บล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน ก.ย.2018 เดือนนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้าแบกเป้จรลี หนีกรุงไปเที่ยวชุมพร 4 วัน 3 คืน กับรีวิวตอนที่ 1 |
สำหรับทริปรีวิวประจำเดือนกันยายนนี้ ดิฉันตัดสินใจมาเที่ยวชุมพรอีกครั้งค่ะ หลังจากที่ไม่ได้มาเที่ยวเมืองนี้นานมากๆ จำได้ว่ามาเที่ยวชุมพรครั้งล่าสุดเมื่อปี 2541 ในช่วงยุคต้มยำกุ้งเฟื่องฟู เศรษฐกิจฟองสบู่แตก กระเป๋าแหกพัง บัลลังก์พินาศกันไปทั่วทีปทั่วแดน แต่ถึงอย่างไรเสีย แม้จะได้ซดน้ำต้มยำกุ้งกิน แต่ก็ฟินแบบสุดๆ เพราะวันหยุดลาพักร้อนช่วงนั้น คุณแม่ของดิฉัน ก็ยกขบวนกวนแก๊งพากันมาลั๊ลลาเที่ยวทะเลชุมพร นั่งออนซอนกินปลา อร่อยซ่าบซ๋าถึงทรวงใน งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนกันแทบทุกคน
จนผ่านกาลเวลามาเนินนานถึงบัดนี้ ดิฉันเลยตัดเลยปลีกวิเวกจรลี หนึมาเที่ยวที่เมืองนี้อีกครั้ง แต่รอบนี้ก็ขอมาเที่ยวแบบลุยเดี่ยว เนื่องจากจะชวนเพื่อนๆมาเที่ยว นางก็ไม่มา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน แต่ดิฉันมีความคิดเห็นว่า ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนยิ่งต้องออกมาเที่ยว เพราะถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนที่ชุมพร คงจะร้อนตับแตกเลยทีเดียว มาเที่ยวฤดูฝนเนี่ยแหละดี
โดยทริปนี้ จัดเที่ยวไปเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน โดยเที่ยวจริงๆก็แค่ 2 วัน เวลานอกนั้น ดิฉันนั่งเปิดโน๊ตบุ๊ตทำงานอยู่แต่ในโรงแรมเลยค่ะ เนื่องจากเป็นคนบ้างานมากๆ ถ้าไม่แบกเป้ออกมาเที่ยว ดิฉันคงบ้าทำงานอยู่ที่กรุงเทพเป็นแน่แท้
เหตุของการเที่ยวครั้งนี้ก็เพราะได้ไปเปิดกรุ อ่านหนังสือ อนุสาร อสท.เล่มเก่า ปี2507 ที่ผู้เขียนบรรยายจนดิฉันต้องมาให้ได้ |
ตามรอยอนุสาร อสท.ปี2507ซึ่งเป็นยุคแรกที่มีการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดชุมพร มาดูสิว่ามีที่ใหนบ้าง |
ว่าแล้วก็มารู้จักประวัติความเป็นมาของจังหวัดชุมพรกันสักเล็กน้อย
คำว่า "ชุมพร" มีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า “ชุมนุมพล” เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่าน การเดินทัพไม่ว่าจะมาจากฝ่ายเหนือหรือว่าฝ่ายใต้ ล้วนเข้ามาตั้งค่ายชุมนุมพลกันที่นี่ จึงเรียกจุดนี้ว่า “ชุมนุมพล” ต่อมาเพี้ยนเป็น ชุมพร อีกประการหนึ่ง ในการเดินทางไปทำศึกสงครามของแม่ทัพนายกองตั้งแต่สมัยโบราณมา เมื่อจะเคลื่อนพลจะต้องทำพิธีส่งทัพโดยการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ได้รับชัยชนะในการสู้รบ เป็นการบำรุงขวัญทหารในสถานที่ชุมนุม เพื่อรับพรเช่นนี้ ตรงกับความหมายชุมนุมพรหรือประชุมพร ซึ่งทั้งสองคำนี้อาจเป็นต้นเหตุของคำว่า “ชุมนุมพร” เช่นเดียวกัน
แต่อีกทางหนึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะได้มาจากชื่อพันธุ์ไม้ธรรมชาติในท้องถิ่น ได้แก่ ต้นมะเดื่อชุมพร เพราะที่ตั้งของเมืองชุมพรนั้นอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าตะเภา มีต้นมะเดื่อชุมพรขึ้นอยู่มากมาย ต้นมะเดื่อชุมพรจึงเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของ ตราประจำจังหวัดชุมพร
และตั้งแต่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 และแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมืองชุมพรเป็นเมืองท่าค้าขายสำคัญ จนถึงในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ชาวจามยังมีบทบาทในดินแดนแทบนี้ ต่อมา รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเป็น มณฑลชุมพร ต่อมามีการยุบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลเป็นจังหวัด ชุมพรจึงมีฐานะเป็นจังหวัด และเมื่อ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สามารถเดินเรือได้เอง ชาวจามก็หมดบทบาทลงในเวลาต่อมา
(เครดิตข้อมูลดีๆจาก https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดชุมพร)
ภาพเกาะรังกาจิวในอดีตเมื่อปี 2507 ในยุคนั้นคงสวยงามเงียบสงบมากๆเชียว มีทิวมะพร้าวโอนเอนแล่นลมทะเล เหมือนกับเลื่อนเอาหมู่เกาะทะเลใต้มาอยู่ในประเทศไทย |
เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ดิฉันขอมาบรรยายรีวิวการเดินเที่ยวชุมพรด้วยตัวเอง ให้คุณผู้อ่านได้แวะไปเที่ยวด้วยกันดังนี้จ้า เผื่อใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยว ก็ลองแวะไปเที่ยวกันดูเลยจ้า
และการเดินทางเที่ยวในครั้งนี้ ดิฉันก็เน้นเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่มีรถส่วนตัวก็เที่ยว โดยการเช่ามอเตอร์ไซต้ในเมือง ค่าเช่าตกวันละ 300 บาท ขับไปตะล่อนแวะเป็นผู้สาวขาเลาะไปจอดเจาะแวะดูตามที่เที่ยวต่างๆ ถือว่าสะดวกสุดๆ
วันที่ 11 ก.ย.2018 นั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ มุ่งสู่จังหวัดชุมพร ด้วยตั๋วโดยสารราคา 400 กว่าบาท โดยเป็นตั๋วโปรโมชั่นจองตั้งแต่ต้นปี ถ้าไม่มานี้เสียดายแน่ๆเลย โดยจองทั้งขาไปและกลับ รวมกันแล้วก็ 835 บาทค่ะ
นั่งเครื่องบินมาไม่นาน แป๊บเดียวก็ถึงสนามบินชุมพร อำเภอปะทิวแล้วล่ะค่ะ เร็วมากๆ จากเมื่อก่อนเคยนั่งรถราก็หลายชั่วโมงอยู่นะกว่าจะมาถึงชุมพร เดี่ยวนี้จะเดินทาง ห่างเหินไปใหนก็สะดวกสบายเว่อร์ เพราะมีเรือบินให้บริการส่งตรงถึงจังหวัดที่อยู่ไกล แต่ราคาก็จองไว้แต่เนิ่นๆด้วยนะค่ะ เพราะถ้าจองใกล้ๆวัน ก็แพงหูฉี่เหมือนกัน
เนื่องจากสนามบินจังหวัดชุมพร ตั้งอยู่ที่อำเภอปะทิว ระยะทางห่างจากตัวเมืองราวๆ 20 กิโลเมตร ดังนั้นการเดินทางไปยังตัวเมืองที่สะดวกที่สุดก็ต้องนั่งรถตู้ไปค่ะ
โดยติดต่อที่เคาว์เตอร์ของ Fame tour ซึ่งในอาคารสนามบิน ดิฉันก็เห็นมีผู้ให้บริการรถรับส่งอยู่เจ้าเดียวกระมังค่ะ ไม่เห็นเจ้าอื่นเลย
เป็นรถตู้โดยสารให้บริการเข้าไปในเมืองชุมพร ตกคนละ 150 บาท
ซึ่งทริปนี้ดิฉันต้องแวะเข้าไปในเมืองก่อนด้วยสิ เพราะต้องไปเช่ารถมอเตอร์ไซต์
แต่ถ้าใครที่จะไปท่าเรือเกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพะงัน ราคาตกคนละ 200 บาทนะจ๊ะ
จ่ายค่าตั๋วโดยสารไปก็จะได้ตั๋วสีชมพูมาแบบนี้
พอได้ตั๋วเสร็จก็เดินแบกเป้มาขึ้นรถตู้ ซึ่งจอดที่หน้าประตูทางออกพอดีเลย
นั่งรถออกจากสนามบินชุมพร ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอปะทิว มุ่งหน้าไปยังตัวเมืองชุมพร ใช้เวลานานพอสมควร
เช่ามอเตอร์ไซต์จากตัวเมืองชุมพรขับตะล่อนเที่ยวในทริปนี้ |
- เช่ามอเตอร์ไซต์ที่ร้าน Fame tour เบอร์โทร 077-571077
- ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ตกวันละ 300 บาทต่อวัน
- ค่ามัดจำรถ 1000 บาท ใช้บัตร ปปช. บัตรเครดิต และบัตรขับขี่แสดงในวันเช่าด้วย โดยทางร้านจะถ่ายรูปหน้าบัตรเราไว้ โดยที่ไม่ได้ยืดบัตรแต่อย่างใด
- น้ำมันรถเติมเอง เวลาคืนก็ให้เหลือเท่ากับตอนที่เช่ามาค่ะ โดยทางร้านจะจดไว้ว่าน้ำเหมือนเหลือถึงขีดใหน
พอได้มอเตอร์ไซต์แล้วก็ลุยไปเที่ยวเลยจ้า
มาทำทานที่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านอู่ทองพนังตัก |
เนื่องจากใหนๆก็จะแวะไป Check in ที่โรงแรมแถวหาดทุ่งวัวแล่นอยู่แล้ว ก็เลยแวะลัดเลาะตามถนนเส้นเล็กมาที่บ้านอู่ทองพนังตักก่อนเลย แต่กว่า่จะมาถึงสถานสงเคราะห์ได้เลยเอาดิฉันสับสน งวยงงกับเส้นทางพอสมควร เพราะสถานสงเคราะห์ตั้งเข้ามาในซอยลึกเสียเหลือเกิน
แต่พอมาถึงก็หายเหนื่อย เพราะได้ร่วมบริจาคทรัพย์ตามที่ได้พึงปราถนาไว้
ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสมทบทุนช่วยซื้อผ้าอ้อมสำหรับผู้สูงอายุ และเครื่องอุปโภค บริโภคต่างๆที่จำเป็นในสถานสงเคราะห์ค่ะ
ประวัติสถานสงเคราห์คนชราอู่ทอง-พนังตัก
โดยเมื่อปี พ.ศ.2525 นายแสง และนางสุจิตรา อู่ทองได้บริจาคที่ดินให้กรมประชาสงเคราะห์ เนื้อที่ 42 ไร่เศษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งเป็น "สถานสงเคราห์ะคนชรา" ซึ่งกรมประชาสงเคราะห์ได้ดำเนินการก่อสร้าง และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2529 โดยมี พลเอกสิทธิ์ จรโรจน์ รัฐมนตรีว่าการทรวงมหาดไทยในขณะนั้นเป็นประธาน
โดยวัตถุประสงค์ เพื่ออุปการะดูแลผู้สูงอายุด้านปัจจัย 4 และการดำรงชีวิต ส่งเสริมด้านสุขอนามัยและป้องกัน ส่งเสริมด้านกิจกรรมนันทนาการ และการศึกษาสำหรับผู้สูงอายุ ช่วยให้ผู้รับบริการได้มีความสุข ความบันเทิง และสุขภาพที่ดี
หากเพื่อนๆคนใหนที่แวะมาเที่ยวชุมพร อยากทำร่วมบริจาคสิ่งของ ผ้าออมหรือข้าวสารของใช้ หรือบริจาคทรัพย์ก็มาร่วมได้นะค่ะ ตามกำลังที่มี ถือว่ามาสะสมเสบียงบุญไว้จ้า
หลังจากนั้นก็ขับมอเตอร์ไซต์มุ่งหน้าไปยังหาดทุ่งวัวแล่นต่อไปค่ะ ระหว่างทางผ่านคลองพนังตัก บรรยากาศโดยรอบดูเงียบสงบ แวดล้อมไปด้วยป่าชายเลน และบ้านเรือนริมคลอง
บ้านเรือนริมคลองพนังตักของชาวประมงสุดแสนจะเรียบง่าย หลังคาสังกะสีน้ำตาลเข้ม น่าจะอยู่คู่ริมคลองแห่งนี้มากาลโข พอสมควรทีเดียวเชียว
หลังจากนั้นก็ขับมอเตอร์ไซต์ วนเวียนออกจากถนนใหญ่อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงหาดทุ่งวัวแล่นสักที
ก่อนจะเข้าเช็คอินน์ที่พัก ดิฉันขอแวะเติมพลังงาน ทานอาหารมื้อเที่ยงก่อนล่ะกันค่ะ ไม่ไหวแล้ว เพราะมื้อเช้าทานกล้วยน้ำว้ามาแค่ 1 ลูกเอง มื้อเที่ยงเลยจัดมาเบาๆ ถ้าสั่งเยอะเดียวทานไม่หมด
โดยอาหารมื้อเที่ยงนี้ ก็ขอสั่งต้มต้มยำทะเลน้ำใสสไตล์ภาคใต้ รสแซ่บซี๊ด จี๊ดไปถึงทรวง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติออนซอน อร่อยเว่อร์ เพราะอาหารทะเลสดๆจริงๆ
บรรยากาศร้านอาหารริมชายหาดทุ่งวัวแล่นในวันธรรมดาแบบนี้ ดูช่างเงียบเหงายิ่งนัก บ้างก็นั่งตบยุง ตบแมลงวันรอลูกค้ามาทานก็มี ดิฉันรู้สึกเห็นใจแม่ค้ายิ่งนัก เพราะเป็นวันธรรมดาค่อนข้างเงียบเหงา ไร้ซึ่งนักท่องเที่ยว ขนาดเที่ยงวันทันเหตุการณ์แล้วนะค่ะ ยังเหงาหงอยขนาดนี้ ถ้าตกบ่าย แม่ค้าคนขายคงได้ตบยุง ตบแมลงวันสีทอง มาทอดกินเป็นแกนลอนเลยกระมัง
ดิฉันเองขอเชิญชวนเพื่อนๆออกมาทัศนาจรทุกคน ออกมาออนซอนเที่ยววันธรรมดากันนะคะ จะได้กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นด้วย ไม่ต้องไปจอแจแออัดวันหยุดสุดสัปดาห์เสียอย่างเดียว เดียวคนขายจะเหงาหงอยแบบวันธรรมดาเอา
โดยที่พักในการเที่ยวชุมพรครั้งนี้ ดิฉันพักค้างแรมที่โรงแรม นานาบีช รีสอร์ท |
โดยที่พักในการเที่ยวชุมพรครั้งนี้ ดิฉันพักค้างแรมที่โรงแรม นานาบีช รีสอร์ท
ราคาตกคืนละ 1180 บาทต่อคืน สำหรับ 2 คน ถ้ามา 1 คนแบบดิฉัน ก็ราคาเดียวกันคะ
เปิดประตูเข้ามา สภาพห้องพักก็โอเคอยู่นะค่ะ ทาสีใหม่ ห้องขาวเอี่ยมอ่องผุดผ่องเป็นยองใยเชียว
แต่เครื่องปรับอากาศที่ติดอยู่เหนือประตูกระจกบานเลื่อน ค่อนข้างเก่าไปหน่อยนะ
สภาพโดยรวมของห้องพักถือว่าอยู่ในสภาพดี พอใช้ได้ค่ะ
มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งให้ด้วย
บรรยากาศและสภาพแวดล้อมของที่พักโดยรวมถือว่าดีทีเดียว
แม้ห้องพักจะเก่าะไปหน่อย แต่บรรยากาศของร่มรื่น
ส่วนใครที่ชอบบรรยากาศแบบส่วนตัว ก็เลือกนอนพักแบบบังกะโลได้ด้วย
แต่ราคาก็แพงไปอีกนิดหน่อย
ที่พักน่าจะเหมาะสำหรับคู่รักและครอบครัวที่ต้องการพักผ่อน สภาพที่พักโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แม้แอร์จะเก่าไปหน่อยก็ตาม แต่ชอบที่บรรยากาศสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่นเขียวขจี ดูไม่วุ่นวาย และวันที่ไป ก็ไม่ค่อยจะมีแขกเข้าพักเลยค่ะ เงียบเหงาวังเวงมากๆ พนักงานบอกว่า มาเที่ยวหน้าฝนแบบนี้ คือต้องทำใจเพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น (Low Season)แบบสุดๆแล้วล่ะ
เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน คนก็ไม่เที่ยวกัน จริงๆแล้วดิฉันว่าการเที่ยวทะเลหน้าฝนก็สวยนะ เพราะได้รับทั้งลมเย็น ได้สัมผัสพายุมรสุม และฝนกระหน่ำชื่นฉ่ำสุดๆเลยล่ะ
หลังจากที่เอากระเป๋าเข้าห้องพักแล้ว ก็ได้เวลาออกไปตะแล๊ดแต๋ดแต๋ ตะลอนขับมอเตอร์ไซต์เลาะเที่ยวแล้วล่ะค่ะ ซึ่งทางที่พักก็มีแผนที่คู่มือท่องเที่ยวในจังหวัดชุมพรให้ด้วย ถ้าจะพึ่งมือถือเปิด GPS อย่างเดียวก็จะไม่ได้เสียแล้วกระมัง
วิธีการเดินทางท่องเที่ยวทีดีที่สุด ก็คงต้องถามคนในท้องถิ่น และถามเจ้าหน้าที่ในโรงแรมน่าจะบอกสถานที่ท่องเที่ยวอันดึงดูดตาและน่าสนใจได้มากที่สุด
แผนที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองชุมพร ก็มีบอกจุดแวะชม ชิม ช๊อปปิ้งหลายแห่งเช่นเดียวกันนะ |
หาดทุ่งวัวแล่น ยังสวยงามเริ่ดสะแมนแตนเสมอ ลองแวะไปนอนละเมอสักคืนดูนะคะ |
วันที่มาเที่ยวก็โชดดีเหลือเกิน เพราะพนักงานที่โรงแรมบอกดิฉันว่า พายุพึ่งจะหมดไปเมื่อวานนี้ ทำให้วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นพิเศษ
ที่มาของของชื่อหาดทุ่งวัวแล่น
มีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่า สมัยก่อนเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่านานาชนิด พวกพรานจึงนิยมเข้ามาล่าสัตว์ แต่สัตว์ที่ถูกยิงก็หลบหนีไปได้ทุกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งมีพรานฆ่าวัวป่าได้ ขณะที่กำลังถลกหนังวัว ฉับพลันวัวตัวนั้นก็กลับฟืนคืนชีวิต และลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าป่าไป ผู้คนจึงเรียกหาดนี้ว่า "หาดทุ่งวัวแล่น" คำว่า "แล่น" เป็นภาษาถิ่นภาคใต้ หมายถึง "วิ่ง"
หาดทุ่งวัวแล่น ยังสวยงามเริ่ดสะแมนแตนเสมอ ลองแวะไปนอนละเมอสักคืนดูนะคะ |
หาดทุ่งวัวแล่น ยังสวยงามเริ่ดสะแมนแตนเสมอ ลองแวะไปนอนละเมอสักคืนดูนะคะ |
เหลียวมาไกลก็มีรถเข็นจอดไว้ แต่บางคนเรียก "รถลุน" เพราะเอาไว้บรรทุกลุนใส่ของ ส่วนดิฉันก็เรียกรถเข็น เพราะเข้าใจง่ายดี
มีปูด้วย ไม่รู้ว่าปูชื่ออะไร แต่ดิฉันเรียกมันว่า ปูเร็ว เพราะมันวิ่งเร็วมากๆ โดยวิ่งไปอาศัยอยู่ตามรูที่ขุดไว้ตามชายหาด
ประตูทักษิณ ถิ่นค่างแว่น แดนหาดทรายงาม ลือนามปะการัง ชื่อดังเขาเจดีย์ คำขวัญของอำเภอปะทิว |
และหลังจากที่ได้เดินชมชายหาดทุ่งวัวแล่นไปแล้ว
ดิฉันก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ แว๊นๆลุยเป็นผู้สาวขาเลาะลุยไปเที่ยวต่อ โดยขับรถออจากที่พัก มุ่งหน้าขึ้นมาทางทิศเหนือ
และสถานที่ท่องท่องเที่ยวถัดมาที่ต้องแวะเมื่อมาเที่ยวปะทิวก็คือ จุดชมวิวเขาดินสอ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งในชุมพร และยังเป็นจุดที่ได้เห็นเหยี่ยวอีกด้วย ซึ่งเส้นทางไปยังเขาดินสอ ก็เป็นถนนเส้นเดียวกับที่จะไปสนามบินเลยค่ะ
มีป้ายติดบอกไว้ด้วยนะค่ะว่า เปิดให้เข้าไปชมได้ตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า ถึง 18 นาฬิกาเท่านั้น
โดยต้องขับรถไต่ตามเนินเขาลาดชันขึ้นไปนิดหน่อย
ขับรอมาจากปากทางก็ถึงจุดชมวิวเขาดินสอแล้วล่ะค่ะ
จุดชมวิวเขาดินสอ สวยอ้อล้อจับใจ งามวิไลรอคนแวะมาถ่ายรูปกันนะ |
จุดชมวิวเขาดินสอ สวยอ้อล้อจับใจ งามวิไลรอคนแวะมาถ่ายรูปกันนะ |
จุดชมวิวเขาดินสอ สวยอ้อล้อจับใจ งามวิไลรอคนแวะมาถ่ายรูปกันนะ |
หลังจากที่ได้แวะชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของจุดชมวิวบนเนินเขาดินสอแล้ว
แหล่งท่องเที่ยวถัดมาที่ต้องแวะมาเช็คอินน์ ถ่ายรูปฟินก็คือ แหล่มแท่นเลยค่ะ
ดิฉันขับมอเตอร์ไซต์มาถึงที่แห่งนี้ ก็เห็นคนงานสวนกำลังปรับปรุงภูมิทัศน์อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์กันอยู่ เพื่อทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดถ่ายภาพและชมวิวทะเลที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วย
แหล่มแท่น จุดชุมวิวทะเลสวยงามอีกแห่งในชุมพร |
บรรยากาศโดยรอบก็ตามภาพที่เห็น เงียบสงบ สยบความครืนเครง ไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจ มีสวยโดดเด่น เห็นเวิ้งทะเลและเนินกรวดหิน ท้องฟ้าสีใสสด งามจรดผืนทราย พร่างพรายสวยยิ่งนัก
หลังจากได้ชมวิวที่หาดแหล่มแท่นแล้ว ไม่ไกลนัก ขับรถลัดเลาะตามถนนริมทะเล ก็มาถึงหาดบ่อเมา หาดสวยอีกแห่งในอำเภอปะทิว
หาดบ่อเมา หาดสวยคลอเคล้าไปด้วยทะเลสีใส กับท้องฟ้าสีคราม ร้าวรานจับใจยิ่งนัก |
หาดบ่อเมา หาดสวยคลอเคล้าไปด้วยทะเลสีใส กับท้องฟ้าสีคราม ร้าวรานจับใจยิ่งนัก |
ชายหาดคอรัล บีช หรือ Coral Beach หาดสวย รวยด้วยมนต์เสน่หา ช่ะช่ะช่าหัวใจ |
โดยชายหาดแห่งนั้นตั้งอยู่ในโครงการ New Nordic Coral Beach Resort
ชายหาดคอรัล บีช หรือ Coral Beach หาดสวย รวยด้วยมนต์เสน่หา ช่ะช่ะช่าหัวใจ |
โดยรอบชายหาดก็เงียบสงบ ดูเป็นเหมือนหาดส่วนตัว ไม่วุ่นวาย หาดทรายสีขาว พราวเสน่หา เหมาะแก่การพาคู่รักมาเดินลั๊ลลาให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงในยิ่งนัก
ชายหาดคอรัล บีช หรือ Coral Beach หาดสวย รวยด้วยมนต์เสน่หา ช่ะช่ะช่าหัวใจ |
หากใครที่ชื่นชอบความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย และดูเป็นส่วนตัว ก็แวะเข้ามาเที่ยวชมชายหาดแห่งนี้ได้เลยนะคะ
ชายหาดอ่าวทุงซาง งามสะพร่างดั่งสายน้ำทิพย์ |
เดินลงมาจะเป็นเวิ้งหาดทรายสีขาวนวย และเวิ้งทะเลน้ำใสเป็นสีฟ้าครามอร่ามจับตา
ชายหาดอ่าวทุงซาง งามสะพร่างดั่งสายน้ำทิพย์ กับเม็ดทรายสีขาวนวลดุจผงแป้ง ร้อนแรงจับใจ |
แค่ย่างกรายลงบนผืนหาดทราย ก็สัมผัสได้ถึงความงดงามกับน้ำทะเลสีใส ส่วนท้องก็สดสีฉวีผ่องเป็นยองใย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนัก
ชายหาดอ่าวทุงซาง งามสะพร่างดั่งสายน้ำทิพย์ กับเม็ดทรายสีขาวนวลดุจผงแป้ง ร้อนแรงจับใจ |
มองไปลงทะลุทะลวงลงไปก็เป็นผืนทรายกับคลื่นน้ำทะเลที่ซัดขึ้นชายฝั่ง ประดุจบัลลังก์วังสีทอง งามสีผ่องยิ่งนัก
ซูมกล้องไปไม่ไกลนัก เห็นชาวประมงชุมพร กำลังออนซอน หาปลาอยู่เลย เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายๆ ดูแล้วไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมายนัก
เดินตามหาดทราย ย่างกราดมานิดหน่อย ก็จะได้พบกับใบไม้สีส้มด้วย หรือว่าใบไม้เปลี่ยนสีก็มิทราบได้ แต่เห็นมีสีเขียวแซมด้วย น่าจะเปลี่ยนสีกระมัง เพราะสีส้มแป๊ดเชียว ดูสวยงามร้อนแรงทะแยงด้วยตายิ่งนัก
ต้นไม้ริมทะเลใกล้ก็ยังให้ร่มเงาอีกด้วย
ชายหาดอ่าวทุงซาง งามสะพร่างดั่งสายน้ำทิพย์ กับเม็ดทรายสีขาวนวลดุจผงแป้ง ร้อนแรงจับใจ |
และหลังจากที่ได้เดินออกกำลังกาย สัมผัสเม็ดทรายที่หาดอ่าวทุงซางแล้วนะค่ะ ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์มาไหว้พระต่อที่วัดแก้วประเสริฐ
ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับวัดแก้วประเสริฐ
เป็นวัดที่ชาวบ้านเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดเจ้าแม่กวนอิม โดยวัดนี้สร้างขึ้นบนเนินเขาที่อยู่ริมชายทะเล ที่มองเห็นทิวทัศน์ของแผ่นดินเว้าแหว่งประดุจแหลมที่ยื่นล้ำเข้าไปในทะเลปะทิวได้อย่างสวยงามราวภาพวาด ทั้งนี้ตัววัดได้รับการพัฒนาเรื่อยมา ซึ่งหลวงพ่อจง เจ้าอาวาสวัดนั้นได้สร้างสิ่งก่อสร้างทั้งแบบไทยและจีน ไว้มากมายเพื่อให้ผู้คนได้สักการะ
วัดแก้วประเสริฐ |
หลวงพ่อองค์ขาว วัดแก้วประเสริฐ |
ทั้งนี้ ความหมายคำว่า "แก้ว" นั้นหมายถึง แก้วที่ใสสะอาด บริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปน คำว่า "ประเสริฐ" หมายถึง ดีงาม เมื่อรวม 2 คำ เข้าด้วยกันเป็น “แก้วประเสริฐ” แล้ว จึงมีความหมายว่า "ดวงแก้วที่สุกใส สะอาดบริสุทธิ์ ยังประโยชน์เพื่อเป็นคุณอันประเสริฐแก่มวลมนุษย์ชาติ" นั่นเอง
(เครดิตข้อมูลจาก : https://thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยว/วัดแก้วประเสริฐ-ข้อมูลและวีดีโอท่องเที่ยว--5581)
จุดชมวิวทิวทัศน์ทะเลชุมพร ที่วัดแก้วประเสริฐ |
โดยจุดชมวิวดังกล่าวนี้ หากใครที่ขับมอเตอร์ไซต์มาแบบดิฉัน ก็ขับแว๊นๆไต่เขาขึ้นไปที่ลานประดิษฐานหลวงพ่อองค์ขาวได้เลยค่ะ แต่ต้องระวังหน่อยนะค่ะ เพราะเส้นทางค่อนข้างชันทีเดียว
หลังจากที่ได้แวะไหว้พระที่วัดแก้วประเสริฐแล้วนะค่ะ ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์ มานั่งพักรับลมทะเลเย็นๆต่อที่อ่าวทุ่งมหา ซึ่งเป็นชุมชนชาวประมงริมทะเล มีสะพานปลาและเรือของชาวประมงทั้งลำเล็ก ใหญ่ น้อย ลอยเคว้งอยู่ริมฝั่ง
อ่างทุ่งมหา สวยระย้าจับใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน |
นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในระแวก กำลังตระเตรียเปิดแผงขายอาหารอีกด้วย
อ่างทุ่งมหา สวยระย้าจับใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน |
ว่ากันว่า หากใครอยากจะกินอาหารทะเลสด รสชาติดี แถมราคาก็แพง ต้องมาที่ท่าเรือแห่งนี้เลยค่ะ เพราะมีอาหารทะเลสดให้แวะเลือกซื้อกันด้วย
หลังจากที่ได้แวะชมทะเลที่ท่าเรืออ่าวทุ่งมหาแล้ว ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์หลายสิบกิโล เพื่อไปยังจุดท่องเที่ยวสุดท้ายของวันนี้แล้ว
และที่เที่ยวแวะท้ายสุด ของการขับมอเตอร์ไซต์เลาะชมหาดในวันนี้ ก็มาจบที่หาดสะพลี ซึ่งเป็นหาดสวยงามอีกแห่ง อยู่ไม่ไกลจากหาดทุ่งวัวแล่น
อ่าวสะพลี ที่ป้ายเขียนไว้ว่าเป็นหาดสวย 1 ในสยามเลยทีเดียว |
มีปูตัวใหญ่รอต้อนรับผู้ที่แวะมาเยือนและมาทัศนาจร ออนซอนเที่ยวทะเลชุมพรแห่งนี้
อ่าวสะพลี ลมพัดเย็นดี๊ดี |
และโชคดีมากๆเลยที่ฝนไม่ตก อุตสาห์เตรียมเสื้อกันฝนและร่มมาด้วยนะเนี่ย
ส่วนมอเตอร์ไซต์ก็จอดให้เครื่องได้ระเหยไอความร้อนสักแป๊บค่ะ เพราะดูท่าแล้วเกรงว่าจะไปไม่ถึงที่พักคืนนี้เสียแล้วกระมัง เนื่องจากดิฉันเล่นขับซ่ะไปไกลเกือบจะถึงบางสะพานเลยเชียว
แวะเหลียวมองที่ริมหาดทรายอ่าวสะพลี ก็เห็นผู้บ่าวชาวชุมพรหุ่นมาดแมน กำลังเริ่ดสะแมนแตนออสซอน เตะฟุตบอลกันอยู่ด้วย เห็นแล้วน่าสนุกดีจัง สนามฟุตบอลก็ไม่ต้องไปเล่นสนามหญ้าให้เจ็บแข้งขา มาเตะบนหาดทรายดูสนุกมากมาย แถมได้รับลมทะเลเย็นอีก เริ่ดสะแมนแตนเว่อร์ ดิฉันเห็นแล้วก็อยากไปร่วมแจมด้วยนะ
หลังจากที่ได้นั่งพักชมทะเลยามเย็นริมอ่าวสะพลีไม่นานนัก ก็ได้เวลาต้องเดินทางกลับที่พักแล้วล่ะค่ะ
กลับมาเดินพักชมทะเลยามเย็นที่หาดทุ่งวัวแล่นต่อ
จนเวลาพลบค่ำ ก็ได้เวลาออกไปหาอะไรทานแล้วล่ะค่ะ
มื้อเย็นนี้ไม่รู้จะไปกินที่ใหนดี เนื่องจากไม่อยากขับมอเตอร์ไซต์ไปใหนไกลแล้วล่ะค่ะ ก็เลยสั่งอาหารที่โรงแรมทานซ๋ะเลย โดยมื้อนี้ก็จัดไปแบบง่ายๆ ทานข้าวผัดกับปลาอะไรสักอย่างทอดกระเทียมค่ะ รสชาติข้าวผัดอร่อยมาก ผัดได้แห้งดีนะ แต่ปลาค่อนข้างมันเยิ้มไปหน่อย แต่ปลาสดดี เลยให้ผ่านจ้า
บรรยากาศยามหัวค่ำที่ร้านอาหารโรงแรมนานาบีช ริมหาดทุ่งวัวแล่น |
สรุปครึ่งวันบ่ายนี้ แวะเที่ยวทะเลในอำเภอปะทิว ดังนี้
- หาดทุ่งวัวแล่น
- จุดชมวิวเขาดินสอ
- หาดแหลมแท่น
- หาดอ่าวบ่อเมา
- หาดคอรัล บีช ( Coral Beach)
- อ่าวทุ่งซาง
- อ่าวทุ่งมหา
- วัดแก้วประเสริฐ
ถือว่าเก็บที่เที่ยวเกินกำหนดมากค่ะ เพราะใจจริงจะไปเที่ยวแค่หาดคอรัลบีช แต่ดิฉันก็ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ เป็นผู้สาวขาเลาะ ขับรถไปถึงวัดแก้วประเสริฐเลย ระยะทางจากหาดทุ่งวัวแล่น ไปยังวัดแก้วประเสริฐก็ประมาณ 50 กิโลเมตรได้
ถือว่ามาเที่ยวเปิดหูเปิดตาสักครั้ง ไม่เชื่อเลยว่าชุมพรจะมีชายหาดทะเลที่งดงามสวยปังขนาดนี้ถ้าไม่ได้มาเที่ยวด้วยตัวเอง ดิฉันว่าคงบ้างานอยู่บนโต๊ะทำงานที่กรุงเทพเป็นแน่แท้
--------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 12 ก.ย.2561
อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน วันใหม่กับท้องฟ้าแจ่มใสอีกหนึ่งวันนะค่ะ
ทุ่งวัวแล่นในฤดูฝนเดือนกันยายนเช้านี้ อากาศดีเริ่ดสุดไปเลยล่ะค่ะ มีแดดอ่อน กำลังทอแสงประกายจากฟากฟ้าฉายส่องลงมาสู้ท้องทะเลอ่าวไทย
เช้าวันใหม่ดูท้องฟ้าวันนี้แล้ว น่าจะสดใสไปอีกหนึ่งวัน
ในช่วงเช้ามาเดินเหยียยย่างกรายบนผืนหาดทราย ถือว่ามาออกกำลังกายและรับโอโซนทะเลเย็นๆ แถมอากาศก็ไม่ร้อนอีกด้วย
ส่วนการมาเที่ยวคนเดียวแบบดิฉันก็ไม่ต้องกลัวเหงานะคะเพราะว่าเดินมาที่ทะเล เจ้าถิ่นที่นี้ก็จะเป็นใครไม่ได้ นอกเสียจากน้องหมา ที่ออกมาเริงร่าริมหาดทราย |
เพราะว่าเดินมาที่ทะเล เจ้าถิ่นที่นี้ก็จะเป็นใครไม่ได้ นอกเสียจากน้องหมา ที่ออกมาเริงร่าริมหาดทราย รอต้อนรับผู้มาเยือนจากต่างถิ่นเคียงคู่ชายหาดแห่งนี้เสมอมา ทั้งน้องหมาตัวเล็กๆและตัวใหญ่ วิ่งสะบัดห่างดุ๊กดิ๊กไปมา เห็นท่าแล้วคงจะสนุกยิ่งนักเชียว
น้องหมาหลายตัว ออกเดินเริงร่ม สุขสม รับลมทะเลเย็นริมหาดทรายกับเขาด้วย
ดูอย่างเจ้าหมาน่ารักตัวนี้สิ มันกำลังเบ่งขี้อยู่ด้วยล่ะ |
และหลังจากที่ได้ดูน้องหมาขี้ที่ริมชายหาดแล้ว ก็ได้เวลาทานข้าวเช้าแล้วล่ะค่ะ
อาหารเช้าบุฟเฟ่ต์แบบง่ายๆที่โรงแรม |
พนักงานบอกว่าไม่ได้ลงอาหารหนัก เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝนและเป็นวันธรรมดาด้วย แขกที่เข้าพักน้อย ทางโรงแรมเลยไม่ได้จัดอาหารหนักให้ทาน แต่ก็ข้าวต้ม ไข่ดาว โอมเทล ที่สามารถสั่งกับพนักงานให้นำมาเสริฟได้
มื้อนี้จัดไปเบาๆ ข้าวต้ม กล้วย1 ลูก ไข่ 2 ฟอง ขนมปังนิดหน่อย แค่นี้ก็อิ่มล่ะ
คงไม่กล้าทานเยอะ เดี่ยวจะเกิดอาการแน่นท้องเอา
หลังจากที่ทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ ดิฉันก็ไม่ได้ไปเที่ยวใหนต่อนะคะ
เช้านี้กะจะนั่งทำงานริมทะเลให้เสร็จก่อน กะว่าช่วงบ่ายคงได้ออกตะลอนไปเที่ยว
นั่งพักรับลมทะเลอ่าวไทย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนักแล |
ทะเลชุมพรในช่วงฤดูฝน ก็สวยงามมิใช้น้อยทีเดียว เนื่องจากมีความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย
เวลาไปเที่ยวทุกครั้ง ดิฉันก็มักจะหอบโน็ตบุ๊ตไปทำงานด้วยเสมอ ไม่งั้นมีหวังโดนที่ทำงานกินหัวเอาแน่นอนค่ะ |
นั่งทำงานอยู่ที่ริมทะเลตั้งแต่เช้าจนถึงตอนเที่ยง ได้เวลาทานอาหารแล้ว สั่งผัดข้าวผัดกระเพรามาทาน ง่ายดี |
หลังจากที่ได้ทานอาหารเที่ยงแค่อิ่มพอประทังท้องแล้ว ก็ได้เวลาออกไปตะแล๊ดแต๊ดแต่เที่ยวชมเมืองชมพรต่อแล้วค่ะ
ดิฉันขับมอเตอร์ไซต์ออกจากที่พักมุ่งหน้าจากหาดทุ่งวัวแล่น ลงมายังเส้นทางมุ่งหน้าสู่เมืองชุมพร ระหว่างแวะผ่านร้านขนมถ้วยแม่เล็กด้วย เลยเข้าไปอุดหนุนสักหน่อย เห็นติดป้ายไว้ใหญ่ซ่ะขนาดนี้ รสชาติต้องอร่อยแน่ๆ
ขนมถ้วยสีขาว รสชาติหวานเค็มกินเล่นอร่อยดีนะ |
ประเพณีการแข่งเรือยาว |
เรือลำยาว ต้องพายด้วยแรงแขนล้วนๆ ถือเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์การแข่งเรือยาว ที่ประลองทักษะความแข่งแกร่งและความสมัครสมานสามัคคีกัน
ใหนๆก็เข้าสู่เรื่องประเพณีการแข่งเรือยาวแล้ว
เรามารู้จักประเพณีการแข่งเรือยาวกันสักหน่อยนะคะ อ่านเป็นความรู้เชิดชูความไทย
สำหรับประเพณีแข่งเรือ เป็นประเพณีหน้าน้ำของคนไทย เป็นการละเล่นในยามน้ำหลากที่สืบทอดมาแต่โบราณ และมักมีการแข่งเรือควบคู่ไปกับการทำบุญ ปิดทอง ไหว้พระและงานกฐิน ช่วยสร้างบรรยากาศให้งานบุญครึกครื้นขึ้น
ประเพณีแข่งเรือ เป็นการละเล่นที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยในชนบทถิ่นที่อยู่อาศัยใกล้น้ำ ในช่วงเดือนสิบเอ็ดและเดือนสิบสอง ชาวบ้านเว้นว่างจากการทำไร่ทำนา เป็นโอกาสที่หนุ่มสาวได้พบปะเกี้ยวพาราสีกัน ได้เห็นฝีไม้ลายมือของชายอกสามศอก ได้เห็นความสามัคคีพร้อมเพรียงของเหล่าหนุ่มฝีพาย การแข่งเรือมักมีการเล่นเพลงเรือ เพลงปรบไก่ เพลงครึ่งท่อน และสักวาโต้ตอบกันระหว่างหนุ่มสาวหลังการแข่งเรือ เป็นกรใช้ฝีปากไหวพริบและความเป็นเจ้าบทเจ้ากลอน โต้ตอบเกี้ยวพาราสีกัน ได้แสดงความสามารถทั้งหญิงและชาย ผู้ดูมีทั้งอยู่บนตลิ่ง และที่พายเรือกันไปเป็นหมู่ ต่างสนุกสนานกันทั่วหน้า
เรือแข่งที่แถบชาวบ้านลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาใช้แข่ง เรียกเรือยาว ซึ่งทำจากท่อนซุงทั้งต้น การต่อเรือยาวต้องใช้ความรู้ ความชำนาญมาก จึงจะได้เรือที่สวยและแล่นได้เร็วเวลาพาย
(เครดิตข้อมูลดีๆจาก https://th.wikipedia.org/wiki/การแข่งเรือยาว)
ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ |
ว่ากันว่า หากใครที่แวะมาเที่ยวชุมพรแล้วไม่แวะมาที่นี้ ถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดชุมพร นั้นก็คือ การมาสักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ซึ่งสถานที่ดังกล่าวนี้ จัดได้ว่าเป็นสถานสำคัญของจังหวัดชุมพร เนื่องจากเสด็จในกรมฯได้ทรงลาออกจากราชการและมาพำนักประทับที่หาดทรายรี และได้สิ้นพระชมน์ที่หาดแห่งนี้ ศาลดังกล่าวจึงเป็นเสมือนอนุสรณ์สถานของชาวชุมพรที่จัดสร้างเพื่อระลึก ถึงบุคคลอันเป็นที่เคารพศรัทธาต่อนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวชุมพรและระแวกใกล้เคียงมากันกราบสักการะกัน
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ |
นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (19 ธันวาคม พ.ศ. 2423 — 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2466) มีพระนามเดิมว่าพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ทรงเป็นต้นราชสกุล "อาภากร" เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงได้รับสมัญญานามว่า "องค์บิดาของทหารเรือไทย"
พระองค์ทรงเป็นผู้วางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ ทรงได้รับการเชิดชูในหมู่ทหารเรือเรียกขานพระองค์ว่า "เสด็จเตี่ย" หรือ "หมอพร" และ "พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย" ต่อมาในปี 2536 มีประกาศกองทัพเรือขนานพระนามพระองค์ว่า "พระบิดาของกองทัพเรือไทย" และในปี 2544 แก้ไขเป็น "องค์บิดาของทหารเรือไทย"
ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ได้มีการจัดสร้างศาลและพระอนุสาวรีย์พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ รวมทั้งสิ้น 217 แห่งทั่วประเทศไทยเช่น โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และที่พระตำหนักที่หาดทรายรี จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นที่ประทับของพระองค์เมื่อครั้งมาประทับที่หาดแห่งนี้ ทำให้ปัจจุบันหาดทรายรีได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย
ภาพศาลเก่าของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ในสมัยอดีต ก่อนที่ทางกองทัพเรือจะมีการปรับปรุงสร้างอาคารอิฐปูนหลังใหม่อย่างที่เห็นจนถึงปัจจุบัน
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ |
เครดิตข้อมุลดีๆจาก https://th.wikipedia.org/wiki/พระเจ้าบรมวงศ์เธอ_กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
บรรยากาศโดยรอบๆศาลกรมหลวงฯก็เป็นจุดให้ผู้ที่มาสักการะได้พักผ่อนและถ่ายรูป รับลมทะเลเย็นๆอีกด้วย
ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ |
ครั้งหนึ่ง ณ หาดทรายรี ที่ชุมพร
มองจากจุดชมวิวตรงเนินเขาที่ศาลกรมหลวง ก็เป็นชายหาดทรายรี ซึ่งเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งในจังหวัดชุมพรไม่แพ้ หาดทุ่งวัวแล่นเลยล่ะคะ
และสำหรับใครที่ไม่อยากขับรถส่วนตัวมา ก็มีรถประจำทางลักษณะเป็นรถคอกหมูหวานเย็นจากตัวเมืองชุมพร มายังหาดทรายรีให้บริการอีกด้วยนะคะ
ที่ตั้งของหาดทายรี
ตั้งอยู่บริเวณอ่าวชุมพร ห่างจากเขตเทศบาลเมืองชุมพรไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามทางหลวงหมายเลข 4119 และ 4098 ประมาณ 20กิโลเมตร มีรถโดยสารวิ่งจากตัวเมืองถึงชายหาดเลย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีรถส่วนตัว ก็สามารถนั่งรถมาเที่ยวได้
บรรยากาศหาดทรายรีในวันธรรมดา ดูสวยเงียบสงบ สยบความครืนเครงยิ่งนัก |
บริเวณหาดมีทั้งที่พักและร้านอาหารบริเวณริมชายหาด และอีกอย่างบริเวณแนวชายหาดเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานของพลเรือเอก พระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพร เขตรอุดมศักดิ์ ผู้สถาปนากองทัพเรืออันทันสมัยให้กับประเทศไทย
และหาดทรายรี ที่จังหวัดชุมพร |
จุดชมวิวร้านกาแฟบนเขามัทรี |
โดยเส้นทางขึ้นมายังเขามัทรีก็ไม่ได้ต้องเดินให้เมื่อยขา เพราะถ้าขับรถราก็ขึ้นมาได้จนถึงยอดเขาได้เลย
เมื่อมาถึงก็จะมีร้านคอฟฟี่ช๊อปเก๋ๆให้นั่งจิบกาแฟ ชมวิวทะเลสวยๆอีกด้วย ซึ่งสามาถมองเห็นเวิ้งชายหาดอันกว้างใหญ่ของ หาดภราดรและภาพบ้านเรือนของชุมชนชาวประมงปากน้ำชุมพร
ภาพบรรยากาศของชายหาดภราดร อีกหนึ่งหาดสวยคู่เมืองชุมพรมาช้านาน ร้าวรานจับใจ
บนยอดเขามัทรีก็มีรังนกให้ทานด้วย ใหนๆก็มาชุมพรทั้งที ดิฉันก็ขอลิ้มลองรังนกที่เมืองนี้ดูหน่อยสิ ว่ากันว่าชุมพรมีเกาะเล็กน้อยใหญ่มากมาย เลยกลายเป็นแหล่งทำรังนกนางแอ่นที่สำคัญอีกแห่งของเมืองไทย และเป็นสินค้าส่งออกราคาแพงอีกด้วย และยามเย็นที่ยอดเขามัทรีแห่งนี้ จะกลายเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกแห่งทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีนักท่องเที่ยวแวะมาชมกันอย่างไม่ขาดสาย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพท้องฟ้าและเมฆด้วยนะคะว่าท้องฟ้าจะเปิดหรือเปล่า อันนี้ดิฉันก็ไม่ทราบแน่ชัด
แต่บรรยากาศคงงดงามน่าดู มองจุ๊กกรูลงไปยังชุมชนปากน้ำชุมพร ซึ่งเป็นย่านชุมชนชาวประมงที่สำคัญในเมืองนี้
จุดชมวิวเขามัทรี |
หลังจากที่ดิฉันได้ขับมอเตอร์ไซต์มาชมวิวรับลมเย็นๆ ณ เขามัทรีแห่งนี้แล้ว ก็เดินทางกลับที่พัก จบทริปเที่ยวชุมพรวันที่ 2
เดี่ยวันที่ 3 ดิฉันจะมาตะลอนขับมอเตอร์ไซต์เที่ยวชุมพรต่อโดยจะแวะไปชมโฮมสเตย์ และทะเลสวยๆต่อค่ะ สำหรับรีวิวทริปตอนนี้ ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้นะคะ หวังว่ารีวิวดังกล่าว คงมีประโยชน์ต่อเพื่อนผู้รักการเดินทางไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ดิฉันต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป ขอบพระคุณค่ะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------------------
บทความอื่นๆ และรีวิวท่องเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองต่างๆที่ผ่านมา มีดังนี้จ้า
รีวิวเที่ยวหลังสวน ลิ้มลองทุเรียนจากสวนหวานฉ่ำ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน เม.ย.2018 ล่องเรือไหว้แม่น้ำเจ้าพระยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/HrLddq
จัดมารีวิวเที่ยวสัตหีบ 2 วัน 1 คืน เดือน มี.ค.61 ไปที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/YV4FbW
รีิวิวเที่ยวเมืองลพบุรี เดินยวลยีชมวังเก่า เคล้าความหลัง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/7ZB3pt
รีิวิวเที่ยวประจำเดือน เม.ย.นี้ แวะไปเที่ยวสิงห์บุรีมาค่ะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/eL6fHw
ตอนจบกับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวยุโรป 26 วัน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2xlaVuZ
แบ่งปันการเดินทางในเกาะซานโตรินีด้วยตัวเองง่ายๆ คลิ๊กดูรายละเอียดจ้า>> |
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2p5eQZf
รีวิวตอนที่ 24 แวะเที่ยวกรุงเอเธนส์ 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2NrtXcU
รีวิวตอนที่ 23 เมื่อฉันต้องนั่งเรือเฟอรี่จากอิตาลีไปกรีซครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2Q4tkEC
รีวิวตอนที่ 22 แบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมือง Sorrento คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2C4PTGF
รีวิวตอนที่ 21 ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเนเปิล-เมืองมรณะปอมเปอี คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2oiNldZ
รีวิวตอนที่ 20 เที่ยวกรุงโรม ไปจู่โจมอาณาจักรโรมันสักครั้งสิ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2BI8ckL
รีวิวตอนที่ 19 แวะเที่ยวเมืองโรแมนติคที่ฟลอเรนซ์-ปิซ่า คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2MDjbQz
รีวิวตอนที่ 18 แบกเป้ลุยเดี่ยวเมืองเวนิชครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2KQvnsh
0 ความคิดเห็น