่มนะคะ
นอกจากนี้ยังได้บัตรเข้าชมวิวดาดฟ้าชั้นที่ 77 และชั้นบนสุดที่ 84 อีกด้วย
ระหว่างนั้นก็จะมีเชฟใหญ่ของโรงแรมมาอธิบายกติกาในการรับประทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนฟีเว่อร์ให้ฟัง โดยเชฟบอกว่าให้ตักอาหารทีละนิด ทีละหน่อย จะได้ทานครบทุกเมนูนะคะ
และเมื่อถึงเวลาแล้ว ทางพนักงานจะประกาศทางโทรโข่งเรียกตามหมายเลขโต๊ะ ให้เข้าไปรับประทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนกันอย่างสำราญใจเลยจ้า
ไปดูสิว่าด้านในห้องอาหารมีเมนูอะไรให้ทานบ้าง
ภายในก็ตกแต่งบรรยากาศได้อย่างน่าทาน ประดับประดาด้วยผลไม้ไทยหลากหลายชนิดตามฤดูกาล ร้าวรานถึงทรวงใน
ทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนมื้อนี้ก็ ทานไม่อั้นๆ 490 บาท นอกจากทุเรียนก็ยังมีเมนูอื่นให้ทานอีก |
ก่อนจะเสริฟพนักงานจะตัดทุเรียนให้ชิมว่าชอบเนื้อทุเรียนประมาณใหน เนื่องจากแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน และถ้าเนื้อทุเรียนเละไป สามารถนำมาเปลี่ยนคืนได้ ในส่วนนี้ดิฉันว่าทางโรงแรมให้ความใส่ใจดีมาก
ส่วนภายในลูกค้าที่ซื้อคูปองเข้ามาก็เลือกเมนูผลไม้ที่อยากทานได้อย่างตามใจ
บรรยากาศภายในห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ในวันนี้ค่ะ
แต่ที่พิเศษนอกจากทุเรียนหมอนทองให้ทานแล้ว ยังมีเมนูอาหารคาวที่มีส่วนประกอบของทุเรียนให้ทานด้วย ส่วนนี้แหละค่ะที่เดี๊ยนอยากจะมาลิ้มลองทาน เพราะถ้าทุเรียนเป็นพูๆคงจะซื้อทานได้ตามท้องตลาด แต่ถ้าเป็นเมนูอาหารคาวที่ทำจากทุเรียน ไม่เห็นมีขายตามท้องตลาดทั่วไปนัก
โดยจัดเรียงใส่ไปไลน์ไว้ให้เลือกทานหลายเมนู ตั้งแต่ของหวาน
ไล่ไปตั้งแต่ของหวานข้าวเหนียวมูนทุเรียน ผัดไทยทุเรียน ก๋วยเตี๋ยวคั่วทุเรียน ปกติเคยทานแต่ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แต่ที่นี่ก็มาประยุกต์เป็นทุเรียนซ่ะเลย
มีเมนูอาหารคาวอย่างอื่นให้เลือกอีกนะคะ เดี๊ยนเองก็จำไม่ค่ะ ส่วนใหญ่เน้นไปทางผลไม้ จะไม่เน้นพวกเนื้อสัตว์
มีพิซซ่าทุเรียนแป้งบางกรอบดีค่ะ |
มีขนมจีนน้ำยาหลากหลายแบบให้ได้ลิ้มลองทานกัน
ที่พิเศษซึ่งเชฟกำลังตักให้ดูอยู่นี้คือ แกงเผ็ดทุเรียน มีเนื้อทุเรียน
โดยไลน์อาหารแต่ละอย่าง จะมีพนักงานให้บริการตักใส่ถ้วยใบเล็กๆให้ทานค่ะ
ทานขนมจีนหรือผัดไทยทุเรียนแล้ว ก็มีไลน์เมนูยำผลไม้ด้วยนะคะ และแต่ละโต๊ะจะมีพนักงานไปเสริฟมังคุดไปให้ทานด้วย
ยำผลไม้รสชาติหวานๆเปรี้ยวๆอร่อยดี เห็นแล้วก็น้ำลายไหล ว่าแล้วก็อยากไปทานอีก
ทานยำพอแค่อิ่มนิดๆแล้ว ก็ไปทานขนมหวานต่อค่ะ มีข้าวเหนียวมะม่วงให้ทานด้วยนะคะ
และยังมีข้าวเหนียวหน้าต่างๆอีก แต่ละอย่าง ทานไปแล้ว หนักท้องจริงๆค่ะ
ตามต่อมาทีข้าวเหนียวปิ้งซึ่งประดิษฐเป็นคำเล็กๆน่ารักดีนะ
มีทุเรียนเชื่อมและทุเรียนย่างให้ได้ลิ้มลองทานกันอีก จัดไปค่ะ ชิ้นเล็กชิ้นน้อยๆ
ถ้าตักใส่จานไปแล้ว ก็ทานให้หมดเลยนะคะ
ขนมแบบอื่นๆจำพวกเบเกอรี่ก็มีให้ลิ้มลองทาน
จัดใส่ตะกร้าไว้อย่างดี
ขนมเค้กชิ้นเล็กๆ จัดเรียงไว้
ที่พลาดไม่ได้ คงเป็นซาลาเปาใส้ทุเรียนลาวาร้อนๆ
และมีซาลาเปาไส้แตงโมให้ได้ทานกันอีก
แบะไส้เปิดออกมา ประมาณนี้ค่ะ ใส้เป็นสีแดง แต่ลองทานแล้ว ดิฉันว่ากลิ่นและรสชาติเหมือนทานสตอเบอรี่เลย ไม่ออกจะเหมือนไส้แตงโมเท่าใดนัก
ต่อด้วยเครปทุเรียนสักชิ้น
อย่าลืมจ้า ที่โต๊ะจะมีป้ายแจ้งให้ลูกค้าทราบด้วยว่า หากรับประทานไม่หมด ทางโรงแรมจะคิดเงินเพิ่มคนละ 500 บาทจ้า ยังไงแล้วหากใครที่ไปคนกินไม่เยอะ ก็อย่าเผลอตักเมนูอาหารและขนมมาไว้บนโต๊ะจนทานไม่หมดซ่ะล่ะไม่งั้นเสียเพิ่มอีกคนละ 500 บาทนะคะ
มีฟองดูว์ผลไม้ให้ได้ลิ้มลองทานกันดู
ของหวานอย่าง ฟองดูว์ผลไม้ ก็ต้องลองทานดู |
นอกจากนี้ยังมีไลน์เมนูของหวานแบบอื่นจัดเรียงใส่ถ้วยเล็กๆน่ารักดี
ขนมบางอย่างก็ไม่เคยทาน ก็ได้ลองทาน หยิบไปทีละนิดทีละหน่อย
ยังไม่พอค่ะ ตามต่อด้วยผลไม้ในน้ำเชื่อม ไว้ทานคู่กับของหวาน
มีหลากหลายเมนู ดูแล้วก็เลือกไม่ถูกว่าจะทานอะไร
แต่รู้อยู่อย่างเดียวว่า คงทานไม่หมดทุกเมนูแน่ๆค่ะ เนื่องจากเยอะเกิน เลือกทานที่อยากทานพอ
เท่านั้นยังไม่พอ ตามต่อด้วยไอศครีมแบบต่างๆ แต่ที่ขายดีคงเป็นไอศกรีมหน้าทุเรียน
ไอศครีมตักทานอย่างจุใจ แต่ตักไปแล้วทานให้หมดนะคะ ไม่งั้นมีหวังเสียสตังเพิ่มอีกห้าร้อยจ้า
ผลไม้ตามฤดูกาล
ส่วนเครื่องดื่มก็มีน้ำแบบต่างๆให้เลือกดื่มกันตามใจ แต่ที่อร่อยถูกใจ คงเป็นน้ำตะไคร้
หรือจะน้ำส้ม น้ำมะม่วง น้ำลิ้นจี่ก็ลิ้มลองชิมดื่มกันได้
รีวิวมาทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนฟีเว่อร์ที่โรงแรมใบหยกในมื้อเที่ยง อิ่มไปจนถึงเย็นเลยค่ะ |
รับประทานทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนที่โรงแรมใบหยกมื้อนี้ อิ่มไปจนถึงเย็นเลยล่ะค่ะ เพราะส่วนใหญ่ก็เน้นเป็นผลไม้และของหวานเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
และภาพเมนูอาหารมื้อนี้ ก็เป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีรายการอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์อีกหลายอย่างที่ถ่ายมาไม่หมดค่ะ
นอกจากนี้ยังมีตุ๊กตาชาววังตัวเล็กน่ารักให้ซื้อไปเป็นของที่ระลึกด้วยและเมื่อนั่งทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนจนอิ่มหน่ำสำราญจนหมดเวลาแล้ว ก็ไปเดินย่อยอาหารต่อ ด้วยการไปชมวิวบนชั้นดาดฟ้าที่ชั้น 77 และชั้น 84 ต่อค่ะ
ชมวิวกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ จากวิวชั้นบนสุดของโรงแรมใบหยก |
และถึงแม้ตัวตึกที่เคยสูงทีสุด จะถูกล้มแชมป์ด้วยตึกคิงพาวเว่อร์ มหานคร แต่ตึกใบหยกก็ยังเป็นตึกที่สูงที่สุดอยู่ดี มองลงจากชั้นบนลงไปยังเบื้องล่าง ก็มีแต่ตึกสูงระฟ้าและอาคารบ้านเรือนเล็กเท่ามดเลยค่ะ
โดยชั้นบนเป็นจุดชมวิวให้ชมอย่างน่าภิรมย์ใจ
เพราะโดยรอบก็มีการจัดตกแต่งมุมต่างๆให้ได้ถ่ายรูปกันด้วย
จบทริปรีวิวทานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนฟีเฟ่อร์ที่โรงแรมใบหยกจ้า สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่เป็นชอบรับประทานทุเรียน และอยากทานอาหารเมนูประยุกต์ทุเรียนแบบต่างๆด้วย ก็แวะมาทานกันได้นะคะ รับรองว่าอิ่มจนพุงปลิ้นไปเลยล่ะค่ะ
สำหรับรีวิวสั้นๆในบทความนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกให้กับเพื่อนๆที่วางแผนจะไปทานบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมใบหยกอยู่ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าวมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาเปิดสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
---------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ ที่ผ่านมา มีดังนี้จ้า
ทริปสั้นๆ รีวิวแบกเป้นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองนีกาตะยามเย็น คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวเมืองมัตสึโมโต้ เมืองน่ารักที่ไม่ได้มีแค่ปราสาทเท่านั้น คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเกียวโตยามสนธยา แวะไปลั๊ลลาเมืองฮิเมจิ คลิ๊กดูรีวิวการเดินทางจ้า>> |
แบกเป้ไปเกาะชิโกกุ เที่ยวทะลุเมืองทามัตสึ มีแต่อันปังแมนน่ารัก คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
แวะเที่ยวคิตะคิวชู เมืองน่าเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
เที่ยวเทศกาลฮานามิ และรีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมืองมาฝากจ้า คลิ๊กดูรีวิว>> |
รีวิวเที่ยวเมืองคุมาโมโตะ ชมปราสาทใหญ่โตโอฬารและดอกไม้บาน คลิ๊กดูรีวิวการเดินทาง>> |
แบกเป้เที่ยวนาโกย่า รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมือง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เก็บตกรีวิวเที่ยวอำเภอชุมแสง สวยมาแรงตลาดเก่า100ปี แวะมาที่นี่ให้ได้สักครา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองนครสวรรค์ใน 1 วัน ยลสุขสันต์เมืองชุมทางสี่แคว คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวงานแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช นอนตากอากาศที่คีรีวง คลิ๊กดูรีวิว>> |
รีวิวเที่ยวเดือนมกราคม แบกเป้ไปกินลมชมเมืองประจวบฯ 3 วัน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังสวยปังอยู่ใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์ แบบช้าๆ มีที่เที่ยวให้ลั๊ลลามากมาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
0 ความคิดเห็น