 |
| บทความในเว็ปบล็อกวันนี้ขอนำเสนอรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ตอนที่ 16 แวะเที่ยวเมืองซูริค นั่งรถไฟชิคๆไปน้ำตกไรน์ |
ก็ขอสวัสดี๊ดีทักทายเพื่อนๆพี่ๆน้องชาวโลกออนไลน์ที่น่ารักสดใส งามไลผ่องศรี เร้าฤดีกันอยู่บนหน้าจออินเตอร์เน็ตกันอยู่ ณ ขณะนี้นะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เธอก็ขอมาเป็นคนบ้าทักทายและต้อนรับทุกท่านเข้ามาสู่เว็ปบล็อกของคนบ้าเที่ยว บ้าเขียนบล็อกไปเรื่อยเปื่อยนี้อีกครั้งนะค่ะ
สำหรับวันนี้ ดิฉันก็ขอมาแบ่งปันเล่าประสบการณ์แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวยุโรปครั้งแรกในชีวิตต่อค่ะ หลังจากที่เขียนรีวิวตอนที่ 15 ตามเว็ปไซค์ลิงค์ :
bit.ly/2vjt0bK ซึ่งได้เดินเที่ยวชมเมืองลูเซิร์นกันแบบชิวๆไปแล้ว มาตอนนี้เดี๊ยนเองก็ขอเที่ยวแบบชิวๆอีกวันค่ะ แต่ครั้งนี้ไม่ได้เที่ยวเฉพาะในเมืองเหมือนทริปตอนก่อนหน้านี้แล้วนะค่ะ แต่จะเดินทางไปเที่ยวชมน้ำตกที่ใหญ่โตเว่อร์วังอลังการสะท้านโลกาที่สุดในทวีปยุโรป นั้นก็คือน้ำตกไรน์ หรือ Rheinfall ก่อนจะเดินกลับมาเดินชิลๆเที่ยวในเมืองซูริคต่อ ซึ่งเมืองซูริคก็เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ที่หลายๆคนก็บอกว่าสวยงามไม่แพ้เมืองใดๆในยุโรปเช่นกันค่ะ
 |
| รีวิวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเองตอนที่ 16 นั่งรถไฟจากเมืองลูเซิร์นไปเพลิดเพลินที่เมืองซูริค จากนั้นก็นั่งรถไฟชิคๆไปน้ำตกไรน์ |
เรื่องของเรื่องเดี๊ยนเองตั้งใจจะมาเที่ยวเมืองซูริคอย่างเดียวนะคะ แต่ด้วยเหตุที่ได้ซื้อบัตร Eurail Global pass มาแล้วก็เลยจัดทริปลุยเดี่ยวนั่งรถไฟไปเที่ยวชมน้ำตกแห่งนี้ให้เป็นบุญตาซ่ะเลย อีกอย่างหนึ่งก็คือการเดินทางด้วยรถไฟในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็แสนจะสะดวกสบาย มีรถไฟหลายขบวนวิ่งแทบทุกวันเลยล่ะค่ะ และก็ค่อนข้างตรงเวลามากๆด้วยนะ แต่เสียอย่างเดียวคือ ด้วยการที่มาเที่ยวที่นี้ครั้งแรก อะไรมันก็เลยงงๆสับสนไปหมด วันนี้ก็เลยขอมารีวิวการเดินทางไปเที่ยวน้ำตก Rheinfall แบบง่ายมาฝากผู้อ่านทุกคนคะ
เอาเป็นว่า คุณนายเว่อร์ จะไม่ขอพร่ำเพร้อไปกว่านี้ล่ะ เดี่ยวขอมาร่ายบทความรีวิวท่องเที่ยวให้เพื่อนได้สไลด์ดูกันดีกว่าจ้า
ก่อนอื่นๆเรามารู้จักเมืองซูริคกันก่อนนะค่ะ ใหนๆก็จะไปเที่ยวแล้ว มารู้จักเมืองเค้าซ่ะนิด อ่านกันเป็นความรู้เปิดโลกกว้างจ้า
เกี่ยวกับเมืองซูริค
ซูริค (อังกฤษ: Zurich ส่วนภาษาเยอรมัน : Zürich อ่านว่าซือริซ) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และเป็นเมืองหลวงของรัฐซือริช ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนเหนือของประเทศ บริเวณจุดเหนือสุดของทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) มีประชากรในเขตตัวเมืองทั้งหมด 400,028 คน และประชากรบริเวณรอบตัวเมืองรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.4 ล้านคน โดยเมืองซูริคนี้ถือเป็นศูนย์กลางของระบบการขนส่งมวลชนของประเทศ อาทิ ระบบขนส่งรถไฟ เส้นทางการคมนาคม การจราจรทางอากาศ โดยเป็นที่ตั้งของสนามบินและสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและการจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศ
 |
| เกี่ยวกับเมืองซูริค (About Zurich City Switzerland) |
โดยเมืองซูริค เป็นเมืองชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีศูนย์กลางทางการเงินขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งตรงข้ามกับจำนวนประชากรที่ค่อนข้างน้อยของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถาบันทางการเงินและการธนาคารยักษ์ใหญ่มากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของศูนย์วิจัยและศูนย์พัฒนาของประเทศอีกด้วย เนื่องจากมีการเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ ซือริชจึงดึงดูดให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาตั้งบริษัทของตนเป็นจำนวนมาก
และในปี 2012 จากผลการสำรวจของ Monocle's 2012 "Quality of Life Survey" ได้จัดอันดับให้ซือริชเป็นหนึ่งใน 25 เมืองที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุด และจากหลายผลการสำรวจตั้งแต่ปี 2006 ถึง 2008 ยังได้จัดอันดับให้เมืองซูริค เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตประชากรดีที่สุดของโลกและเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในสหภาพยุโรปอีกด้วย โฮ้เริ่ดมากๆเลย
ซึ่งในเมืองซูริคยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของสวิตเซอร์แลนด์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง แหล่งช็อปปิ้ง และทะเลสาบที่สวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนตลอดทั้งปี
 |
| สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซูริคมีที่ใหนบ้าง (Zurich tourist attraction place) |
แล้วสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซูริคมีที่ใหนบ้าง (Zurich tourist attraction place)
สำหรับที่เที่ยวในตัวเมืองได้แก่
- Lidenhof สวนสาธารณะเล็กอยู่บนเนินเขาชมวิวเมืองสวยๆ ริมแม่น้ำ Limmat
- St peter's church โบสถ์เก่าอยู่ใกล้สวน Lindenhof
- Fraumunster โบสถ์เก่าอีกแห่งอยู่ใกล้แม่น้ำ Limmat ในตัวเมือง
- Bukrliplatz จุดวิวท่าเรือริมทะเลสาบซูริค
- Bahnhofstresse ถนนช็อปปิ้ง
- Rhine fall waterfall น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป
หลังจากที่เราได้รู้จักเมืองซูริคเบื้องต้นแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลามาสไลด์ดูรูปภาพแบบธรรมชาติลงโทษแล้วค่ะ ถ่ายไปตามมีตามเกิด รีวิวนี้ก็เลยขอมารีวิวตามสไตล์คุณนายเว่อร์ เธอเป็นบ้าไปแล้วให้เพื่อนได้ดูกันค่ะ เผื่อเพื่อนๆคนใหนวางแผนไปเที่ยว ก็ลองปักหมุดเช็คอินน์ไปกันดูนะค่ะ
ต่อจากบล็อกรีวิวตอนที่ 15 เว็ปไซต์ :
bit.ly/2vjt0bK
 |
| อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน เช้าวันใหม่ที่ 28 พ.ค.2018 |
วันที่ 28 พ.ค.2018 อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน เช้าตรู่วันใหม่ในวันนี้ อากาศแจ่มใสกว่าเมื่อวานมากๆเลยค่ะ
ตื่นมา เดี๊ยนก็ยังไม่ทำอะไรเลยนะค่ะ ฟันก็ยังไม่ได้แปรง ต้องมาร้อนแรงปวดเศียรเวียนเกล้า
สะส่างให้เรียบร้อยก่อนเลยจ้า
มานั่งทำงานสักพัก ขยับตัวไปใหนไปไม่ได้ เดี่ยวงานจะพอกหางหมูเอาค่ะ ตอนกลางวันก็ทำงาน ตกเย็นตอนกลางคืนก็เขียนบล็อกเป็นงานอดิเรกไป ชีวิตนี้ดูมีชีวาจริงๆค่ะ ดูเยอะไปหมดเลยเนอะ
และสำหรับที่พักเมื่อคืนนี้ พักค้างที่
โรงแรมมอนทานา ซูริค Montana Hotel zurich ที่พักโอเคดีทุกอย่างค่ะ
ราคาห้องพักปานกลาง คืนละ 3000 บาทต่อคืนรวมอาหารเช้าสำหรับ ไม่แพงเว่อร์เกินไปนะ แต่ถ้าเทียบเป็นเงินไทย แพงเว่อร์มากๆจ้า ถือว่าราคา 5 ดาวเลยนะ ทั้งที่เป็นโรงแรมขนาดเล็ก 3 ดาวเอง เพราะด้วยค่าครองชีพที่นี้สูงด้วยแหลค่ะ
 |
| ลิฟท์โดยสารที่โรงแรม โอเคอยู่นะ ไม่แคบจนเกินให้ อันนี้ให้ผ่าน |
หลังจากที่ได้สะส่างงานเรียบร้อย ก็ลงลิฟท์โดยสารจากห้องพักชั้นบนมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารด้านล่างโรงแรมค่ะ มาดูสิว่าอาหารเช้าที่นี้ดีใหม๊ เผื่อเพื่อนๆคนใหนวางแผนมาเที่ยวซูริคก็จะได้นำไปพิจารณาได้คะ
 |
| ห้องอาหารตกแต่งได้สวยงามแนวบูติคหรูหรา ราคาสมเหตุสมผล |
เดินมาที่ห้องอาหารเค้า ดูสวยงามนะคะตกแต่งสไตล์บูติคกิ๊บเก๋ ดูมืดๆหน่อยๆ อาจจะเป็นเพราะกล้องของเดี๊ยนเก่าแล้วด้วยกระมัง
 |
| ที่ห้องอาหารก็มีโต๊ะให้เลือกนั่งตามใจชอบ มุมการตกแต่งให้ผ่าน |
โต๊ะที่นั่งตกแต่งสวยงาม เก็บรายละเอียดได้ดี
เนื่องจากตอนที่ดิฉันลงมา ห้องอาหารพึ่งเปิด ลูกค้าก็เลยยังไม่ค่อยมีมากนัก
รอบผนังห้องอาหารก็ตกแต่งด้วยโคมไฟสวยงามหรูหราดูแล้วแพงแทงใจเหลือเกิน
 |
| ส่วนไลน์อาหารเช้าก็เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ แนว Continental Breakfast มีให้เลือกทานหลายอย่าง อันนี้ก็ให้ผ่าน |
ส่วนไลน์อาหารเช้าที่นี้ก็อลังการ เหมาะกับราคาอยู่นะค่ะ
เป็นอาหารเช้าสไตล์ Continental Breakfast มีอาหารให้เลือกหลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็น
ผักและผลไม้ มีชีส มีแฮม ไส้กรอก ถือว่าดีทีเดียวคะ
ส่วนเดินมาอีกโซนก็เป็นธัญพืช ซีเรียลให้เลือกหลายแบบ
มีผลไม้จัดตกแต่งใส่เป็นชั้นๆ สวยงาม เห็นแล้วน่าทาน
 |
| ขนมปังครัวซองค์ก็ร้อนๆจากเตา หอมกรุ่น น่าทานเชียว |
ขนมปังครัวซองก็อบร้อนๆ หอมกรุ่น น่าทานมากๆ
ใข่ต้มก็จัดใส่ตะกร้าไว้ น่ารักเชียว เปิดออกมาแล้วปิดไว้ด้วยนะ เดียวไข่ต้มจะไม่ร้อน
แต่ถ้าไม่ทานไข่ต้ม ก็ทานไข่คนได้นะ คนมาให้เรียบร้อย ทานกับซอสอะไรซักอย่างไม่ได้เขียนป้าย เดี๊ยนก็ไม่ทราบ
นอกจากนี้ยังมีขนมปังฝรั่งเศสหลากหลายแบบให้เลือกหั่นตักใส่จานไปทานได้อีก
มีขนมเบเกอรี่หลากหลายชนิดอีกด้วย
ส่วนอาหารมื้อเช้าของดิฉันในวันนี้ ก็จัดมาเบาๆค่ะ ถ้าไม่อิ่มค่อยไปตักใหม่นะค่ะ
โดยตอนทานอาหาร เดี่ยวจะมีเจ้าหน้าที่มาถามว่า ต้องการเครื่องดื่มแบบใหน ก็บอกเค้าไปว่า Hot tea เอาแบบอร่อยอีหลีเด้อ
ถ้าไม่อิ่มมีข้าวให้กิน ฟินกันต่ออีกค่ะ แต่ข้าวรู้สึกแข็งๆยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยอร่อยเหมือนบ้านเราเลยค่ะ ดูเป็นเม็ดร่วนๆ แต่เม็ดสวยนะ แต่ดูแข็งไปหน่อยค่ะ
 |
| อันนี้เป็นล็อบบี้ในโรงแรม ตกแต่งสวยงามตามสไตล์บูติค เรียบเก๋ดูดี ให้ผ่านค่ะ |
หลังจากทานกับข้าวอิ่มแล้ว ก็มาเดินย่อยอาหารต่อ อันนี้เป็นล็อบบี้ในโรงแรม ตกแต่งสวยงามตามสไตล์บูติค
มีมุมถ่ายรูปเก๋ด้วยนะ ใครชอบแนวนี้ลองมาพักกันดูค่ะ
ด้านหน้าโรงแรมมีเก้านี้ให้นั่งพักด้วย ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้าพักจะมาสูบบุหรี่กันคะ
 |
| สรุปที่พักคืนนี้ ที่โรงแรมมอนทานา ซูริค ถือว่าดีเยี่ยม ให้ผ่านคะ |
ด้านหน้าโรงแรมเป็นแบบนี้ค่ะ สรุปที่พักคืนนี้ ถือว่าดีเยี่ยม ให้ผ่านเอาไป 5 ล้านดาว มารีวิวไว้เผื่อเพื่อนคนใหนวางแผนมาเที่ยวหรือทำธุระ อบรมสัมมนา มองหาโรงแรมใกล้สถานีรถไฟเมือง Zurich ก็มาพักกันได้ค่ะที่
โรงแรม Montana Hotel zurich
 |
| ทานข้าวเช้าเสร็จ ก็ยังไม่ได้ไปใหนค่ะ มานั่งเคลียงง เคลียงาน สะส่างให้เสร็จ ไม่งั้นโดนกินหัวแน่ๆคะ |
หลังจากที่ได้ทานอาหารเช้าอิ่มและได้รีวิวไลน์อาหารเช้าที่โรงแรมไปแล้ว ก็ยังไม่ได้ไปใหนนะค่ะ มานั่งเคลียงง เคลียงานต่อให้เสร็จอีกสัก 2 ชั่วโมงกว่า ไม่งั้นโดนกินหัวแน่นอนคะ
และหลังจากที่ได้สะส่างงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดิฉันก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า และแบกเป้ลงลิฟท์จากห้องพักมาไว้ที่เคาว์เตอร์พนักงานต้อนรับด้านล่างค่ะ
 |
| แผนที่ท่องเที่ยวในเมือง Zurich |
และเมื่อได้ฝากระเป๋าไว้ที่โรงแรมเรียบร้อยแล้วนะค่ะ ก็ได้เวลาออกไปเที่ยวเมืองซูริคแล้วค่ะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็มีแผนที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองซูริคให้ด้วยค่ะ
ระหว่างเดินตามฟุตบาทมาก็เจอแต่จักรยานหลายคันจอดเรียงราย เมืองนี้ถือว่ามีคนปั่นจักรยานเยอะมากนะคะ
เดินมาก็เจอหนูน้อยปั่นจักรยานอีกแล้ว กำลังตามหลังคุณพ่อต้อยๆต้อยไป น่ารักดี
 |
| มีแต่จักรยานจอดเรียงรายอยู่ติดๆกับสถานีรถไฟ |
เดินมาที่สถานีรถไฟเมืองซูริค ก็เจอจักรยานมากมาย ไม่รู้จักรยานใครของใครบ้าง จอดกันเรียงกันเป็นตับ รู้สึกว่าคนที่นี้ตระหนักและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากๆเลยนะค่ะ
มีที่จอดในร่มก็มีอีกด้วยนะ
และแผนท่องเที่ยวทริปในวันนี้ สถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปก็คือ ไปน้ำตกไรน์ค่ะ
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟเมืองซูริคเลยค่ะ สถานีรถไฟประเทศเค้าสวยนะค่ะ ดูใหญ่โตโอฬาร อลังการดี
 |
| เริ่มต้นการเดินทางเช้านี้ตอนสายๆ ใกล้จะเที่ยงแล้วค่ะ ขอมารีวิวการเดินทางไปน้ำตกไรน์ (Rhinefall Review)มาฝากล่ะกัน |
เปิดดูตารางรถไฟที่จะไปน้ำตกไรน์วันนี้ ดิฉันเลือกนั่งรถไฟรอบเวลา 11.07 น. ปลายทางที่ Neuhausen Rheinfall (สถานีรถไฟน้ำตกไรน์) ค่ะ เดี๊ยนอ่านเป็นภาษาอังกฤษไปเลยนะค่ะ แต่คนที่นี้จะพูดภาษาเยอรมันกันค่ะ เพราะเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ประเทศเยอรมัน
และก่อนหน้านี้ ได้แนะนำวิธีการใช้งานไปแล้วแบบง่ายๆค่ะ คลิ๊กดูทิปบล็อกได้ที่ :
https://goo.gl/4nwkke
 |
| มารอขึ้นขบวนรถไฟไปยังน้ำตกไรน์ ที่สถานีรถไฟ Zurich HB |
มารอขึ้นขบวนรถไฟไปยังน้ำตกไรน์ ที่สถานีรถไฟ Zurich HB
โดยชานชลาที่จะไปน้ำตกไรน์จะอยู่ที่หมายเลข 41 กับ 42 ค่ะ
ตอนเดินไปก็อิสสะงงๆหน่อยคะ เพราะต้องเดินไปตามป้ายบอกทางเรื่อย บางครั้งก็หลงทางนะ
 |
| เดินมาตามป้ายบอกทางเรื่อยๆก็ถึงแล้วค่ะ ชานชลาหมายเลข 41 และ 42 อยู่ชั้นใต้ดินเลยค่ะ |
เดินมาตามป้ายบอกทางเรื่อยๆก็ถึงแล้วค่ะ ชานชลาหมายเลข 41 และ 42 อยู่ชั้นใต้ดินเลยค่ะ
ภายในสถานีเป็นแบบนี้ ชานชลาอยู่ใต้ดิน มีจอมอนิเตอร์บอกเวลาของรถไฟให้ดูด้วยนะค่ะ
ยังไงก็ลองเช็ครายละเอียดของตารางรถไฟสวิส กับจอมอนิเตอร์ได้ไว้ตรงกันใหม๊
ไม่นานนักรถไฟขบวนที่จะไปน้ำตกไรน์ก็มาค่ะ ขบวนรถไฟ Schaffhausen
เข้ามาในตู้รถไฟโดยสาร ก็เลือกนั่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ เนื่องจากขบวนรถไฟที่ดิฉันเลือกนั่ง เป็นรถไฟเที่ยวธรรมดา หรือรถไฟชั้น 2 นั้นเอง จะนั่งตรงใหนก็ได้ตามใจชอบค่ะ วันที่ไปเที่ยวก็เป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวเลยไม่ค่อยเยอะมากนัก
และระหว่างนั่งรถไฟก็จะมีการบอกด้วยว่าถึงสถานีใหนแล้วด้วย จะได้ไม่เอ๋อเหรอหรือหลงทาง ลงผิดสถานีคะ
ระหว่างนั่งรถไฟก็ดีหน่อยค่ะ วันนี้ไม่ต้องหอบโน๊ตบุ๊คมาทำงานด้วย ก็เลยได้ชิลๆ ชมวิวริมทางไปเรื่อยเปื่อยเป็นทุ่งนาข้าวสาลี หรือข้าวบาร์เลย์ไม่ทราบได้ แต่สวยงามแปลกตา ไม่ค่อยเห็นที่เมืองไทยเรามากนัก
นั่งรถไฟข้ามสะพานแม่น้ำที่ใหนสักแห่ง แม่น้ำสีสวยเป็นมรกต สะกดจิต สะกดใจจนทำให้เดี๊ยนอยากกระโดนลงไปว่ายเหลือเกิน เมืองสวยดูเงียบสงบดี ไม่รู้เมืองอะไร จำไม่ได้ล่ะ
 |
| ถึงสถานีรถไฟ Neuhausen Rheinfall (สถานีรถไฟน้ำตกไรน์) |
ในที่สุดก็ถึงสถานีรถไฟ Neuhausen Rheinfall (สถานีรถไฟน้ำตกไรน์)
ขบวนรถไฟที่นั่งมาจากเมืองซูริค
พอมาถึงก็จะมีป้ายบอกทางเดินไปยังตู้ลิฟท์โดยสาร เพื่อไปยังน้ำตกค่ะ
ถือว่าสะดวกมากเลยนะค่ะ สำหรับคนใหนที่พาคนแก่ คนชรานั่งรถเข็นมา หรือว่าเดินไม่ไหว ก็ไม่ต้องลำบากเดินลงให้เมื่อย มีลิฟท์โดยสารให้
ส่วนใครที่ไม่อยากลงลิฟท์นะค่ะ และชอบออกกำลังกาย ก็จะมีทางเดินลงไปยังน้ำตกได้เช่นกันค่ะ
 |
| เดินมาเรื่อยๆก็จะเห็นจุดชมวิวน้ำตกไรน์ในมุมสูง (Rhine fall Viewpoint at Railway station ) |
เดินมาเรื่อยๆก็จะเห็นจุดชมวิวน้ำตกไรน์ในมุมสูง ดูสวยงามใหญ่โต เว่อร์วังอลังการ สวยงามจริงๆ
ดูสีแม่น้ำใสเป็นสีเขียวมรกตเลย
 |
| (Rhine fall Viewpoint at Railway station ) |
มีทั้งนั่งพักให้พักชมวิวด้วย และข้อดีของการมาเที่ยวเดือนพฤษภาคมคือ อากาศไม่ร้อนเลย ลมพัดเย็นกำลังดี ท้องฟ้าก็แจ่มใสอีกด้วย เหมาะสำหรับคู่รักที่วางแผนมาฮันนีมูนในเมืองนี้มากๆค่ะ
 |
| ข้อมูลสาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำตกไรน์ ( About Rheinfall) |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำตกไรน์ (Rheinfall) อ่านกันดูเป็นความรู้จ้า
สำหรับน้ำตกไรน์ (Rheinfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนแม่น้ำไรน์บริเวณทางเหนือของนครซือริช บริเวณพรมแดนระหว่างรัฐชัฟเฮาเซินกับรัฐซือริชในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ น้ำตกแห่งนี้มีความกว้าง 150 เมตรและสูง 23 เมตร ในช่วงฤดูหนาว จะมีปริมาณน้ำเฉลี่ยราว 250 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที และในฤดูร้อนจะมีน้ำเฉลี่ยมากถึง 600 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาทีปลาทั่วไปไม่สามารถว่ายขึ้นน้ำตกแห่งนี้ได้ มีเพียงปลาไหลเท่านั้นที่มีเทคนิคเฉพาะตัวในการไต่ขึ้นน้ำตก น้ำตกแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นในยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายเมื่อราว 14,000 ถึง 17,000 ปีที่แล้ว ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
เครดิตข้อมูลดีๆจาก :
https://th.wikipedia.org/wiki/น้ำตกไรน์
หลังจากชมวิวด้านบนแล้ว ก็เดินไปตามทางเดินเล็กๆเรื่อยๆ
ระหว่างทางก็มีต้นไม้ใบหญ้าให้รื่นรมย์ ชื่นชมกันด้วยค่ะ
เดินผ่านป่าไปอีกนิดหน่อยก็ถึงค่ะ
 |
| บริเวณน้ำตกไรน์ |
เดินมาอีกนิดเดียวก็ถึงสวนสาธารณะเป็นลานหญ้าขนาดใหญ่อยู่ติดน้ำตกด้านล่างแล้วค่ะ
เดินมาที่ลานหญ้าในสวนสาธารณะติดกับน้ำตก ก็พบกับหลายครอบครัวกำลังพาลูกน้อยมาพักผ่อนและเอาอาหารปิคนิคมาทานกันคะ
เดินออกมาก็พบกับอ่างน้ำขนาดใหญ่และมวลน้ำมหาศาลไหลจากหน้าผาลงสู่พื้นน้ำด้านล่าง ดูตระการตา จนละลองน้ำกระเด็นกระดอน ขจรกลอนไกลไปทั่วเลยค่ะ
มีที่นั่งสำหรับรับละอองของน้ำตกหรือชมวิวให้อีกด้วยนะ
 |
| น้ำตกไรน์ ( Rheinfall) ในเดือนพฤกษภาคม ตรงริมน้ำตกก็มีดอกป๊อบปี้สีส้มแป๊ดให้ได้ชื่นชมกันอีกด้วยนะ |
ตรงริมน้ำตกก็มีดอกป๊อบปี้สีส้มแป๊ด กำลังบานสะพรั่งรอรับพลังจากละลองให้เราได้ยลตระการกันอีกด้วยละค่ะ
มองไปอีกฝั่งก็เป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกเป็นจุดขึ้นเรือค่ะ
 |
| น้ำตกไรน์ |
ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนรักธรรมชาติจริงนะคะ บรรยากาศชุ่มฉ่ำ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า และสายน้ำตกสะท้กสะท้านหวั่นไหว
 |
| น้ำตกไรน์ ( Rheinfall) ในเดือนพฤกษภาคม |
มีแผนที่บอกเส้นทางรอบๆน้ำตกอีกด้วยนะค่ะ ว่าตอนนี้อยู่ตรงใหนแล้ว
 |
| นอกจากนี้ยังมีเรือให้บริการนำเที่ยวไปยังเกาะกลางน้ำตกอีกด้วยนะค่ะ |
นอกจากนี้ยังมีเรือให้บริการนำเที่ยวไปยังเกาะกลางน้ำตกอีกด้วยนะค่ะ
เดินมาอีกหน่อยก็จะมีร้านอาหารและร้านขายเครื่องดื่มให้นั่งชิคแอนด์ชิล ชมวิวน้ำตกกัน
นั่งชมวิวดูเรือและมวลน้ำตกปริมาณมหาสาร
หรือถ้าใครที่ไม่อยากนั่งเรือ ก็นั่งพักผ่อนชมวิวแบบชิลๆได้เช่นกันค่ะ
 |
| เดินมาเหนื่อยๆ เมื่อยก็นั่งพักชมวิวน้ำตกแบบชิลๆไปละกันค่ะ |
สถานที่ท่องเที่ยวที่น้ำตกไรน์แห่งนี้ น่าจะเหมาะกับทุกวัยนะค่ะ เพราะการเดินทางก็ไม่ลำบาก สะดวกสบาย มีรถไฟวิ่งผ่าน มีลิฟท์โดยสารให้บริการ ไม่ลำบากอะไร คือแบบเค้าเข้าใจทำ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนกันตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เลือกผ่อนคลายกัน
และบรรยากาศ สภาพแวดล้อมโดยรอบก็สวยงาม น้ำตกสีสวยใสสด ดั่งมรกตทอแสง ร้อนแรงจับใจยิ่งนัก
 |
| มีรถไฟขบวนน่ารักให้บริการนำเที่ยวชมธรรมชาติ และชมเมืองนี้อีกด้วย |
มีรถไฟขบวนน่ารักให้บริการนำเที่ยวชมธรรมชาติ และชมเมืองนี้อีกด้วย
ส่วนที่อยากนั่งเรือไปเกาะกลางเพื่อไปชมหน้าผาน้ำตก ก็มีเรือนำเที่ยวให้บริการ อยู่ใกล้ร้านขายอาหารและของที่ระลึกเลยค่ะ
 |
| ที่ขายตั๋วเรือนำเที่ยวไปยังเกาะกลางของน้ำตก |
สำหรับใครที่จะนั่งเรือไปชมน้ำตก ก็มีที่ขายตั๋วเรือนำเที่ยวไปยังเกาะกลางของน้ำตกให้ด้วยล่ะ
ป้ายบอกอัตราค่าโดยสารเรือนำเที่ยวแต่ละลำ มี 5 โปรแกรมค่ะ มีทั้งราคาเด็กและผู้ใหญ่ แต่ที่เห็นเด่นๆจะมีเรือสีฟ้าและเรือสีชมพูนะค่ะ ราคาตั๋วโดยสารนำเที่ยว โปรแกรมที่ 4 ผู้ใหญ่อยู่ที่ 7 สวิสฟรังค์ และโปรแกรมที่ 5 อยู่ที่ 11 ฟรังค์ ส่วนราคาของเด็กก็จะถูกลงไปเกือบครึ่งนึง
วันที่ไปเดี๊ยนเองก็ไม่ได้นั่งเรือนะค่ะ ก็เลยเลือกนั่งพักชิลชมวิวถ่ายรูปไปเรื่อยเอาค่ะ
 |
| ของที่ระลึกจากสวิส น่ารักดีนะ |
เดินมาดูของที่ระลึก กะว่าต้องมีของติดไม้ติดมือไปสักชิ้นนึงละค่ะ
ตุ๊กตาของฝากที่นี้ก็น่ารัก น่าซื้อมาก
ตุ๊กตาน้องหมาตัวเล็กกะจิ๊ดลิ๊ดก็น่าซื้อสุดๆ
แต่ถ้าซื้อไป คุณแม่ต้องกระซวกแน่ๆเพราะซื้อไปรกบ้านอีกล่ะ ที่บ้านตุ๊กตาเต็มไปหมดเลย
เดินมาเจอชุดมีดปิคนิคเซท มองหาอยู่พอดี ซึ่งเป็นของฝากขึ้นชื่อในประเทศสวิส
 |
| ในที่สุด ก็สอยมาจนได้จ้า ชุดมีดปิคนิคสวิส ราคา 19 สวิสฟรังค์ เป็นทั้งช้อนและซ้อม มีมีดให้อีกด้วย เริ่ดจ้า |
ในที่สุด ก็สอยมาจนได้จ้า ชุดมีดปิคนิคสวิส ราคา 19 สวิสฟรังค์ เป็นทั้งช้อนและซ้อม มีมีดให้อีกด้วย เริ่ดจ้า เพราะตั้งแต่เที่ยวมา ไปซื้อสลัดที่ร้านสะดวกซื้อบางแห่ง ไม่มีช้อนซ้อมให้ทาน เวลาทานลำบากมากๆ ต้องใช้มือเปิบเอา มาเจอชุดมีดนี้ ซื้อเลยค่ะ ไว้ใช้ประโยชน์มากมาย แต่คงจะพกขึ้นเครื่องไม่ได้ ต้องโหลดใต้ท้องเครื่องอย่างเดียวนะคะ
 |
| อาหารเที่ยงมื้อนี้ เป็นอาหารปิคนิคซื้อมาจากสถานีรถไฟในเมืองซูริคเลยคะ นำมากินที่น้ำ |
เดินไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ได้ทานอาหารแล้วค่ะ อาหารมื้อนี้ก็ซื้อมาจากสถานีรถไฟเมืองซูริคค่ะ พกปิคนิคมากทานที่นี้เลย มีสลัดผัก น่องไก่ ขนมปังไขมันทราน โยเกิร์ตน้ำตาลหวานเจี๊ยบ และแอปเปิ้ล 1 ลูก พกใส่กระเป๋ามาทาน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการกิน ก็พกมานั่งทานแถวนี้เลยค่ะ
 |
| นั่งทานอาหารมื้อเที่ยงอิ่มแล้ว ก็ไปเดินเที่ยวชมน้ำตกต่ออีกนิดหน่อย เพื่อให้อาหารย่อยลงท้องจ้า |
นั่งทานอาหารมื้อเที่ยงอิ่มแล้ว ก็ไปเดินเที่ยวชมน้ำตกต่ออีกนิดหน่อย เพื่อให้อาหารย่อยลงท้องจ้า
เดินมาเรื่อยๆ มาชมมวลน้ำด้านบนคะ
น้ำที่อยู่เหนือน้ำตกด้านบนก็สวยงามเหมือนกันนะค่ะ ดูมวลน้ำมหาสารไหลตกกระทบไปยังน้ำด้านล่าง
เดินข้ามสะพานไปโรงเรียน Schloss Laufen
 |
| ตรงนี้เป็นหินเกาะกลางน้ำตก มีนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปถ่ายรูปและชมวิวกัน |
ตรงนี้เป็นหินเกาะกลางน้ำตก มีนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปถ่ายรูปและชมวิวกัน แต่ถ้าจะขึ้นไป คงต้องรอคิว เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปตลอดเลยล่ะคะ
 |
| ฮู้ย..ปริมาณน้ำมหาศาลจริงๆนะคะ ถ้าตกลงไปไม่รู้จะว่ายทวนน้ำขึ้นมาได้ใหม๊นะ |
ฮู้ย..ปริมาณน้ำมหาศาลจริงๆนะคะ ถ้าตกลงไปไม่รู้จะว่ายทวนน้ำขึ้นมาได้ใหม๊นะ ถ้าตกลงไปมีหวัง ต้องบาดเล็กน้อย หรือไม่ก็สำลักน้ำนิดหน่อยนะคะ
เดินมาทางด้านเหนือของน้ำตก ก็แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า
น้ำที่อยู่ทางด้านน้ำก็ไหลเชี่ยวแรงทีเดียวค่ะ
ส่วนปราสาทที่เห็นอยู่นี้ ไม่ใช่ปราสาทเจ้าชายกบนะค่ะ แต่เป็นโรงเรียนจ้า ชื่อโรงเรียน Schloss Laufen
 |
โรงเรียน Schloss Laufen
|
เดินเข้าไปด้านในก็มีดอกม้ง ดอกไม้ให้ชม สวยงามน่ารักเชียว
มีป้ายบอกทางเดินลงไปชมน้ำตกอีกเส้นทางนึงด้วยล่ะ
หลังจากที่ได้เดินชมน้ำตกจนอิ่มหน่ำ ฉ่ำใจแล้วนะค่ะ เดี๊ยนก็นั่งรถไฟกลับเมืองซูริคค่ะ
 |
| ชมน้ำตกจนเย็นฉ่ำใจ ก็ได้เวลาเดินทางกลับเมืองซูริคแล้วค่ะ |
เดินทางด้วยรถไฟกลับไปซูริค เพื่อไปเดินเที่ยวชมในเมืองต่อค่ะ เนื่องจากยังไม่ได้เดินเที่ยวในตัวเมืองซูริคเลย ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง
 |
| นั่งรถไฟจากสถานีน้ำตกไรน์ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงก็ถึงเมืองซูริคแล้วค่ะ |
นั่งรถไฟจากสถานีน้ำตกไรน์ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงก็ถึงเมืองซูริคแล้วค่ะ
 |
| สถานีรถไฟเมืองซูริค (Zurich Railway Station) |
เริ่มต้นเที่ยวต่อช่วงบ่ายแก่ๆวันนี้ ที่สถานีรถไฟเมืองซูริค มาดูสิว่าในเมือง Zurich มีที่เที่ยวและจุดเช็คอินน์ มุมถ่ายรูปสวยๆ ที่ใหนบ้าง
 |
| เปิดแผนที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวในเมืองซูริคสิ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ไปถ่ายรูปและแวะชมเดินได้บ้างนะ |
เปิดแผ่นที่ซึ่งทางโรงแรมให้มาดู ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหนที่สามารถเดินไปชมในเมืองนี้ได้บ้าง ซึ่งดูแผนที่แล้ว แหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองก็อยู่ใกล้ๆกัน เดินไปได้ไม่ไกลนักค่ะ
 |
| ถนนคนเดินช็อปปิ้ง Bahnhofstrasse |
เดินมาตามคำแนะนำของแผนที่ โดยเดินมาทางถนนคนเดินช็อปปิ้ง Bahnhofstrasse
 |
| ถนนคนเดินช็อปปิ้ง Bahnhofstrasse |
สายถนนที่มีร้านขายสินค้าของแบรนเนมชื่อดังมากมาย
 |
| หากมาเที่ยวซูริค จุดแรกที่คนต้องแวะมา ก็คือต้องขึ้นมาชมวิวเมืองซูริคที่สวนสาธารณะ Lindenhof |
เดินมาไม่ไกลนักก็ถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งในเมือง Zurich นั้นก็คือ Lindenhof สวนสาธารณะใจกลางเมือง อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เดินเท้ามาได้ใกล้ๆ และเป็นจุดชมวิวเมืองซูริคที่สวยงามอีกด้วย โดยสามารถมองเห็นวิวเมืองและแม่น้ำ Limmat ได้อีกด้วย โดยสวนแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ร่มรืนย์ไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำพุ และมีที่ให้นั่งพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ของเมืองสวยงาม
ที่สวนสาธาณะ Lindenhof จะมีที่นั่งในมุมต่างๆ ให้ได้นั่งพักให้ชมวิวเมืองกันค่ะ
 |
| ขึ้นมาชมวิวเมืองซูริคที่สวนสาธารณะ Lindenhof |
มองไปจากจุดชมวิวบนเนิน Lindenhof จะเห็นวิวแม่น้ำ Limmat และอาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมเรียบเก๋สวยงาม คลาสสิค
 |
| สวนสาธารณะ Lindenhof นั่งพักชมวิวเมืองและวิวแม่น้ำ Limmat |
บรรยากาศยามบ่ายแก่ๆ นั่งพักชมวิวทิวทัศน์เมืองซูริค ที่สวนสาธารณะ Lindenhof
 |
| อาคาร บ้านม่านชานเรือนในเมืองซูริค สวยดีนะค่ะ ตามสไตล์ยุโรปงดงามเก๋ๆ |
ซูมกล้องไปไกลๆก็เห็นอาคารบ้านเรือนเรียงรายเป็นตับเชียวล่ะคะ
 |
| เด็กๆกำลังเล่นมอญซ่อนผ้าหรือวิ่งเตยกันอยู่กันอยู่ก็ไม่ทราบ น่าสนุกเชียว |
ส่วนใกล้ๆสวนก็เป็นลานหญ้า เด็กกำลังเล่นมอญซ่อนผ้าหรือวิ่งเตยกันอยู่กันอยู่ก็ไม่ทราบ น่าสนุกเชียว ริมรั้วก็เป็นดอกไม้สีแดง ร้อนแรงใจมากๆ
 |
| ซูมกล้องไปไกลๆ ที่เห็นคือ โบสถ์โปสแตสแตน Grossmünster |
มองไปอีกฝั่งที่อยู่ริมแม่น้ำ Limmat ก็เป็นโบสถ์ใหญ่ Grossmünster หรือโบสถ์โปสแตสแตน
 |
| ภายในสวนสาธารณะ Lindenhof |
ส่วนภายในสวนเองก็ร่มรืนไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พื้นที่ในสวนไม่กว้างนัก แต่ค่อนข้างร่มรืนย์ ชื่นฤทัย งามวิไลลมพัดสบายดีเว่อร์
 |
| คุณพ่อสุดหล่อเหลา กำลังเอามือลูกน้อยจุ่มลงน้ำเพื่อจะได้สัมผัสความเย็นยะเยือก กระเทือกหัวใจ |
ใกล้ๆบ่อน้ำพุ คุณพ่อสุดหล่อเหลา กำลังเอามือลูกน้อยจุ่มลงน้ำเพื่อจะได้สัมผัสความเย็นยะเยือก กระเทือกหัวใจ
 |
| เดินไปเที่ยวต่อค่ะ เดินลงจากสวนสาธารณะจะเป็นย่านชุมชนเก่าและย่านช๊อปปิ้งแนวๆชิคๆเก๋ๆ |
หลังจากไปชมวิวทิวทัศน์เมือง Zurich ที่สวนสาธารณะ Lindenhof แล้วใกล้ๆก็จะมีทางเดินไปชมเมืองค่ะ
เดินลัดเลาะตามทางเดินมาเรื่อยๆ
 |
| แหล่งท่องเที่ยวในเมืองซูริค (Zurich) |
เพื่อเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวถัดไป
 |
| ถึงแล้วค่ะ โบสถ์ St.Peter's Church |
ถึงแล้วค่ะ โบสถ์ St.Peter's Church ถือเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในเมืองซูริค โดยในแผนที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวบอกไว้ว่า โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 หอวิหารของโบสถ์เป็นนาฬิกาบอกเวลาอีกด้วย
บรรยากาศโดยรอบก็เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสวยงาม
ส่วนใกล้ๆก็เป็นแหล่งเมืองเก่า ย่านช็อปปิ้งสุดชิคๆเก๋ๆ มีร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับสวยเก๋มากมาย แต่ละชิ้นก็ดูเรียบหรู มีราคาน่าซื้อเว่อร์ แต่ราคาก็เลิศเลอ แพงเว่อร์เหมือนกันนะ
เครื่องประดับจัดใส่ตู้ รอนักท่องเที่ยวที่แวะช็อปปิ้ง ได้เข้าไปสวิงกิ้งเลือกซื้อกัน
หรือใครที่ไม่อยากเสียสตังไปกับการช๊อปปิ้งมากนัก ก็เดินออกกำลังกายถ่ายรูปไปตามมุมต่างๆได้ด้วย
ภายในย่านเมืองเก่าก็จะเป็นทางเดินบันใดขึ้นๆลงๆแบบนี้แหละค่ะ ดูเก๋ๆใครที่ชอบถ่ายรูปแนวๆนี้ น่าจะชอบนะค่ะ เดินมาชมโบสถ์ St.Peter's Church ก็เดินถ่ายรูปเป็นนางแบบมาเรื่อยได้เลยค่ะ
ในย่านเมืองเก่า ก็จะมีตรอก ซอกซอย ลัดเลาะไปในมุมต่าง บรรยากาศดูคลาสสิค มีความเป็น Antique และสภาพแวดล้อมก็สะอาดสะอ้านด้วย
 |
| เดินขึ้นเดินลง หากเหนื่อย เมื่อยก็นั่งพักตรงบันใดนั้นแหละคะ |
มีภาพวาดฝาภาพฝาผนังสวยๆดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกด้วยล่ะ
ในระแวกย่านนี้ก็มีร้านขายขนมช็อกโกแลต ตกแต่งใส่ตู้ไว้ ดูน่ารักเชียว
 |
| ส่วนช็อคโกแล็ตบางส่วนก็จัดตู้ ดูน่าทานมากๆเลยค่ะ |
ส่วนช็อคโกแล็ตบางส่วนก็จัดตู้ ดูน่าทานมากๆเลยค่ะ เห็นแล้วน้ำตาลขึ้นในเส้นเลือกเลยล่ะ
ถ้าใครเหนื่อยๆก็แวะพักดื่มน้ำชา กาแฟ ที่ร้านอาหารินทางได้นะ
เดินมาอีกนิดไม่ไกลจากโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ ก็จะเป็นวิหาร Fraumunster เป็นวิหารเก่าแก่อีกแห่งในกรุงซูริคแห่งนี้
วิหารใหญ่โตมากๆนะค่ะ ดูคนตัวเล็กนิดเดียว
 |
| วิหาร Fraumunster สร้างอยู่ใกล้ๆแม่น้ำ Limmat |
วิหาร Fraumunster สร้างอยู่ใกล้ๆแม่น้ำ Limmat
ใกล้กันกับวิหารโบสถ์ Fraumunsterก็จะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ Limmat ไปยังโบสถ์อีกฝั่งค่ะ
เดินข้ามสะพานแม่น้ำ Limmat มาอีกนิด ก็จะเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองซูริคและทะเลสาบซูริคคะ
แม่น้ำ Limmat แม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชาวเมืองซูริค จะไหลไปบรรจบที่ทะเลสาบซูริค
 |
แม่น้ำ Limmat แม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชาวเมืองซูริค จะไหลไปบรรจบที่ทะเลสาบซูริค
|
โบสถ์ใหญ่นั้นก็คือ มหาวิหารโบสถ์โปรแตสแตน Grossmünster
เดินมาชมมหาวิหาร Grossmünster ก็ใหญ่โตโอฬารมากๆ
ทองไปจากฝั่งก็เห็นโบสถ์ St.Peter Church ที่พึ่งเดินผ่านมาด้วยค่ะ
เรือลอยลำจอดอยู่ท่าเรือริมแม่น้ำ
เดินมาเหนื่อยก็นั่งพักริมแม่น้ำให้หาย
 |
| ทัศนียภาพเมืองซูริค |
แม่หงส์ไม่รู้หลงทางมาจากใหนหนึ่งตัว ดูเคว้งคว้างจังเลย
ซูมกล้องไปอีกฝั่งก็เห็นผู้บ่าวเมืองซูริค กำลังคุยกุ๊กกิ๊กกันตามประสาชายๆมาดแมน เริ่ดสะแมนแตนยิ่งนักเชียว
 |
| เดินชมทัศนียภาพริมแม่น้ำในเมืองซูริค |
 |
| เริ่มเหนื่อยๆ ขอเติมพลังซักแป๊ปค่ะ ทานขนมแซนวิชกับโยเกิร์ตรสชาติอร่อยดีค่ะ |
เริ่มเหนื่อยๆ ขอเติมพลังซักแป๊ปค่ะ ทานขนมแซนวิชกับโยเกิร์ตรสชาติอร่อยดีค่ะ
ซื้อจากสถานีรถไฟมาตุนใส่กระเป๋าเป้ไว้ค่ะ หิวเมื่อไหร่ก็ควักออกมาทานเลย จะได้ไม่ต้องไปยุ่งยากนัก
นอกจากนี้ในตัวเมืองก็มีมุมนั่งเก๋ๆ
และร้านขายเสื้อผ้าแนวๆชิคๆเก๋ๆ
ของเล่นสำหรับเด็กก็น่ารัก น่าซื้อไปฝากหลานที่บ้านมากๆ
 |
| เดินมาเจอถุงปูนของ SCG มาไกลเลยนะค่ะ ถูกทำเป็นกระเป๋าถือสุดเท่ห์เก๋ไปเลยค่ะ ราคาแพงเว่อร์ด้วยนะ |
เดินมาเจอถุงปูนของ SCG มาไกลเลยนะค่ะ ถูกทำเป็นกระเป๋าถือสุดเท่ห์เก๋ไปเลยค่ะ แถมราคาแพงเว่อร์มากๆด้วยนะ แสดงว่าถุงปูนของเค้า แข็งแรงจริงๆจัง
หลังจากทานขนมแซนวิซเสร็จก็เดินมาชมเมืองต่อค่ะ
 |
| ตกปลาบริเวณแม่น้ำซูริค ปลาน่าจะเยอะอยู่นะ |
เดินมาเรื่อยๆจนสุดที่ริมปากอ่าวใกล้ทะเลสาบซูริค ก็เห็นผู้บ่าวซูริคขยันขันแข็งกำลังตกปลาอยู่ด้วย
 |
| ชมเรือ |
บรรยากาศยามบ่าย ตะวันเริ่มคล้อยลงไปเรื่อยๆ แต่สองผู้บ่าวนี้ยังขยันตกปลาอยู่เลยนะ
 |
| และมาสุดทางนั่งพักริมทะเลสาบซูริค |
และมาสุดทางนั่งพักริมทะเลสาบซูริค ที่เต็มไปด้วยฝูงหงส์มากมาย
โดยที่ริมทะเลสาบซูริคก็เป็นลานจอดเรือเทียบท่าหลายลำ และมีอนุสาวรีย์เก๋ๆให้ได้ถ่ายภาพกันอีกด้วย
 |
| และมาสุดทางนั่งพักริมทะเลสาบซูริค นั่งพักชมทะเลกับบรรยากาศลมพัดเย็นๆ มองเห็นแต่ฝูงหงส์ |
มองไปก็เห็นเรือใบหลายลำ กำลังแล่นอยู่ในทะเลสาบซูริค
 |
| ดาราในทะเลสาบแห่งนี้คงต้องยกให้ฝูงหงส์ขี้ดื้อนี้แหละ |
ดาราในทะเลสาบแห่งนี้คงต้องยกให้ฝูงหงส์ขี้ดื้อนี้แหละ.. หมู่ฝูงหงส์ในทะเลสาบน้ำใสราวกับกระจก สีสดดั่งมรกตทอแสงเลยล่ะ
หลังจากที่ได้เดินเที่ยวเมืองซูริคแล้วนะค่ะ ดิฉันก็เดินกลับไปยังโรงแรมเพื่อไปเอากระเป๋าเป้ที่ฝากไว้ยังที่พัก
 |
| หลังจากที่ได้เดินเที่ยวเมืองซูริคแล้วนะค่ะ ดิฉันก็เดินกลับไปยังโรงแรมเพื่อไปเอากระเป๋าเป้ที่ฝากไว้ยังที่พัก |
จากนั้นก็เดินแบกเป้ใบใหญ่มาที่สถานีรถไฟเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองถัดไปค่ะ
 |
| โดยทริปเมืองท่องเที่ยวถัดไปคือเมืองมิลานค่ะ จากนี้ต้องนั่งรถไฟข้ามพรมแดนจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไปยังประเทศอิตาลีแล้วค่ะ |
โดยทริปเมืองท่องเที่ยวถัดไปคือเมืองมิลานค่ะ จากนี้ต้องนั่งรถไฟข้ามพรมแดนจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไปยังประเทศอิตาลีแล้วค่ะ
ซึ่งหากเพื่อนๆคนใหนที่ใช้บัตร Eurial Pass แนะนำจองตั๋วที่นั่งก่อนเลยนะค่ะ โดยราคาที่ดิฉันเสียค่าจองที่นั่งไปนี้ อยู่ที่ราคา 15 สวิสฟรังค์ค่ะ เป็นราคาไฟชั้นหนึ่งนะค่ะ แต่ถ้ารถไฟชั้น 2 ราน่าจะถูกลงนิดนึง
 |
| บ๊ายๆ...สวิตเซอร์แลนด์ ขออำลาเมืองซูริค กำลังนั่งรถไฟความเร็วสูงสุดชิคข้ามพรมแดนไปยังประเทศอิตาลีค่ะ |
บ๊ายๆ...สวิตเซอร์แลนด์ หลังจากที่แรมรอนอยู่ในประเทศนี้ 7 วันเต็มๆ ตอนนี้ได้อำลาเมืองซูริค กำลังนั่งรถไฟความเร็วสูงสุดชิคไปยังเมืองมิลาน ประเทศอิตาลีต่อค่ะ เพื่อไปค้างแรมที่เมืองแห่งแฟชั่นนี้ 1 คืนค่ะ ซึ่งเมืองมิลานก็เป็นทริปเที่ยวเมืองถัดไป
จบทริปเที่ยวเมืองซูริคแบบชิลๆ เดินเหนื่อยหน่อยค่ะแต่ก็ได้ออกกำลังขา ออกกำลังกาย ได้เดินสลายไขมันหน่อยนะ เพราะปกตินั่งทำงานอยู่ในแต่ในออฟฟิค มันก็เบื่อ มาเที่ยวแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบ เหนื่อยหน่อย แต่ก็ได้เปิดหูเปิดตาดีมากทีเดียวค่ะ
สรุปแล้วทริปเที่ยวซูริคแวะไปใหนบ้างนะ
1.ไปน้ำตกไรน์ นั่งรถไฟจากซูริคไปเกือบๆ 1 ชั่วโมงก็ถึงค่ะ
2.เดินเที่ยวชมเมืองซูริค แวะถนนคนเดินสุดชิคๆเก๋ๆ ดูวิหารเก่าแก่ประจำเมืองนี้ และไปนั่งชิลๆริมทะเลสาบซูริค ก่อนจะเดินทางไปยังเมืองต่อไป
สำหรับทริปรีวิวเที่ยวเมืองซูริคก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ต้องขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาสไลด์ดูกัน หากข้อมูลดังกล่าวมีข้อผิดพลาด รูปภาพไม่ชัดประการใด เดี๊ยนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาสไลด์ดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ ขอบพระคุณ..จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
หลังจากชมวิวด้านบนแล้ว ก็เดินไปตามทางเดินเล็กๆเรื่อยๆ 
ระหว่างทางก็มีต้นไม้ใบหญ้าให้รื่นรมย์ ชื่นชมกันด้วยค่ะ
เดินผ่านป่าไปอีกนิดหน่อยก็ถึงค่ะ
โดยที่ริมทะเลสาบซูริคก็เป็นลานจอดเรือเทียบท่าหลายลำ และมีอนุสาวรีย์เก๋ๆให้ได้ถ่ายภาพกันอีกด้วย
 เดินดูเมืองชิคๆเก๋ๆ นั่งรถไฟสุดเท่ห์ไปชมน้ำตกไรน์ งามวิไลน้ำใสสวยสด ดั่งมรกตทอแสง ร้อนแรงจับใจ){kind=link}
0 ความคิดเห็น