|
จัดโปรแกรมเยือนเมืองที่อยู่ใต้สุดของไทยในช่วงวันหยุดนี้ ไปเที่ยวที่่ใหนดี วันนี้คุณนายเว่อร เธอเป็นคนบ้า ขอมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในอำเภอเบตง ทั้งที่เที่ยวเก่าและแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ มาแรง ที่ต้องไปเช็คอินถ่ายรูปสวยๆกันให้ได้ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า |
มาเอาใจเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเมืองเบตง อีกหนึ่งเมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนรักการเดินทาง ต้องปักหมุดไปยลตระการกรันสักครั้ง เนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้สุดของประเทศไทย และถูกขนานนามให้เป็นเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วบภูเขาใหญ่น้อย มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน อีกทั้งมีธรรมชาติที่งดงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้เขียวขจี มีน้ำตกสวย รุ่มรุ่มด้วยอากาศเย็นสบาย ทำให้มีทะเลหมอกให้ชมกันตลอดทั้งปี
และหากเพื่อนๆคนใหนที่ จะแบกเป้มาเที่ยวอำเภอเบตง จัดทริปมากับครอบครัว หรือว่าแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวคนเดียว อยากจะเช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวในเบตง ชมดงทะเลหมอกสวยๆ แต่ยังไม่รู้ว่าในอำเภอเบตง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอะไรให้แวะไปถ่ายรูปเช็คอินสวยๆบ้าง เพื่อไม่ให้บทความร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาอัพเดทแนะนำแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอเบตง และที่เที่ยวเปิดใหม่มาให้เพื่อนๆได้ตามไปถ่ายรูปสวยๆกัน ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ปักหมุดไปเที่ยวกันเลยจ้า
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอเบตงปี 2023 (2566) ต้องไปเช็คอินถ่ายรูปกันให้ได้ มีที่ใหนบ้าง
|
1.แวะเช็คอินถ่ายรูปหอนาฬิกาเมืองเบตง จัดเป็นสิ่งก่อสร้างคู่เมืองเบตงมาอย่างยาวนาน มีเรื่องเล่าว่าหากท่านโดนมูลของนกนางแอ่น หรือว่าขี้นกนางแอ่นตกใส่ในบริเวณนี้เข้าไม่นาน คนผู้นั้นจะต้องกลับมาเยือนเมืองเบตงอีกแน่นอน |
|
1.ก่อนเข้าไปโรงแรม ก็แวะเช็คอินถ่ายรูปหอนาฬิกาเมืองเบตง จัดเป็นสิ่งก่อสร้างคู่เมืองเบตงมาอย่างยาวนาน |
ซึ่งบริเวณท่ารถตู้ ก็อยู่ใกล้ๆกับหอนาฬิกาเลยค่ะ และโรงแรมที่เดี๊ยนจองไว้ก็อยู่ในตัวเมืองไม่ไกลจากวงเวียนหอนาฬิกาด้วย โดยบริเวณหอนาฬิกา ถือเป็นจุดเช็คอิน ย่านใจกลางเมือง เป็นจุดรวมพล มีตลาดและร้านอาหารอร่อยๆหลายร้านเลย
1.แวะเช็คอินถ่ายรูปหอนาฬิกาเมืองเบตง จัดเป็นสิ่งก่อสร้างคู่เมืองเบตงมาอย่างยาวนาน เป็นที่รู้่จักของนักท่องเที่ยว โดยสร้างด้วยหินอ่อนจากจังหวัดยะลา เสน่ห์ที่คู่หอนาฬิกาคือจะนกนางแอ่นนับพันตัวที่เกาะสายไฟบริเวณหอนาฬิกา ซึ่งมีจำนวนมากช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคม เพราะนกนางแอ่นเหล่านี้บินหนีความหนาวเย็นมาจากไซบีเรีย เพื่อมาอิงแอบพักอาศัยที่เมืองเบตง แม้จะดูแปลกตาแต่ก็มีความน่ารัก และเป็นความพิเศษอีกรูปแบบหนึ่งของเมืองเบตงที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง มีเรื่องเล่าว่าหากท่านโดนมูลของนกนางแอ่น หรือว่าขี้นกนางแอ่นตกใส่ในบริเวณนี้เข้าไม่นาน คนผู้นั้นจะต้องกลับมาเยือนเมืองเบตงอีกแน่นอน
|
2.ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในอำเภอเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 อายุร่วม 80 ปี ในอดีตการเดินทางและการติดต่อสื่อสารระหว่างอำเภอเบตงกับอำเภออื่น ๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก การติดต่อสื่อสารด้วยจดหมาย จึงสะดวกที่สุด |
|
2.ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในอำเภอเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 |
|
2.ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในอำเภอเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 อายุร่วม 80 ปี |
และใกล้ๆกับวงเวียนหอนาฬิกา ก็จะมีตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่ด้วย ซึ่งกลายเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปชื่อดัง ที่ต้องมาถ่ายรูปคู่ป้ายไปรษณีย์แห่งนี้กัน
2.ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศในอำเภอเบตง ตั้งอยู่หัวมุมถนนสุขยางค์ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ลักษณะของตู้เป็นรูปทรงกลม และคอนกรีตเสริมเหล็ก มีเส้นรอบวงของตัวตู้ประมาณ 140 ซม. มีความสูงถึง 290 ซม. นับจากฐานขึ้นไป รวมความสูงทั้งหมดประมาณ 320 ซม อายุร่วม 80 ปี ในอดีตการเดินทางและการติดต่อสื่อสารระหว่างอำเภอเบตงกับอำเภออื่น ๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก การติดต่อสื่อสารด้วยจดหมาย จึงสะดวกที่สุด โดยนายสงวน จิระจินดา นายกเทศมนตรีอำเภอเบตงในขณะนั้นเคยเป็นนายไปรษณีย์มาก่อน จึงได้จัดสร้างตู้ไปรษณีย์นี้ไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์การติดต่อสื่อสารของอำเภอเบตง และยังได้ติดตั้งวิทยุกระจายเสียงไว้ในส่วนบนของตู้ จนปัจจุบันตู้ไปรษณีย์เก่าแก่ตู้นี้ ได้กลายเป็นกิมมิค ที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปด้วย
|
3.เช่ารถมอเตอร์ไซต์ ออกจากอำเภอเบตงระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร มาเที่ยวชมบ่อน้ำร้อนเบตง แหล่งอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น ที่มีชื่อเสียงของเมืองใต้สุดแดนสยามแห่งนี้ |
|
3.มาเที่ยวชมบ่อน้ำร้อนเบตง แหล่งอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น ที่มีชื่อเสียงของเมืองใต้สุดแดนสยามแห่งนี้ |
|
แช่ใข่ในบ่อน้ำร้อนเบตง |
|
3. บ่อน้ำร้อนเบตง ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำแร่ในน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคภัยได้เป็นอย่างดี |
3.เช่ารถมอเตอร์ไซต์ ออกจากอำเภอเบตงระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร มาเที่ยวชมบ่อน้ำร้อนเบตง
แหล่งอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น ที่มีชื่อเสียงของเมืองใต้สุดแดนสยามแห่งนี้ บ่อน้ำร้อนเบตง เดิมเป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ บ่อน้ำพุร้อนจะมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน อุณหภูมิของน้ำประมาณ 80 องศาเซลเซียส สามารถลวกให้ไข่สุกได้ภายใน 7 นาที และมีสระน้ำขนาดใหญ่ไว้กักน้ำจากน้ำพุร้อเพื่อให้ประชาชนและน้ำท่องเที่ยว ได้อาบและแช่เท้าเล่น ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำแร่ในน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคภัยได้เป็นอย่างดี เช่น โรคผิวหนัง โรคปวดเมื่อย โรคเหน็ดชา เป็นต้น
4.พอตกเย็นแล้วก็ขับรถกลับเข้าเมือง แวะถ่ายรูปคู่ป้ายเมือง OK BETONG จุดถ่ายรูปเช็คอินภาพที่ระลึกเพื่อบ่งบอกว่า มาถึงเมืองเบตงแล้วนะจ๊ะ
เดินทางกลับมาเที่ยวต่อในเมืองเบตง
|
5.แวะมาเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายอุโมงโอเคเบตง ชื่อเต็มของอุโมงแห่งนี้คือ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ โดยเป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทย |
|
5.แวะมาเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายอุโมงโอเคเบตง ชื่อเต็มของอุโมงแห่งนี้คือ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ โดยเป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทย |
|
5.แวะมาเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายอุโมงโอเคเบตง ชื่อเต็มของอุโมงแห่งนี้คือ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ โดยเป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทย |
5.แวะมาเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายอุโมงโอเคเบตง อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่มีชื่อเสียงประจำเมืองนี้ โดยชื่อเต็มของอุโมงแห่งนี้คือ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ โดยเป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทย ที่ขุดทอดโค้งให้รถวิ่งไป-มาก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความยาวตลอดอุโมงค์ ประมาณ 273 เมตร เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1มกราคม 2544 โดยนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว สามารถเดินทะลุไปยังปากทางอุโมง สามารถถ่ายรูปกับรูปปั้นไก่เบตงที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งไก่เบตงนอกจากจะเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองเบตงแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของอำเภอเบตงอีกด้วย
|
6.พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง |
|
6.พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง |
|
6.พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง |
6.พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง ตั้งอยู่ใกล้ๆกับอุโมงเบตงมงคลฤทธิ์ โดยพิพิธภัณฑ์เมืองเบตงขึ้นใน พ.ศ.2548 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องเรื่อง และจัดแสดงนิทรรศการต่างๆของคนในพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้รู้จักเบตงมากขึ้น โดยพิพิธภัณฑ์เบตง มี 3 ชั้น โดยส่วนของการจัดแสดงมี 2 ชั้น ซึ่งชั้นล่างเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเก่า เช่น ถ้วยชาม เครื่องเคลือบ ตู้ เตียง ตะเกียงเก่า โดยนำมาจัดแสดงไว้ในตู้ไม้กระจกใส ตั้งอยู่หน้าบันไดทางขึ้น ส่วนชั้นที่ 2 มีการจัดแสดงรูปเก่า ๆ หนังสือพิมพ์ประวัติความเป็นมา โดยแขวนไว้บนฝาผนังของห้อง และมีการติดบอร์ดแสดงแหล่งข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอำเภอเบตง นอกจากนี้ชั้นที่ 3 ยังเป็นหอคอยชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองเบตงทั้งเมืองได้ (เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://www.betongcity.go.th/travel/detail/82)
|
7.จุดเช็คอินถ่ายรูปวิวทิวทัศน์เมืองเบตง |
|
7.จุดเช็คอินถ่ายรูปวิวทิวทัศน์เมืองเบตง |
|
7.จุดเช็คอินถ่ายรูปวิวทิวทัศน์เมืองเบตง |
|
7.จุดเช็คอินถ่ายรูปวิวทิวทัศน์เมืองเบตง |
|
7.จุดเช็คอินถ่ายรูปวิวทิวทัศน์เมืองเบตง |
7.จุดเช็คอินถ่ายรูปวิวทิวทัศน์เมืองเบตง จัดเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองเบตงที่สวยงามที่สุดอีกแห่ง ตั้งอยู่บริเวณลานใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์เมืองเบตงและใกล้สวนสาธารณะ บริเวณโดยรอบสามารถมองเห็นวิวเมืองเบตงได้อย่างสวยงาม เหมาะกับกับถ่ายรูปและนั่งรับลมเย็นๆ เดินเล่นบริเวณสวนสาธารณะและสนามกีฬาเบตง
|
สนามกีฬาโอเคเบตง |
บรรยากาศยามเย็นที่สนามกีฬาโอเคเบตงอยู่ใกล้ๆกัน
และสวนสาธารณะใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์และจุดชมวิวเมือง ก็สามารถเดินออกกำลังกายจากทะลุลอดจากอุโมงขึ้นมาได้เช่นกันค่ะ
|
8.แวะไปเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายใต้สุดแดนสยาม ขับมอเตอร์ไซต์มาถึงเขตพรมแดนที่อยู่ใต้สุดของไทย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจแล้วจริงๆ |
|
8.แวะไปเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายใต้สุดแดนสยาม ขับมอเตอร์ไซต์มาถึงเขตพรมแดนที่อยู่ใต้สุดของไทย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจแล้วจริงๆ |
|
8.แวะไปเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายใต้สุดแดนสยาม มาถึงเขตพรมแดนที่อยู่ใต้สุดของไทยจริงๆ |
|
8.แวะไปเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายใต้สุดแดนสยาม |
|
8.แวะไปเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายใต้สุดแดนสยาม มาถึงเขตพรมแดนที่อยู่ใต้สุดของไทย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนแสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจแล้วจริงๆ |
8.แวะไปเช็คอินถ่ายรูปคู่ป้ายใต้สุดแดนสยาม ขับมอเตอร์ไซต์ออกจากเมืองเบตงไประยะทาง 7 กิโลเมตร โดยตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างอำเภอเบตงกับรัฐเปรัคประเทศมาเลเซีย โดยป้ายสร้างจากหินอ่อน มีการสลักสัญลักษณ์เป็นรูปแผนที่ประเทศไทยและข้อความด้วยสีทองโดดเด่นอยู่ภายในเนื้อหิน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเบตง ก็ไม่พลาดต้องมาถ่ายรูปคู่ป้ายใต้สุดแดนสยามแห่งนี้ เพราะถือว่าเป็นเขตใต้สุดของประเทศไทยแล้ว โดยระทางป้าย มีป้าย Malaya Thailand Boarder เป็นสัญลักษณ์สร้างไว้ด้วย
กลับจากเขตพรมแดนใต้สุดแดนสยามของไทยแล้ว ก็มาหาอะไรทานต่อที่ตลาดเบตง ยามค่ำคืนกันต่อค่ะ
|
วงเวียนหอนาฬิกายามค่ำคืนในเมืองเบตง สวยงามเช่นกัน |
แวะเดินตลาดเล็กๆในเมืองเบตงย่านหอนาฬิกา ซื้อข้าวหมกไก่ไปทานที่โรงแรม และพักผ่อนตามอัธยาศัยหลับไป 1 คืน เพราะต้องรีบตื่นแต่เช้าตรู่ต่อไป
-----------------------------------------------------------------------------
|
เดี๊ยนตื่นแต่ตี 4.30 เพื่อขับมอเตอร์ไซต์จากเมืองเบตง ไปชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใครที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวลุยๆแบบเดี๊ยน ก็เตรียมเสื้อกั้นหนาวมาด้วยนะคะ เพราะอากาศเย็นมาก หมอกก็หนา มือบิดคันเร่งยังสั่นพัฟๆๆเลยค่ะ |
อรุณเบิกฟ้า นกกายังไม่โบยบิน เดี๊ยนตื่นแต่ตี 4.30 เพื่อขับมอเตอร์ไซต์จากเมืองเบตง ไปชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ระยะทาง 35 กิโลเร ที่เที่ยวชื่อดังต้องไปเช็คอินให้ได้
หากจะไปต้องตื่นแต่เช้าเลยค่ะ และใครที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวลุยๆแบบเดี๊ยน ก็เตรียมเสื้อกั้นหนาวมาด้วยนะคะ เพราะอากาศตอนเช้าตรู่นั้นลมเย็นมากๆ มือบิดคันเร่งยังสั่นพัฟๆๆเลยค่ะ อากาศเย็นจริง อีกทั้งหมอกลงถนนหนักด้วย ขับรถราต้องระวัง
ขับมาถึงก็เช้าพอดีค่ะ จะเป็นบริเวณลาดจอด
|
จากนั้นก็ใช้บริการวินมอเตอร์ไซต์ขึ้นไปอีก 30 บาทค่ะ ส่วนขาลงจ่ายแค่ 20 บาท |
จากนั้นก็นั่งวินมอเตอร์ไซต์ขึ้นไป ณ บริเวณอาคารหอคอยสกายวอคอีกนะคะ ค่าวินมอเตอร์ไซต์ตอนขึ้น 30 บาทค่ะ แต่ตอนลง 20 บาทเท่า่นั้น
|
จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวงบนสกายวอล์คที่มีชื่อเสียงโด่งดัง |
มาถึงแล้วจ้า อาคารหอคอยอัยเยอร์เวง จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวงบนสกายวอล์คที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่เที่ยวที่ทำให้เมืองเบตง กลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับช่วงเวลาในการเช้าชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง และมาเดินสกายวอล์คอัยเยอร์เวง แลนด์มาร์กชื่อดังแห่งเบตง แนะนำมาให้ทันเวลา 6.00-7.00 น. ถ้าล่วงเลยเวลาจากนี้ หมอกจะค่อยๆจางไปเรื่อยๆค่ะ
|
ค่าบัตรเข้าไปชมทางเดินสกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง 40 บาท รองเท้า 30 บาท |
ซื้อบัตรขึ้นไปบนทางเดินสกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง 40 บาท และค่ารองเท้าผ้าไว้ใส่หุ้มรองเท้า กันกระจกเป็นรอยอีก 30 บาท รวม 70 บาทค่ะ
|
9.ตื่นแต่เช้าตรู่ ไปเช็คอินถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง แลนด์มาร์กชื่อดังที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอเบตงกลับมาคึกคักอีกครั้ง! |
|
9.ตื่นแต่เช้าตรู่ ไปเช็คอินถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง แลนด์มาร์กชื่อดังที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอเบตงกลับมาคึกคักอีกครั้ง! |
|
9.ถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ทะเลมอกให้ชมทะเลตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าหมอกจะมากหรือน้อย ต้องลุ้นเอาค่ะ |
|
9.ถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ทะเลมอกให้ชมทะเลตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าหมอกจะมากหรือน้อย ต้องลุ้นเอาค่ะ |
|
9.ถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ทะเลมอกให้ชมทะเลตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าหมอกจะมากหรือน้อย ต้องลุ้นเอาค่ะ |
|
9.ตื่นแต่เช้าตรู่ ไปเช็คอินถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง แลนด์มาร์กชื่อดังที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอเบตงกลับมาคึกคักอีกครั้ง! |
|
9.ตื่นแต่เช้าตรู่ ไปเช็คอินถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง แลนด์มาร์กชื่อดังที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอเบตงกลับมาคึกคักอีกครั้ง! |
|
9.ถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ทะเลมอกให้ชมทะเลตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าหมอกจะมากหรือน้อย ต้องลุ้นเอาค่ะ |
9.ตื่นแต่เช้าตรู่ ไปเช็คอินถ่ายรูปทางเดินสกายวอล์ค จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง แลนด์มาร์กชื่อดังที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอเบตงกลับมาคึกคักอีกครั้ง! สำหรับจุดชมวิวทะเลหมอก ตั้งอยู่บนเขาไมโครเวฟ หมู่บ้าน กม. 32 ตำบลอัยเยอร์เวง เป็นพื้นที่ตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ จึงเป็นที่มาของชื่อเขาไมโครเวฟ มีความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 2,038 ฟุต บนยอดเขามีอากาศเย็นสบาย สามารถชมทะเลหมอกได้ทั้งทิศตะวันออกและตะวันตก ตัวอาคารประกอบด้วยพื้นที่ชมวิว 3 ชั้น มีระเบียงทางเดินยื่นออกไปจากฐานของอาคาร ปลายระเบียงเป็นพื้นกระจกใส สามารถมองเห็นด้านล่างได้ชัดเจน เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี และอีกจุดใกล้กัน เป็นจุดชมทะเลหมอกดั้งเดิมของอัยเยอร์เวง อยู่ในบริเวณยอดเขาใกล้เสาสัญญาณ และใกล้กับสกายวอล์กอัยเยอร์เวง เป็นระเบียงชมวิวคอนกรีต มี 2 ชั้น และมีทางเดินเล็ก ๆ ลงไปยังสันเขาโล่งด้านล่าง ซึ่งบริเวณนั้นก็สามารถชมวิวได้สวยเช่นกัน
ส่วนที่มาของ “อัยเยอร์เวง” มาจากชื่อตำบล เดิมทีชื่อตำบลฮาลา แต่ชาวฮาลาได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานมาตั้งในบริเวณที่ราบริมตลิ่งแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีบ้านพักสำหรับผู้เดินทางระหว่างยะลา-เบตง เจ้าของเป็นชาวจีน มีชื่อว่า “เวง” และมีชื่อภาษายาวีว่า “อัยเยอร์” แปลว่าสายน้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อตำบลและชื่อจุดชมวิวอันมีชื่อเสียงแห่งนี้ และก่อนหน้าที่จะมีการสร้างทางเดินสกายวอล์ค ชาวบ้านบอกว่า เดิมทีเขาไมโครเวฟแห่งนี้ก็มีทะเลหมอกมานานแล้ว จนมาถึงยุคสมารไฟน มีนักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปดังกล่าวลงโซเชียลมีเดีย ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปกันมากขึ้น จนทำให้จุดชมวิวทะเลหมอกดังกล่าว กลับมาสร้างชื่อเสียงให้เบตง กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตอีกครั้ง
|
10.ไม่ไกลจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ |
|
10.ไม่ไกลจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ |
|
10.ไม่ไกลจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ |
|
10.ไม่ไกลจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ |
|
10.ไม่ไกลจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ |
|
10.ไม่ไกลจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ |
10.ไม่ไกลจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ น้ำตกสวยงาม ท่ามกลางป่าไม้เขียวชะอุ่ม อีกหนึ่งจุดที่เที่ยวต้องแวะไปถ่ายรูปเช็คอินกันค่ะ
|
11.ขับรถมอเตอร์ไซตจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง มาที่สวนหมื่นบุปฝา สวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ ระยะทางขับรถมาประมาณ 47 กิโลเมตร เส้นทางขึ้นเขาค่อนข้างลาดชัน ขับรถต้องระวัง |
|
11.สวนหมืนบุปผา ค่าเข้าชมสวน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท |
|
11.สวนหมื่นบุปผา ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้านปิยะมิตร 2 ซึ่งเดิมเคยเป็นหมู่บ้านของผู้ที่เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อครั้งอดีต |
|
บรรยากาศภายในโรงเรือนปลูกดอกไม้สวนหมื่นบุปผา ที่เปิดให้เข้าชมได้ |
|
สวนหมื่นบุปผา ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้านปิยะมิตร 2 ซึ่งเดิมเคยเป็นหมู่บ้านของผู้ที่เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อครั้งอดีต |
|
11.ขับรถมอเตอร์ไซตจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง มาที่สวนหมื่นบุปฝา สวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ ระยะทางขับรถมาประมาณ 47 กิโลเมตร เส้นทางขึ้นเขาค่อนข้างลาดชัน ขับรถต้องระวัง |
|
บรรยากาศภายในโรงปลูกดอกไม้สวนหมื่นบุปผา ที่เปิดให้เข้าชมได้ |
|
วันที่ไปเที่ยว ทางสวนหมื่นบุปผากำลังซ่อมแซมปรับปรุง |
11.ขับรถมอเตอร์ไซตจากจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง มาที่สวนหมื่นบุปฝา สวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ ระยะทางขับรถมาประมาณ 47 กิโลเมตร เส้นทางขึ้นเขาค่อนข้างลาดชัน ขับรถต้องระวังค่ะ วันที่ไปเที่ยวสวนกำลังซ่อมแซมปรับปรุงอยู่ค่ะ แล้วเสร็จปลายปี 2566 ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 40 บาท
โดยสวนหมื่นบุปผา ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้านปิยะมิตร 2 ซึ่งเดิมเคยเป็นหมู่บ้านของผู้ที่เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อครั้งอดีต ปัจจุบันหมู่บ้านปิยะมิตรยังอยู่เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำให้กับบรรพชนรุ่นหลังที่อาศัยอยู่ ณ ที่นี้ อาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของชาวหมู่บ้านปิยะมิตร และโครงการปลูกดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นโครงการส่งเสริมรายได้ให้กับชาวหมู่บ้านปิยะมิตรอีกทางหนึ่ง ความงดงามของไม้ดอกนานาพันธุ์ที่ถูกบรรจงปลูกเป็นทิวแถว บานสะพรั่งอยู่ทั่วเนินเขาที่ห้อมล้อมด้วยหุบเขาสูงในสภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าพื้นที่อื่นของภาคใต้ (เครดิต https://betongcity.go.th/travel_top/detail/30/data.html)
|
12.ขับรถลงเขาอันลาดชัน มาเที่ยวอุโมงปิยมิตร แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงอีกแห่ง ที่ต้องห้ามพลาดไปเช็คอินกัน โดยอยู่เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำร้อน |
|
ค่าเข้าชมอุโมงปิยะมิตร 40 บาท |
|
12.เที่ยวอุโมงปิยะมิตร เป็นอุโมงค์ประวัติศาสตร์ของการรบของขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มาลายา |
|
อุโมงปิยะมิตร เมื่อปี พ.ศ. 2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียง การสร้างใช้กำลังคน 40 - 50 คน ขุดเข้าไปในภูเขา |
|
โดยอุโมงปิยะมิตร ใช้เวลาเพียง 3 เดือนจึงแล้วเสร็จ อุโมงค์มีความกว้าง 50-60 ฟุต ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถจุคนได้เกือบ 200 คน มีทางเข้าออกทั้งหมด 9 ทาง เชื่อมต่อถึงกันหมด |
|
ปัจจุบันเหลือ 6 ทาง ภายในมีสถานีวิทยุของ จคม. ห้องนอน ห้องเก็บเสบียง มีซอกมีมุมให้เลี้ยวลัดเลาะ |
|
12.อุโมงปิยะมิตร แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของอำเภอเบตง |
12.ขับรถลงเขาอันลาดชัน มาเที่ยวอุโมงปิยมิตร แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงอีกแห่ง ที่ต้องห้ามพลาดไปเช็คอินกัน โดยอยู่เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำร้อน
อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์ประวัติศาสตร์ของการรบของขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มาลายา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2519 ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีความยาวของอุโมงค์ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นอุโมงค์ที่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรืออดีตกลุ่มโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) สร้างขึ้นเป็นฐานของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา เขต 2 เมื่อปี พ.ศ. 2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียง การสร้างใช้กำลังคน 40 - 50 คน ขุดเข้าไปในภูเขา และใช้เวลาเพียง 3 เดือนจึงแล้วเสร็จ อุโมงค์มีความกว้าง 50-60 ฟุต ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถจุคนได้เกือบ 200 คน มีทางเข้าออกทั้งหมด 9 ทาง เชื่อมต่อถึงกันหมด ปัจจุบันเหลือ 6 ทาง ภายในมีสถานีวิทยุของ จคม. ห้องนอน ห้องเก็บเสบียง มีซอกมีมุมให้เลี้ยวลัดเลาะ ด้านบนเป็นป่ารกมีต้นไม้ใหญ่มากมายปกคลุม ยากแก่การค้นหาและถูกค้นพบโดยทหารฝ่ายรัฐบาล (เครดิตข้อมูล : https://th.wikipedia.org/wikiอุโมงค์ปิยะมิตร)
ใกล้ๆกับประตูทางเข้าอุโมงปิยะมิตรก็มีศาลาให้แวะไปชมวิวด้วย
จากบริเวณดังกล่าวสามารถมองวิวทัศน์โดยรอบได้อย่างสวยงามทีเดียว มองเห็นสวนผลไม้ สวนทุเรียนของชาวบ้านในระแวกนี้
|
13.ระหว่างขับรถกลับ ก็แวะไปชมความงามของน้ำตกอินทสร น้ำตกสวยงามอีกแห่งที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน |
|
13.น้ำตกอินทสร หนึ่งในน้ำตกสวยงามอยู่ติดริมทางผ่าน ต้องแวะไปยลตระการกันสักครั้ง |
|
13.น้ำตกอินทสร หนึ่งในน้ำตกสวยงามอยู่ติดริมทางผ่าน ต้องแวะไปยลตระการกันสักครั้ง |
และระหว่างก็ไม่พลาดไปแวะชมน้ำตกอินทสร น้ำตกสวยงามอีกแห่งที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน ต้องแวะมายลตระการเที่ยวกัน
13.น้ำตกอินทสร จัดเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความสวยงาม ตั้งอยู่ติดริมทาง มีที่จอดรถสะดวก ตัวน้ำตกอยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำพุร้อน ห่างจากตัวเมืองเบตงประมาณ 13 กิโลเมตร โดยน้ำตกอินทสรเป็นน้ำตกริมทางขนาดเล็กเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยน้ำตกสายนี้มีต้นน้ำมาจากผืนป่าบาลาอันอุดมสมบูรณ์ ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ชอบธรรมชาติ เนื่องจากบริเวณโดยรอบน้ำตกรายล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ มีบรรยากาศที่ร่มรื่นและอากาศเย็นสบาย มีแอ่งน้ำที่สามารถว่ายน้ำเล่นได้ โดยไม่เป็นอันตรายอีกด้ว ย
|
แวะพักเหนื่อย ไปทานเฉาก๊วยเจ้าแรกในเบตง |
หลังจากเที่ยวจนเหนื่อยแล้ว ก็ขอแวะพักทานเฉาก๊วยเย็นทานสักหน่อยค่ะ เป็นเฉาก๊วยเจ้าแรกในเมืองเบตงเลย
เป็นร้านขายเฉาก๊วยแบบบ้านไม้โบราณ อยู่ตรงสามแยกปากทาง กม.4 เลยค่ะ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาตลอด
|
แวะทานเฉาก๊วยเจ้าแรกในเบตง |
โดยเป็นเฉาก๊วยที่มีรสชาติอร่อยอีกเจ้า คล้ายเจ้าดังที่เมืองกำแพงเพชรเลยค่ะ มีความหนึบหนับ อร่อยดี และราคาถูก ชามละ 15 บาทเท่านั้น ใครแวะมาเที่ยวบ่อน้ำร้อน ก็ไม่พลาดมาลิ้มลองกันค่ะ
ทานเฉาก๊วยไปแค่รองท้องเท่านั้น ยังไม่อิ่ม เดินทางกลับเข้าเมืองเบตง มาหาอะไรทานต่อค่ะ
|
ทานข้าวมันไก่ในอำเภอเบตง ก่อนเดินทางไปยะลาต่อ |
จะไปทานร้านข้าวมันไก่เบตงเจ้าดัง แต่ร้านปิดจ้า เลยทานร้านอื่นแล้วกัน
|
ทานข้าวมันไก่ในอำเภอเบตง |
ร้านให้ข้าวเยอะมากๆ ทานจนอิ่มเลยค่ะ
|
14.ทานข้าวอิ่มแล้ว ไปไหว้พระกันต่อค่ะ ที่วัดพุทธาวาส ตั้งอยู่ในเมืองเบตง |
|
14.วัดพุทธาวาส ตั้งอยู่ในเมืองเบตง วัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นรวม 5 ชั้น มีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมตั้งเด่นอยู่บนเนินเขา |
|
14.วัดพุทธาวาส ตั้งอยู่ในเมืองเบตง วัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นรวม 5 ชั้น มีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมตั้งเด่นอยู่บนเนินเขา |
|
โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ |
14.วัดพุทธาวาส ตั้งอยู่ในเมืองเบตง
วัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นรวม 5 ชั้น มีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมตั้งเด่นอยู่บนเนินเขา ศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฎีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา ออกแบบโดยหม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี เจดีย์มีสีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร มีเจดีย์องค์ประธาน 4 องค์อยู่ตรงกลางรายรอบด้วยเจดีย์บริวาร และมีเจดีย์องค์เล็กขนาดเท่ากับเจดีย์องค์บริวาร ซึ่งเป็นเรือนธาตุซ้อนกันอยู่ภายในเจดีย์องค์ประธาน วัดยังมีพระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และวิหารพระครูพิศิษฐ์อรรถการ (เครดิต : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพุทธาธิวาส)
|
15.วัดเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือชื่อเต็ม วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง |
|
15.วัดเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือชื่อเต็ม วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง |
|
15.วัดเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือชื่อเต็ม วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง |
|
15.วัดเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือชื่อเต็ม วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง |
|
15.วัดเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือชื่อเต็ม วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง |
|
15.วัดเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือชื่อเต็ม วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง |
|
15.วัดเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือชื่อเต็ม วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง |
15.วัดเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือชื่อเต็ม วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง
อีกหนึ่งวัดเก่าแก่สำคัญของชาวเบตง และเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยเชื้อสายจีน ที่มาตั้งรกรากในเมืองเบตงนิยมมาเคารพ กราบไหว้บูชากันเพื่อความเป็นสิริมล โดยวัดแห่งนี้ตั้งบนถนนรัตนกิจ ไม่ไกลจากหอนาฬิกาและอุโมงเบตง วัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 โดยได้รวบรวมเงนจากผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาคเพื่อสร้างวัดกวนอิมแห่งนี้ ความโดเด่นของวัดแห่งนี้คือบริเวณเนินเขาของสวนสุดสยาม มีเจดีย์ 7 ชั้น และยังสถานศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าซึ่งเป็นที่ ประดิษฐานขององค์เทพสำคัญ ๆ หลายองค์ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียต่างเดินทางมาสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันอย่างมากด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวคนใหนที่เป็นสายมู และชื่อชอบการทำบุญไหว้พระ ก็ไม่ควรพลาดแวะมากราบไหว้ขอพรกัน
และสำหรับข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือว่าจุดเช็คอินถ่ายรูปที่เที่ยวในเมืองเบตง ที่ได้นำเสนอไว้ในบทความบล็อกนี้ น่าจะมีประโยชน์และเป็น Guide line หรือว่าเป็นแนวทางในการประกอบการวางแผนไปท่องเที่ยวอำเภอเบตงอยู่ไม่มาก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ที่แวะเวียนเข้ามาคลิ๊กเปิดสไลด์เลื่อนอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดๆไปค่ะ.....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
--------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
รวมเด็ดสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ที่ต้องไปเช็คอินถ่ายรูปกันสักครั้ง ได้รูปสวยปังแน่ๆนอน มีที่เที่ยวให้ไปออนซอนที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
มาใหม่กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่ต้องแวะไปดื่มด่ำถ่ายรูปภาพเช็คอินกันสักครั้ง ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
รวมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองแฟรงเฟิร์ต ที่ต้องไปเดินชมและถ่ายรูปภาพสวยๆกัน ที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดไปเช็คอินกัน มีที่ที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
รวมเด็ดกับ 17 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดฉะเชิงเทราล่าสุดในปี2566 หรือที่เที่ยวเมืองแปดริ้ว ที่ใครก็ต้องไปเช็คอินถ่ายรูปวิวสวยๆกัน ไม่งั้นไปไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
ห้ามพลาดกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครปฐม ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ที่ต้องแวะไปเสพสม ภิรมย์ใจกันสักครา มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
รวมอัพเดทสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสิงคโปร์ล่าสุด ที่ต้องหยุดแวะไปถ่ายภาพเช็คอินสวยปังกันสักครั้ง ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงเลยนะ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
0 ความคิดเห็น