|
ปักหมุดเที่ยวไทยไปภาตใต้ให้ได้ความรู้ในวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาไปเที่ยวชมวังเจ้าเมืองเก่าพัทลุง อีกหนึ่งที่เที่ยวจุดเช็กอินยอดนิยมอย่างน่าภิรมย์ใจ
|
หากเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภาคนใหน ที่ปักหมุดล่องใต้ไปเที่ยวเมืองพัทลุง อีกหนึ่งที่เที่ยวมนต์เสน่ห์แห่งคุ้งทะเลน้อย งามหยดย้อยธรรมชาติสวยงามตระการ อีกทั้งยังมีที่เที่ยวอื่นๆ โดยเฉพาะใครที่มาเที่ยวพัทลุงครั้งแรก คงไม่พลาดที่จะแวะไปชม วังเจ้าเมืองพัทลุง หนึ่งโบราณสถานเก่าแก่ที่ใครๆก็ต้องแวะมาศึกษาและเดินชมถ่ายรูปกันสักครา ซึ่งประวัติความเป็นมาของวังเจ้าเมืองเก่าแก่แห่งนี้ ก็มีที่มาอย่างน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาสาระน่ารู้เล็กๆน้อยๆ มาให้ได้เลือกสอยอ่านกันค่ะ
|
สาระน่ารู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นเป็นมาของวังเจ้าเมืองพัทลุง (Phattalung King Palace Museum,Phattalung Province) |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นเป็นมาของวังเจ้าเมืองพัทลุง (Phatthalung King Palace Museum,Phattalung Province)
สำหรับวังเจ้าเมืองพัทลุง วังเจ้าเมืองพัทลุง เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “วังเก่า – วังใหม่”
เนื่องจากประกอบด้วย “วังเก่า” และ “วังใหม่” ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน โดยตั้งอยู่ที่ ถนนอภัยบริรักษ์ ตำบลลำปำ
อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง
การเดินทางจากศาลากลางจังหวัดพัทลุงไปทางทิศตะวันออกตามถนนราเมศวร์
-อภัยบริรักษ์ ประมาณ 7 กิโลเมตร ในอดีตวังแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง มีความสวยงามโดดเด่น ปัจจุบันถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด
|
“วังเก่า” (Old palace) สภาพปัจจุบันเป็นเรือนไทยภาคใต้ผสมภาคกลาง
มีเรือนใหญ่ทรงไทยแฝดอยู่ตรงกลาง สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น |
สำหรับ “วังเก่า” (Old palace) สภาพปัจจุบันเป็นเรือนไทยภาคใต้ผสมภาคกลาง มีเรือนใหญ่ทรงไทยแฝดอยู่ตรงกลาง สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผู้สร้างและเป็นเจ้าของวัง คือ พระยาอภัยบริรักษ์ (น้อย จันทโรจวงศ์)
ซึ่งเป็นเจ้าเมืองพัทลุงระหว่างปี พ.ศ.2412- 2431 แต่ก่อนโปรดเกล้า ฯ
ให้เป็นเจ้าเมืองพัทลุง ท่านเป็นเจ้าเมืองปะเหลียน
หัวเมืองจัตวาขึ้นกับเมืองพัทลุง ในปี พ.ศ. 2410 ภายหลังพระยาพัทลุง (ทับ)
ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคลมปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 4 มีพระประสงค์จะให้พระยาวรนารถสัมพันธ์พงษ์ (น้อย)
เจ้าเมืองปะเหลียน มาเป็นเจ้าเมืองพัทลุง แต่ยังไม่ทันโปรดเกล้า ฯ
พระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน พระยาวรนาถสัมพันธ์พงษ์ (น้อย)
จึงรั้งเมืองพัทลุง (รักษาราชการเจ้าเมืองพัทลุง)
|
เมื่อ พ.ศ.2412
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้า ฯ
แต่งตั้งให้เป็น พระยาอภัยบริรักษ์ สร้างที่พำนัก
ซึ่งใช้เป็นที่ว่าราชการเมืองด้วย |
จนเมื่อ พ.ศ.2412
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้า ฯ
แต่งตั้งให้เป็น พระยาอภัยบริรักษ์ จักรวิชิตพิพิธภักดีพิริยพาหะ
เจ้าเมืองพัทลุง พระยาอภัยบริรักษ์ (น้อย) ได้สร้างที่พำนัก
ซึ่งใช้เป็นที่ว่าราชการเมืองด้วย
แต่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด
ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองพัทลุงอยู่ 19 ปี
|
พ.ศ. 2431
จึงได้กราบทูลลาออกจากราชการ พระราชทานราชทินนามให้เป็น
พระยาวรวุฒิไวยวัฒลุงควิสัยอิศรศักดิ์พิรักษ์ราชกิจนริศราชภักดี พระยาอภัยบริรักษ์ ฯ เจ้าเมืองพัทลุงคนต่อมา พระยาวรวุฒิไวย ฯ (น้อย)
ได้พำนักอยู่ที่วังเก่าจนถึงอนิจกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2446 |
เมื่อถึง พ.ศ. 2431
จึงได้กราบทูลลาออกจากราชการ
ด้วยมีความชราภาพและทุพพลภาพจักษุมืดมัวแลไม่เห็นทั้งสองข้าง
เข้าใจว่าตาเป็นต้อกระจก ซึ่งในสมัยนั้นไม่มีทางรักษาให้หายได้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นจางวางกำกับราชการ (ที่ปรึกษาราชการ) และพระราชทานราชทินนามให้เป็น
พระยาวรวุฒิไวยวัฒลุงควิสัยอิศรศักดิ์พิรักษ์ราชกิจนริศราชภักดีอภัยพิริยพาหะ
และโปรดเกล้า ฯ ให้หลวง จักรานุชิต (เนตร จันทโรจวงศ์)
บุตรชายคนโตซึ่งเป็นผู้ช่วยราชการเมืองพัทลุงอยู่นั้น
เป็นพระยาอภัยบริรักษ์ ฯ เจ้าเมืองพัทลุงคนต่อมา พระยาวรวุฒิไวย ฯ (น้อย)
ได้พำนักอยู่ที่วังเก่าจนถึงอนิจกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2446
วังเก่าจึงตกเป็นมรดกแก่บุตรชายของท่าน คือ หลวงศรีวรวัตร (พิณ
จันทโรจวงศ์) หลังจากนั้นก็ตกเป็นมรดกของคุณยายประไพ มุตตามระ
บุตรีของหลวงศรีวรวัตร ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของพระยาวรวุฒิไวยฯ
ก่อนจะมอบให้แก่กรมศิลปากร
|
“วังใหม่” (New Palace) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ติดกับชายคลองลำปำ
เป็นกลุ่มเรือนไทย 5 หลัง แบ่งเป็นเรือนนอนและเรือนครัว
เรือนทุกหลังสร้างด้วยไม้แบบเรือนไทยโบราณ |
ส่วน “วังใหม่” (New Palace) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ติดกับชายคลองลำปำ เป็นกลุ่มเรือนไทย 5 หลัง แบ่งเป็นเรือนนอนและเรือนครัว เรือนทุกหลังสร้างด้วยไม้แบบเรือนไทยโบราณ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2432 โดยพระยาอภัยบริรักษ์จักราวิชิตพิพิธภักดี (เนตร จันทโรจวงศ์) บุตรชายของพระยาพัทลุง ผู้เป็นเจ้าเมืองในขณะนั้น พระยาอภัยบริรักษ์ ฯ (เนตร จันทโรจวงศ์) เป็นผู้สร้างวังใหม่
|
เมื่อปี พ.ศ.2434
วังใหม่สร้างขึ้นด้านหลังวังเก่าทางด้านทิศใต้ติดกับคลองลำปำ |
และภายหลังได้รับพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นพระยาอภัยบริรักษ์ ฯ
เจ้าเมืองพัทลุง เมื่อปี พ.ศ.2434
วังใหม่สร้างขึ้นด้านหลังวังเก่าทางด้านทิศใต้ติดกับคลองลำปำ
จึงมีชาวบ้านเรียกวังใหม่นี้ว่า "วังชายคลอง” หรือ "วังใหม่ชายคลอง”
แต่ไม่เป็นที่นิยมเรียกเท่าชื่อ "วังใหม่”
|
ในช่วงที่พระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) ปกครองเมืองพัทลุง
เป็นช่วงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีนโยบายปฏิรูปการปกครองหัวเมือง |
และในช่วงที่พระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) ปกครองเมืองพัทลุง
เป็นช่วงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีนโยบายปฏิรูปการปกครองหัวเมือง จากการปกครองระบบศักดินาแบบเดิมเป็นระบบมณฑลเทศาภิบาล
ขึ้นตรงต่อกระทรวงมหาดไทย
เป็นการรวมอำนาจการบริหารการปกครองส่วนภูมิภาคขึ้นตรงกับองค์การบริหารส่วนกลาง
การปฏิรูปการปกครองส่วนภูมิภาควิธีนี้ จึงเป็นการยกเลิกเจ้าผู้ครองนคร
เจ้าเมือง เจ้าประเทศราช โดยปริยาย
|
ปี พ.ศ.2443
ได้มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นผู้ว่าราชการเมืองในระบบใหม่
พระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) จึงเป็นเจ้าเมืองพัทลุงในระบบศักดินาคนสุดท้าย |
ปี พ.ศ.2439 โปรดเกล้าฯ
ให้ตั้งมณฑลนครศรีธรรมราช โดยเอาเมืองนครศรีธรรมราช สงขลาและพัทลุง
เข้าเป็นมณฑล ถึง ปี พ.ศ.2443
ได้มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นผู้ว่าราชการเมืองในระบบใหม่
พระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) จึงเป็นเจ้าเมืองพัทลุงในระบบศักดินาคนสุดท้าย
และเป็นผู้ว่าราชการเมืองพัทลุงในระบบใหม่คนแรก
|
บริเวณวังเจ้าเมืองพัทลุง ยังมีศาลาไทยริมน้ำและเรือพัทลุง
ซึ่งเป็นเรือเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 |
นอกจากนี้ บริเวณวังเจ้าเมืองพัทลุง ยังมีศาลาไทยริมน้ำและเรือพัทลุง
ซึ่งเป็นเรือเก่าสมัยรัชกาลที่ 5
วังเจ้าเมืองพัทลุงเป็นมรดกของทายาทในตระกูลจันทโรจน์วงศ์
ทายาทได้มอบให้กรมศิลปากรเพื่อเป็นสมบัติของชาติในการดูแลรักษาและอนุรักษ์ไว้
ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเข้าชมในวันและเวลาราชการ
|
จากอดีตที่เคยเป็นสถานที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุงที่มีความสวยงามโดดเด่นยิ่งนัก
ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด |
และจากอดีตที่เคยเป็นสถานที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุงที่มีความสวยงามโดดเด่นยิ่งนัก ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด ซึ่งวังเจ้าเมืองพัทลุงแห่งนี้ เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “วังเก่า-วังใหม่” โดยประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญที่ตั้งอยู่ในอาณาบริเวญเดียวกัน จัดเป็นสถานที่เรียนรู้สำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของวังได้อย่างน่าสนใจ ทำให้เป็นจุดเช็กอินสถานที่ท่องเที่ยวเด่นอีกแห่งของเมืองพัทลุง ที่ใครมาเที่ยวก็ต้องแวะมาเดินชมกัน
|
สถาปัตยกรรมไทยโบราณที่มีความสวยงามอลังการสมฐานะผู้พักอาศัย โดย วังเก่า เป็นเรือนไทยที่มีรูปแบบผสมผสานระหว่างภาคกลางกับภาคใต้ |
โดยมีสถาปัตยกรรมไทยโบราณที่มีความสวยงามอลังการสมฐานะผู้พักอาศัย โดย วังเก่า เป็นเรือนไทยที่มีรูปแบบผสมผสานระหว่างภาคกลางกับภาคใต้ มีเรือนใหญ่ทรงไทยแฝดอยู่ตรงกลาง ส่วน วังใหม่ ที่สร้างขึ้นในภายหลังนั้น เป็นกลุ่มเรือนไทย 5 หลัง แบ่งเป็นเรือนนอนและเรือนครัว สามารถเดินชมด้านในได้ นอกจากนี้ บริเวณวังเจ้าเมืองฯ ยังมีศาลาไทยริมน้ำและเรือพัทลุงซึ่งเป็นเรือเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 ให้ได้ชมกันด้วย
|
ยังมีศาลาไทยริมน้ำและเรือพัทลุงซึ่งเป็นเรือเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 ให้ได้ชมกันด้วย |
|
บริเวณวังใหม่ติดริมน้ำลำปำ
|
|
|
วิถีชีวิตและ้านเรือนริมน้ำลำปำใกล้วังเจ้าเมืองเก่าพัทลุง |
|
ปัจจุบันทายาทตระกูล “จันทโรจวงศ์” ได้มอบวังนี้ให้เป็นสมบัติของชาติ
และกรมศิลปากร |
ปัจจุบันทายาทตระกูล “จันทโรจวงศ์” ได้มอบวังนี้ให้เป็นสมบัติของชาติ
และกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานวังเก่า เมื่อวันที่ 16
กรกฎาคม พ.ศ. 2535 ในขณะที่วังใหม่ ได้รับการขึ้นทะเบียนฯ
ไปแล้วก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2526
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://www.m-culture.go.th/phatthalung/ewt_news.php?nid=2212&filename=index
----------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้
เก็บตก รีวิวเที่ยวอำเภอแม่สอด และอำเภอบ้านตากในฤดูฝน สวยสุขล้นธรรมชาติสดใส มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
เที่ยวหน้าฝน รีวิวทริปเช่ารถเที่ยวเมืองตาก มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้กระชากใจบ้าง ตามไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
เปิดโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวเมืองโรแมนติก สไตล์ชิคๆน่ารักที่เมืองโรเธนเบิร์ก เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันทริปแบกเป้ไปเที่ยวเมืองกำแพงเพชร กินของเด็ดเมืองกล้วยไข่ มีแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็กอินอะไรบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
รีวิวทริปสั้นๆ ใกล้กรุง 1 วัน ปั่นจักรยานไปเที่ยวที่คุ้งบางกะเจ้า กินมะพร้าวอร่อยเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันทริปแบกเป้เดินทางแวะเที่ยวเมืองไลพ์ซิก มีแหล่งท่องเที่ยวชิคๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
ท่องโลกกว้าง..เดินทางแบกเป้ไปเที่ยวเมืองเดรสเดน เดินเล่นรอบเมือง มีที่เที่ยวอะไรให้ชำเลืองบ้าง ตามไปดูสิ คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวมหาชัย ไปสโลว์ไลฟ์ที่ท่าฉลอม แวะไปดอมดมชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>
รีวิวทริปสั้นๆ เดินเที่ยวเมืองฟุสเซ่น เมืองเล็กน่ารักๆ มีที่เที่ยวอะไรให้นั่งพักบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดภาพแหล่งท่องเที่ยว>>>
เปิดโลกกว้างเดินทางไปเที่ยวประเทศลักเซมเบิร์ก ไปดูสิว่าประเทศเล็กๆแห่งนี้ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>
เก็บตก แบกเป้พาไปเที่ยวชมหุบเขา ซิกมันด์ ทูน คลัมม์ เดินทางไปอย่างไร ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวโลกกว้าง เดินทางแวะกรุงบรัสเซลส์ เบลเยี่ยม มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
บทความบล็อกเก่ามาเล่าใหม่ พารีวิวเที่ยวโขงเจียม-ผาแต้ม นอนค้างแรมสักคืน มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
0 ความคิดเห็น