Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองนีกาตะ(Niigata city)ยามเย็น เดินเล่นชมดินแดนข้าวอบกรอบแห่งอาทิตย์อุทัย ไปดูสิมีอะไรให้ชมบ้าง

(ต่อจากตอนที่แล้ว) สำหรับวันนี้ขอนำเสนอ รีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองนีกาตะยามเย็น เดินเล่นชมแม่น้ำชินาโนะ ณ ดินแดนข้าวเกรียบญี่ปุ่นและเหล้าสาเก  แม้จะมีเวลาอันน้อยนิดในการเที่ยวแบบฉาบฉวย ไปดูสิว่าในเมือง Niigata มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชมบ้าง
 ในการเดินทางแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูกาลดอกซากุระบานในบทความบล็อกที่ผ่านๆมา ซึ่งดิฉันได้เขียนรีวิวพาคุณผู้อ่านได้ชมกันไปแล้วตามเว็ปบล็อกแต่ละตอนแล้วนั้น ล้วนแต่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักทั้งสิ้น แต่อีกหนึ่งเมืองที่ดิฉันตั้งใจและหมายมั่น ปักหมุดเอาไว้ว่าจะต้องมาเที่ยวสักครั้งก็คือ เมืองนีกาตะ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีรถไฟชินกันเซนไปถึงและสิ้นสุดที่เมืองนี้พอดี

ว่ากันว่า เมืองนีกาตะ เป็นเมืองชนบทและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่นซ่ะมากกว่าด้วย ไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักๆอย่างเมืองโตเกียว โอซาก้า หรือฮอกไกโด อย่างที่หลายคนรู้จักนัก ด้วยเหตุนี้เองแม้จะมีเวลาเหลืออีกน้อยนิดจากทริปก่อนหน้า แต่ดิฉันก็ขอแบกเป้ใบใหญ่มาเดินเที่ยวชมเมืองนี้สักครั้ง ไปดูสิว่าเมืองนีกาตะ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชมบ้าง

วันนี้เลยขอมาเก็บตก เที่ยวชมเมืองนีกาตะสักครั้ง แม้จะมีเวลาน้อยนิด และเป็นการเที่ยวแบบฉาบฉวยก็ตาม แต่ก็ได้มาถึงถิ่นแคว้นเมืองแห่งสายน้ำและดินแดนเกษตรกรรมของญี่ปุ่นสักทีนะคะ
ก่อนเข้าสู่ภาพรีวิว เรามารู้จักเมืองนีกาตะกันสักเล็กน้อย (About Niigata city)
ก่อนเข้าสู่ภาพรีวิว เรามารู้จักเมืองนีกาตะกันสักเล็กน้อย (About Niigata city)

จังหวัดนีงาตะ หรือนีกาตะ (Niigata) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภูมิภาคชูบุของประเทศญี่ปุ่น ลักษณะภูมิศาสตร์เป็นแนวยาวตามชายฝั่งติดทะเล และมีลักษณะเป็นที่ราบชายฝั่งสลับกับภูเขา มีแม่น้ำและทรัพยากรที่สมบูรณ์ จนถูกยกให้เป็นดินแดนของ "The Land of Japanese Rice Cracker" หรือ ดินแดนแห่งข้าวอบกรอบญี่ปุ่นไปแล้ว

โดยเมืองนีกาตะ ในอดีตนั้นเคยเป็นเมืองท่าเรือทำการการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับต่างแดน เป็นเมืองแรกๆของญี่ปุ่นก็ว่าได้ เนื่องจากมีอาณาเขตติดกับทะเล และมีการคมนาคมขนส่งทางเรือที่โดดเด่น มีแม่น้ำชินาโนะไหลผ่านตัวเมืองไปบรรจบที่ปากอ่าว ทำให้เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจมาตั้งแต่ในอดีต และมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างเกาะ Sado ซึ่งมีนักเดินทางมาเที่ยวกันตลอดทั้งปี

ส่วนการเดินทางมาเมืองนี้ ก็สะดวกสบาย เพราะมีรถไฟหัวกระสุนความสูงอย่าง Shinkansen วิ่งจากเมืองหลวง Tokyo มาสุดปลายทางถึงเมือง Niigata และในเมืองนีกาตะเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองที่น่าสนใจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Takada Castle Ruin,Hakusan Shrine, Bandai Bridge และอื่นๆอีกหลายแห่ง

อาหารเที่ยงมื้อนี้ ข้าวกล่องเบนโตะ (ต่อจากตอนที่แล้ว ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/05/backpack-to-travel-matsumoto-sightseeing-castle-review.html)
เดินทางไกลด้วยรถไฟ หนีไม่พ้นข้าวกล่องเบนโตะ ข้าวปั้นห่อสาหร่ายดำปี๋ กับเครื่องเคียง รสชาติอร่อยดี มีโซเดียมเยอะเลย 
ต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว นั่งรถไฟออกจากเมือง Matsumoto มาลงที่ Nagano จากนั้นก็นั่งรถไฟ Shinkansen มาเปลี่ยนชานชลาที่สถานี TaKasaki แล้วนั่งรถไฟชินกันเซนไปสุดปลายทางที่เมือง Niigata
  เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้  ต่อจากตอนที่แล้ว ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/05/backpack-to-travel-matsumoto-sightseeing-castle-review.html


หลังจากที่บทความตอนที่แล้ว ได้พาเพื่อนไปเที่ยวเมืองมัตสึโมโต้แห่งจังหวัดนากาโน่ไปแล้ว

ดิฉันก็นั่งรถไฟ Shinkansen จากเมือง Nagono มาลงที่สถานี Takasaki เพื่อเปลี่ยนชานชลาไปนั่งรถไฟอีกขบวน
พอมาถึงชานชลาที่สถานี Takasaki แล้ว ก็รอเปลี่ยนไปนั่งรถไฟอีกขบวนที่วิ่งมาจาก Tokyo และด้วยกว่ารถไฟชินกันเซนจะมาก็อีก 30 นาที และถ้าหากมายืนรอรถไฟที่ชานชลาแบบนี้ มีหวังหนาวตายแน่นอนค่ะ เพราะอากาศหนาวมากๆ ดิฉันก็เลยลงไปเดินเล่นรอรถไฟมาที่ร้านค้าของสถานีรถไฟด้านล่างค่ะ
ที่ด้านล่างของชานชลา มีจุดบริการข้อมูลการท่องเที่ยวของเมือง Takasaki ให้หยิบอ่านด้วย ดูแล้วน่าจะเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยว ที่น่าสนใจไม่น้อยเชียวค่ะ
มีจุดนั่งพักและตุ๊กตามาสคอตประจำเมือง Takasaki นี้ให้ถ่ายเป็นที่ระลึกด้วยนะคะ
รอรถไฟ Shinkansen อยู่ประมาณ 30 นาที รถไฟก็หยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานี Takasaki ตรงเวลาเป๊ะ 
 ระหว่างนั่งรถไฟออกมาจากสถานี Takasaki ไม่นานนักก็พบกับหิมะขาวโพลนที่ปกคลุมหุบเขาและบ้านเรือนระหว่างทาง บรรยากาศแตกต่างจากเมืองก่อนหน้านี้ที่เที่ยวมาอย่างมากเลยค่ะ อารมณ์เหมือนย้อนกลับมาเที่ยวฤดูหนาว ทั้งๆที่ตั้งใจมาเที่ยวฤดูใบไม้ผลินะคะ
 เห็นบรรยากาศด้านนอกซึ่งมีแต่หิมะแล้ว คงจะหนาวเหน็บไม่น้อยเชียวล่ะค่ะ
 และแล้วก็ถึงปลายทางที่สถานีรถไฟ Niigata สักทีนะคะ รวมเวลาการเดินทาง ตั้งแต่เมือง Matsumoto มานั่งรถไฟที่ Nagano ลงมาเปลี่ยนชานชลารอนั่งรถไฟ Shinkansen จากเมือง Takasaki มาสุดปลายทางที่เมือง Niigata ก็เป็นเวลารวมกว่า 3 ชั่วโมงครึ่งเลย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่มาถึงเมืองนี้สักทีค่ะ

ออกจากเมือง Matsumoto มา 13.06 น. - มาถึงเมือง Niigata ก็ 16.47 น.

แผนที่ในเมืองนีกาตะ (Niigata city map and Bandai City Area)
 ออกมาถึงก็แวะดูแผนที่ของเมืองนี้ก่อนเลย ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองอะไรบ้าง
เนื่องด้วยเวลามีจำกัด 
หากใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเดินทาง ก็มาติดต่อสอบถามได้ที่ Niigata Station ตรงหน้าสถานีทางออก Bandai Exit information Center ได้นะคะ
 ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ ก็ได้แผ่นที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองนีกาตะมาค่ะ แต่เสียดายมีแต่ภาษาญี่ปุ่นทั้งนั้นเลย ถ่ายรูปมาก็ไม่ค่อยชัดด้วย หากมีภาษาอังกฤษด้วยคงจะดีไม่น้อย
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่า หากเดินออกจากสถานีรถไฟตรงไปเรื่อยๆจะเจอสะพาน Bandai ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ของเมืองนี้ และจะเป็นบรรยากาศแม่น้ำ Shinano river niigata
ภาพด้านหน้าสถานีรถไฟนีกาตะ (Niigata JR Railway Station)
 มุมนี้เป็นด้านหน้าของสถานีรถไฟ Niigata ในชี่วงยามเย็น ท้องฟ้าแจ่มใส แต่อากาศที่เมืองนี้ช่วงเย็น หนาวมากๆนะคะ โชคดีที่หิมะไม่ตก ไม่งั้นคงออกไปใหนไม่ได้
เดินแบกเป้ใบใหญ่สะพายใส่หลัง เดินออกจากสถานีรถไฟออกมา จะเห็นป้ายต้อนรับสู่เมืองนีกาตะ
จากนั้นก็เดินตามถนนฟุตบาทตรงไปเรื่อยๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บเหลือเกิน คิดถึงอากาศอันร้อนๆในเมืองไทยเลย น่าจะเอามาหักลบ กลบล้างกันได้ คงได้อากาศที่อุ่นขึ้นกว่านี้แน่นอน
 หากใครที่กลัวหลงทาง ก็สังเกตุป้ายทางได้ ชัดเจนมาก
The Bandai Bridge Niigata
 เดินแบกเป้ฝ่าลมหนาวมาประมาณ 1 กิโลเมตรก็ถึงสะพาน Bandai แล้วค่ะ
โดยสะพานแห่งนี้ เป็นสะพานเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองนี้มาอย่างยาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1929 โดยสร้างข้ามแม่น้ำ Shinano แม่น้ำขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านเมืองนี้
Shinano riverside Road
 และริมแม่น้ำก็เป็นทาง Shinano Road ให้สำหรับเดินออกกำลังกายและชมทัศนียภาพริมแม่น้ำแห่งนี้ได้
สะพานบันใด สะพานเก่าแก่แห่งเมืองนีกาตะในช่วงยามเย็น เดินเล่นออกกำลังกาย ท้าทายอากาศหนาว ร้าวรานหัวใจทีเดียว
 เส้นทาง Shinanogawa ริมแม่น้ำชินาโนะ
 บรรยากาศยามสนธยาในเวลา 5 โมงเย็นกว่าๆ ดูเหมือนว่าพระอาทิตย์จะอัสดงลงแลลับสิ้นขอบฟ้าไปแล้ว
เพราะมองออกไปในแม่น้ำ ก็มีเรือลอยละล่องท่องอยู่ในแม่น้ำสายใหญ่แห่งนี้อยู่แค่ลำเดียว
เดินไปอีกหน่อยก็เห็นคงจูงน้องหมาน่ารัก มาทักทายคนนิจิวะด้วยนะคะ
 ส่วนต้นซากุระที่ปลูกเรียงรายริมแม่น้ำชินาโนะก็ยังไม่บานสะพรั่ง ยังหุบตูมอยู่บนต้น หากจะเห็นดอกซากุระบานสะพรั่งต้องมาหลังกลางเดือนเมษายนค่ะ น่าจะบานอลังการมากๆ
เมื่อดอกซากุระยังไม่บาน ดอกทิวลิปที่ปลูกเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ ก็ยังไม่บานเหมือนกัน ยังเป็นแม่บัวหุบ รอวันและช่วงเวลาที่ผลิบานให้ร้าวรานใจกว่านี้
 แบกเป้เดินมาเรื่อยๆ เดินข้ามสะพานไปยังสวนสาธารณะ Hakasan
มองจากสะพานลงไป ยังแม่น้ำชินาโนะ ก็ถือว่าเป็นแม่น้ำที่มีขนาดใหญ่และกว้างไม่แพ้แม่น้ำสายอื่นๆในประเทศญี่ปุ่นเหมือนกันนะคะ
Guide Map of Niigata City near Hakusan Park area
 มีป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วย
โดยระยะทางจากสะพานไปยัง Hakusan Park และศาลเจ้าก็ไม่ไกลกันนัก
และบริเวณโดยรอบก็เป็น ศูนย์กีฬาและพิพิธภัณฑ์เป็นส่วนใหญ่
 นั่งพักให้หายเมื่อยสักแป๊บ มีหุ่นนั่งโอบกอดต้นไม้อยู่ ดูเหงาๆ
เมื่อหายเมื่อยแล้ว ก็เดินแบกเป้ไปต่อค่ะ ริมแม่น้ำมีต้นซากุระปลูกเรียงรายไว้ หากถึงคราฤดูกาลที่ดอกผลิบาน ก็จะสวยงามอร่ามจับตายิ่งนัก
เดินมาอีกหน่อยก็เป็นทางเดินไปยัง Niigata City Art Center
สวนวงเวียนที่เห็นนี้เป็นทางเดินอยู่ใกล้ๆกับ City music and Culture hall
อาคารพิพิธภัณฑ์ Niigata City performing
เดินมาอีกไม่ไกลนักก็เป็นลานน้ำพุ ใกล้ๆก้บสวน Hakusan
Niigata Prefectural Government Memorial Hall เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ว่าการปกครองเก่าเมืองนีกาตะค่
สวนอาคารเก่าที่เห็นนี้คือ Niigata Prefectural Government Memorial Hall เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ว่าการปกครองเก่าเมืองนีกาตะค่ะ ดูภาพยามเย็นแล้ววังเวงไม่น้อย แต่ช่วงกลางวันน่าจะสดใสสวยกว่านี้ เพราะอาคารของจริงสีออกโทนพาสเทลสีแดงเขียว  

ศาลเจ้าฮากุซัน นีกาตะ (Hakusan Shrine Niigata City)
และแล้วก็เดินแบกเป้ มาถึงศาลเจ้าฮากุซันสักทีนะคะ(Hakusan Shrine Niigata City)
โดยศาลเจ้าแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองนีกาตะให้ความเคารพเป็นอย่างมาก
สาระน่ารู้เล็กน้อยๆเกี่ยวกับศาลเจ้า (About Hakusan Shrine Niigata)
สาระน่ารู้เล็กน้อยๆเกี่ยวกับศาลเจ้า Hakusan Niigata
เป็นศาลเจ้าชินโตที่ตั้งอยู่ห่างจากสะพานบันใดประมาณ 1.7 กิโลเมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1644
โดยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในามเทพเจ้าแห่งการแต่งงานหรือความรัก(God of marriage) หากใครมาที่นี่ก็มักจะมากราบไหว้ขอพระ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในเรื่องความรักกัน

ศาลแห่งนี้จึงเป็นที่เคารพและชาวญี่ปุ่นและชาวเมืองนีกาตะให้ความศรัทธา แวะเวียนเดินทางมากราบไหว้ขอพรอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลดอกซากุระบานในเดือนเมษายนนี้
 บรรยากาศในช่วงพลบค่ำยามเย็นที่ศาลเจ้าฮากุซัน ค่อนข้างเงียบเหงาทีเดียว
และหลังจากที่ได้ไปไหว้ศาลเจ้า Hakusan Shirine ไปแล้ว ก็เดินเท้ามายังสถานีรถไฟ JR ฮากุซันเพื่อเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Nigata
รอรถไฟจากสถานี Hakusan ไปยังสถานี Niigata
จากนั้นก็เปลี่ยนชานชลาไปที่สถานีรถไฟชินกันเซน เพื่อเดินทางไปเมืองหลวงโตเกียวต่อไป
และแน่นอนว่ามาถึงเมืองนีกาตะทั้งที ต้องไม่พลาดซื้อของฝากประจำเมืองนี้ ติดไม้ติดมือไปด้วยสักเล็กน้อย โดยของฝากขึ้นชื่อเมืองนี้ นอกจากเป็นดินแดนแห่งข้าวเกรียบแล้ว ผลิตภัณฑ์จำพวกขนมก็น่าสนใจเช่นกัน
ของฝากจากเมืองนีกาตะเลยซื้อขนมห่อใบไผ่มาทาน เขาเรียกว่าขนมซาซาดังโกะ (Sasadango)
ของฝากจากเมืองนีกาตะเลยซื้อขนมห่อใบไผ่มาทาน เขาเรียกว่าขนมซาซาดังโกะ (Sasadango)
อีกหนึ่งขนมขึ้นชื่อที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือไปทานระหว่างนั่งรถไฟค่ะ

แกะออกมาเป็นขนมสอดใส้ ห่อด้วยใบไผ่ มีกลิ่นหอมของใบไผ่ติดมากับตัวขนม เย้ายวนใจมากๆ
ตัวขนมทำจากแป้งข้าวเหนียว แล้วคลุกด้วยรำข้าวหรือจมูกข้าวอีกที 
ขนมซาซาดังโกะ (Sasadango) ใส้ด้านในเป็นไส้ถั่วแดง รสชาติหวานอร่อยดีค่ะ
อารมณ์เหมือนกินขนมไดฟุกุ ไส้ถั่ว ผสมกับรำข้าว อะไรประมาณนั้นเลยค่ะ ต้องมาลิ้มลองด้วยตัวเอง
โดยใส้ด้านในเป็นไส้ถั่วแดง รสชาติหวานอร่อยดีค่ะ โดยเฉพาะกลิ่นของใบไผ่
อารมณ์เหมือนกินขนมไดฟุกุ ไส้ถั่ว ผสมกับรำข้าว แบบนั้นเลย เดี๊ยนก็อธิบายไม่ค่อยถูก
หากแต่คณผู้อ่านคนใหน ที่คลั่งไคล้การมาเที่ยวญี่ปุ่น สงสัยต้องมาชิมด้วยตัวเองแล้วกระมัง 

นั่งรถไฟออกจากเมือง Niigata มาที่เมืองหลวง Tokyo โดยลงที่สถานี Ueno
นั่งรถไฟออกจากเมือง Niigata มาที่เมืองหลวงโตเกียว โดยลงที่สถานี Ueno ซึ่งเป็นสถานีที่รถไฟชินกันเซนจอดให้ผู้โดยสารลง เพราะถ้าไปลงทีสถานีโตเกียวจะวุ่นวายมากๆ คนเยอะ ดิฉันเลยลงทีสถานีแห่งนี้ดีกว่าค่ะ
จากนั้นก็นั่งรถไฟ JR จากสถานี Ueno มาลงทีสถานี Kanda เพื่อเดินเท้าไปยังโรงแรมที่พัก
ซึ่งโรงแรมต้องเดินเท้าไปอีกเกือบๆ 1 กิโลเมตรน่าจะได้ค่ะ
เดินออกจากสถานี Kanda มาก็เห็นบรรยากาศอันแสนคึกคักในยามราตรีในเมืองหลวงโตเกียว
 เมืองที่ไม่มีวันหลับไหล แม้ยามกลางคืน ก็ยังครึกครืนอยู่มาก
และเนื่องจากโรงแรมที่พักคืนนี้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟออกไปพอสมควร ต้องพึ่งพา GPS นำทางตลอดค่ะ ไม่งั้นหลงแน่นอนค่ะ
ใกล้สถานีรถไฟ มีร้านขายอาหารมื้อค่ำ ในราคาไม่แพงด้วยนะคะ ข้าวผัด 450 เยน
เดินออกจากสถานีรถไฟมาเรื่อยๆ
สำหรับที่พักคืนนี้ในเมืองโตเกียว พักค้างที่โรงแรม Hiromas Hostel kanda ที่พักราคาถูกสุดๆ หลักร้อย เหมาะกับคนงบน้อย แบกเป้มาเที่ยว เอาแค่ซุกหัวนอน
ในที่สุดก็ถึงที่พักคืนนี้แล้วค่ะ พักค้างที่โรงแรม Hiromas Hostel kanda ซึ่งเป็นที่พักแนวเกสต์เอ้าส์เล็กๆ ราคาถูก หลักร้อย
ห้องพักแบบ Dormitory นอนรวม ตกคืนละ 510 บาท ถือว่าถูกมากๆนะคะ
ห้องพักแบบ Dormitory นอนรวม ตกคืนละ 510 บาท ถือว่าถูกมากๆนะคะ
ใจจริงแล้ว ดิฉันตั้งใจจะพักแถวอุเอโนะ แต่เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลดอกไม้บาน คนในย่านอุเอโนะก็เยอะมากๆ

ดิฉันเลยตัดสินใจมาพักย่าน Kanda ดีกว่าค่ะ เพราะไกลผู้คนดี ไม่วุ่นวายด้วย แม้ที่พักจะไกลสถานีรถไฟ JR ก็ตาม แต่ก็ไม่ถึงกับไกลมาก ก็เดินไปรถไฟได้ แถมราคาที่พักถูกมากๆด้วยนะคะ 
แม้ที่พักจะคับแคบไปนิด แต่ก็เหมาะสมกับราคา เพราะที่พักสะอาดสะอ้านใช้ได้อยู่นะคะ เอาแค่ซุกหัวนอนพอ ส่วนร้านอาหารการกิน และร้านสะดวกซื้อก็อยู่ไม่ไกลด้วย 

หมดไปอีก 1 วันกับนั่งรถไฟแวะชะโงกทัวร์เที่ยวเมืองมัสสึโมโต้ตอนเช้าและเมืองนีกาตะยามเย็น 

สำหรับเพื่อนๆผู้รักการเดินทางคนใหน ที่วางแผนจะมาเที่ยวนีกาตะ ก็ลองแวะไปเที่ยวดูสักครั้งนะคะ เพราะเมืองริมชายทะเลทางภูมิภาคชูบุยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่งเลย ส่วนรีวิวทริปเที่ยวนีกาตะแบบฉาบฉวยสั้นๆที่ดิฉันได้นำเสนอไป ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
--------------------------------------------------------
บทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองอื่นๆ ที่ผ่านมา มีดังนี้จ้า
มาม๊ะ มาเที่ยวในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี แวะไปฉิมพลีที่เที่ยวต่างๆกัน ตามไปกันเลย>>
มาม๊ะ..มาเที่ยวในเมืองสุราษฎร์ธานี เช่ารถมอเตอร์ไซตหนีไปตามที่เที่ยวต่างๆ ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันวิธีการเดินทางไปเที่ยวชมสวนดอกไม้ Hamamatsu ไม่ยากเลยจ้า คลิ๊กดูการเดินทาง>>
แบ่งปันรีวิววิธีการเดินทางไปเที่ยวชมสวน Hamamatsu flower Park ด้วยตัวเองมาฝาก ไม่ยากเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวการเดินทางค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวเมืองมัตสึโมโต้ เมืองน่ารักที่ไม่ได้มีแค่ปราสาทเท่านั้น คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองมัตสึโมโต้(Matsumoto)ในวันเหงาๆ อากาศหนาวเว่อร์ เมืองเล็กน่ารักที่ไม่ได้มีแค่ปราสาทเท่านั้น คลิ๊กดูรีวิวและการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเกียวโตยามสนธยา แวะไปลั๊ลลาเมืองฮิเมจิ คลิ๊กดูรีวิวการเดินทางจ้า>>
 แบ่งปันรีวิวเที่ยวเกียวโตยามสนธยา วะไปช่ะช่ะช่าเมืองฮิเมจิ ไปดูสิว่ามีอะไรให้ชื่นชมบ้าคลิ๊กดูรีวิวและการเดินทางค่ะ>>>
แบกเป้ไปเกาะชิโกกุ เที่ยวทะลุเมืองทามัตสึ มีแต่อันปังแมนน่ารัก คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
แบกเป้ไปเกาะชิโกกุ แวะเที่ยวทะลุเมืองทาคามัตสึ ไปดูสิว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง Let's go คลิ๊กดูภาพรีวิวและการเดินทางค่ะ>>

แวะเที่ยวคิตะคิวชู เมืองน่าเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
รีวิวแวะเที่ยวเมืองคิตะคิวชู เมืองน่าดูต้องแวะไปจุ๊กกรูอีกแห่ง ที่ไม่ได้เป็นแค่เมืองทางผ่าน เพราะมีสถานที่น่าสนใจไม่น้อย คลิ๊กดูภาพรีวิวและการเดินทาง>>>
เที่ยวเทศกาลฮานามิ และรีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมืองมาฝากจ้า คลิ๊กดูรีวิว>>
แบกเป้เที่ยวเทศกาลฮานามิเมืองฟุกุโอกะ กับรีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมืองง่ายๆมาฝากจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวและการเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองคุมาโมโตะ ชมปราสาทใหญ่โตโอฬารและดอกไม้บาน คลิ๊กดูรีวิวการเดินทาง>>
รีวิวเที่ยวเมืองคุมาโมโตะ ไปชมปราสาทใหญ่โตที่โดนแผ่นดินไหว แต่ก็งามวิไลด้วยดอกไม้บาน ของทานอร่อยเริ่ดๆ คลิ๊กดูภาพรีวิวและการเดินทางค่ะ>>>
แบกเป้เที่ยวนาโกย่า รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมือง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวนาโกย่า ไปลั๊ลลาชมดอกซากุระ รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟไปยังสถานที่ท่องเที่ยว คลิ๊กดูรีวิวและการเดินทางค่ะ>>
เก็บตกรีวิวเที่ยวอำเภอชุมแสง สวยมาแรงตลาดเก่า100ปี แวะมาที่นี่ให้ได้สักครา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวชุมแสง งามร้อนแรงบึงบอระเพ็ด สวยเด็ดตลาดเก่า100ปี ต้องแวะมาฉิมพลีสักครั้งครา คลิ๊กดูรีวิวและการเดินทางค่ะ>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองนครสวรรค์ใน 1 วัน ยลสุขสันต์เมืองชุมทางสี่แคว คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวนครสวรรค์ ยลสุขสันต์เมืองสี่แคว งามจริงแท้ยอดเขาคีรีวง ชมอาทิตย์อัสดง งามเริ่ดสะแมนแตคลิ๊กดูภาพรีวิวและที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวงานแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช นอนตากอากาศที่คีรีวง คลิ๊กดูรีวิว>>
รีวิวพาคุณแม่แห่ผ้าขึ้นธาตุเมืองนคร นอนที่บ้านคีรีวง ชมวิถีชาวประมงที่ปากพนัง ต้องมาเที่ยวอีกครั้งให้ได้เลยเชียว คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองพัทลุง ชมมนต์ลูกทุ่งแห่งคุ้งน้ำทะเลน้อย แวะไปสอยเที่ยวชมกันเลย>>
มาม๊ะ..มาเที่ยวเมืองพัทลุง ชมมนต์ลูกทุ่งแห่งคุ้งน้ำทะเลน้อย งามหยดย้อยธรรมชาติ ไม่พลาดมาทัศนาจรสักครั้ง ถ่ายรูปปังแน่นอน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น