Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

แบกเป้เที่ยวเมืองคูมาโมโตะ นั่งรถรางเฮโลไปชมปราสาทใหญ่โตที่โดนแผ่นดินไหว แต่ก็งามวิไลด้วยดอกซากุระบานอร่ามจับใจ

ต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว ทริปนี้แบกเป้ลุยเดี่ยวนั่งรถไฟชินคันเซน มาเที่ยวเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto City)อีกหนึ่งเมืองน่ารัก ไม่วุ่นวาย ชมดอกซากุระบานสะพรั่ง และปราสาทใหญ่โตที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวก็ยังมีให้ชมอยู่ เดินดูของฝากและของกิน ฟินไปกับดอกไม้งาม บานจับใจ
หลังจากที่กระทู้ รีวิวบทความบล็อกตอนที่แล้ว ดิฉันได้พาเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองนาโกย่ากันไปแล้วนะคะ  ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/04/nagoya-travel-review-.html
สำหรับบล็อกตอนนี้ ก็ขอมารีวิวพาเพื่อนไปเที่ยวเมืองคุมาโมโตะหรือที่ชอบเรียกกันว่า คุมาโมโต้กันจ้า อีกหนึ่งเมืองมนต์เสน่ห์แห่งภาคใต้ของญี่ปุ่น ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตา และตราตรึงใจ อยู่หลากหลายแห่ง ยิ่งพอเข้าช่วงเทศกาลดอกซากุระบานอร่ามจับใจเช่นนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ดิฉันรีบปักหมุดไปยลตระการสักครั้งเลยทีเดียวค่ะ

เนื่องจากว่าดอกซากุระจะบานตั้งแต่ภาคใต้ ไล่ไปถึงภาคเหนือ และช่วงนี้ ทางเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น บอกกับดิฉันว่า ถ้ามาเที่ยวช่วงต้นเดือนเมษายนแบบนี้ ทางภาคใต้ของญี่ปุ่นอากาศดีมากๆ ไล่มาตั้งแต่เมืองคาโกชิม่า นางาซากิ คุมาโมโตะ ฟุกุโอกะ นั้นสภาพอากาศดีกว่าเมืองนาโกย่าที่ดิฉันนั่งเครื่องบินลงมาซ่ะอีก เพราะอากาศไม่หนาวและช่วงนี้ดอกซากุระกำลังผลิดอกออกบานสะพรั่งอลังการสะท้านโลกามากๆ เมื่อได้ยินคำแนะนำของเจ้าหน้าประชาสัมพันธ์ของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นแนะนำดังนั้น ดิฉันก็ขอไปเที่ยวเมืองคุมาโมโต้เอาซ่ะเดียวนี้เลยเชียว

ใหนก็ไปเที่ยวเมืองคุมาโมโตะแล้ว ก็มารู้จักเมืองนี้กันสักเล็กน้อยพอสังเขปนะคะ
รู้จักเมืองคุมาโมโตะสักเล็กน้อยพอสังเขป (About Kumamoto)
จังหวัดคูมาโมโตะ นั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะคิวชู และมีอาณาเขตครอบคลุมหมู่เกาะอามากูซะที่อยู่ทางตะวันตกด้วย ชายฝั่งด้านตะวันตกของจังหวัดคูมาโมโตะ ส่วนที่อยู่บนเกาะคิวชูติดต่อกับทะเลอาริอาเกะ ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดฟูกูโอกะและจังหวัดโออิตะ ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดโออิตะและจังหวัดมิยาซากิ ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดคาโงชิมะ

และเป็นหนึ่งในจังหวัดที่เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ใน พ.ศ. 2559 โดยมีแรงสั่นสะเทือนถึง 7.0 แมกนิจูด ทำให้โบราณสถานสำคัญ อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในครั้งนั้นด้วย
เครดิตข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดคูมาโมโตะ
เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ วันที่ 29 มี.ค.2562 ช่วงเวลาเย็น หลังจากได้ไปเก็บภาพแหล่งท่องเที่ยวในเมืองนาโกย่าแล้ว ก็เดินกลับที่พักไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม
จากนั้นก็เดินแบกเป้มาที่สถานีรถไฟ เข้าไปติดต่อเคาว์เตอร์ JR Office เพื่อทำการแลกตั๋วใบ change order ที่ซื้อมาจากเมืองไทย เป็นบัตร JR Pass แบบ 7 วัน ถ้าไม่มีบัตรนี้ รับรองว่าค่าใช้จ่ายบานตะไทแน่นอน เนื่องจากค่าครองชีพญี่ปุ่นนั้นก็รู้อยู่กันนะคะว่า สูงลิบลิ่วสมคำล่ำลือจริง

เมื่อได้บัตร JR Pass ก็ตีตั๋วนั่งรถไฟชินกันเซ็นจากเมืองนาโกย่า เดินทางไปยังเมืองคุมาโมโตะเลยคะ
นั่งรถไฟชินกันเซนจาก Nagoya ไปลงที่ Shin Kobe เพื่อเปลี่ยนไปนั่งรถไฟอีกขบวนไปลงที่ เมืองคุมาโมโตะ
นั่งรถไฟชินกันเซนจาก Nagoya ไปลงที่ Shin Kobe เพื่อเปลี่ยนไปนั่งรถไฟอีกขบวนไปลงที่ Kumamoto
ระยะทางจาก Nagoya ไปเมือง Kumamoto ประมาณ 863 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางด้วยการนั่งรถไฟชินกันเซนประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงค่ะ โดยหากขึ้นรถไฟที่นาโกย่า จะต้องไปเปลี่ยนสถานีเพื่อต่อรถไฟชินคันเซนที่สถานี Shin-osaka หรือ Shin-kobe อีกครั้งค่ะ เนื่องจากไม่มีรถไฟวิ่งตรงไปยังจากนาโกย่า ไปยังคุมาโมโตะ
 อาหารค่ำมื้อนี้ ไม่หรูหรา พึงพาร้านสะดวกซื้ออีกเช่นเดิมค่ะ
 แต่ที่เพิ่มเติมคือขนมอะไร เดี๊ยนเองก็จำไม่ได้แล้ว เป็นขนมเค้กใส้ถั่ว รสหวานหอมอร่อยดี กล่องเป็นรูปคิตตี้น่ารักเชียว
 บนรถไฟก็มีปลั๊กไฟให้ชาร์จแบต ทำงานได้ด้วย ดิฉันเลยยกโน๊คบุ๊คที่หอบใส่เป้นำมาทำงานบนรถไฟด้วย ถ้าไม่ทำมีหวังโดนกินหัวจากที่ทำงานแน่เลยค่ะ
 นั่งรถไฟจากนาโกย่ามาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงเมืองคุมาโมโตะแล้วล่ะค่ะ
 เดินลงจากชานชลาสถานีรถไฟชินกันเซนมา ก็พบกับเจ้า คุมาม่อน เป็นมาสคอตหมีเพศผู้ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำเมืองคุมาโมโตะจนเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ทำให้ใครก็อยากมาเที่ยวเมืองนี้
 เนื่องจากความน่ารักของหมีสีดำ แก้มสีแดง ใครลงจากรถไฟมา ก็ต้องถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไว้ไปอวดในเฟสบุ๊ค หรือสื่อโซเชียลมีเดียแทบทุกราย
สถานีรถไฟคุมาโมโตะก็ดูเรียบหรู สวยงาม ตกแต่งได้ทันสมัย มองไปทางใหนก็ไฉไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนัก แม้จะมืดค่ำ ย่ำในยามราตรีก็ตาม
ออกจากสถานีรถไฟจะเดินไปยังโรงแรมที่พักก็พอกับเจ้าคุมาม่อนอยู่ตรงทางบันใดอีกล่ะ
 ส่วนค่ำคืนนี้เวลาประมาณเกือบจะ 4 ทุ่ม ก็เงียบสงัดเชียวค่ะ
สำหรับที่พักคืนนี้พักคืนที่โรงแรม Hotel the Gate Kumamoto โรงแรมราคาถูกในเมืองคุมาโมโตะ คืนละ 870 บาท ตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลยค่ะ เรียกว่าอยู่ใกล้ๆมาก เดินข้ามสะพานลอยมาแป๊บเดียวก็ถึงล่ะ
 ส่วนบรรยากาศโรงแรมที่พักคืนนี้ ถือว่าดีเยี่ยมทีเดียวค่ะ คือแบบดีเกินคาด
 ล็อบบี้ของโรงแรมที่ที่นั่งพักกว้างขวางไม่แออัด มีตุ๊กตาคุมาม่อนประดับอยู่ตามจุด ให้นักท่องเที่ยวได้จดจำมาสคอตตัวนี้
 ทางโรงแรมมีชุดแปรงสีฟัน มีผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ชุดยาสีฟัน มีชุดมีดโกนหนวดให้ด้วยนะคะ
แผนที่ท่องเที่ยวก็เป็นรูปคุมาม่อนอีกแล้วจ้า
แหม่...มองไปทางใหนก็เจอแต่เจ้าหมีคุมาม่อนอยู่ตามจุดต่างๆไปหมดเลยนะคะ
 ส่วนห้องพักเป็นแบบห้องนอนรวม แยกชายหญิง สภาพห้องถือว่าดีเยี่ยมทีเดียว เหมือนเป็นโรงแรมพึ่งเปิดใหม่ ทุกอย่างดีเอี่ยมอ่องไปหมด ในห้องมีตู้ล็อคเกอร์ให้อย่างดี มีรองเท้าสลิปเปอร์ให้ด้วย
 ส่วนที่นอนก็นิ่มกำลังดี หมอนขนเป็ดก็นุ่มไม่มีกลิ่นด้วย
โดยรวมของที่นอน ถือว่าให้ผ่านจ้า แถมวันที่เข้าพัก มีแขกเข้าพักอยู่ 3 คน
ก็เลยไม่วุ่นวาย นอนหลับสบายมากๆ
 มีปลั๊กไฟให้เสียบ
 นอนจากนี้มีชุดนอนให้ใส่ฟรีอีกด้วย
 โดยเป็นเสื้อและกางเกงให้ด้วย
 ส่วนห้องน้ำก็กว้างขวาง ไม่แออัด มีอ่างล้างหน้า มีห้องส้วม ห้องอาบน้ำแยกชัดเจน สะอาดสะอ้านมากๆ
 ส่วนน้ำดื่มก็ดื่มจากก๊อกได้ด้วย ไม่มีกลิ่นคลอรีนค่ะ
โดยมีป้ายเขียนติดไว้ด้วยว่า น้ำดื่มที่เมืองKummato ที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำประดื่มได้และรสชาติดีด้วย
ลองกินด้วยล่ะ รสชาติดีจริงๆค่ะ คือไม่มีกลิ่นคลอรีนให้กวนใจเลย แถมมองไปตามมุมใหนก็เจอแต่เจ้าหมีคุมาม่อนอยู่เต็มไปหมด
 เช้าวันใหม่ที่ 30 มี.ค.2562 ดิฉันก็ทำการเช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม
แม้ว่าโรงแรมจะไม่มีอาหารเช้าให้บริการ แต่ก็มีน้ำดื่มเย็นและน้ำร้อน รวมทั้งเตาไมโครเวฟให้กับลูกค้าสามารถซื้ออาหารมาอุ่นทานได้ด้วย
 ส่วนที่นั่งทานก็กว้างขวาง ไม่แออัด สภาพโดยรวมของที่พักคืนนี้ในเมืองคุมาโมโตะ ถือว่าดีเยี่ยมทีเดียว น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการที่พักราคาไม่แพงและใกล้สถานีรถไฟค่ะ
พนักงานที่โรงแรม มีแผนที่ท่องเที่ยวในเมืองคุมาโมโตะให้ พร้อมให้คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว
 ทานอาหารมื้อเช้าอิ่มพอประทังท้องไปแล้ว ต่อไปดิฉันก็ขอมารีวิวพาเพื่อนไปเที่ยวชมปราสาทคุมาโมโตะกันค่ะ อีกหนึ่งปราสาทหลังใหญ่โตอันสวยงาม ที่ตอนนี้ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ.2559 แต่ก็คงความอลังการให้ได้ชมกันอยู่ เนื่องจากสะพรั่งไปด้วยดอกซากุระ

โดยทางโรงแรมมีแผนที่และมีคำแนะนำไปยังสถานที่ท่องเที่ยวให้กับลูกค้าที่มาพักอีกด้วย
แผนที่รถรางให้บริการในเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto City Tram Route Map) มีสายสีแดง กับ สีฟ้า ราคาโดยสาร 170 เยน
 ซึ่งการเดินทางไปชมดอกซากุระบานที่ปราสาทคุมาโมโตะนั้น แนะนำให้เดินทางด้วยรถราง(Kumamoto Tram)นะคะ
โดยให้นั่งรถรางสาย A-Line (สายสีแดง) จากหน้าสถานีรถไฟ Kumamoto Station(์No.3) ไปลงที่ป้าย Kumamoto Castle City Hall (No.10) ตามรูปเลยจ้า

ส่วนค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ราคา 170 เยน
ส่วนเด็กค่าโดยสาร ราคา 90 เยน

เส้นทางรถทรัม หรือรถรางในเมืองKumamoto มี 2 เส้นทางคือ สาย A (สีน้ำแดง) และสาย B (สีฟ้า) ที่ได้รับความนิยมสุดก็เป็นรถทรัมสายสีแดงค่ะ

เริ่มแรกก็เดินข้ามสะพานลอยจากที่พักลงมาขึ้นรถรางที่หน้าสถานีรถไฟได้เลยค่ะ จะมีรถรางวิ่งผ่านสถานีรถไฟตลอด
 เพื่อให้เห็นภาพ ขอมาบรรยายตามภาพดังนี้ เริ่มแรกก็เดินข้ามสะพานลอยจากที่พักลงมาขึ้นรถรางที่หน้าสถานีรถไฟได้เลยค่ะ จะมีรถรางวิ่งผ่านสถานีรถไฟตลอด ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องรอนานนะคะ
 เดินมาจะมีป้ายบอกว่าอยู่ที่สถานีใหน โดยสถานีที่ขึ้นนี้ คือหมายเลข 3 Kumamoto Station ตรงตามแผนที่เป๊ะ
 รอไม่นานนัก รถรางสุดจะกิ๊บเก๋ก็วิ่งผ่านมา
ที่รถรางมีป้ายบอกเส้นทางติดไว้ว่าเป็นรถทรัมสาย A โดยระหว่างนั่งในรถราง ก็ไม่ต้องกลัวว่าะจะหลงทางนะคะ เพราะบนรถมีป้ายจอมอนิเตอร์บอกด้วย ว่ารถจอดถึงใหนแล้ว แต่ต้องสังเกตด้วยล่ะกัน ไม่งั้น
 นั่งรถรางออกจากสถานีรถไฟคุมาโมโตะไม่นานนัก ก็ถึงป้ายKumamoto Castle City Hall (No.10)แล้วค่ะ โดยตอนลงจากรถก็เตรียมตังเหรียญไปจ่ายที่ประตูคนขับได้เลยค่ะ
 เดินข้ามถนนจากป้ายรถรางมาไม่ไกล ก็พบกับมวลมหาประชาดอกไม้ ดอกซากุระสีชมพูอ่อนหวาน กำลังบานสะพรั่งอลังการ สวยงามมากๆค่ะ
ต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่ริมรอบคูน้ำกำแพงปราสาทคุมาโมโตะ นักเดินทางที่พากันทัศนาจรมาต่างก็ต้องตะลึงงึงงันกันเสียยกใหญ่ เพราะมองไปทางใหนก็บานจับใจยิ่งนักเชียว
 มองออกไปก็เห็นต้นซากุระปลูกเรียง งามพร่ายอยู่ริมคูน้ำ มีสะพานข้ามไปยังวิมานสถานอีกแห่ง ที่เหล่าผู้รักการทัศนาจร ต่างก็ต้องมนต์ดลใจ แวะถ่ายรูปกันอย่างไม่รู้สึกเบื่อ
ช่อดอกซากุระบางพ่วง ก็รู้สึกจะง่วงนอน เพราะเอนอ่อนลงสู่น้ำในคู ไม่รู้จะสวยจุ๊กกรูไป
ใครแวะผ่าน ต่างก็อยากจะเด็ดมาดอมดม ให้ตรอมตรมหัวใจยิ่งนักแล
ซูมกล้องไปเป็นพุ่มพวงยวงใย กลิ่นไฉไลช่อใหญ่ ก็คงความงามวิไลเริ่ดสะแมนแตน สมเป็นดอกไม้ประจำดินแดนอาทิตย์อุทัย
 เดินลัดเลาะมาอีกหน่อยก็เป็นร้านขายของกิน เห็นแล้วก็ฟินได้อีก เพราะกลิ่นอาหารแต่ละอย่างก็เรียกน้ำย่อยในกระเพาะให้อยากทาน ร้าวรานจับใจไม่น้อยทีเดียว
ยากิโซะบะในกระทะแบนๆ เห็นแล้วน่าทานเริ่ดสะแมนแตนนัก อยากจะควักตังซื้อ แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาจะรับประทาน เลยต้องรออดเปรี้ยวไว้กินหวานต่อไป เผื่อเดินไปข้างหน้า มีของทานดีกว่า
Kiyomasa Kato Statue
บริเวณโดยรอบนอกจากดอกซากุระบานสะพรั่งแล้ว ยังเป็นลานอนุสาวรีย์ Kiyomasa Kato Statue อีกด้วย
Kiyomasa Kato Statue
โดย Kiyomasa Kato Statue เป็นลานอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญประจำเมืองนี้
ถนน Miyukizaka กับเทศกาลดอกซากุระบานสะพรั่ง
 เดินข้ามสะพานจากลานอนุสาวรีย์ Kiyomasa Kato มาก็จะได้พบกับถนน Miyukizaka ซึ่งเป็นถนนสายความงาม รับเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และดอกซากุระบานที่สวยอีกแห่ง
ดอกซากุระบานอร่ามจับใจ ที่ถนน Miyukizaka ในเขตรอบปราสาทคุมาโมโตะ
 โดยดอกซากุระที่บานในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ก็บานอลังการ สวยงามยิ่งนัก
เหล่าผู้รักการทัศนาจร ต่างก็อรชร อ้อนแอ้น ถ่ายรูปให้เริ่ดสะแมนแตนกันอย่างสำราญบานใจ
มองไปทางใหนก็สราญเริงสม สุขสมนัยตา ช่ะช่ะช่าหัวใจ
 หากใครที่เบื่อหน่ายกับการเที่ยวทางภาคกลางของญี่ปุ่น
ก็ลองหลีกหนีความว้าวุ่น มาชมดอกซากุระที่เมืองคุมาโมโตะได้นะคะ
ดอกซากุระบานสะพรั่ง อลังการสะท้านโลกา บริเวณริมถนน Miyukizaka
 เพราะดอกไม้ที่นี้บานสะพรั่งอลังการสะท้านโลกา ช่ะช่ะช่าหัวใจ ไม่แพ้เมืองใดในแดนปลาดิบนี้เลยทีเดียว จะพกมะม่วงเปรี้ยวๆมานั่งทาน ก็อร่อยจนหวานไปเลยทีเดียวเช่นกัน 
 ส่วนใครที่อยากจะพาคู่รักมาฮันนีมูน อยากเพิ่มพูนความสุข ก็แวะมาเดินสนุกถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่ถนนเส้นนี้ ก็งามฉิมพลี ร้านฤดีเช่นกัน
เพราะดอกไม้งาม อร่ามจับใจที่นี้ ก็มีทั้งดอกสีขาว สีชมพูเข็ม และสีชมพูอ่อนๆ ให้ออนซอน ดอมดม จนตรอมตรมใจไปข้างนึง
 แต่อย่าเผลอไปเด็ดมาทัดที่ใบหูเข้าล่ะ เดียวคนเขาจะว่าเอาได้ เพราะเขาห้ามเด็ดดอกไม้กัน แต่ถ้าร่วงก็อย่าเผลอไปหยิบมาด้วยเช่นกัน เดียวเขาว่าเด็ดมา ดังนั้นให้ดอกมันร่วงและติดอยู่เป็นต้นแบบนั้นแล ดูงามแท้ดีแล้ว
 ชมดอกซากรุที่ถนน Miyukizaka แล้วก็เดินบันใดไปตามที่เขาเดินกันเรื่อยๆ เพื่อไปชมความใหญ่โตของปราสาทคุมาโมโตะ
 ระหวางนั้นก็เห็นถนนถูกปิดอยู่เป็นระยะ ระยะ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวถูกปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไป เพราะอยู่ระหว่างการปรับปรุง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปราสาทคุมาโมโตะ

เดินมาเรื่อยจนถึงจุดชมปราสาทคุมาโมโตะ ซึ่งกำลังทำการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดอยู่ เนื่องจากหลังเดิมพังลงมาเกือบทั้งหมด

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปราสาทคุมาโมโตะ 

สำหรับปราสาทคุมาโมโตะ จัดเป็นปราสาทมีใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น และเป็นปราสาทที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดเมื่อปี 2559 ด้วย ทำให้ตัวปราสาทหลังใหญ่ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด
โดยเป็นปราสาทสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในแขวงชูโอ เมืองคูมาโมโตะ ในจังหวัดคูมาโมโตะ เริ่มสร้างขึ้นอย่างจริงจังจนเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1601 โดยดำริของ คาโต คิโยมาซะ เจ้าแห่งคูมาโมโตะ เพื่อใช้เป็นป้อมปราการ จนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1607
พื้นที่อาณาบริเวณของปราสาทยาวประมาณ 9 กิโลเมตร ตัวปราสาทมีป้อมปืน 49 ป้อม ประตูป้อมปืน 18 ประตู และประตูขนาดเล็ก 29 ประตู มีหอคอยสูง 2 หอ ทำให้สามารถมองได้รอบทิศจากมุมสูง หอใหญ่จะสูง 30.3 เมตร หอเล็กสูง 19 เมตร ปราสาทหลังเดิมถูกเพลิงไหม้เสียหายในปี ค.ศ. 1877 ต่อมาได้สร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1960
สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่วางแผนจะมาเที่ยวชมปราสาทคุมาโมโตะ ก็สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีค่ะ แต่ไม่สามารถเข้าไปชมด้านในตัวปราสาทได้นะคะ เพราะกำลังทำการปรับปรุงอยู่ แต่ถ้าให้ดี ดิฉันแนะนำว่าควรมาช่วงปลายเดือนมีนาคมเนี่ยแหละค่ะ สวยสุดๆล่ะ เพราะดอกซากุระบานสะพรั่งอลังการ ถ่ายรูปมุมใหนก็งาม ร้าวรานจับใจไปหมด จะถ่ายแบบเอียง หรือเฉียงก็งามค่ะ เพราะดอกไม้งามๆ ก็คู่กับคนก็งามไปหมดเช่นกัน
 หลังจากได้ที่เพลิดเพลิน จำเริญใจไปกับความใหญ่โตของปราสาทคุมาโมโตะและความสวยงามของมวลมหา ประชาดอกซากุระที่บานจิจ๊ะ งดงามสมค่ำล่ำลือไปแล้ว ใกล้กับถนน Miyukizaka ก็เป็นย่านช็อปปิ๊ง Sakuranobaba Josaien อีกหนึ่งแหล่งรวมผลิตภัณฑ์ของฝาก ของกินอร่อยให้ลิ้มลองทานกันค่ะ
ใหนๆมาถึงแล้วก็ไม่รีรอ เข้าไปเดินชมย่าน Sakuranobaba Josaien ในเมืองคุมาโมโตะนี้เลยค่ะ
 ใหนๆมาถึงแล้วก็ไม่รีรอ เข้าไปเดินชมย่าน Sakuranobaba Josaien ในเมืองคุมาโมโตะนี้เลยค่ะ
 เดินมาในย่านช็อปปิ้งนี้ ก็เจอน้องหมีคุมาม่อนอีกล่ะ
 บรรยากาศด้านในยังไม่ค่อยคึกคักนัก เนื่องจากผู้คนต่างไปชมดอกซากุระกัน
 ของฝากขึ้นชื่อประจำเมืองคุมาโมโตะก็คือ Karashi-renkon ก็คือรากบัวปรุงรส ว่ากันว่ารสชาติอร่อยแซ่บเว่อร์
โดยรากบัวที่นี่บรรจุภัณฑ์อย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์ ราคาก็ไม่แพง แต่ก็แรงใช่ได้นะ 
ของฝากอีกอย่างที่ใครๆแวะมา ต่างก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือไป คงเป็นตุ๊กตา ตุ๊กตุ่นน้องหมี คุมาม่อนเนี่ยแหละจ้า เดินไปทางใหนก็ต้องเจออยู่แทบทุกจุด 
 ตามตู้ขายขนมก็มีให้เห็น น่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งเชียวค่ะ
ตามบรรจุภัณฑ์จำพวกขนม ข้าวเกรียบรากบัวก็มีเช่นกัน 
 หรือคุมาม่อนอยู่ในรูปแบบขนมปังก็น่าทานอีก
เห็นแล้วก็ต้องควักเงินมาซื้อยิ่งนักเชียว
ของกินแต่ละอย่างก็ล่อใจ ให้ลิ้มลองนัก
ของฝากจำพวกลูกชิ้นปลาหมึก นักเก็ตปลา นักเก็ตไก่ ก็อร่อยเหมือนกัน
แต่มื้อเที่ยงนี้ เดี๊ยนขอทานอะไรแบบง่ายๆ ยากิโซบะกับไข่ที่ทานคู่ลูกชิ้นปลาหมึก รสชาติอร่อยดีค่ะ
ราคาไม่แพงด้วย
ตบท้ายด้วยข้าวเกรียบรากบัว แต่รสชาติไม่ค่อยอร่อยถูกปากเดี๊ยนเอาซ่ะเลย เนื่องจากรสชาติค่อนข้างจัดและออกเค็มมากด้วย
หลังจากทานอาหารมื้อเที่ยงอิ่มแล้ว ดิฉันก็นั่งรถรางกลับไปยังที่พัก เพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม จากนั้นก็เดินทางมายังสถานีรถไฟคุมาโมโตะ เพื่อเดินทางไปยังเมืองต่อไป

สรุปค่าใช้จ่ายทริปเที่ยวเมืองคุมาโมโตะวันนี้
ค่ารถรางไปปราสาทคุมาโมโตะ 170 เยน
ค่ารถรางกลับมายังสถานีรถไฟ 170 เยน
ค่าที่พักโรงแรม Hotel The Gate Kumamoto คืนละ 873 บาท
ค่าอาหารการกินมื้อเที่ยงยากิโซบะ 500 เยน
ซื้อลูกชิ้นปลาหมึกชิ้นละ 200 เยน ซื้อ 2 ชิ้น 400 เยน
ข้าวเกรียบรากบัวรสวาซาบิ 500 เยน
รวมค่าเสียหายแบบเบาๆทริปเที่ยวคุมาโมโตะ :  1,377 บาท
ไม่รวมของฝากอื่นๆ

สำหรับรีวิวเที่ยวเมืองคุมาโมโตะในทริปนี้ ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ขอบพระคุณเพื่อนๆที่แวะเวียนมาสไลด์เลื่อนชมกัน ไว้พบกันใหม่ในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ...จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-----------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวอื่นๆ มีดังนี้
ทริปสั้นๆ รีวิวแบกเป้นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองนีกาตะยามเย็น คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
ทริปสั้นๆรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองนีกาตะยามเย็น เดินเล่นชมเมือง กับเวลาอันน้อยนิด ไปดูสิมีอะไรให้ชมบ้าง คลิ๊กดูรีวิวและการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเกียวโตยามสนธยา แวะไปลั๊ลลาเมืองฮิเมจิ คลิ๊กดูรีวิวการเดินทางจ้า>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเกียวโตยามสนธยา วะไปช่ะช่ะช่าเมืองฮิเมจิ ไปดูสิว่ามีอะไรให้ชื่นชมบ้า คลิ๊กดูรีวิวและการเดินทางค่ะ>>>
แบกเป้ไปเกาะชิโกกุ เที่ยวทะลุเมืองทามัตสึ มีแต่อันปังแมนน่ารัก คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
แบกเป้ไปเกาะชิโกกุ แวะเที่ยวทะลุเมืองทาคามัตสึ ไปดูสิว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง Let's go คลิ๊กดูภาพรีวิวและการเดินทางค่ะ>>
เที่ยวเทศกาลฮานามิ และรีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมืองมาฝากจ้า คลิ๊กดูรีวิว>>
แบกเป้เที่ยวเทศกาลฮานามิเมืองฟุกุโอกะ กับรีวิวการเดินทางด้วรถไฟใต้ดินในตัวเมืองง่ายๆมาฝากจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวและการเดินทางค่ะ>>
10 กิจกรรมดีๆวันสงกรานต์ เบิกบานฉ่ำใจ ที่ยังไงก็ต้องทำกัน คลิ๊กดูรายละเอียด>>
แนะนำ 10 กิจกรรมดีๆวันสงกรานต์ ที่ยังไงก็ต้องทำ มีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวนาโกย่า รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมือง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวนาโกย่า ไปลั๊ลลาชมดอกซากุระ รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟไปยังสถานที่ท่องเที่ยว คลิ๊กดูรีวิวและการเดินทางค่ะ>>
เก็บตกรีวิวเที่ยวอำเภอชุมแสง สวยมาแรงตลาดเก่า100ปี แวะมาที่นี่ให้ได้สักครา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวชุมแสง งามร้อนแรงบึงบอระเพ็ด สวยเด็ดตลาดเก่า100ปี ต้องแวะมาฉิมพลีสักครั้งครา คลิ๊กดูรีวิวและการเดินทางค่ะ>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองนครสวรรค์ใน 1 วัน ยลสุขสันต์เมืองชุมทางสี่แคว คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวนครสวรรค์ ยลสุขสันต์เมืองสี่แคว งามจริงแท้ยอดเขาคีรีวง ชมอาทิตย์อัสดง งามเริ่ดสะแมนแตคลิ๊กดูภาพรีวิวและที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวงานแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช นอนตากอากาศที่คีรีวง คลิ๊กดูรีวิว>>
รีวิวพาคุณแม่แห่ผ้าขึ้นธาตุเมืองนคร นอนที่บ้านคีรีวง ชมวิถีชาวประมงที่ปากพนัง ต้องมาเที่ยวอีกครั้งให้ได้เลยเชียว คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองพัทลุง ชมมนต์ลูกทุ่งแห่งคุ้งน้ำทะเลน้อย แวะไปสอยเที่ยวชมกันเลย>>
มาม๊ะ..มาเที่ยวเมืองพัทลุง ชมมนต์ลูกทุ่งแห่งคุ้งน้ำทะเลน้อย งามหยดย้อยธรรมชาติ ไม่พลาดมาทัศนาจรสักครั้ง ถ่ายรูปปังแน่นอน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองตรัง มาอีกครั้ง ก็ยังปังเสมอ อาหารรสเลิศเลอ คลิ๊กดูรีวิวเลยจ้า>>
รีวิวเที่ยวเมืองตรังอีกครั้ง ก็ยังปังเสมอ มีอาหารรสเลิศเลอ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวและที่เที่ยวค่ะ>>

รีวิวเที่ยวเดือนมกราคม แบกเป้ไปกินลมชมเมืองประจวบฯ 3 วัน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
มาม๊ะ..มาเที่ยวเมืองประจวบ 3 วัน 2 คืน ชื่นบานใจ ไปใช้ชีวิตแบบช้าๆ งามระย้าเมืองสาวอ่าว ต้องก้าวย่างมาสักครา คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>

รีวิวแบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังสวยปังอยู่ใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง มาดูสิว่ายังสวยงาม อลังปังอยู่ใหม๊ มีที่เที่ยวใหม่ๆอะไรบ้าง ไปดูสิ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์ แบบช้าๆ มีที่เที่ยวให้ลั๊ลลามากมาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองเพชรบูรณ์ 1 วันแบบช้าๆ ในตัวเมืองมีที่เที่ยวลั๊ลลามากมาย ต้องแวะไปให้ได้สักครั้งครา คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น