Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวเที่ยวงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สวยแพรวพราวความเป็นไทย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน (เก็บภาพมาฝาก เผื่อใครไม่ได้ไปค่ะ)

จัดมาแบบไทยๆ รีวิวท่องเที่ยวรับต้นเดือนมีนาคมนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเลยขอเที่ยวไปงานอุ่นไอรักคลายความหนาวจ้า

ขอสวัสดี๊ดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผองชาวไทยที่น่ารักสดใสและชาวโลกออนไลน์สุดงามเก๋ไก๋กันทุกคนนะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน ขอมาทักทาย ออนซอนต้อนรับท่านเข้าสู่เว็ปบล็อกรีวิวท่องเที่ยวเขียนไปเรื่อยเปื่อย แนวๆบ้าๆบอๆให้ท่านได้อ่านกันจนปวดหัว หรือสไลด์ดูรูปภาพกันก่อนคลิ๊กหนี จรลีไปเว็ปอื่นนะค่ะ ใหนๆแวะกันเข้ามาทั้งที ก็อย่าด่วนจี๋ ไปรษณีย์จ๋าไปก่อนนะค่ะ มาร่วมกันเป็นคนบ้าเที่ยวด้วยกันก่อนจ้า


ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสแวะไปเดินชมงานอุ่นไอรักความหนาวมาค่ะ (ไปเดินมาแล้ว คลายจนร้อนระอุ แต่ก็ประทุไปด้วยความอบอุ่นนะค่ะ) บล็อกวันนี้ ดิฉันก็เลยขอเก็บภาพบรรยากาศในงานมาฝาก พร้อมมารีวิวให้เพื่อนทุกๆท่านได้ชมกันค่ะ เผื่อว่าใครที่ไม่ได้มาเที่ยวหรืออยู่ไกลยังต่างแดนจะได้ชมกันด้วยค่ะ รูปภาพอาจไม่ได้สวยนะค่ะ เพราะไม่ได้แต่งภาพ หรือตอนถ่ายก็ไม่ได้ตั้งค่าอะไร เนื่องจากกล้องถ่ายรูปซูมไม่ได้ ก็กดชัดเตอร์ถ่ายอย่างเดียว อีกอย่างเดี๊ยนเองก็สายตาเอียงด้วย ใส่แว่นไปก็ยิ่งเอียงไปใหญ่ เอาเป็นว่าเก็บภาพไว้เป็นไดอารี่แล้วกันนะค่ะ



โดยการมาเที่ยวในงานนี้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 ก.พ.-11 มี.ค.2561 ค่ะ นอกจากนี้จะได้ย้อนยุคไปกับบรรยากาศการแต่งชุดไทยแล้วนะค่ะ ในงานยังมีการแสดงและการสาธิตถึงงานหัตถกรรม หัตถศิลป์ และงานฝีมือต่างของช่างไทยไว้อย่างดีเยี่ยม เพื่อให้ได้ชมและได้ศึกษากัน ยังมีขนมไทยในรั่วในวัง ที่หากินได้ยากได้ลิ้มลองกันอีกด้วยนะค่ะ นอกจากนี้ยังมีงานออกร้านของหน่วยงานต่างๆ ทั้งของหน่วยงานรัฐและเอกชน มีร้านอาหารอร่อยๆเริ่ด ทั้งของคาวและของหวานให้ได้เดินเลือกทานกันอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ เรียกว่าทั้งของกินก็ถูกปาก ของฝากก็ถูกใจจริงๆจ้า



แม้แสงอสุรีย์จะทอแสงส่องแรงจนอากาศร้อนรุ่มเร่า ดั่งไฟเผาทรวงก็ตาม แตเดี๊ยนไม่ก็บ่ยั้น เดินชมงานอยู่หลายชั่วโมง แวะโน้นชมนี้ กินของดีไปเรื่อยเปื่อยอร่อยเริ่ดเว่อร์ โดยเฉพาะขนมไทยหาทานยาก ซื้อไปฝากที่บ้านหลายห่อเลยทีเดียว

นั่งรถรับส่งฟรีจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปเดินดูมดูมที่งานอุ่นไอรักคลายความหนาว
เริ่มต้นไปเที่ยวงานอุ่นไอรักวันนี้ หลังจากที่ได้ไปส่งงานให้ลูกค้าเสร็จแล้ว ประมาณช่วงบ่ายๆ ดิฉันเดินลงจากรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ รีบมาจรลีขึ้นรถรับส่งฟรี เป็นรถเมลล์สีแดง ร้อนแรงจับใจ ซึ่งจอดเทียบท่าป้ายรถรอรับผู้โดยสารไปงานอุ่นไอรักความความหนาว (คลายจนร้อนเลยล่ะค่ะ อากาศร้อนจริงๆ)

ขึ้นมาบนรถ ก็มีนักท่องเที่ยวมานั่งรอบนถพอสมควร แต่ก็ไม่มากจนแออัดค่ะ เนื่องจากเป็นวันธรรมดา
นั่งรอบนรถเมลล์ไม่นาน รถเมลล์โดยสารก็มาส่งตรงแยกวัดเบญจมพิตรค่ะ
ใหนๆแวะมางานทั้งที ไม่ได้แวะวัดนี้เสียนาน ได้แต่ขับรถผ่าน
ขอมาไหว้พระกราบกรานที่วัดนี้สักหน่อยค่ะ
วัดเบญจมบพิตร
เดินเข้ามาในวัดเบญจมบพิตร ก็คราคร่ำเป็นด้วยนักท่องเที่ยวจากกรุ๊ปทัวร์ประเทศจีนค่ะ
เรียกว่าเยอะมากๆนะคะ

 
หลังจากนั้นที่ได้ไปไหว้พระที่วัดเบญจมบพิตรแล้วนะค่ะ ก็เดินผ่านประตูเข้ามาในงาน ต้องพบบัตร ปปช.มาด้วยนะค่ะ เพื่อแสดงตัวตนให้เจ้าหน้าที่ดูค่ะ


โดยที่ด่านตรวจจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการแต่งกายว่าสุภาพใหม๊ มีบางคนแต่ตัวไม่ถูกต้องเข้ามาในงานก็จะถูกสกัดกั้นไม่ให้เค้าไป พร้อแนะนำให้แต่งกายให้สุภาพด้วยค่ะ  ซึ่งถ้าจะให้ดี แนะนำแต่ชุดไทยย้อนยุคมาได้ยิ่งดีค่ะเพราะจะเข้ากับบรรยากาศนะค่ะ แม้ในวันนั้นจะเป็นวันธรรมดา เพราะเดี๊ยนเห็นแต่ละคน ใส่ชุดทง ชุดไทยจัดเต็ม อลังการสวยงาม เข้ากันดี๊ดีนะคะ

แต่ด้วยที่เดี๊ยนเองวันที่มาเที่ยวนี้ ก็ไม่ได้ใส่ชุดไทยนะค่ะ เพราะใส่ชุดทำงานมาเที่ยวเลย เพราะเป็นชุดสุภาพเหมือนกัน ใจนึงอยากจะไปเปลี่ยนทรงผม ทรงเผ่า แต่งหน้า แต่งเน่าให้ดูดีสักหน่อย แต่ก็เกรงจะเสียเพลาเอาค่ะ เพราะถ้าเดี๊ยนแต่งที เกรงจะอลังการสะท้านโลกา จนเป็นที่หน้าจับตามองจนเกินไปจ้า5555

 
แผ่นพับแสดงรายละเอียด งานอุ่นไอรักคลายความหนาว
หลังจากที่เดินผ่านซุ้มประตูตรวจสอบแล้ว
เดินเข้ามาในงานก็มาหยิบแผ่นพับแผนที่รายละเอียดในงานว่ามีอะไรบ้าง
งานอุ่นไอรักคลายความหนาว มาเดินงานคลายความหนาว จนร้อนเลยค่ะ เพราะแสงแดดท่อสาดส่อง ร้อนแรงยิ่งนัก

เดินมามุมแรก เป็นมุมมหาชนค่ะ ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันตลอดเลยค่ะ 
มาถึงต้องถ่ายมุมนี้นะค่ะ เพื่อให้รู้ว่ามางานอุ่นไอรักแล้วนะ อะไรประมาณฉะนี้แหละ
และเมื่อเดินเข้ามาด้านใน ก็จะพบกับความสวยงาม อลังการของเรือสุพรรณหงษ์จำลอง ซึ่งตั้งโดดเด่นตระหง่านเป็นศูนย์กลางของมวลมหาประชาชน ที่แต่งชุดไทยรอเข้าซีนถ่ายรูปสวยๆคู่กับเรือจำลองนี้

ดูสวยสดงดงาม ประดับประดับไปด้วยบุผชาติหลากสีสัน งดงามดุจอำพัน ดั่งสวรรค์ชั้นฟ้ามาลาดินจริงๆ แม้อากาศจะร้อนรุ่มเร้า แต่ก็ไม่เศร้าเหงาหงอย เพราะแต่ละคนที่มา ก็แต่งชุดไทยย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 สวยงามระย้าจับใจยิ่งนัก


สาระน่ารู้เกี่ยวกับงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว

เป็นการจัดนิทรรรศการราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงมีคุณูปการต่อแผ่นดินไทยและประชาชนชาวไทยทั้งมวล ตลอดจนนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงงานมาตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองราชย์ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม

ภายในงานพบกับการแสดงที่หลากหลายจากหน่วยงานต่างๆและชุมชนท้องถิ่นจากทั่วประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่มาก็ได้ร่วมย้อน วันวานรำลึกความหลังชมหนังกลางแปลงชื่อดังในอดีตด้วย

 เข้ามาด้านในงานสิ่งแรกที่ดิฉันเข้ามาก็คือ มากราบสักการะพระบรมรูปทรงม้า ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ก่อนเลยค่ะ โดยมีเจ้าหน้าที่จัดเครื่องดอกไม้สดและธูปเทียนไว้ให้ฟรี เพื่อนำไปไหว้ค่ะ
ลานพระบรมรูปทรงม้า ในงานอุ่นไอรักคลายความหนาว
บรรยากาศในงานก็สุดแสนจะชิล เพราะไม่ได้วุ่นวายมากนักค่ะ เห็นเพื่อนของเดี๊ยนนางบอกว่า ถ้ามาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงตอนค่ำ คนจะเยอะมาก ถ้าให้ดีมาช่วงเวลาบ่ายๆเนี่ยแหละค่ะ กำลังดี แม้อากาศจะร้อนหน่อย แต่ก็ดีกว่าไปเดินเบียดเสียดกันนะค่ะ
 ภายในงานก็โดดเด่นไปด้วยดอกไม้และมวลพฤกษานาพรรณที่จัดตกแต่งเรียงรายกันอย่างสวยงามอร่ามจับตา แม้แดดจะแรง แต่ดอกไม้ที่นำมาจัดก็สู้แดดได้เป็นอย่างดี เปล่งแสงสี ชูช่อกิ่งก้านใบ พริ้วไสวสวยเด่น

ลานพระบรมรูปทรงม้า ในงานอุ่นไอรักคลายความหนาว
ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยรอบก็ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพรรณ มิรู้ว่ามีดอกอะไรบ้าง
แต่ก็สวยงามเบิกบานตาดีนักแล
มุมต่างก็จะมีนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยถ่ายรูปตามมุมต่างๆค่ะ
 
 ลานพระบรมรูปทรงม้าโดยรอบตกแต่งด้วยไม้ดอก ไม้ประดับ สวยระยับจับจ้วง สู่ดั่งดวงหฤทัย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน พร้อมด้วยผู้คนที่แห่แหนกันเข้ามาในงานอย่างไม่ขาดสาย
 มุมนี้ใครถ่ายรูปสวยๆ มีกล้องดีๆ ต้องไม่พลาดกับฉากน้ำพุสวยเด่นกลางลานพระราชวังดุสิต

หรือจะเดินมาอีกนิดก็มีมุมฉากดอกไม้หลากสีสันจัดตกแต่งเป็นฉากๆ ก็สวยงามกระชากใจไม่เบาทีเดียว
หลังจากที่ได้ชื่นชมหมู่มวลพฤกษาดอกไม้นานาพรรณ ที่จัดแต่งเรียงรายอย่างสวยงามแล้วนะค่ะ
ดิฉันก็แวะไปชมนิทรรศการแสดงหัตถศิลป์ต่อค่ะ
โซนทอผ้าในงานอุ่นไอรักคลายความหนาว 
เดินมาที่โซนนี้เป็นโซนนิทรรศการเกี่ยวกับผ้าทอ ซึ่งจัดโดยแผนกทอผ้าของสถาบันสิริกิติ์ค่ะ
การทอผ้าจก
ที่เห็นในภาพนี้เป็นการทอผ้าจกค่ะ หรือที่รู้จักกันก็คือผ้าตีนจกนั้นค่ะ โดยใช้ขนเม่นที่มีปลายแหลมจกผ้าขึ้นมาตามเส้นด้าย เรียกว่า กว่าจะได้ผ้าจกเต็มผืน ใช้เวลานานเลยล่ะค่ะ เป็นงานละเอียดที่ต้องใช้ทั้งฝีมือและความอดทนจริงค่ะ
การทอผ้าจก

สาระน่ารู้เบื้องต้นเกี่ยวกับผ้าจก (Pha Chok)

ผ้าจกเป็นผ้าหน้าแคบ ทอด้วยฝ้ายหรือไหมด้วยวิธีจก งัดหรือดึงเส้นด้ายเส้นยืนขึ้นด้วยขนเม่น และเพิ่มด้วยเส้นด้ายพุ่งที่มีสีสันหรือลักษณะพิเศษเข้าไป เพื่อสร้างลวดลายหนาหนูเป็นพิเศษ ให้เกิดขึ้นด้านล่างกี่ เป็นการทอและทำให้เกิดลวดลายผ้าไปพร้อมๆกัน

ผ้าซิ่นของผู้หญิงมี 3 ส่วนด้วยกันคือ หัวซิ่น ตัวซิ่น และตีนซิ่น ในส่วนของตีนซิ่นจะมีการตกแต่ง ลวดลายพิเศษด้วยวิธีจก เรียกว่า "ตีนจก" การทอจกต้องใช้ ความประณีตสูง ทำให้ทอได้ช้าและหาผู้สืบทอดได้ยาก สำหรับผ้าจกในเมืองไทยเป็นงานฝีมือของชาวไทยวน จากเชียงแสน ที่อพยพไปตั้งภูมิลำเนาในจังหวัดต่างๆ 7 แหล่งได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ราชบุรี และสระบุรี โดยมีรูปแบบลวดลาย สีสันแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีผ้าจกของกลุ่มวัฒนธรรมอื่นๆ เช่น ผ้าจกไทลื้อ ผ้าจนไทยวน ผ้าจกไทพวน และผ้าจกลาวครั่ง
การทอผ้าลายขิด
ต่อมาก็มาเดินชมการสาธิตการทอผ้าลายขิดค่ะ ซึ่งเป็นผ้าทอที่ต้องใช้ทักษะและความชำนาญไม่แพ้ผ้าแบบอื่นๆค่ะ
การทอผ้าลายขิด
การทอผ้าขิดคืออะไร มีสาระน่ารู้มาให้ทุกคนอ่านค่ะ

ขิดเป็นภาษาอีสานหมายถึง สะกิด งัด ช้อน ผ้าขิด จึงเป็นการเรียกชื่อผ้าตามกระบวนการทอ คือ ผู้ทอจะต้องใช้ไม้เก็บขิด สะกิดช้อนเครือเส้นยืนตามลวดลายผ้าที่ต้องการ แล้วสอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไปตลอดแนว ลวดลายที่ทอจะได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น เช่น ลายแมงงอด ลายอึ่ง ลายหอปราสาท ลายกาบ เป็นต้น การทอผ้าขิดเป็นภูมิปัญญาของกลุ่มชาวภูไทและไทลาว อื่นๆในภาคอีสานตอนบน จนถึงกลุ่มไทยกูยหรือส่วนในบริเวณภาคอีสานตอนล่าง ผลิตเป็นหมอนลายขิด ขิดหัวซิ่น ขิดตีนซิ่น สไบลายขิด รวมถึงผ้าขาวม้าไหมเชิงขิด การทอผ้าขิดใช้ทักษะชั้นสูง ช่างทอผ้าขิดต้องมีความชำนาญและความอดทนสูง เพราะเทคนิคซับซ้อนกว่าทอผ้าอื่น



เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯเยือนภาคอีสาน ชาวบ้านได้ทูลเกล้าถวายฯหมอนขิด บ้างนำผ้าทอวางไว้บนหมอนขิดด้วยถือเป็นของสูง เมื่อทอดพระเนตรลวดลายที่ละเอียด งดงามบนหมอนขิด จึงมีพระราชดำริให้ชาวบ้านถอดลายขิดจากหน้าหมอน นำมาทอลายเดียวกันซ้ำๆ ขยายผ้าทอให้หน้ากว้างขึ้น เพื่อประโยชน์ใช้สอยในด้านอื่นๆ ทั้งยังจำหน่ายได้ง่ายขึ้น ผ้าขิดลายซ้ำๆ ที่ทรงแนะนำนั้น ก็มีพื้นเพมาจากลายประเพณีนิยมคือ ลายกาบชบา แต่ผู้ทอมักเรียกว่า "ขิดลายสมเด็จฯ"
การทอผ้าแพรวา
ส่วนที่อยู่ถัดไป ก็เป็นผ้าแพรวาค่ะ
ผ้าสีสันสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษ์ และใช้ทักษะในการประณีตทอค่อนข้างสูง
การทอผ้าแพรวา
การทอผ้าแพรวา
การทอผ้าลายไทยโบราณ
 ส่วนต่อมาก็เป็นการทอผ้าลายไทยโบราณ
ซึ่งทางผู้ทอบอกว่าเป็นผ้าที่ทอขึ้นมาเป็นพิเศษ ผ้าหน้ากว้าง
มีความสวยงาม ลวดลายสวยงามโดดเด่นมีลักษณะเฉพาะ
การทอผ้าลายไทยโบราณ ลายกุตั๋น
 อย่างที่เห็นในภาพนี้เป็นผ้าทอโบราณ ลายกุตั๋น
ทหารที่ดูแลความเรียบร้อยภายในงาน ก็แต่งตัวเป็นทหารย้อนยุค ดูกิ๊บเก๋และเทห์ไม่น้อยทีเดียวค่ะ
 เดินมาอีกมุมก็เป็นโซนพระราชกรณียกิจด้านศาสนา
งานอุ่นไอรักคลายความหนาว (คลายหนาว จนร้อนเลย)
มองไปที่เวิ้งข้างหน้าก็เป็นลานจัดแสดงดอกไม้ค่ะ
การทอผ้ามัดหมี่
 ยังไม่จบเรื่องการทอผ้านะค่ะ เดินชมโซนพระราชกรณียกิจก็เป็นโซนแสดงการทอผ้ามัดหมี่ ผ้าไหมสีสวยงาม ลายเอกลักษณ์โดดเด่น ที่ใครเห็นเป็นต้องชอบ โดยเฉพาะสาวๆ แม่ๆ และคุณป้าคุณยาย คุณย่า

ในภาพเป็นกาสาธิตกระบวนการทำผ้ามัดหมี่ให้ดูค่ะ
 ผ้ามัดหมี่เป็นผ้าที่ทำจากเส้นไหม

สาระน่ารู้เกี่ยวกับผ้ามัดหมี่ 

ผ้ามัดหมี่ เป็นกาทอผ้าที่การสร้างลวดลายก่อนจะย้อมสี โดยนำเชือกมามัดด้ายหรือไหมเป็นเปลาะๆ ตามลวดลายที่ออกแบบไว้ ทำได้ทั้งเส้นแนวยืน และเส้นแนวแนวหรือเส้นพุ่ง จุดเด่นคือ ผ้าแต่ละผืนมีลายที่ไม่ซ้ำกันเลย ลายหมี่ที่นิยมทอส่วนใหญ่เป็นลายดั้งเดิมคือ ลายนาค ลายแข่วเลื่อย (ลายฟันเลื่อย) ลายสร้อยดอกหมาก ลายขอขนาดต่างๆ ผ้าไหมมัดหมี่นิยมทอกันในกลุ่มไทลาวในภาคอีสาน อาจจะมีแบบอย่างมาจากอินเดีย ผ่านมาทางอินโดนีเซีย และกันพูชา สำหรับผ้าไหมมัดหมี่ลายโบราณที่สืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน เช่น ผ้าโฮลและผ้าอัมปรมของกลุ่มคนไทยเชื้อสายเขมรในจังหวัดสุรินทร์ ผ้ามัดหมี่ตีนแดงหรือซิ่นตีนแดง ของชาวอำเภอพุทไธสงและอำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ผ้าไหมมัดหมี่ลายสร้อยดอกหมาก ของจังหวัดมหาสารคาม  และผ้าลายคั่นขอนารี ของจังหวัดชัยภูมิ เป็นต้น
การทอผ้ามัดหมี่
 ผ้าหมี่ที่อยู่ในกี่ทอผ้า กำลังทออยู่ค่ะ
การทอผ้ามัดหมี่
คุณพี่ที่เป็นคนทอนำด้ายไหมที่ผ่านกระบวนการย้อมสีแล้วนำมาแสดงให้ดูค่ะ โดยเวลาทอจะต้องมีความชำนาญในการวางลายให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ลวดลายที่ออกมาตามต้องการ
 และเดินมาอีกมุมก็เป็นงานหัตถศิลป์ด้านการจักสาน เป็นอีกหนึ่งห้ตศิลป์ของประเทศไทยที่สืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน
 ที่เห็นในภาพ ที่คุณพี่เสื้อส้มทำอยู่นั้น เป็นการสาธิตการสายไม้ไผ่ลายขิดค่ะ

ส่วนที่เป็นคุณพี่เสื้อม่วงนั้น สาธิตการจักสานย่านลิเภาค่ะ
 เดินมาอีกมุมก็เป็นการปักผ้าที่ต้องใช้ทักษะและความประณีตสูงทีเดียวค่ะ เพราะใช้จำนวนคนปักผ้าถึง 3 คนเลย
การปักดิ้นทองก็เป็นอีกงานที่ต้องใช้ความประณีตและอดทนสูงเช่นกันค่ะ
 และเดินมาอีกโซนถัดๆกันที่เห็นพี่ๆทั้งสองคนกำลังตอกอยู่นี้คือ การทำงานคร่ำค่ะ

คร่ำคืออะไร ดิฉันเองก็พึ่งเคยเห็น เป็นอีกงานที่ใช้ความประณีตและความละเอียดสูงมาก เรียกว่าต้องเป็นคนใจเย็นจริงๆกระมังค่ะ คนใจร้อนทำไม่ได้นะค่ะเนี่ย
งานคร่ำ งานฝีมือที่ต้องใช้ความปราณีตและอดทนสูง

สาระน่ารู้เกี่ยวกับคร่ำ คร่ำคืออะไร???

งานคร่ำคือการประดิษฐลวดลายโดยการฝังเส้นเงินหรือเส้นทาง ลงบนโลหะที่เป็นเหล็ก โดยการทำผิวหน้าของเหล็กให้ขระขระ ด้วยการสับเป็นเส้นตัดกันไปมาในทิศทางต่างๆ สลับกันซึ่งเรียกว่า "สับเหล็ก เมื่อฝังเส้นเงินเส้นทางลงไปตามลวดลายที่ให้อย่างไว้บนเหล็กที่ได้สับแล้ว หนามเหล็กที่เกิดขึ้นจะทำหน้าที่เหมือนหนามเตยยึดเส้นเงินหรือเส้นทองไว้"


การทำค่ำไม่สามารถเตรียมผิวหน้าเหล็กไว้ล่วงหน้าได้นาน เพราะจะทำให้ตอกเส้นเงิน เส้นทองไม่ติด ต้องทำไปสับผิวเหล็กไปทีละคืบ ทั้งเหงื่อของผู้ทำต้องไม่เค็ม เพราะเนื้อเหล็กจะเกิดปฎิกิริยาทำให้ตอกเส้นเงินเส้นทองไม่ติด

ครั้งหนี่งงานคร่ำเกือบจะสูญไปจากประเทศไทย จนกระทั้งพุทธศักราช  2521 อาจารย์สมาน ไชยกุสุมาร ได้ถวายวิชาคร่ำซึ่งเรียนรู้จากบิดา แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเล็งเห็นคุณค่าและทรงเกรงว่าหัตถศิลป์นี้จะสูญหาย จึงทรงพระกรุณาโปรดกระหม่อมให้อนุรักษ์และฟื้นฟูวิชาการทำคร่ำมิให้สูญหายไปจากแผ่นดินไทย
งานคร่ำ งานฝีมือที่ต้องใช้ความปราณีตและอดทนสูง
งานคร่ำที่ทำเสร็จแล้ว สวยงานประณีตวิจิตรบรรจงยิ่งนักค่ะ
หากได้ซื้อไปเป็นของฝากแก่ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือคนต่างบ้าน ต่างเมือง ก็คงจะชอบอก ชอบใจมิชอบน้อย เพราะงามหยดย้อยดุจเสี้ยวพระจันทร์ ดั่งสวรรค์ชั้นฟ้ามาลาดิน เริ่ดสะแมนแตนจริงๆจ้า
 เดินมาอีกโซนก็เป็นการแสดงวิธีการทำตุ๊กตาชาววัง น่ารักมากๆค่ะ ดูมีชีวิตชีวามาก
โดยตุ๊กตาชาววังนี้ เป็นงานของศูนย์ศิลปาชีพบางไทรค่ะ
ตุ๊กตาแต่ละตัวมีการแต่งตัว ใส่เสื้อผ้า หน้าต่างดูมีชีวิต น่ารักฟรุ้งฟริ้งมากๆค่ะ
 นอกจากนี้ยังปั้นตุ๊กตาเป็นภาพนูนต่ำ แสดงวิถีชีวิตของชาวไทยในอดีตอีกด้วย เช่นทำเป็น รูปเณรน้อยออกมาบิณฑบาตร น่ารักมากๆ
 ทั้งนี้ภายในงานก็มีมุมถ่ายรูปสามมิติให้ได้ถ่ายภาพสวยๆกันอีกด้วยค่ะ
โดยแต่ละมุมก็จะมีภาพถ่ายแสดงราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าหัวให้ได้ชมกันอีกด้วย
ภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์
ภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์
การทำเครื่องดอกไม้สด
 ดิฉันเดินข้ามมาอีกโซน เป็นโซนจัดแสดงการทำเครื่องดอกไม้สด การร้อยพวงมาลัย ร้อยอุบะต่างๆ ก็สวยสดงดงามยิ่งนัก
การทำเครื่องดอกไม้สด
การทำ ขนมเกสรลำเจียก
 และถัดมา พลาดไม่ได้เลยเมื่อเข้ามาในงานย้อนยุคแบบนี้ ก็คือขนมของหวาน หาทานยาก ที่เป็นของหวานจากตำหรับในวังหลวง และมีสาธิตให้ดูและจำหน่ายในงานนี้เท่านั้น โดยคนทำขนมก็มาจากโรงเรียนในวังหญิงค่ะ

ขนมที่เห็นในภาพนี้เป็นการทำขนมเกสรลำเจียกค่ะ มีจำหน่ายด้วยนะค่ะ แต่ต้องลงชื่อ รอคิวไว้เลยนะค่ะ เพราะคิวยาวมากๆจ้า
ขนมเกสรลำเจียก
ขนมเกสรลำเจียกค่ะ ขายในงายชุดละ 50 บาท
ดูไปคล้ายโรตีสายไหมนะค่ะ แต่ไม่ใช่ค่ะ ใส้ด้านในเป็นมะพร้าวอ่อนมีรสชาติหวานหอมกำลังดี อร่อยมากๆค่ะ
ล่าเตียง
 ถัดมาก็เปนขนมล่าเตียงค่ะ ตอนนี้น้องที่ทำขนมนั้น กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ งดทำซักแป๊บค่ะ
แต่ถ้าใครอยากทาน ก็ต้องลงชื่อไว้นะค่ะ คิวยาวอีกเหมือนกันค่ะ
ล่าเตียง
ล่าเตียง อาหารว่างในรั้วในวังอีกชนิดที่หาทานได้ยากนัก
เพราะดูภาพแล้ว น่าจะละเมียดละมัยทำพอสมควรค่ะ
ขนมเรไร
 และขนมต่อมาก็คือ ขนมเรไรค่ะ
ขนมเรไร
ขนมไทยรสชาติอร่อยหอมหวาน ทานคู่กับน้ำตาลคั่วงาขาวและมะพร้าวทึนทึก อร่อยดีค่ะ
ขนมดอกอัญชัน
 เดินถัดมาอยู่ใกล้ๆก็เป็นขนมดอกอัญชัน สีสันน่าทานมากๆ
ขนมแต่ละอย่างเห็นจะไม่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปกระมังค่ะ เพราะดูสีสันสวยงาม และวิธีการทำก็ละเมียดละมัย บรรจิตบรรจงแต่งอย่างสวยงามเชียว
ขนมดอกอัญชัน สีม่วง คล้ายๆขนมน้ำดอกไม้นะค่ะ แต่มีไข่ปลาที่ทำจากไข่แดงของเป็ดโรยหน้ากับมะพร้าว
คางคาวเผือก
และของคาวหวานในรั้วในวังอีกอย่างที่หาทานได้ยาก ไม่ค่อยมีขายตามท้องตลาดทั่วไปก็คือ ค้างคาวเผือกค่ะ
คางคาวเผือก
คางคาวเผือกกำลังถูกเสกสรรปั้นแต่งเป็นรูป เพื่อนำไปทอดค่ะ
ใครอยากทานก็ ลงชื่อไว้ รอคิวอีกเหมือนเดิมนะค่ะ เนี่ยขนาดเดี๊ยนมาในช่วงวันธรรมดาไม่มีนักท่องเที่ยวนะค่ะ คิวยังยาวเฟื่อยเลย ถ้ามาช่วงเย็นหรือวันหยุด มีหวังไม่ได้กินแน่นอนค่ะ
แลนด์มาร์คสำคัญภายในงาน เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์แบบจำลอง
 และหลังจากที่ได้ลงคิวรอขนมไว้แล้วนะค่ะ
ดิฉันก็เดินมายังสนามเสือป่า ซึ่งภายในสนามแห่งนี้ มีการออกร้านขายของฝากและของที่ระลึก รวมทั้งของกิน นอกจากนี้ยังมีการสอยดาว ต้นกัลปพฤกษ์เพือการกุศลอีกด้วยค่ะ
เดินมาในสนามเสือป่า ก็มาพบกับทหารหนุ่มหล่อประจำงานนี้หลายนาน กำลังเดินแถวเรียงราย แยกย้ายสลายตัวไปตามประจำตำแหน่งต่างๆ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในงานค่ะ
 ภายในสนามเสือป่าก็มีการออกร้านของหน่วยงานต่างๆ มีโซนขายอาหารคาวหวานและของฝากของที่ระลึกให้เลือกซื้อมากมายค่ะ
 ภายในงานยังมีมุมถ่ายรูปย้อนยุคแบบไทยให้แวะชะแว๊ปปิ้งๆ ถ่ายรูปฟรุ้งฟรุ้งกันด้วยนะค่ะ
 บ้านไม้เรือนไทยแบบโบราณก็เข้ากับบรรยากาศค่ะ
ร้านขายขนมดังๆก็มาออกร้านในงานนี้ด้วยนะค่ะ
และคนขายก็แต่งกายงดงาม เข้ากับบรรยากาศค่ะ
 และที่ไม่ขาดไม่ได้เมื่อมางานนี้ ต้องมาซื้อบัตรเพื่อไปสอยสลากต้นกัลปพฤกษ์ ล้นรางวัลกันค่ะ
โดยฉลากอยู่ที่ใบละ 25 บาทค่ะ
บัตรกัลปพฤกษ์ รางวัลที่ 1 เป็นรถมอเตอร์ไซต์ค่ะ นอกจากนั้ยังมีรางวัลอื่นๆมากมายค่ะ
 บัตรกัลปพฤกษ์ซื้อมาแล้ว หนึ่งใบค่ะ ได้บัตรมาแล้วก็นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ด้านในต้นกัลปพฤกษ์ เพื่อทำการสอยสลาก
 เข้าไปสอยสลากด้านในค่ะ ลุ้นขอให้ได้รางวัลที่ 1 ด้วยเถิด
ดูแต่ละคนที่เข้าไปสอยสลากมา ก็ลุ้นกันใหญ่เลยค่ะ 
รางวัลปลอบใจ งานอุ่นไอรัก
 และแล้วแกะออกมา รางวัลที่ได้ก็เป็นรางวัลปลอบใจค่ะ
ไม่เป็นไร ได้ปลอบใจก็ดีแล้ว เพราะถ้าได้รางวัลที่ 1 ก็จะได้มอเตอร์ไซต์ไปขับที่บ้านอีก 1 คันค่ะ
จับสลากแล้วได้ รางวัลปลอบใจ ในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว คลายจนร้อนเลย
 โดยรางวัลปลอบใจได้เป็นชุดน้ำดื่มเย็น 1 ชุดค่ะ มีน้ำเก๊กฮวย กับน้ำส้มฟรุ้งฟริ้ง
สลากการกุศลงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว คลายจนร้อนเลย
 และนอกจากนี้ เดี๊ยนได้ได้ซื้อบัตรสลากการกุศลเพื่อลุ้นรางวัลใหญ่ด้วยค่ะ
อยู่ที่ใบละ 129 บาท โดยรายได้เป็นพระราชกุศล ไม่ถูกรางวัลไม่เป็นไร ขอให้ได้ทำบุญก็ดีใจแล้วค่ะ
บรรยากาศภายในงาน ก็ดูใหญ่โตโอฬาร กว้างขวางดีค่ะ แต่แดดร้อนไปหน่อยค่ะ
เดี๊ยนเดินตากแดดจนหน้าดำ คลำเป็นสาวเอเชียอาคเนย์ไปเลยค่ะ
ย้อนยุคกับ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
 เดินมาในสนามเสือป่า ก็มุมถ่ายรูปสวยงามแบบกิ๊บเก๋ยูเรก้า ย้อนยุคอยู่หลายมุมเลยนะค่ะ
น่าจะถูกใจคนชอบถ่ายรูปไม่น้อยทีเดียว
ย้อนยุคกับ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
 อย่างเช่นที่มุมของโซน ททท. ที่นำเอาภาพบรรยากาศแบบเก่าๆแบบย้อนยุคมาให้ชม
ก็สวยสมนึกย้อนวันวานไปสมัยครั้งก่อนจัง
ย้อนยุคกับ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
ย้อนยุคกับ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
ยิ่งพอตกช่วงบ่ายแก่ๆเท่าใหร่ นักท่องเที่ยวก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ แม้อากาศจะร้อนรุ่มเร่า ดั่งไฟเผาทรวง  แต่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทีเดินทางเข้ามาก็ไม่น้อยลงเลยแม้น้อย เพราะแต่ละคนก็จัดชุดเต็ม ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม สวยงามเริ่ดๆเชิ่ดกันเว่อร์วังสุดๆจ้า เพราะไม่รู้ว่าจะมีงานแบบนี้อีกเมื่อไหร่นะค่ะ
โดยรอบของสนามเสือป่าก็มีการออกร้านของหน่วยงานต่างๆ ให้ได้แวะเข้าไปชมและเลือกซื้อเลือกหาของฝากของที่ระลึกกันค่ะ
 นอกจากนี้แล้วยังมีสตูดิโอถ่ายภาพที่ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยค่ะ
เนื่องจากแต่ละคนที่แต่งชุดไทยย้อนยุคมา ก็คงอยากได้ภาพสวยๆก็คงอยากได้ภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกไม่น้อย ในงานก็มีบริการด้วยเช่นกันค่ะ ไม่รู้ราคาเท่าไหร่นะค่ะ
 อีกโซนที่ไม่พลาด เกือบลืมเดินมาชมเลยค่ะ ก็คือการแสดงของหน่วยงาน กระทรวงต่างๆในสมัยอดีต
แบงค์สยามกัมมาจล หจก. Siam Commercial Bank
 อย่างเช่นมุมนี้เป็นมุมของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแบงค์สยามกัมมาจล ซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรกของประเทศไทยค่ะ
แบงค์สยามกัมมาจล หจก. Siam Commercial Bank
 โดยด้านในก็เป็นนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมา ได้ยกเครื่องไม้ และเครื่องมือของการจัดทำบัญชีสมัยนั้นมาไว้ให้ชมด้วย ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อมๆที่เข้ามาเรียนรู้และถ่ายรูปได้ด้วย
แบงค์สยามกัมมาจล หจก. Siam Commercial Bank
เครื่องพิมพ์ดีดภาษาอังกฤษในสมัยอดีต ในในแบงค์สยามกัมมาจล หจก. Siam Commercial Bank
เครื่องพิมพ์ดีดในสมัยอดีต ก็นำมาจัดแสดงให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ เพราะสมัยนี้ คนไม่นิยมใช้พิมพ์ดีดแล้ว ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสะหมอกทันสมัยมากขึ้น คนก็มาใช้คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค และโทรศัพท์มือถือกันหมดแล้วค่ะ 
 ยามบ่ายแก่ๆ แดดร้อนๆ สีสะท้อนของดอกไม้ก็ยังสดใส ไสวแพรวพราว สวยสกาวโดดเด่น เห็นแล้วชื่นบาน ร้าวรานใจยิ่งนัก
 หลังจากที่ได้แวะไปเดินช๊อปปิ้ง สวิงกิ้ง ย่านสนามเสือป่าอยู่นานเป็นชั่วโมง
เดี๊ยนก็เดินกลับมาเอาขนมไทยหาทานยากที่ได้สั่งไว้แล้ว เพื่อนำไปฝากคนที่บ้าน หลายหอเลยค่ะ
เอาไปให้คุณแม่ทานดู เผื่อว่าแกจะอยากทำขนมในรั้วในวังให้ทานบ้าง
(คุณแม่บอกว่าชอบล่าเตียงที่สุด เพราะว่าไม่ทานเปล่าค่ะ เอาไปทานกับข้าวต้มร้อน อร่อยดีค่ะ )
 หลังจากที่ได้เดินซัดเซพเพนจร ออนซอนอยู่ในงานอุ่นไอรัก ได้เวลาที่ต้องเดินทางกลับแล้วค่ะ เพราะถ้าไม่รีบกลับ มีหวังหมดตังเยอะเลยค่ะ เพราะสินค้าแต่ละอย่างก็น่าซื้อ อาหารของกินก็น่าทานมากๆ
เดินทางมาขึ้นรถเมลล์ที่จุดเดิม ตรงแยกวัดเบญจมบพิตร รถเมล์ไปส่งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
หลังจากนั้นดิฉันก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ จบทริปเที่ยวงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว คลายควาหนาวจริงๆ คลายจนร้อนเลยค่ะ

ขอบพระคุณเพื่อนๆพี่ๆและน้องทุกๆท่านที่เข้ามาคลิ๊ก สไลด์ดูภาพกันนะค่ะ หากภาพไม่สวย หรือข้อมูลไม่ถูกต้องประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยคุณผู้อ่านทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ ขอบพระคุณค่ะ...
จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
บล็อกเกอร์สมัครเล่น
-------------------------------------------------
รวมบทความบล็อกเที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง มีดังนี้ค่ะ(จะทยอยอัพเดทเรื่อยๆ เว็ปบล็อกจะได้ไม่ร้างไปค่ะ)
รีวิวเที่ยวมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้สุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่บ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย>>
รีวิวพาเที่ยวชมมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้ไทยๆสุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่ๆให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวและที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ไปถ่ายรูปวิวสวยงาม คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
มาเด้อมาเที่ยวเมืองขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ขับรถไปถ่ายรูปชมวิวต่างๆ มีที่ใหนเช็คอินบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถขับตะลอนไปชมสถานที่ต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถออนซอน ตะลอนไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเดินชมตามที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไปเช้า-เย็นกลับ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวหนองคาย เมืองนี้มีอะไรมากมายให้ชมจริงๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>>
มาเด้อมารีวิวเที่ยวหนองคาย 3 วัน 2 คืน ไปชื่นชม ภิรมย์ใจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>

รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองอินสบรูค 2 วัน 1 คืน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวอินส์บรูค 2 วัน 1 คืน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวเดินทางไปชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิววิธีการเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝากใน 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>>
พารีวิวเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ เดินชมในนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้ คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวค่ะ>>>
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวเที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวเมืองปราจีนบุรี ต้องไปฉิมพลีกันสักครั้งครา คลิ๊กดูรีวิว>>
เก็บตก แวะเที่ยวเมืองปราจีนบุรี เมืองที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีอะไรให้ยลตระการ ชื่นบานอุราอยู่ไม่น้อย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
เที่ยวนครนายกไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวไปทั่วได้ด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิว>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวนครนายก ไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวไปทั่วได้ใน 1 วันแบบชิลๆ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
รีวิวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม เมืองน่ารักที่ไม่เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูสถานที่ท่องเที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม(Ulm) เมืองน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีสถานที่ให้ยลตระการอยู่ไม่น้อย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวพาไปชมเมืองสตุทการ์ท มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปกันเลย>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองสตุทการ์ท มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวจ้า>>>
แบกเป้ท่องโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวกรุงเฮก มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า>>
ท่องโลกกว้าง เดินทางไกลไปเที่ยวในกรุงเฮก(Den haag) ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
แบกเป้รีวิวพาเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองนี้มีอะไรให้ดื่มด่ำฤทัยบ้าง ตามไปดูกันสิ>>
รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม ชื่นฉ่ำฤทัยใน 1 วัน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปชมกันสิ คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวเลยจ้า>>>
รีวิวเที่ยวเมืองพัทลุง ชมมนต์ลูกทุ่งแห่งคุ้งน้ำทะเลน้อย แวะไปสอยเที่ยวชมกันเลย>>
มาม๊ะ..มาเที่ยวเมืองพัทลุง ชมมนต์ลูกทุ่งแห่งคุ้งน้ำทะเลน้อย งามหยดย้อยธรรมชาติ ไม่พลาดมาทัศนาจรสักครั้ง ถ่ายรูปปังแน่นอน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>

มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 3 มาม๊ะ..มาเที่ยวสุรินทร์ ไม่ต้องกินสุรา แวะไปดูช้าง ดูชาวบ้านทอผ้า สวยระย้านาข้าวหอมมะลิ กำลังผลิบาน ร้าวรานจับใจ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น