บล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนนี้ คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า พาคุณแม่มาเที่ยวเมืองตรัง มาอีกครั้ง ก็ยังปังสุดขั้ว ระรัวไปด้วยอาหารการกิน ฟินเริ่ดเว่อร์จริงๆจ้า |
โดยการเที่ยวครั้งนั้น เรียกว่าหลายปีมาแล้วล่ะค่ะ ดิฉันเองค่อนข้างจะเที่ยวแบบสมบุก สมบันทีเดียว เนื่องจากเช่ามอเตอร์ลัดเลาะไปเที่ยวออกนอกตัวเมือง ชำเลืองไปตามอำเภอ ไม่ค่อยได้เที่ยวในตัวเมืองมากนัก
จนเวลาผัดเปลี่ยน หมุนเวียนมาบรรจบ ครบอีกสมัย ก็เกิดนึกอยากจะมาไฉไลเที่ยวเมืองตรังนี้อีกครั้ง ก็เลยจัดทริปมาเที่ยวอีก แต่รอบนี้ไม่ได้มาเที่ยวคนเดียวเหมือนทริปที่ผ่านๆมานะคะ เพราะคุณแม่ก็อยากมาเที่ยวด้วย สงสัยคนแก่อยู่บ้านคงจะเบื่อๆ ดิฉันก็เลยชวนคุณแม่กับคุณป้ามาเที่ยวด้วย เรียกว่ามากัน 3 คน ไม่เบื่อแน่นอนค่ะ
ใหนๆก็ถึงเมืองตรังแล้ว เรามารู้จักเมืองตรังกันสักเล็กน้อยนะคะ |
ใหนๆก็ถึงเมืองตรังแล้ว เรามารู้จักเมืองตรังกันสักเล็กน้อยนะคะ
เมืองตรัง หรือชื่อเดิมคือ เมืองทับเที่ยง อีกหนึ่งในจังหวัดในภาคใต้ ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างประเทศ เป็นเป็นศูนย์กลางการคมนาคมไปสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดตรังเป็นจังหวัดแรกที่มีต้นยางพารามาปลูก โดยพระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภักดี หรือชื่อเดิม คอซิมบี้ ณ ระนอง เป็นเจ้าเมืองตรังในอดีต ซึ่งได้นำพันธุ์ยางพารามาจากมาเลเซีย
นอกจากนี้แล้วตรังเป็นจังหวัดหัวเมืองอยู่ทางภาคใต้ของไทยที่มีอาณาเขตติดทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย ทางชายฝั่งทะเลตะวันตก โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่ปรากฏในจังหวัดตรังมีอยู่ทั่วไป เช่น โครงกระดูกมนุษย์โบราณที่ถ้ำซาไก อยู่ในอำเภอปะเหลียน มีขวานหินกะเทาะ ขวานหินขัด เศษภาชนะดินเผา ลูกปัดแก้ว เครื่องประดับ ตามถ้ำต่าง ๆ เช่น เขาสามบาตร ถ้ำเขาไม้แก้ว ถ้ำเขาเทียมป่า ภาพเขียนสีที่เขาแบนะ ถ้ำตรา ซึ่งล้วนเป็นหลักฐานบ่งบอกความเป็นชุมชนก่อนประวัติศาสตร์จนถึงแรกเริ่มประวัติศาสาสตร์
ตามคำขวัญประจำจังหวัด : เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพาราเด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา
ปุัจจุบันตรังยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่านักทัศนาจรจากทั่วทุกมุมโลก นิยมเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงาม มีเกาะในหมู่ทะเลอันดามัน และที่ขาดไม่ได้เสียก็คงเป็น เมืองแห่งอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ทำให้ผู้ที่หลงไหลการกินเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมาลิ้มลองอาหารและขนมอร่อยๆ โดยของกินขึ้นชื่อในเมืองตรัง ได้แก่ หมู่ย่าง,ขนมเค้กมีรู และติมซำยามเช้า ที่เรียกว่าต้องถูกปากนักชิมมาแล้วแทบทุกราย จนต้องอย่างกรายมาให้ได้เลยเชียว
สำหรับการเดินทางมาเที่ยวเมืองตรัง ดิฉันเลือกเดินทางโดยสาร ด้วยรถไฟมายังเมืองตรัง แทนการนั่งเครื่องบิน อันเนื่องจากว่าคุณแม่และคุณป้าอยากจะย้อนวันวานความหลังในวัยสาว
ดิฉันเลยจัดให้ตามคำขอค่ะ แม้จะมีคำกล่าวว่า การนั่งรถไฟไทยจะถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง แต่ก็เราก็เลือกนั่งค่ะ และอีกอย่างนึงก็คือ ดิฉันเองก็ไม่ได้นั่งรถไฟนานมากๆแล้วซ่ะด้วย ก็เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินทางแบบเดิมๆ มานั่งรถไฟ ก็ไฉไลไปอีกแบบค่ะ
เริ่มต้นเดินทางออกจากหัวลำโพงเวลา 17.05 น. โดยถึงจุดหมายที่เมืองตรังเวลา 8.05 น.
ตู้รถไฟที่เราเลือกนั่งไปตรังในครั้งนี้ ก็ไม่ได้เลือกตู้นั่งนะคะ ถ้าเลือกโบกู้ตู้นั่ง มีหวังนั่งตูดบานแน่นอนเลย และอีกอย่างพาคนแก่มาเที่ยวแบบนี้ คงลำบากแน่ๆ เลือกตู้นอนน่าจะดีที่สุด่ะ
ดิฉันเลือก เป็นรถไฟตู้นอนค่ะ ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยนะคะ ที่ได้ใช้บริการรถไฟตู้นอน โดยเป็นตู้นอนชั้น 2 เลือกที่นอนด้านล่าง ราคาตกคนละ 871 บาทค่ะ รวม 3 คน ราคาก็ 2,631 บาท แต่ถ้าเป็นที่นอนชั้นบนราคาจะถูกกว่าเล็กน้อย
สภาพโดยรวมถือว่าโอเคอยู่นะค่ะ มีโต๊ะบานพับดัดแปลงทำให้โต๊ะนั่งทำงานได้ด้วย เอาโน๊ตบุ๊คมาทำงานด้วยก็ได้
ส่วนอาหารบนรถไฟ ดิฉันสั่งอาหารบนรถไฟทาน เป็นอาหารชุด ราคาสูงเหมือนกันนะคะ ชุดละ 130 บาท |
และเสน่ห์ของการนั่งรถไฟ นอกจากจะได้ยินเสียงฉึกฉัก ฉึกฉักแล้ว ที่ขาดไม่ได้คงเป็นคนขายอาหารและขนมตามเส้นทางที่รถไฟผ่าน เนี่ยแหละค่ะ คือรถไฟไทย มีเสน่ห์เย้ายวน ชวนให้นึกถึงก็ตรงนี้แหละ
นั่งรถไฟมาตลอดคืน ในที่สุดก็ถึงสถานีรถไฟเมืองตรังแล้วล่ะค่ะ รถไฟมาถึงเวลา 8.10 น. ล่าช้าเล็กน้อย ถือว่าโอเคอยู่นะ
สถานีรถไฟเมืองตรัง |
เดินเพลินๆออกจากสถานรถไฟเมืองตรัง
รถตุ๊กๆหัวกบ อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดนักเดินทางให้มาเยือนเมืองนี้ |
ห้องพักที่โรงแรมธรรมรินทร์ก็ปรับปรุงใหม่ด้วย พื้นเป็นไม้ปาเก้ ไม่ได้เป็นพรมแล้วนะคะ มีแอร์ ทีวี ตู้เย็นให้ครบ จะขาดเสียก็แต่กระติกน้ำร้อน เนื่องจากคุณแม่อยากได้กาต้มน้ำร้อนไว้ชมชา กาแฟ ตามประสาคนแก่ชอบกินอะไรร้อนๆ ทางโรงแรมก็จัดกาใส่น้ำร้อนมาให้ โดยสามารถเติมน้ำร้อนด้านล่างขึ้นไปได้
มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย แม้จะดูเก่าหน่อย ก็ยังใช้งานได้ดี มีผ้าขนหนูเช็ดตัวและเช็ดหน้าให้ เหมาะสมกับราคาอยู่นะ ถือว่าไม่แพง
ฝากท้องอาหารมื้อเช้านี้ไว้ที่ร้านโกปี้ มาเมืองตรังทั้งที ต้องไม่พลาดมากินติ่มซำ |
ร้านโกปี้ ร้านอยู่ติดๆกับสถานีรถฟเมืองตรังและใกล้โรงแรมด้วย พาคุณแม่กับคุณป้าเดินมาได้ไม่ไกล |
บรรยากาศในร้านช่วงเช้า คึกคัก |
บะกุ๊ดเต๋ ชามละ 80 บาท เป็นซี่โครงหมูตุ่นยาจีน ใครชอบอาหารจีนคงจะถูกปาก เพราะหอมกรุ่นติดจมูกเชียวล่ะ |
และก็นั่งติ่มซำหลากหลายอย่างมาทาน ทั้งขนมจีบ ซาลาเป๋า ฮะเก๋า และอื่นๆ
ส่วนคุณแม่กับคุณป้าก็ซัดโจ๊กต่ออีกคนละ จัดไปซ่ะให้อิ่ม รวมค่าเสียหาย 350 กว่าบาท
หลังจากทานอาหารมื้อเช้าอิ่ม ก็พากันออกมาเดินย่อยอาหารต่อที่ตลาดเทศบาลค่ะ
มาเดินย่อยอาหารเลาะชม ตลาดเทศบาลเมืองตรัง
หมูย่างเมืองตรัง ของกินชื่อดังประจำเมือง ที่ลือเลื่องไปทั่วสารทิศ |
ว่ากันว่า มาถึงเมืองตรังทั้งที ต้องลิ้มลองหมูย่างเมืองนี้สักครั้ง |
ตึกรางบ้านช่อง อาคารเก่าแก่ในเมืองตรังยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างดี รอค่อยนักเดินทางจากทั่วสารทิศมาแวะชมกันอย่างไม่ขาดสาย |
อาคารเก่าแกมีไว้ให้แลชมอย่างน่าอภิรมย์สมใจ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเดินชม ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
และในเมืองยังมีจุดเช็คอิน ภาพวาดฝาผนังสามมิติให้ได้ถ่ายรูปไว้อีกด้วยด้วย ดูคนแม่กับคุณป้าสิค่ะ กำลังชื่นชมกับต้นศรีตรังอยู่
สาระน่ารู้เกี่ยวกับต้นศรีตรัง มีที่มาอย่างไร? |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับต้นศรีตรัง มีที่มาอย่างไร?
สำหรับต้นศรีตรัง เป็นไม้ประจำถิ่นในประเทศบราซิลและทวีปอเมริกาใต้ แต่ต้นศรีตรังต้นแรกที่ถูกปลูกในบ้านเราอยู่ที่จังหวัดตรังนั้น ปลูกโดยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ สมุหเทศาภิบาล มณฑลภูเก็ต เป็นผู้นำมาปลูกเมื่อประมาณ 100กว่าปีก่อน
ลักษณะเป็นไม้ยืนต้น วงศ์เดียวกับชมพูพันธุ์ทิพย์ สูงประมาณ 4-10 เมตร ต้นศรีตรังนี้มี 2 ชนิด คือ ชนิดที่มีช่อดอกที่ปลายยอด กับชนิดที่มีช่อดอกออกตามซอกใบตามกิ่งก้านและปลายยอด ซึ่งเป็นชนิดที่นิยมปลูกกันในบ้านเรา ทรงพุ่มค่อนข้างโปร่ง ส่วนใบเรียวคล้ายขนนก ปลายใบแหลม โคนใบเบี้ยว ใบเล็กละเอียดคล้ายใบต้นนนทรีย์ค่ะ
ดอกสีม่วงอ่อน รูปร่างคล้ายปากแตร มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มักจะออกดอกเป็นช่อ เป็นพุ่มสีม่วง โโยกระจายอยู่ตามกิ่งและซอกใบหรือตามส่วนยอด ลักษระดอกมีลักษณะเป็นหลอดสีม่วงเข้ม ปลายแยกเป็น 5 แฉก ซึ่งจะออกดอกประมาณเดือนมกราคม-มีนาคม โดยต้นจะผลัดใบเหลือไว้แต่ดอกสีม่วง ทำให้เป็นสีม่วงมีความสวยงามแก่ผู้ที่พบเห็น เป็นต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายไว้เป็นที่ระลึก ให้ระทึก ระทวยหัวใจทุกครั้งคราไป
และไม่ไกลนักจากตลาดเทศกาล เดินมาเรื่อยๆก็เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม ถ้ำมรกต ที่สะกดตาสะกดใจ ให้นักเดินทางหลงไหลมาเช็คอินน์กันอย่างไม่ขาดสาย
รูปภาพเด็ดน้อยกำลังยื่นมือไปจับแมว
ภาพวาดสามมิติ จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองตรัง |
ในเดือนนี้เป็นช่วงวันวาเลนไทน์และวันตรุษจีน มีการประดับตกแต่งซูมให้ถ่ายรูปอย่างสวยงาม
ดิฉันพาคุณแม่และคุณป้าเดินย้อนขึ้นไปยังหอนาฬิกา ถ่ายรูปไว้ที่ระลึก ณ ที่ตรงนี้ ก่อนที่จะส่งคุณแม่และคุณป้าไปที่โรงแรม เพราะรู้สึกว่าแกจะเดินไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ เนื่องจากเริ่มเมื่อยขาล่ะ
หลังจากส่งคุณแม่กับคุณป้าไปที่โรงแรมเพื่อพักผ่อนแล้ว ก็ได้เวลาตะลอนเลาะเที่ยวเมือตรังอีกครั้งแล้วค่ะ โดยการเดินทางตะลอนไปเที่ยวเมืองตรังให้สะดวก คงต้องพึ่งพายานพาหนะอย่าง มอเตอร์ไซต์อีกเช่นเคยค่ะ ใกล้โรงแรมธรรมรินทร์ และสถานีรถไฟ มีร้านมอเตอร์ไซต์ให้เช่าอยู่ค่ะ
ราคาเช่ามอเตอร์ไซต์ตกวันละ 200 บาท มัดจำน้ำมัน 100 บาท เนื่องจากต้องเติมน้ำมันให้เติมถังตอนคืนรถ
เช่ามอเตอร์ไซต์ตกวันละ 200 บาท มัดจำน้ำมัน 100 บาท เนื่องจากต้องเติมน้ำมันให้เติมถังตอน |
วิหารคริสตจักรตรัง เป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองตรังมาอย่างช้านาน |
โดยเป็นวิหารคริสตจักรแห่งนี้ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นเขตที่ดินโบราณสถาน ลงเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2545
และของฝากขึ้นชื่ออีกอย่างในเมืองตรัง ที่มาแล้วต้องซื้อไปทาน ก็คงเป็นขนมเปี๊ยซอย 9 ว่ากันว่ารสชาติอร่อยยิ่งนัก เพราะเป็นขนมเปี๊ยะแบบทอด ไม่ใส่สารกันบูด เก็บไว้ได้ไม่นานนะ ต้องรีบทานให้หมด
เดินเข้ามาในร้าน ก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงานและเจ้าของให้ชิมขนมกันแบบฟรี หลากหลายไส้เลยค่ะ |
พอชิมขนมเปี๊ยะไปหลายไส้ ก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากทุกครั้ง
ขนมเปี๊ยะจัดใส่ถาดไว้ให้ลูกค้าได้ชิมกันแบบฟรี ใครที่เป็นคนชอบทานขนมเปี๊ยะ คงต้องมาลิ้มลองซื้อไปทานกันสักครั้ง
หลังจากได้ซื้อขนมเปี๊ยะซอย 9 แล้ว ดิฉันก็แว๊นๆขับมอเตอร์ไซต์มาลิ้มลองความอร่อยของต้นตำรับขนมเค้กมีรู เจ้าแรกในเมืองตรังต่อที่ เค้กขุกมิ่ง ลำภูรา ซึ่งห่างจากตัวเมืองไกลมากประมาณ 15 กิโลเมตร เพื่อมาซื้อเค้กต้นตำรับที่นี้
หากมาเมืองตรัง อยากกินเค้าต้นตำรับ ว่ากันว่าต้องมาที่ร้านเค้กขุกมิ่ง ซึ่งตำนานเค้กมีรูเริ่มที่นี่ |
เค้กที่ได้รับความนิยมสุด เห็นจะเป็นเค้กไข่ ซึ่งเป็นเค้กต้นตำรับ รสชาติดั้งเดิม ที่ขายมาจนถึงปัจจุบัน |
ใหนก็ขับรถมาไกลที่ถิ่นต้นตำรับเค้กพื้นเมืองตรังทั้งที ก็ซื้อไปฝากที่บ้านและเอาไปให้คุณแม่ทานด้วย
ขับรถกลับมาที่เมืองตรังอีกครั้ง และอีกหนึ่งตลาดของกินยามเที่ยงของชาวเมืองตรังแท้ๆ แบบราคาไม่แพง ขอแนะนำมาที่ตลาดวินเพชร |
อย่างเช่นขนมปากหม้อเมืองตรัง ที่ไม่เหมือนปากหม้อทางภาคกลางแน่นอนค่ะ
ขนมปากหม้อแบบเมืองตรัง รสชาติออกหวานๆ อร่อยไปอีกแบบ |
บรรยากาศในตลาดวินเพชรช่วงใกล้ๆบ่ายโมง
ข้าวต้มพุ้ย เมืองตรัง อีกหนึ่งเสน่ห์ของข้าวต้มในเมืองนี้ |
ขนมกระทงทองเจ๊มาลี ขนมกระทงทองแบบทางภาตใต้ ที่ต้องกินแนมกับผักและไส้ปูอร่อยไปอีกแบบ |
ขนมกระทงทอง ที่ตลาดวินเพชรก็เป็นอาหารว่างที่น่าลิ้มลองเช่นกัน |
ขนมกระทงทอง เห็นแล้วต้องลอง เพราะเป็นอาหารยามว่างของภาคใต้
แวะมาอีก ซื้อเค้กชื่อดังอีกเจ้าซึ่งมีชื่อเสียงไม่แพ้เค้กขุกมิ่ง คงเป็นเค้กรสเลิศ ซึ่งเป็นต้นตำรับเค้กสามรสเจ้าแรกในจังหวัดตรัง |
มาถึงทั้งที ก็จัดไปอีกสักกล่องก่อน เอาให้คุณแม่กับคุณป้าได้กินกันทั้งสองยี่ห้อไปเลย
หลังจากที่ได้ลิ้มลองกินอาหารอร่อยๆและซื้อของฝากในเมืองตรังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดิฉันก็ขอเป็นผู้สาวขาเลาะ ขับมอเตอร์ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่อ โดยช่วงบ่ายแก่ๆแบบนี้ ดิฉันเลยตัดสินใจขอชื่นชมธรรมชาติและชายหาดสวยๆในจังหวัดตรังอีกครั้ง
จำได้ว่าครั้งที่แล้ว ติดช่วงหน้าฝน มีมรสุมเข้าก็เลยไม่ได้มาเที่ยวชมทะเลนัก แต่รอบนี้มาถูกช่วง เพราะไม่มีมรสุม ทะเลอันดามันในจังหวัดตรัง คงจะงดงามมิใช้น้อยเชียว
แวะมาชมบ่อน้ำร้อนเมืองตรัง อีกหนึ่งที่เที่ยวชื่อดังในอำเภอกันตัง ที่ต้องแวะมาชมกัน
แวะมาดื่มด่ำชมวนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง |
เดินเข้ามาก็พบชาวบ้านกำลังมีความสุขอยู่กับการอาบน้ำร้อนกันอยู่เลยค่ะ แต่กลิ่นกำมะถันในบ่อก็ส่งกลิ่นหอมหวน ตลบอบอวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อยเชียวค่ะ
บ่อน้ำร้อนที่นี้ ถือว่าเป็นบ่อน้ำร้อนที่ร้อนจริงๆ ตอนแรกดิฉันก็คิดว่าแค่อุ่นๆเสียอีก แต่พอเอามือเลาะแตะๆดู ร้อนทีเดียว
แต่น้ำที่อยู่ในบ่อก็ใสราวกับกระจก น่าลงไปเล่นมากๆ แต่เสียอยู่อย่างเดียว น้ำค่อนข้างร้อนไปหน่อย ขนาดเห็นยังมีไอระเหยเหนือน้ำเลยค่ะ ถ้าหากน้ำเดือด 100 องศา มีหวังสุกไปทั้งตัวแน่นอนค่ะ
หลังจากที่ได้ชมบ่อน้ำร้อนธรรมชาติในอำเภอกันตังแล้ว ก็ขับมอเตอร์ไซต์ลัดเลาะมาชื่นชมทะเลอันดามัน โดยชายหาดแรกที่แวะมาชมคือ หาดมดตะนอย
ชายหาดมดตะนอย ยังคงงามหยดย้อยอยู่เสมอ แวะมาปรนเปรอได้ไม่เบื่อ |
และจุดเด่นของหาดแห่งนี้ ก็คงเป็นความเงียบสงบ สยบความครืนเครง ไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจ เหมาะสำหรบการพักผ่อนอย่างแท้จริงๆ ช่วงที่ดิฉันขับรถเข้ามาที่หาด ก็เห็นนักท่องเที่ยวไม่กี่คน จะเห็นก็แต่ฝรั่งมังข้า ออกมาช่ะช่ะช่าหัวใจอยู่คนเดียวนี่แหละค่ะ
ชายหาดมดตะนอย ยังคงงามหยดย้อยอยู่เสมอ ใกล้ๆชายหาดก็แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามของต้นสนเรียงรายไปทิวแถว ช่วยให้ร่มเงา โดยการเดินทางมาที่หาดแห่งนี้จะผ่านพบกับชุมชนชาวประมงริมทะเลที่นี้ที่มีชีวิตแบบเรียบง่าย สบายๆเริ่ดเว่อร์
หาดยาว อีกหนึ่งหาดสวย รวยด้วยมนต์เสน่หา ช่ะช่ะช่าหัวใจ ตั้งอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม |
ชายหาดยาว ก็งามเพริ้ดแพร้ว น้ำทะเลใสแจ๋วเหมือนกันนะ |
หากมาเที่ยวช่วงวันธรรมดา ก็เหมาะหนักที่จะนำเสื่อมาปูอาบแดด ให้แสบสะท้านผิวเป็นสีแทน คงจะงามเริ่ดสะแมนแตนไม่น้อยทีเดียว
ขับมอเตอร์ไซต์มาเรื่อย แวะเข้าไปชมชายหาดในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ว่ากันว่างามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนัก |
ว่ากันว่าหากใครได้มาเยือนที่อุทยานแห่งชาติที่นี้ ต้องไม่รอรี ที่จะถ่ายรูปเช็คอินกับอุโมงต้นไม้ในเขตอุทยานที่งดงามร้าวรานสะท้านโลกา จนชาวฝรั่งมังค่าจะต้องมาลั๊ลลาให้ได้เลยเชียว
โดยเฉพาะในช่วงใกล้จะพลบค่ำ ยามย่ำสู่สนธยาแบบนี้ บรรยากาศเงียบสงบ สยบทความครืนเครงดียิ่งนัก จะได้เสียงก็แต่คลื่นทะเล กับต้นสนเสียดสีกับลมทะเลให้โย้เย้หัวใจ
ชายหาดเจ้าไหมในช่วงยามสนธยาตกเย็น เดินเล่นริมหาดทราย งามพร่างพรายยิ่งนักเชียว |
ชายหาดเจ้าไหมในช่วงยามสนธยาตกเย็น เดินเล่นริมหาดทราย งามพร่างพรายยิ่งนักเชียว |
หลังจากที่ได้อภิรมย์ชมชื่นชายหาดอันสวยงามยามสนธยาแล้ว ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไปต่อให้สุดเส้นทางก่อนที่อัสดงจะแลลับลงสู่ขอบฟ้าค่ะ
ขับรถมอเตอร์ไซต์มาเรื่อยๆ เมื่อยก็หยุดพักตรงหัวสะพาน ให้ร้าวรานทรวงใน
ชะเง้อมองไปตรงปากอ่าว ก็เห็นเรือยาวของชาวประมงที่นี่กำลังจะวิ่งหนีแสงอัศเจรีย์ กลับเข้าสู่หลังคาบ้าน
ซูมกล้องไปหน่อย เรือๆค่อยแล่นไปข้างหน้า แม้จะไม่ค่อยชัด มองเห็นหนูน้อยกลอยใจ ตัวเล็กๆน่ารักมุ้งมิ้ง เป็นกับตันเรือกำลังถือเชือกอยู่ ส่วนคนขับก็คอยบังคับหางเรือนำทางไปยังจุดหมายด้านหน้า ดูช่างน่ารักและเรียบง่าย สไตล์วิถีประมงชาวเลที่นี่
อีกฝั่งของสะพานก็เห็นน้องหมากำลังลั๊ลลามีความสุขกับหมู่มัจฉา ที่คนกำลังตกปลานำมาให้ทาน
ขับรถลงจากสะพาน ก็ผ่านอุโมงต้นสนเรียงราย ให้ได้พร่างพรายสะหยายผมโป่งกันอีกแล้ว
ชายหาดปากเมงในช่วงพลบค่ำ ยามย่ำสู่สนธยา เหล่าคู่รักก็ออกมาเริงร่า รับลมทะเลกันอย่างสำราญเบิกบานใจ |
แวะมาถ่ายภาพรูปปั้นปลาพะยูน
หรือหากใครที่เมื่อยล้าจากการเดินทาง ก็มาปล่อยว่างหัวใจ นั่งรับลม ชมทะเลไปเรื่อยๆ ก็หายเหนื่อยได้เช่นกัน
บรรยากาศชายหาดปากเมงในช่วงยามสนธยา ก็ลมพัดเย็นดีหนักหนา ถ้ามีเสื่อมาปูนอน ก็จะอรชร นอนไปยันเช้าเลยกระมัง
ซูมกล้องไปก็เห็นแสงอัศเจรีย์สีทองของดวงพระอาทิตย์ กำลังจะอัสดงสิ้นลงสู่ขอบฟ้า
ชมพระอาทิตย์อัสดงลงแลลับสิ้นสุดขอบฟ้าที่ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ยังงามวิไลอยู่เสมอ |
ดวงพระอาทิตย์ที่นี้ค่อยๆบ่ายคล้อย เลื่อนลอยลงไปเรื่อยๆ ยังคงเหลือไว้แต่ความโดดเด่นที่ทอแสงเรืองรองเป็นสีทอง งามผยองยิ่งนัก
และแล้วไม่นานนัก ดวงอาทิตย์ที่ดูสักครู่ ก็จุ๊กกรูลาลับสิ้นลงสู่ขอบฟ้าไปแล้ว หมดไปอีก 1 วันกับทริปเที่ยวเมืองตรังอีกครั้ง ก็ยังปังเสมอ งามเลิศเลอธรรมชาติภูเขา คลอเคล้าทะเลอันดามัน สุขสันต์เมืองของกิน ฟินไปสุดๆเลยจบแล้วค่ะสำหรับทริปพาคุณแม่เที่ยวเมืองตรัง แบบฉาบฉวย เพราะส่วนใหญ่คุณแม่กับคุณป้าก็จะชอบนอนที่โรงแรม รอดูรายการทีวีโปรดปราณ คงจะไม่อยากมาตะล่อนเลาะไปเรื่อยแบบคุณนายเว่อร์ ดิฉันว่าคงจะเหนื่อยพาเป็นลมเป็นแล้งแน่แท้
ยังไงก็แล้วแต่ ดิฉันเองก็ต้องขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาสไลด์เลื่อนดูกัน แม้จะมีคนมาดูแค่ 1 คน แค่นี้ก็สุขล้นแล้วล่ะค่ะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ...จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ รีวิวท่องเที่ยวไปตามเมืองต่างๆ มีดังนี้
แนะนำที่พักเมืองซาปาเปิดใหม่ วิวสวยเก่ไก๋ ในราคาสุดประหยัด คลิ๊กดูที่พักค่ะ>> |
หรือดูข้อมูลที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/34jfq81
แบ่งปันรีวิวเดินทางไปชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>> |
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวเที่ยวงานแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช นอนตากอากาศที่คีรีวง คลิ๊กดูรีวิว>> |
รีวิวเที่ยวเมืองพัทลุง ชมมนต์ลูกทุ่งแห่งคุ้งน้ำทะเลน้อย แวะไปสอยเที่ยวชมกันเลย>> |
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองนครสวรรค์ใน 1 วัน ยลสุขสันต์เมืองชุมทางสี่แคว คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวเดือนมกราคม แบกเป้ไปกินลมชมเมืองประจวบฯ 3 วัน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังสวยปังอยู่ใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเชียงคำ-งามล้ำทะเลหมอกภูลังกา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวหลังสวน ลิ้มลองทุเรียนจากสวนหวานฉ่ำ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบ่งปันการเดินทางในเกาะซานโตรินีด้วยตัวเองง่ายๆ คลิ๊กดูรายละเอียดจ้า>> |
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2p5eQZf
0 ความคิดเห็น