Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ตอนที่ 3 เดินย่องท่องเมืองฟุกุโอกะ ชมเทศกาลยามากาสะ ในฤดูร้อน งามอรชร ดีเลิศเว่อร์

รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเอง ตอนที่ 3 เดินย่องท่องเมืองฟุกุโอกะ ชมเทศกาลฮากาตะ กิออน ยามากาสะ ในหน้าร้อน งามออนซอนดีเริสเว่อร์ค่ะ
ขอกราบสวัสดี๊ดี สวีดั๊ดดัดท่านผู้อ่านและนักเขียนบล็อกฝึกหัดทุกๆท่าน ที่กำลังท่องโลกออนไลน์ อันไร้สาย ไร้พรมแดน จนขนแขนสะแตนอัพ สดับตรับฟัง บัลลังก์พินาศ สะอาดี สีสมร อรชร อ๊อนแอ๊น สุดแสนจะดีเลิศสะแมนแตนกันอยู่ ณ ขณะนี้นะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน บล็อกเกอร์สมัครเล่นแนวๆ กากๆ โกโรโกโส สับปะรังเค ขอมาเฮฮา บ้าๆบอๆ ต้อนรับท่านเข้าสู่เว็ปบล็อกแนะนำที่พัก รีวิวท่องเที่ยว เขียนจนโลกเบี้ยวไปหนึ่งข้าง ให้ท่านได้สะพร่างอ่านกันจนปวดหัว ปวดสมองประลองปัญญากันเหมือนเช่นเดิมนะค่ะ ถือว่ามาเปิดบล็อกอ่านฆ่าเวลาแล้วกันค่ะ

และสำหรับเนื้อบล็อกวันนี้ค่ะ ดิฉันขอมาฉิมพลี เขียนเรื่องราวๆอันแสนสุขขี ทวีทุกข์ต่อกับรีวิวท่องเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ หลังจากตอนที่แล้ว ได้พาทุกๆท่านไปเที่ยวเมืองคาโกชิม่า เมืองทางใต้สุดของเขตคิวชูไปดูเค้าอบทรายร้อนกันมาแล้วนะค่ะ มาในบล็อกนี้ ดิฉันจะพาทุกๆท่านไปเที่ยวชมเทศกาลฤดูร้อน และไปชมความออนซอน ของหาดทรายสวย ที่ momochi seaside park หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองฟูกุโอกะค่ะ

และเพื่อไม่ให้สับสนและงวยงง และเกิดความต่อเนื่อง ดิฉันอยากให้ทุกๆท่านเข้าไปดูบล็อกรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นก่อนนี้ได้ค่ะ

ตอนที่ 1 : รีวิวเที่ยวเมืองวาคายาม่า ไปลั๊ลลานั่งรถไฟแมวเหมียวทามะ คลิ๊กดูที่เว็ป khunnaiver.blogspot.com/2017/07/1.html

ตอนที่ 2  รีวิวเที่ยวเมืองคาโกชิม่า ลั๊นลาอบทรายร้อนที่เมืองอิบูซึกิ คลิ๊กดูที่เว็ป khunnaiver.blogspot.com/2017/07/2.html

 เช้าของวันถัดมา ดิฉันตื่นแต่เช้าตรู่เลยค่ะ ตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้ไปใหนนะค่ะ มานั่งเคลียงาน เคลียอีเมลล์งานที่บริษัทค่ะ
เช้านี้คง เดี๊ยนคงไม่ได้ไปใหนค่ะ เลยนั่งจิบชาเขียว ทำงานอยู่จนถึง 10 โมงเช้าค่ะ
สรุปแผนการเดินทาง รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน 14 วันค่ะ เริ่มต้นเที่ยวเมืองวาคายาม่า สุดปลายทางแบกเป้ลั๊ลลาที่เมืองบิเอะ ฟูราโน่ค่ะ
 อาหารเช้ามื้อนี้ กินขวบอาหารเที่ยงไปเลยแล้วกันค่ะ
 ห้อง Spack Area ห้องนั่งเลน ติดกันก็เป็นโซนทำกับข้าวค่ะ
 ห้องครัวทำกับข้าวค่ะ
พอทานข้าวอิ่มแล้วนะค่ะ ก็ได้เวลาเช็คเอาท์แล้วค่ะ ถ้าเช็คเอาท์ช้ากว่านี้ เสียตังเพิ่มแน่ค่ะ
ดิฉันเลยแบกกระเป๋าเป้ มาเช็คเอาท์ และฝากกระเป๋าไว้ ณ ที่พักค่ะ เดียวตอนเย็นค่อยกลับมาเอาค่ะ
 สำหรับสภาพอากาศในเมืองฟูกุโอกะวันนี้นะค่ะ ท้องฟ้าแจ่มใส แดดเปรี้ยง ร้อนรุ่มเร้าดั่งไฟเผาทรวงจริงๆค่ะ เดินออกจากโรงแรมมา เหงื่อไหลซิกๆเลยค่ะ นึกถึงอากาศในกรุงเทพเลยนะค่ะ

แต่เมืองเค้าสวยงามดีนะค่ะ ดูตึกรางบ้านช่อง เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นสัดเป็นส่วน ขะยงขะยะก็ไม่ค่อยเห็นเกลื่อนกลาด ให้รกตามากนักค่ะ
 แต่ทัศนียภาพในเมืองนี้ ดูสะอาดสะอ้านมากนะค่ะ น่าอยู๊ น่าอยู่ค่ะ
หลักจากที่ฝากกระเป๋าไว้ ณ ที่พักแล้วนะค่ะ ดิฉันก็เดินตรงมายังห้างสรรพสินค้าดังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า hakata ค่ะ เพื่อจะมาซื้อเนตซิมสำหรับใช้อินเตอร์เตอร์ในญี่ปุ่นค่ะ จริงๆดิฉันกะว่าจะซื้อตั้งแต่โอซาก้าแล้ว แต่ไม่รู้จะไปซื้อที่ใหน เลยเวลาผ่านไป 2 วัน พึ่งจะมาหาซื้อในเมืองนี้เนี่ยแหละค่ะ

เหตุผลที่ต้องซื้อ คงไม่พ้นเรื่องงาน และไว้ใช้เปิดเนตสำหรับหาโรงแรมค่ะ เพราะจำได้วันแรกที่มาถึงโอซาก้า ดิฉันงมเข็ม หลงทางหาโรงแรมอยู่นานมากๆกว่าจะหาเจอ เพราะความสะเพร่าของตัวเอง ที่ไม่ยอมซื้อ Pocket wifi มาจากเมืองไทย
เดินเข้ามาในห้างYodobashi ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้สถานีรถไฟฮากาตะ เพื่อซื้อเนตซิมชั่วคราวค่ะ เจ้าหน้าที่ในห้างก็แนะนำเลยค่ะ บลาๆๆๆ มีให้เลือกแบบ 7 วัน แบบ 14 วัน และแบบ 30 วันก็มีค่ะ ดิฉันเลยเลือกซื้อราคา 3000 เยนกว่าๆเนี่ยะแหละค่ะ

พอได้ซิมเสร็จก็ต้องมาติดตั้งเองค่ะ ดิฉันงงกับการติดตั้งการใช้เนตซิม Wifi แบบนี้มากนะค่ะ เพราะไม่เคยใช้มาก่อน และไม่ได้ศึกษามาด้วย ตอนแรกกะจะใช้ Wifi โรงแรม แต่มันไม่พอค่ะ เพราะwifi จำเป็นมากสำหรับเปิดดูในมือถือเพื่อนำทางค่ะ

ดิฉันเองก็อ่านคู่มือก็ยังทำไม่เป็น จะไปทำเจ้าหน้าที่คนขาย เค้าก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้อีกค่ะ เพราะไม่รู้จะไปถามใครดี ยิ่งเป็นคนโง่ไอที ยิ่งไปกันใหญ่เลยค่ะ โอ้ยปวดกะบาลหัวมากๆค่ะ
สรุปคือ เดี๊ยนนั่งเอ๋อเหรอ งวยงงกับการตั้งค่าใช้ใช้เนตซิมนี้อยู่เป็นชั่วโมงค่ะ อ่านทำตามคู่มืออยู่นานพอสมควร ในที่สุดก็ไชโยโฮฮิ้ว ทำสำเร็จค่ะ  เชื่อมต่อ WiFi ได้ค่ะ

อยากจะเตือน!!!! เพื่อนๆ พี่ๆน้อง ยังไงเตรียมเรื่องการใช้เนต Wifi มาให้พร้อมจากเมืองไทยเลยนะค่ะ จะได้ไม่ต้องมาสับปะงง เอ๋อเหรอแบบเดี๊ยนค่ะ มาใช้เนต Wifi
และหลังจากที่เดี๊ยนสำเร็จ เสร็จสับการกับตั้งแค่การใช้ เนตซิม Wif เรียบร้อย ก็ได้เวลาออกมาลั๊ลลาเดินย่องท่องเมืองฟูกุโอกะค่ะ ดิฉันเดินออกจากห้าง yodobashi มาเริ่มต้นที่สถานี Hakata สถานีใหญ่แห่งเมืองฟูกุโอกะ

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา ดิฉันขอมาแนะนำให้ท่านได้ลั๊ลลาเมืองฟูกุโอกะกันก่อนค่ะ

เกี่ยวกับเมืองฟูกุโอกะ 

นครฟุกุโอะกะ (ญี่ปุ่น: 福岡市) เป็นเมืองเอกของจังหวัดฟุกุโอะกะ ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะคีวชู ประเทศญี่ปุ่น

ในปี 2013 ฟุกุโอะกะได้รับการจัดอันดับว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 12 ของโลก จากนิตยสาร Monocle จากการที่ในเขตตัวเมืองมีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก นอกจากนี้ฟุกุโอะกะยังเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่สุดในเกาะคีวชู ซึ่งรองลงมาคือนครคิตะกีวชู และยังถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตะวันตกจากเขตมหานครเคฮันชิง จากการที่เป็นเมืองขนาดใหญ่และมีความสำคัญ ทำให้ฟุกุโอะกะได้รับสถานะเป็นนครโดยรัฐบัญญัติ เมื่อ 1 เมษายน 1972 ด้วยประชากรในเขตเมืองและปริมณฑลรวมกว่า 2.5 ล้านคน (สำมะโนปี 2005) ซึ่งทั้งฟุกุโอะกะ–คิตะกีวชู ต่างเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมหนัก ซึ่งเป็นรายได้หลักของเมือง

เมื่อกรกฎาคม 2011 ฟุกุโอะกะมีฐานะเป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 ของญี่ปุ่น ซึ่งแซงหน้านครใหญ่อย่างเคียวโตะ นับเป็นครั้งแรกที่เมืองทางตะวันตกของภาคคันไซ สามารถมีประชากรมากกว่าเคียวโตะ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมืองเคียวโตะเมื่อปี ค.ศ. 794 นอกจากนี้ ในฟุกุโอะกะยังปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีที่บ่งชี้ว่าการสร้างชาติญี่ปุ่นเริ่มจากที่นี่
ฟุกุโอะกะบางครั้งถูกเรียกว่าท่าไดไซฟุ (大宰府) ไดไซฟุเป็นเขตศูนย์กลางการปกครองในปี 663 แต่นักประวัติศาสตร์ก็แย้งว่า เขตศูนย์กลางนี้ มีมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์[2] บันทึกโบราณอย่าง โคะจิกิ และ คันเอ็ง ตลอดจนหลักฐานทางโบราณคดีได้บ่งชี้ว่า พื้นที่แถบนี้เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมากในการสถาปนาชาติญี่ปุ่น นักวิชาการบางคนอ้างว่า[3] สถานที่นี้เป็นสถานที่แรกที่จักรพรรดิทรงตั้งรกราก เช่นเดียวกับทฤษฎีกำเนิดชาติญี่ปุ่นอื่นๆอีกมากมาย
ขอบพระคุณข้อมูลเครดิดดีๆจากเว็ปไซต์ : https://th.wikipedia.org/wiki/ฟุกุโอะกะ_(เมือง)
ดิฉันมาเริ่มต้นที่สถานีรถไฟในใจกลางเมืองฟูกุโอกะ เปิด Gps ให้นำทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแรกของวันนี้คือ วัด Shofukuji temple (วัดโชฟูคูจิ) 
เดินทางไปตามทางเท้า ถนนหนทางในเมืองนี้ดูสะอาดสะอ้านดีมากๆค่ะ
เดินมาตามแผนที่ GPS ก็เจอป้ายบอกทางแล้วค่ะ
 เดินมาได้สักพัก อยู่ไม่ไกลมากนักจากสถานีรถไฟ ระยะทางพอๆกับเดินไปโรงแรมที่พักเลยค่ะ ประมาณ 1 กิโลกว่าๆค่ะ ก็ถืงแล้วค่ะวัดโชฟูคูจิ
เกี่ยวกับวัดโชฟูคูจิ 
สำหรับวัดโชฟูคูจิ( ภาษอังก聖福寺, Shofukuji) เป็นวัดเซนแห่งแรกของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1195 โดยพระไออิไซ ที่ได้กลับมาจากเมืองจีน และได้นำศาสนาพุทธนิกายเซนสาขารินไซจากเมืองจีนกลับเข้ามาเผยแพร่ด้วย และได้รับความนิยมอย่างมาในหมู่ซามูไรในสมัยนั้น จนเป็นที่นิยมกันไปทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ
โดยพื้นที่บริเวณรอบวัดโชฟูคูจิมีความเป็นเซนทั่วไปค่ะ อาทิเช่น อาคารไม้ ประตูไม้หลายบาน แต่ที่น่าสนใจคือประตูแซนม่อน(Saimon) ประตูใหญ่ทางด้านหน้าวัดใกล้กับสระน้ำและสะพาน หอระฆัง และอาคารของหลักที่ไม่ได้เปิดให้เข้าชม
บรรยากาศโดยรอบในวัด ดูเงียบสงบ แต่ร่มรืนย์มากๆค่ะ เป็นวัดสวยอีกหนึ่งแห่งที่นักท่องเที่ยวนิยมาเยือนกันค่ะ

สำหรับการเดินทางมายังวันนี้นะค่ะ  สำหรับใครที่จะมาวัดนี้ หากไม่อยากเดินไกล ก็นั่งรถไฟ Subway airport line มาลงที่สถานี Gion ได้ค่ะ จากนั้นก็เดินมาอีก 5 นาทีก็ถึงค่ะ
 มีการจัดสวนแบบญี่ปุ่นด้านในค่ะ แต่เดินเข้าไปไม่ไดนะค่ะ เพราะมีป้ายติดว่าห้ามเข้าค่ะ
ภายในวัดเงียบจริงๆค่ะ ยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาในวัดนี้เลย หรือว่าดิฉันจะเป็นคนแรกของวันนี้ค่ะ คงไม่มั้งค่ะ
 หลังจากที่ดิฉันได้ชมความสวยงาม และความเงียบสงบของวัดโชฟูคูจิแล้วนะค่ะ ก็เดินมายังสี่แยก Gion ค่ะ
ซึ่งตรงสี่แยกจะเจอวัดโทโชจิค่ะ ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในญี่ปุ่นค่ะ เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไม้เก่าแก่อายุหลายร้อยปีค่ะ
เกี่ยวกับวัดโทโชจิ(Tochoji Temple) 
ถือเป็นวัดหลักของศาสนาพุทธนิกายชินกอน ของภูมิภาคคิวชู มีอีกชื่อหนึ่งว่า นานกาคุซัน(Nangakuzan) ถูกสร้างขึ้นโดยพระชื่อดัง โคโบไดชิ(Kobo-Daishi) ตั้งแต่สมัยเฮอัน(Heian) และยังเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย โดยในปัจจุบันได้รับดูแลรักษาการเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ของเมืองฟูกุโอกะเอาไว้ค่ะ
ความสวยงามของวัดแห่งนี้ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาคงจะเป็นวิหารเจดีย์สีแดงค่ะ
 เข้าไปไหว้พระด้านในค่ะ
ด้านในยังมีวิหารที่มีพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้แกะสลัก สูงถึง 10.8 เมตรและหนักมากกว่า 30 ตัน ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปี และเป็นที่รู้จักกันว่า ฟูกุโอกะ ไดบุสสึ(Fukuoka Daibutsu)หรือพระใหญ่แห่งฟูกุโอกะ
 ด้านในยังมีวิหารที่มีพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้แกะสลัก สูงถึง 10.8 เมตรและหนักมากกว่า 30 ตัน ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปี และเป็นที่รู้จักกันว่า ฟูกุโอกะ ไดบุสสึ(Fukuoka Daibutsu)หรือพระใหญ่แห่งฟูกุโอกะ 
พระใหญ่แห่งฟูกุโอกะ ถ่ายรูปจากด้านนอกมาค่ะ เพราะขึ้นไปไหว้ด้านใน เค้าห้ามถ่ายรูปนะค่ะ
 และหลังจากที่ดิฉันได้ไปไหว้พระใหญ่แห่งฟูกุโอกะ ที่วัดโทโชจิแล้วนะค่ะ ก็เดินจากสี่แยก Gion มาอีกไม่ไกลค่ะ มาอีกหนึ่งสถานทีท่องเที่ยวและศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงที่สุดในฟูกุโอกะ คือศาลเจ้าคูชิดะค่ะ
 ซึ่งวันที่ดิฉันไปเที่ยว มีการจัดงานใหญ่ งานช้างงานประจำปีด้วยค่ะ นั้นคือ งานเทศกาลยามากาสะค่ะ  ตลอดระยะทางเดินเข้าไปยังศาลมีการจัดโคงฟง โคมไฟ งามวิไลสุดเก๋ เทห์ซ่ะไม่เบาเชียวค่ะ ดูตอนกลางคืน น่าจะสวยงามน่าดูนะค่ะ
 มีการจัดซุ้มร้านคง ร้านค้า และเตรียมงานกันอย่างใหญ่โตโฮฬารเลยะค่ะ
 มีการเตรียมที่นั่ง อัฒจรรย์ ไว้ในงานอย่างเตรียมพร้อมเลยค่ะ
เดินมาถึงแล้วค่ะ ศาลเจ้าคูชิดะ ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงแห่งฟูกุโอกะ มีชื่อเสียงในเรื่องการขอพรให้อายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง และ
ประวัติเกี่ยวกับศาลเจ้าคูชิดะ

ศาลเจ้าคูชิดะ(Kushida-jinja) ถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองฟูกุโอกะ หรือมีชื่ออีกอย่างว่า โอ คุชิดะ ซัง – O-kushida-san โดยในวิหารภายในศาลเจ้าหลังแรกอายุมากกว่า1,200 ปีเลยค่ะ โดยถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.757 ในจักรพรรดิโคเคน(Koken)ให้เป็นศาลเจ้าของเทพโอคุชิดะ ซามะ ในศาสนาชินโตซึ่งเชื่อกันว่าจะได้ขอพรเกี่ยวกับการมีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรงและประสบความสำเร็จในธุรกิจ ตัวอาคารมีการออกแบบและตกแต่งที่ความสวยงามตามสถาปัตยกรรมแบบชินโต และถ้ามาในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมศาลเจ้าคูชิดะเป็นศูนย์กลางของงานเทศกาลยามากาสะ ฮากาตะ กิออน( Yamakasa Hakata Gion Festival) ซึ่งเป็นงานใหญ่ที่สุดของเมืองฟูกุโอกะ อันโด่งดังและมีชื่อเสียง
 ภายในศาลเจ้าก็จะมีนักท่องเที่ยวมากราบไหว้ขอพรกันอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ
 ใหนๆมาทั้งที  ดิฉันก็ไม่พลาด มาขอพรด้วยอีกคนค่ะ
และถ้ามาในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมศาลเจ้าคูชิดะเป็นศูนย์กลางของงานเทศกาลยามากาสะ ฮากาตะ กิออน( Yamakasa Hakata Gion Festival) ซึ่งเป็นงานใหญ่ที่สุดของเมืองฟูกุโอกะ อันโด่งดังและมีชื่อเสียง
แท่นใหญ่ๆที่เห็นนี้นะค่ะ ไม่ใช่ Display ตกแต่งวัดนะค่ะ อันนี้คือแท่น kazariyama (แท่นคาซาริยามาะ) หรือเกี้ยวยักษ์ เป็นแท่นขนาดใหญ่จะสูงมากกว่า 10 เมตร และหนักมากร่วมกว่า 2 ตันค่ะ โดยถูกใช้ในการแข่งขันในสมัยก่อน แต่เนื่องด้วยปัจจุบัน จากการติดตั้งสายไฟฟ้าในยุคเมจิทำให้กลายเป็นสิ่งประดับงาน โดยจะมีทั้งหมด 14 แท่น กระจายไปตามจุดต่างๆของเมืองตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 14 กรกฎาคมของทุกปีค่ะ

เกี่ยวกับเทศกาลยามากาซะ ฮากาตะ กิออน (博多祇園山笠)  

งานเทศกาลยามากาซะ ฮากาตะ กิออน, (Hakata Gion Yamakasa Festival) เป็นหนึ่งในงานใหญ่ งานช้าง เป็นเทศกาลที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดอีกงานหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นค่ะ โดยจะจัดขึ้นทุกปีเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกรกฏาคมไปเสร็จสิ้นด้วยการแข่งขันทำเวลาในวันที่ 15 กรกฏาคมโดยในการแข่งขันจะมี 7 ทีมจากเขตข้างๆของเมืองฟูกุโอกะมาแข่งกันลากแท่นขนาดใหญ่ที่ตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรไปรอบๆเมือง โดยในช่วงวันงานจะมีนักท่องเที่ยวเป็นหมื่นๆคนทุกทั่วสารทิศหลั่งไหลกันมาชมงานนี้กันอย่างเนื่องแน่นค่ะ 
แท่นkazariyama (แท่นคาซาริยามาะ) 

สำหรับงานเทศกาลยามากะสะ ฮากาตะ กิออน ตกแต่งอย่างใหญ่โตโฮฬาร สวยงาม แปลกตาดิฉันมากๆค่ะ  ไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าไม่มาเที่ยวเมืองนี้ ก็ไม่เห็นนะค่ะ
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีแท่นเกี้ยวขนาดเล็กลงมาด้วยค่ะ ซึ่งจะทำไว้สำหรับการแข่งขันค่ะ
 ใกล้กับแท่น Kazariyama Yamakasa ก็จะมีร้านขายของกิน เหลือบไปเห็นโมจิโรยน้ำเชื่อม น่าทานเชียว เลยอุดหนุนลิ้มลองสักหน่อยค่ะ จัดไป 1 ไม้ 200 เยนค่ะ รสชาติหวานเจี๊ยบเชียวค่ะ
และใกล้ๆกับศาลเจ้าคูชิดะ ดิฉันก็เดินมาที่ถนนคนเดินคาวาบาตะ แหล่งช๊อปปิ้งชื่อดังที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองฟูกุโอกะค่ะ
เดินมาด้านในก็เจออีกแล้วค่ะ แท่นเกี๊ยว kazariyama ตกแต่งสวยงาม ใหญ่โตโอฬารเชียวค่ะ 
 สำหรับถนนคนเดินที่คาวาบาตะ(Kawabata Shopping Arcade) ถือเป็นเส้นทาง ถนนช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองฟูกุโอกะค่ะ มีความยาวประมาณ 400 เมตร มีร้านค้าและร้านอาหารร้อยกว่าร้านค้า อาทิ ร้านขายเสื้อผ้า งานฝีมือ และร้านขายของที่ระลึกหลายร้านเลยค่ะ
ในถนนคนเดินแห่งก็ เหมือนกับห้างสรรพสินค้าเลยค่ะ แต่ที่พิเศษคงจะเป็นอายุและรูปแบบของถนนคนเดินที่จัดอย่างสวยงาม มีสโลแกนของถนนนี้ว่า “a street where you can discover the spirit of Hakata”มีการจัดนิทัศการเกี่ยวกับศิลปะในศาสานาพุทธและห้องชงชา ร้านขนมและร้านอาหารริมแม่น้ำด้วยค่ะ
มีร้านขายชุดยูกาตะ ชุดสไตล์ญี่ปุ่นก็สวยงามเชียงค่ะ
อยู่ติดกับถนนคนเดินก็จะเป็นร้านอาหาร ร้านน้ำชา อยู่ติดริมแม่น้ำ Naka river ค่ะ บรรยากาศสวยงามเชียวค่ะ
มีแม่น้ำ Naka ไหลผ่านในตัวเมืองด้วยค่ะ
พอดีวันที่ดิฉันมาเที่ยว โชคดีได้เจอเค้ากำลังซ้อมกันแข่งขันกันอยู่พอดีคะ

จะเห็นผู้ชายแต่งกายชุดดูแปลกตาดูมีเอกลักษณ์โดดเด่น เค้าเรียกว่า นากาเระ(nagare)
นาการะ คือหนึ่งเข้าร่วมแข่งขันลากแท่นคาซาริยามะค่ะ ซึ่งใช้เหล่าชายชาตรีฉวีผ่องกันจำนวนมากค่ะ กำลังเตรียมพร้อมซ้อมการแข่งขันค่ะ
นากาเระ(nagare) หนุ่มๆญี่ปุ่น ทั้งหนุ่มใหญ่ หนุ่มน้อย หน้าตา หน้ารักเชียวค่ะ
 นากาเระ เป็นเด็กตัวน้อยก็มีร่วมแจมกับเค้าด้วยนะค่ะ น่ารักมุ้งมิ้งมากๆค่ะ
เทศกาลฮากาตะ กิออน ยามากาสะ กับเหล่านักแข่งขัน นาการะ
แท่นคายาริซาม่า อันนี้คือที่ใช้ในการแข่งขันจริงค่ะ จะไม่มีล้อลากค่ะ
แท่นขนาดเล็กสูงประมาณ 5 เมตร หนักราวๆประมาณ 1 ตันที่ใช้สำหรับการแข่งขัน โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 7 แท่น ที่มาจาก 7 เขตรอบๆฮากาตะ แท่นแต่ละอันจะไม่มีล้อซึ่งจะต้องลากไปตามถนนโดยมีน้ำราดที่พื้นถนนเอาไว้แล้วเพื่อลดแรงเสียดทาน
เห็นขบวนเตรียมพร้อมค่ะ
 มีการฉีดน้ำด้วยนะค่ะ ตอนแรกคิดว่าฉีดน้ำ เพื่อเล่นสงกรานต์คลายร้อนแบบบ้านเรา แต่ไม่ใช่ค่ะ เค้าชีน้ำเพื่อให้น้ำช่วยลดแรงเสียดท้าน ในการลาดแท่นคายาริซามะค่ะ
ระหว่างที่อยู่ริมทางดิฉันก็ดูตื่นเต้น และแปลกตากับเทศกาลเมืองนี้อยู่ไม่น้อย เหล่านาการะที่ร่วมขบวนก็จะลากแท่นกันอย่างหนักแน่น และเปล่งเสียงพร้อมกันอย่างสามัคคีค่ะ 
 มีเด็กๆตัวเล็กๆ กะจิ๋วหลิ๋วมาจอยกับเค้าด้วยนะค่ะ
ดิฉันเห็นน้ำฉีดแล้ว นึกถึงเทศกาลสงกรานต์ค่ะ น้ำน่าจะช่วยคลายร้อนกับเหล่านากาเระที่ร่วมขบวนได้นะค่ะ เพราะหน้าร้อนในฟูกุโอกะ ร้อนไม่แพ้เมืองไทยเลยค่ะ
เห็นแล้วดูตื่นตา และน่าจะหนักน่าดูนะค่ะ แท่นเกี้ยวอันเล็กแล้วนะค่ะ แบกลากแท่นใหญ่ไม่พอ ต้องแบกคนอีกสามคนค่ะที่อยู่ในแท่นเกี๊ยว  โอ้มายกอด !!!
เห็นแล้วดูตื่นตา และน่าจะหนักน่าดูนะค่ะ แท่นเกี้ยวอันเล็กแล้วนะค่ะ แบกลากแท่นใหญ่ไม่พอ ต้องแบกคนอีกสามคนค่ะที่อยู่ในแท่นเกี๊ยว  โอ้มายกอด !!!

ดูเป็นเทศกาลที่มีสีสันมากๆนะค่ะ เป็นเทศกาลสำหรับชายชาตรีจริงๆค่ะ เป็นเทศกาลที่สร้างความสมัครสมานสามัคคีอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ดิฉันถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่า เมื่อถึงเทศกาลงานนี้ บางคนต้องลางาน ลาการ มาเพื่อร่วมการแข่งขันในเทศกาลนี้เลยนะค่ะ เพราะเป็นเทศกาลใหญ่ งานช้างประจำเมืองฟูกุโอกะ ที่จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ มาสถิตท่องจ้องมองเพื่อดูการแข่งขันในงานนี้โดยเฉพาะค่ะ

ดิฉันเดินไปอีกหนึ่งทาง ก็เจออีกขบวนกำลังซ้อมเอาเป็นเอาตายเหมือนกันนะค่ะ เป็นเทศกาลที่ดูมีสีสัน สร้างความตื่นตา ตื่นใจ ประจำฤดูร้อนแห่งเมืองนี้ไม่น้อยเลยจริงๆค่ะ
 หลังจากที่ดิฉันได้ตื่นตาตื่นใจ กับการได้ชมการซ้อมการแข่งขัน การลากแท่น kazariyama ในเทศกาลฮากาตะ กิออน ยามากาซะ แล้วนะค่ะ ดิฉันก็เดินทางไปทางยังสถานที่ท่องเที่ยวถัดไปนั้นก็คือ momochi seaside park หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมประจำเมืองฟูกุโอกะ ที่ใครต่อใครเมื่อได้มาเยือนเมืองนี้ ต้องไม่พลาดแวะมาค่ะ
 ดิฉันมาเริ่มต้นขึ้นรถไฟใต้ดิน (รถไฟเอกชน ใช้บัตร JR ไม่ได้นะค่ะ) ซื้อตั๋วจาก nakasukawabata ไปลงที่สถานี Nishijin ค่ะ
 ดิฉันมาเริ่มต้นขึ้นรถไฟใต้ดิน (รถไฟเอกชน ใช้บัตร JR ไม่ได้นะค่ะ) ซื้อตั๋วจาก nakasukawabata ไปลงที่สถานี Nishijin ค่ะ
พอถึงสถานีนิชิจิน ดิฉันก็ตัดสินใจเดินเท้าจากสถานีนิชิจินไปยัง momochi seaside parkระยะทางก็ไม่ได้ใกล้ และก็ไม่ไกลมาก เดินไปได้ค่ะ ถ้านั่งรถบัสโดยสารใช้เวลา 5 นาทีค่ะ แต่เดี๊ยนขอเลือกเดินดีกว่าค่ะ เพราะประหยัดสตางค์
ข้อดีของการเดินคือ ได้แวะตรงนั้น แวะตรงนี้ค่ะ เดินมาใกล้ถึงสวนริมทะเลโมโมชิ แล้วนะค่ะ จะเห็นปากอ่าวแม่น้ำค่ะ 
แม่น้ำใหญ่โตโอฬาร ร้าวรานทรางในจริงๆค่ะ บรรยากาศดี ลมพัดเย็นๆ เห็นหมู่ปลาแหวกว่ายค่ะ
ในที่สุดก็ถึงแล้วค่ะ Fukuoka tower (ฟูกุโอกะ ทาวเว่อร์) หอคอยฟูกุโอกะ จุดชมวิวยอดนิยมที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกในเมืองฟูกุโอกะ

แต่วันที่ดิฉันมาถึงหอคอยแห่งนี้ ก็อยากขึ้นไปนะค่ะ แต่โชคร้ายค่ะ เดี๊ยนพกเงินมาไม่พอค่ะ และกลายเป็นความโชคดีแบบประหยัดไปค่ะ สำหรับใครที่อยากขึ้นไปชมวิวบนสุดที่หอคอยแห่งนี้ ราคาบัตรขึ้นชมวิวบนหอคอย 360 นี้ ค่าเสียหายอยู่ที่ 800 เยนค่ะ

ตึกนึ้มีความสูงถึง 234 เมตร เป็นตึกสูงที่สุดในเมืองฟูกุโอกะ หากขึ้นไปด้านบนก็จะเห็นทะเลฮากาตะและตัวเมืองฟูกุโอกะ และด้านหน้าจะเป็นหาดทรายและทางเดินที่ทอดยาวออกไปยังทะเลที่เรียกว่า สวนริมทะเลโมโมชิ (Momochi seaside park)
ใกล้หอคอย ฟูกุโอกะทาวเว่อร์ มีร้านไอติ๋มอยู่ ร้านน่ารักดีดีค่ะ
ใหนๆ เดินมาเหนื่อยๆ เมื่อยขามากๆ เลยขอมาซื้อไอติ๋ม นั่งกินให้หายอยากหน่อยค่ะ ดูน่าตาน่าทาน รสชาติอร่อยดีค่ะ
สวนตรงนี้เป็นทางสวนริมทะเลโมโมชิค่ะ อยู่ติดทะเลฮากาตะค่ะ
ภายในก็จะเป็นร้านอาหาร ร้านค้า ร้านนั่งดื่ม เปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ
สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ

(Momochi Seaside Park)เป็นอีกสวนยอดนิยมในเมืองฟูกุโอกะ ที่มีพื้นที่เปิดกว้างออกสู่ทะเลฮากาตะ ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้จะตกแต่งเป็นสไตล์โมเดิร์น มีต้นไม้เรียงไปตามทางเดิน และอาคารรูปทรงแปลก ทันสมัยสวยงาม และจะมีส่วนที่เป็นเกาะลอยยื่นออกไปในทะเลเรียกว่า มาริซอน(Marizon) ที่จะมีร้านค้าร้านอาหารเล็กๆ รวมไปถึงสถานที่จัดงานแต่งงานด้วย ซึ่งในมาริซอนนี้จะตกแต่งและออกแบบอาคารเป็นสไลต์ อิตาลีทั้งหมด
ทางเดินเข้าโซนอาคาร มาริซอน ดูสวยงามตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล
บรรยากาศโดยรอบก็เป็นชายหาดทรายสีขาว โค้งเว้าดุจเงาพระจันทร์ ให้ได้เดินพักผ่อน นอนอาบแดดกันอย่างสุขสันต์เชียวล่ะค่ะ
มีดอกม้ง ดอกไม้กำลังเบ่งบานในช่วงหน้าร้อน งามออนซอนจริงๆค่ะ
หอคอยฟูกุโอกะ ทาวเว่อร์ดูเอียงนะค่ะ คงเป็นเพราะเดี๊ยนถ่ายเอียงเนี่ยแหละค่ะ
หากใครที่เบื่อการอยู่ที่บ้าน ลองปลีกวิเวกมาเดินร้าวรานที่ชายหาดแห่งนี้ดูนะค่ะ ก็สวยงามไม่เบาค่ะ
ทัศนียภาพสวยงามดีมากค่ะ มีนักท่องเที่ยวกำลังนอนอาบแดดอยู่ที่ริมชายหาด
บรรยากาศในช่วงบ่ายแก่ๆ กับอากาศที่แจ่มใส งามวิไลน่านอนไม่น้อยค่ะ
มองไปอีกทางก็เป็นหาดทรายโค้งเว้าดุจเงาพระจันทร์ สุดลูกหู ลูกตาค่ะ จะเดินลั๊ลลาไปให้สุด ก็เกรงจะหยุดไม่อยู่ค่ะ
เห็นรถแม็คโครกำลังจะเฮโลพังอะไรสักอย่างค่ะ
หลังจากที่ได้ดื่มด่ำเดินย้ำริมทะเลสวนโมโมชิจนอิ่มหน่ำ สำราญแล้วนะค่ะ ก็ได้เวลาเดินกลับไปยังที่พักแล้วค่ะ โดยตอนขากลับ ใช้บริการนั่งรถเมลล์โดยสารค่ะ จาก Fukuoka tower ไปยังสถานีรถไฟ Hakata ราคาจำไม่ได้แล้วนะค่ น่าจะประมาณ 390-400 เยนเนี่ยแหละค่ะ
ระหว่างทางนั่งรถเมล์โดยสารก็เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองติดทะเลแห่งนี้
ระหว่างทางนั่งรถเมล์โดยสารก็เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองติดทะเลแห่งนี้
เห็นตึกรางบ้านช่อง โรงงานอุตสาหกรรม ใหญ่โตโอฬาร
เห็นหอคอย ประภาคารวิทยุ เด่นตระหง่ายอยู่ริมทะเลค่ะ
นั่งรถเมลล์โดยสารมาสุดทางสถานีรถไฟ Hakataค่ะ เจอแท่นเกี๊ยวยักษ์อีกแล้วค่ะ
แท่น kazariyama ขนาดใหญ่โตโอฬารตั้งตระหง่านอยู่หน้าสถานีรถไฟ ฮากาตะค่ะ ต้อนรับเทศกาลประจำฤดูร้อนแห่งเมืองนี้ค่ะ
หลังจากมาถึงสถานีฮากาตะ เดี๊ยนก็เดินจากสถานีรถไฟไปยังที่ที่พักอีกกิโลกว่าๆค่ะ เพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ค่ะ
จากนั้นก็เดินแบกกระเป๋าเป้มายังสถานีรถไฟ hakata อีกครั้ง เพื่อจองตั๋วรถไฟจากฟูกุโอกะไปยังเมืองท่องเที่ยวถัดไปคือเมืองฮิโรชิม่าค่ะ 
รถไฟชินกันเซนออกจากสถานี Hakata เวลา 19.44 น.ค่ะ ถึงสถานีรถไฟ Hiroshima เวลา 20.51 น.ค่ะ
รถไฟชินกันเซนมาถึงแล้วค่ะ  เข้าแถวคิวรอเข้าเลยนะค่ะ
อาหารเย็นมื้อนี้ จัดไปค่ะ ข้าวปั้นซูชิค่ะ กับขนมปังบันใส้ครีม เพิ่มความอ้วนค่ะ นั่งกินบนรถไฟอย่างเอร็ดอร่อยค่ะ
ที่พักค้างคืนนี้พักค้างที่โรงแรม Hiroshima Peace Hotel ห้องพักหลักร้อย ใกล้สถานีรถไฟ JR คลิ๊กดูที่พัก https://goo.gl/8LBFx5
นั่งรถไฟมาได้ประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว สถานีรถไฟ hiroshima
จากเปลี่ยนชานชลามานั่งรถไฟ JR ธรรมดาค่ะ เพื่อเดินไปยังสถานี โยโกกาว่าค่ะ

โรงแรมที่พักคืนนี้ โรงแรม Hiroshima Peace Hotel ค่ะ อยู่ใกล้สถานีรถไฟ Yokokawa ค่ะ

มารีวิวห้องพักที่โรงแรม Hiroshima peace hotel ดูสิว่าห้องพักสะอาดสะอ้านและดีใหม๊
มาถึงก็เช็คอินน์เข้าที่พักค่ะ สำหรับที่พักของดิฉันคืนนี้ ก็เป็นที่พักแบบเดิมค่ะ แต่ดูดีขึ้นมาหน่อยค่ะ ที่พักแบบห้องแคปซูลค่ะ
ห้องพักเป็นแบบแคปซูล แบ่งเป็นล็อกๆ แค่ซุกหัวนอนพักผ่อน ราคาถูกดี ใกล้สถานีรถไฟด้วย ดูรายละเอียดห้องพักที่เว็ปไซต์ :
ราคาที่พักคืนนี้ 812 บาทค่ะ จองผ่านออนไลน์ ตัดบัตรเครดิตเรียบร้อยค่ะ
สภาพห้องพักโดยรวมถือว่าดีมากๆเลยค่ะ และวันที่เข้าพัก ก็ไม่ลูกค้าเข้าพักด้วย
ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่วุ่นวายด้วย 
ห้องพักเล็กๆ แนวแคปซูล ที่นอนมีโคมไฟและที่วางของ รวมทั้งโน๊ตบุ๊คได้ด้วย คือดีมากๆค่ะ ยังดูใหม่อยู่เลย
ห้องพักดีเลยค่ะ วันที่เข้าพักโชคดี แขกเข้าพักไม่ค่อยเยอะ เลยไม่ค่อยวุ่นวายค่ะ

มีตู้ล็อกเกอร์
กระจก
และรองเท้าสลิปเปอร์แบบใช้แล้วทิ้งให้ด้วยค่ะ
ส่วนห้องน้ำก็สะอาดสะอ้านดีมากๆ
รีวิวห้องพักที่โรงแรม Hiroshima Peace hotels โดยรวมแล้ว ถือว่าดีทีเดียวค่ะ เข้าไปดูรายละเอียดที่พักที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/8LBFx5
ถึงแม้ห้องพักจะเล็กมีแค่ที่นอน ห้องน้ำรวม แต่ก็สะอาดสะอ้านดีมากค่ะ แถมในที่นอนก็มีที่วางโน๊ตบุ๊คไว้ทำงานด้วยค่ะ พอหัวถึงหมอนดิฉันก็นอนหลับสนิทชิดฝาฝนัง บัลลังก์พินาศไปถึงตอนเช้าเลยค่ะ

สำหรับใครที่มองหาโรงแรมที่พักราคาถูก หลักร้อย มีงบน้อย อยากได้ที่พักใกล้สถานีรถไฟ JR ก็แวะมาพักค้างที่โรงแรม Hiroshima peace hotel ได้ค่ะ เข้าไปดูรายละเอียดห้องพักเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/8LBFx5
 จบทริปเที่ยวเมืองฟูกุโอกกะ 1 วันเดย์ กิ๊บเก๋ไม่เบาเชียวค่ะ สำหรับเมืองท่องเที่ยวถัด คือเมืองฮิโรชิม่าค่ะ เขียนบล็อกเสร็จแล้วค่ เข้าไปอ่านตอนที่ 4 ต่อ : รีวิวท่องเที่ยวเมืองฮิโรชิม่า เดินลั๊นลาตามรอยระเบิดเคลียร์ คลิ๊กดูที่เว็ป :http://khunnaiver.blogspot.com/2017/08/4.html

สำหรับรีวิวท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อนในเมืองฟูกุโอกะ ที่ดิฉันได้นำมาเสนอและรีวิวเป็นบทความในวันนี้ คงมีประโยชน์และเป็นแนวทางสำหรับท่านที่กำลังวางแผนไปเที่ยวอยู่ไม่มากก็น้อยนะค่ะ หากข้อมูลดังกล่าวมีข้อผิดพลาด ไม่ถูกต้องประการใด เดี๊ยนเองต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาเปิดลั๊นลาอ่านและสไลด์ดูภาพกันค่ะ หวังว่าจะติดตามกันต่อในบล็อกถัดไปนะค่ะ หากใครมีข้อสงสัยการเที่ยวและเดินทางในญี่ปุ่นอย่างไร ก็ส่งข้อความมาทาง Facebook ได้ค่ะ เดี่ยวดิฉันจะทยอยตอบหลังเลิกงานประจำค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
บล็อกเกอร์สมัครเล่น
-----------------------------------------------------------------------
แนะนำบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และรีวิวท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ มีดังนี้ค่ะ
เที่ยวเทศกาลฮานามิ และรีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมืองมาฝากจ้า คลิ๊กดูรีวิว>>
แบกเป้เที่ยวเทศกาลฮานามิเมืองฟุกุโอกะ กับรีวิวการเดินทางด้วรถไฟใต้ดินในตัวเมืองง่ายๆมาฝากจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวและการเดินทางค่ะ>>
โรงแรมในเมืองฮาโกดาเตะ สุดน่ารัก แถมราคาถูกอีกด้วย คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>>
สุดน่ารัก 10 ที่พักฮาโกดาเตะ ราคาถูก ใกล้สถานีรถไฟJR นอนพักสบายๆในเมืองสวยโรแมนติค คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>>> 
หรือดูข้อมูลได้ที่เว็ปบล็อก : http://bit.ly/2EMob0W
แนะนำโรงแรมโตเกียวเปิดใหม่ปี 2108 สำหรับคู่รัก คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
แนะนำโรงแรมโตเกียวเปิดใหม่2018 วิวสวยๆ สำหรับคู่รักฮันนีมูน ราคาสุดประหยัด ใกล้สถานีรถไฟอีกด้วย คลิ๊กดูรายละเอียดที่พักค่ะ>>  
หรือดูข้อมูลได้ที่บล็อก : http://bit.ly/2L3Nivv 
แนะนำโรงแรมในซัปโปโร ห้องนอนคู่ดูโอ้ ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
รวมที่พักซับโปโร ห้องพักนอนคู่ดูโอ้ ราคาถูก เน้นใกล้สถานีรถไฟ JR เดินลั๊ลลาได้ชิวเว่อร์ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> 
 รีวิวเที่ยวประจำเดือน ก.ค.2560 เที่ยวญี่ปุ่นตอนจบ สรุปค่าใช้จ่าย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวตอนที่ 15 (ตอนจบ) สิ้นสุดการเดินทางอันยาวไกล แวะไปซื้อของฝากเมืองโอซาก้า คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 13 นอนค้างโตเกียว นั่งรถไฟไปเที่ยวคามากุระ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 13 เที่ยวโตเกียวใน 1 วัน นั่งรถไฟสุขส้นต์ไปเมืองคามากุระ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
 10 ที่พักโอซาก้า ราคาถูกสุดๆ ใกล้สถานีรถไฟ JR คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
รวมที่พักโอซาก้าราคาถูกหลักร้อย ใกล้สถานีรถไฟ JR เดินไปได้ใกล้ๆ สะดวกสุดๆ คลิ๊กดูรายละเอียดที่พักค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 11 ขี่จักรยานชมไร่นาเมืองบิเอะ สวยเป๊ะเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบ็คแพ็ครีวิวญี่ปุ่นญี่ปุ่น ตอนที่ 11 ขี่จักรยานชมทุ่งนาข้าวบาร์เลย์เมืองบิเอะตอนบ่าย งามพร่างพรายสวยเว่อร์ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 4 ตามรอยระเบิดเมืองฮิโรชิม่า ไปลั๊นลาเกาะมิยาจิมะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 4 ตามรอยระเบิดนิวเคลียร์เมืองฮิโรชิม่า นั่งรถไฟลั๊ลลาไปสะพานคินไตเคียว คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวทามะ แวะพักชมปราสาทสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวเหมียวทามะสุดน่ารัก แวะเดินพักชมปราสาทวาคายามะ คลิ๊กดูบทความรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
วิธีการวางแผนเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองมาฝาก คลิ๊กดูค่ะ>>
อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี มีวิธีการวางแผนเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองมาฝากค่ะ คลิ๊กอ่านบทความค่ะ>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น