|
ต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว บทความวันนี้ มาเก็บตก เที่ยวเมืองคอน ไปออนซอนชมน้ำตกพรหมโลก แวะชะโงกถ้ำเหวตากฟ้า งามระย้าวัดเขาขุนพนม |
(ต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว) สวัสดีค่ะเพื่อนๆเหล่าคุณผู้อ่านที่รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคน หลังจากที่บทความบล็อกก่อนหน้านี้ ตดิฉันได้มาบอกเล่า เก้าสิบพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวในตัวเมืองนครศรีธรรมราช และไปนอนตากอากาศที่บ้านคีรีวง ก่อนจะไปชมวิถีชาวประมงที่ปากพนังกันไปแล้ว ตามบทความเที่ยวเว็ปไซต์ : https://-review-take-my-mom-to-travel-nakhon-si-thammarat-kiriwong-village.html
แต่จริงๆแล้วยังไม่จบนะคะ เพราะหลังจากที่ดิฉันได้ไปส่งคุณแม่กับคุณป้าไปงานแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเมืองคอนเสร็จ เดี๊ยนก็ระเหินระเห็ด ออกมาเด็ดดอมดม ให้สุขสมอุราต่อ ด้วยการเช่ามอเตอร์ไซต์ ออกทัศนาตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก บทความในเว็ปบล็อกนี้ ก็เลยขอมาเก็บตก เที่ยวเมืองคอนต่อค่ะ
ช่วงบ่ายๆแก่หลังจากที่พาคุณแม่กับคุณป้าไปเข้าวัดเข้าวาแล้ว ดิฉันก็เช่ามอเตอร์ไซต์ออกจากเมืองนครศรีธรรมราช มายังน้ำตกพรหมโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง อำเภอพรหมคีรี หนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัด อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง และเป็นน้ำตกที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ฯ พระบรมราชนีนาถเสด็จประพาสเมื่อ ปี พ.ศ.2502 ทำให้น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่มีนักเดินทางชาวไทย แวะมาตามรอยมากที่สุดอีกแห่ง รวมถึงตัวดิฉันเองด้วยก็ขอมาชื่นชมสักครั้ง
ใหนๆแวะมาเที่ยวเมืองคอนทั้งที ก็ขอจรลีมาฉิมพลีความงาม ยลตระการน้ำตกนี้สักครั้งหนึ่งนะคะ และระยะทางจากตัวเมืองมายังน้ำตกก็ไม่ไกลมากด้วย ประมาณ 27 กิโลเมตร ขับรถมอเตอร์ไซต์แว๊นๆ เป็นผู้สาวขาเลาะ แม้จะเหินเหาะไม่ได้ ก็ตามเถอะ แต่ทว่าระหว่างขับรถมาก็มีลมพัด ลมเพ โอ้ละเห่เลชา ช่วยสบายกายยาไม่น้อยทีเดียว
|
เสียค่าเข้าอุทยานรวม 60 บาทค่ะ |
ก่อนเข้าไปยังน้ำตก ก็เสียค่าธรรมเนียเข้าอุทยานก่อนนะคะ
ค่ายวดยานพาหนะ รถมอเตอร์ไซต์ 40 บาท
ค่าธรรมเนียนเข้าชม 20 บาท รวม 60 บาทจ้า
|
ทางเข้าน้ำตกพรหมโลก |
มาถึงบริเวณลานที่จอดรถทางขึ้นน้ำตก ก็สัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำเย็น
แม้ช่วงที่ดิฉันมาเที่ยวจะเป็นฤดูร้อนก็ตาม
แต่บรรยากาศรอบๆบริเวณเย็นสบายกาย สบายใจนัก
มีที่ให้นั่งพักผ่อนตามมุมต่างๆ เพื่อผ่อนคลายอริยาบถ ได้ตามสบายใจ
ใกล้ๆที่จอดรถมอเตอร์ไซต์แหงนลงไปยังลำธารของน้ำตก ก็มีน้ำไหลระเรื่อ มีเสียงเจื้อแจ่วของหมู่นก และเสียงคนเล่นน้ำอย่างสำราญบานใจเชียว
เดินมาอีกหน่อยก็เป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวน้ำตกพรหมโลก โดยมีเจ้าหน้าที่ค่อยให้คำแนะนำเกี่ยวกับน้ำตกแห่งนี้อีกด้วย
|
ใหนๆก็มาถึงน้ำตกพรหมโลกทั้งที มารู้จักน้ำตกนี้กันสักเล็กน้อย (Phromlok waterfall,Nakhon Si thammarat) |
ใหนๆก็มาถึงน้ำตกพรหมโลกทั้งที มารู้จักน้ำตกนี้กันสักเล็กน้อย
สำหรับน้ำตกพรหมโลกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้นน้ำเกิดจากเทือกเขาหลวง โดยน้ำตกจะผ่านแผ่นหินลงมาถึง 9 ชั้น แบ่งเป็นหนาน (ชั้น) ขนาดใหญ่ 3 ชั้น โดยน้ำตกพรหมโลกเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เป็นสายน้ำที่ช่วยหล่อเลี้ยงและเป็นน้ำบริโภคของประชาชนในแถบนี้ด้วย
|
และนอกจากนี้แล้วยังเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวพรหมโลกอีกด้วย (Phromlok Community,Nakhon si Thammarat) |
และนอกจากนี้แล้วยังเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวพรหมโลกอีกด้วย (Phromlok Community,Nakhon si Thammarat)
โดยชุมชนชาวพรหมโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ราบเชิงเขา มีคลองไหลผ่าน 2 สาย คือคลองสายอวน และคลองนอกท่า ซึ่งมีต้นแหล่งน้ำจากเทือกเขาหลวง ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบมรสุมเมืองร้อน คือฤดูร้อน และฤดูฝน ประชากรส่วนใหญ่ในระแวกประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ทำสวนผลไม้ ทำสวยยาง โดยผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญได้แก่ เงาะ ทุเรียน มังคุด และลางสาด
และยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน คือ เดินป่าศึกษาธรรมชาติเขาหลวง ชื่นชมวิถีชีวิตชาวสวน ขี่จักรยาน เล่นน้ำตก และร่วมกิจกรรมประเพณีแบบวิถีชาวบ้าน
|
ภาพตามรอยเสด็จประพาสอุทยานแห่งชาติเขาหลวงให้ได้ชมกันด้วย |
ภายในศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยว มีภาพตามรอยเสด็จประพาสอุทยานแห่งชาติเขาหลวงให้ได้ชมกันด้วย ซึ่งภาพนี้เอง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยทุกคนต่างต้องมนต์ มายลตระการที่น้ำตกแห่งนี้สักครั้ง
ภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสน้ำตกพรหมโลก เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2502
โดยเป็นภาพทรงพักผ่อนอริยาบถ ทอดพระเนตรความงดงามของน้ำตกพรหมโลกในเวลานั้น ซึ่งมีความงดงามสุดที่จะหาคำมาพรรณาได้
และแม้กาลเวลาจะผ่านมานานเท่าใด ที่น้ำตกพรหมโลกแห่งนี้ก็ยังเป็นน้ำตกแห่งความทรงจำของชาวเมืองนครศรีธรรมราช และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่แวดล้อมไปด้วยแมกไม้และผืนป่าอันเขียวชะอุ่ม มีโอโซน อากาศที่บริสุทธิ์เย็นสบาย น้ำไหลตลอดทั้งปี
มีดอกไม้ป่าที่หาชมได้ยาก ให้ได้ยลโฉมกันอย่างเบิกบานตา ยิ่งหากมาช่วงในช่วงเริ่มต้นฤดูร้อนแบบนี้ ดอกบานสะพรั่ง อลังการทีเดียว
|
น้ำตกชั้นที่ 1 เป็นบริเวณที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีสิริกิต ลงพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่หน้าผา |
เดินขึ้นไปชมน้ำตกชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นบริเวณที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีเคยลงพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่หน้าผา ข้างหนานวังน้ำวงแห่งนี้
ทั้งนี้ระหว่างเดินขึ้นไป ก็มีเส้นลวดขึงตึงเป็นรั้วล้อมไว้ พร้อมมีป้ายนักท่องเที่ยว ห้ามลงเล่นบริเวณบ่อน้ำวนเป็นอันขาด ฝ่าฝืนอาจถึงแก่ชีวิตได้
ว่ากันว่ามีนักท่องเที่ยวมาสังเวยชีวิตที่น้ำตกแห่งนี้แล้วเป็นสิบราย จนเจ้าหน้าที่ต้องติดป้ายห้ามลงเล่นบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด แม้จะเป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำน้อยแบบนี้ก็ลงเล่นไม่ได้เหมือนกัน โดยทางเจ้าหน้าที่บอกกับดิฉันว่า วังน้ำวงที่น้ำตกแห่งนี้ เป็นลักษณะมีขวดแก้ว ถ้าตกลงไปก็มีอันเป็นไปเกือบแถบทุกราย
|
น้ำตกชั้นที่ 1 เรียกว่า หนานวังบ่อน้ำวน |
เดินมาถึงจุดชมวิวน้ำตกชั้นที่ 1 เรียกว่า หนานวังบ่อน้ำวน
(คำว่าหนาน หมายถึง ชั้น )
ดังนั้นก็เลยแปลรวมว่า ชั้นวังบ่อน้ำวน
|
น้ำตกพรหมโลก |
น้ำไหลล้นๆจากหน้าผาสู่เบื้องล่าง ซึ่งเป็นแอ่งวังน้ำวน แม้จะเป็นช่วงหน้าแล้ง แต่น้ำก็ไหลลงแรงมิใช้น้อย แต่ถ้าหากมาหน้าฝน บริเวณดังกล่าวก็จะฟุ้งกระจายไปด้วยละอองของมวลน้ำมหาศาล เย็นฉ่ำบานใจยิ่งนัก
โดยระหว่างทางเดินก็มีป้ายข้อมูลความรู้ให้ได้อ่านกันด้วย โดยเมื่อเข้าใกล้น้ำตกพรหมโลก ก็จะได้เสียงดังกึกก้องประมาณหนึ่งเครื่องจักรกลทำงาน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะน้ำปริมาณมหาศาล ที่บรรจุด้วยมวลแร่ธาตุ อาหาร ตะกอนดิน ก้อนหิน หลากขนาด ไหลมาอย่างรวดเร็ว ด้วยแรงดึงดูดของโลก ขัดถูหน้าผาหินแกรนิตที่สูงชัน ให้เรียบเป็นมัน จากนั้นก็ตกลงกระแทกแอ่งน้ำ ปั่นหมุนกระแสน้ำทำให้หินทราย ขัดเกลาแอ่งน้ำให้ลึกขึ้น
สายน้ำนี้ยังคงไหลด้วยความเร็วปะทะก้อนหินใหญ่น้อยตลอดลำห้วย น้ำที่แตกกระเซ็นสัมผัสอากาศ ได้เพิ่มออกซิเจนเก็บไว้ในน้ำ เพื่อพืชและสัตว์น้ำได้ใช้ดำรงชีวิต ต่อจากนั้นสายน้ำได้ไหลลงสู่ที่ราบคลองท่าแพ แล้วส่องมอบแร่ธาตุอาหารสู่ท้องทะเล ที่อ่าวปากพูน เมืองนครศรีธรรมราชต่อไป
และนอกจากนี้หากมาเที่ยวช่วงหน้าแล้ง ทางเจ้าที่บอกกับดิฉันว่าให้สังเกตุไปที่หน้าผาน้ำตก จะเห็นรอยพระปรมาภิไธยย่อทั้งสองพระองค์ สลักไว้ที่หน้าผานี้ด้วย
|
วันเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ที่น้ำตกพรหมโลก |
วันเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ที่น้ำตกพรหมโลก
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพะนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังน้ำตกพรหมโลก ก่อนถึงต้องทรงเปลี่ยนรถยนต์พระที่นั่ง เพราะถนนในช่วงนี้เป็นถนนดินยาว 20 กิโลเมตร ที่ราษฎรได้ร่วมมือร่วมใจกันขุดถนน เพื่อน้อมเกล้าน้อมถวาย เมื่อถึงน้ำตกพรหมโลก ทรงพักผ่อนอริยาบถ ทอดพระเนตรความงดงามของน้ำตกพรหมโลก และก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทั้งสองพระองค์ทรงลงพระปรมาภิโธยย่อ ภปร และ สก ไว้ที่หน้าผาข้างหนานวังน้ำวนแห่งนี้
ครั้นในปี พ.ศ.2546 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จประพาสน้ำแห่งนี้ด้วย
|
ป่าไม้เขียวชอุ่มห่อหุ้มด้วยอากาศที่สดชื่นเย็นสบายกายยา ในห้วงม่านนภากลางป่าน้ำตกพรหมโลก |
เดินลงมาจากหนานวังน้ำวน ก็มีจุดสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำ โดยมีหมู่มัจฉา ปลาหลายตัวเป็นเพื่อนเล่นอีกด้วย แต่อย่าเผลอไปจับกินเข้าล่ะ
แม้จะเป็นฤดูร้อน แต่บรรยากาศโดยรอบผืนป่าที่น้ำตก อากาศเย็นสบายยิ่งนัก
ทัศนียภาพโดยรอบ ร่มรื่น แม้น้ำจะน้อย แต่ก็เย็นหยดย้อยไม่น้อยทีเดียวเชียวล่ะ
มีนักท่องเที่ยวแวะมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริงๆ หากเพื่อนๆคนใหนที่หลงใหลในธรรมชาติและผืนป่าอันเขียวชอุ่ม ปักหมุดมาเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราช ก็มาและตากอากาศที่น้ำตกแห่งนี้สักครานะคะ
และหลังจากที่ได้ไปอภิรมย์ชมชื่นรื่นฤทัยที่น้ำตกพรหมโลกแล้ว ดิฉันก็เดินทางมาที่วัดเขาขุนพนม อีกหนึ่งสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนแวะมากัน
โดยระยะทางจากน้ำตกพรหมโลกมายังวัดเขาขุนพนมประมาณ 8 กิโลเมตร ช่วงที่ดิฉันมาที่วัดนี้ก็เป็นเวลา 4 โมงเย็นกว่าแล้ว เนื่องจากมัวอภิรมย์ใจพักผ่อนนั่งริมน้ำตกอยู่เสียนาน
|
เกี่ยวกับวัดเขาขุนพนม อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช |
เรื่องน่ารู้ของวัดเขาขุนพนม
วัดเขาขุนพนม ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่บริเวณเชิงเขาขุนพนม เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช ราวพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงพุทธศตวรรษที่ 20
โดยมีตำนานท้องถิ่นเล่าขานว่า วัดเขาขุนพนมนี้ เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จมาประทับ และจำพรรษาในฐานะพระภิกษุ หลังจากสิ้นรัชกาลกรุงธนบุรี เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2325 จนกระทั่งเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2368 โดยที่ไม่ได้ทรงถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ ตามพระราชพงศาวดาร แต่ได้ทรงสับเปลี่ยนพระองค์กับทหารคนสนิทหรือพระญาติ ที่มีรูปพรรณใกล้เคียงกัน
|
วัดเขาขุนพนมได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2553 พร้อมจัดสร้างแล้วเสร็จ |
หากเข้ามาในบริเวณลานวัดจะต้องมาสักการะพระบรมอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
โดยทางวัดเขาขุนพนมได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2553 พร้อมจัดสร้างแล้วเสร็จ ได้ทำพิธีเปิด ถวายพวงมาลาและพานพุ่ม ในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นวัดคล้ายสถาปนาปราบดาภิเษกของพระองค์ เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ท่านและเหล่าทหารกล้าแม่ทับนายกองสี่เสือ โดยกำหนดวันที่ 28 ธันวาคมของทุกๆปี เป็นวันประกอบพิธีบวงสรวงสรรเสริญดวงพระวิญญาณน้อมสักการะบูชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์และถวายพวงมาลาพานพุ่มแด่องค์พระเจ้าตากสินมหาราช
|
พระบรมอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในวัดเขาขุนพนม |
ภายในวัดนอกจากมีพระบรมอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชแล้ว ยังมีบ่อน้ำทิพย์มนต์โบราณอีกด้วย
พระพุทธรูปภายในวัดให้นักท่องเที่ยวที่แวะมาได้สักการะบูชา
โดยในวัดเป็นที่ตั้งของถ้ำเขาขุนพนม
ภายในวัด มีบันใดนาคเดินขึ้นไปยังด้านบน บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัดยิ่งนัก ยิ่งเวลาเย็นแบบนี้ เดินขึ้นบันใด ลมพัดหวิว เย็นยะเยือกทีเดียว
เดินขึ้นมาด้านบนสุด ลานหน้าทางเข้าถ้ำ มีพระพุทธรูปตั้งเรียงราย ถือเป็นสถานที่ศักดิ์
แต่ปากทางเข้าถ้ำมืดมิด ไม่มีไฟฟ้าติดไว้เลย ดูน่ากลัวยิ่งนัก เนื่องจากบรรยากาศยามเย็นค่อนข้างโพล้เพล้
โชคดีที่มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่ม ซึ่งเดินตามหลังดิฉันมา จะเดินเข้าไปในถ้ำตากฟ้าด้วยค่ะ แต่การเข้าไปในถ้ำก็ต้องพึ่งพาแสงสว่างนำทางด้วยนะคะ ยังดีที่โทรศัพท์มือถือมีไฟฉายอยู่
|
ถ้ำเหวตากฟ้า วัดเขาขุนพนม |
พอเดินผ่านปากถ้ำอันมืดมิดมา ก็เห็นแสงสว่างจากปากปล่อง ส่องมายังลานโอโถ่งด้านล่าง
ที่ตั้งของถ้ำเหวตากฟ้า
บริเวณถ้ำจะอยู่ทางจากบริเวณหน้าถ้ำและภายในถ้ำ
ระดับความลึกประมาณ 20 เมตร สามารถจุคนได้ประมาณ 1,000 คน
ลักษณะภายในถ้ำมีปล่องแสงส่องลงให้ความสว่างภายใน และอากาศถ่ายเทได้สะดวก
มีความกว้างโถง มีความสวยงามและน่าอัศจรรย์ เงียบสงบร่มเย็น
เหมาะแก่การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
ซึ่งในสมัยพระองค์ทรงประทับอยู่จะใช้ประชุมพระสงฆ์
และใช้ในการปฎิบัติวิปัสนากรรมฐาน
และทางวัดได้ค้นพบอิฐมอญโบราณและพระพุทธรูปโบราณต่างๆ เช่น พระพุทธรูปทองคำ
พระพุทธรูปบุเงิน-บุทองเป็นเนื้อเงินยวง เนื้อสำริด
ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ประมาณพันๆกว่าองค์
ต้นพบในถ้ำด้านบนและได้นำมาเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เป็นบางส่วน
|
ลักษณะภายในถ้ำเหวตากฟ้า มีปล่องแสงส่องลงให้ความสว่างภายใน |
อากาศภายในถ้ำ เป็นลานกว้าง โอ่โถ่ง มีแสงส่องลอดจากเพดาน ดูแล้วตัวถ้ำมีลักษณะเหมือน ถ้ำเขาหลวงที่จังหวัดเพชรบูรีเลยค่ะ
|
ตอนแรกคิดว่า ไม่มีคน เพราะจะพลบค่ำแล้ว แต่เดินลงมาโล่งอกเลยค่ะ เพราะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวมาก่อ่นหน้านี้ |
กลุ่มนักเดินทางที่ร่วมผจญภัยฝ่าความมืดหน้าปากถ้ำ เดินลงมาด้วยกัน ต่างก็ตะลึงงึงงันกับความโอ่โถ่งในถ้ำแห่งนี้ไม่น้อย
|
ลักษณะภายในถ้ำเหวตากฟ้า มีปล่องแสงส่องลงให้ความสว่างภายใน |
ปัจจุบันได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
และใช้ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นองค์ประธานสูง พระนามว่า
พระพุทธรูปตากสินศรีสรรเพชญ์ธรรมมิราชมหาราชา และมีพระพุทธรูป 2 องค์
ด้านซ้ายเป็นพระพุทธรูปองค์ปฐมสูง 5 เมตร
ส่วนด้านขวาเป็นพระพุทธรูปเชียงแสงสูง 5 เมตรเช่นกัน
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เข้ามาในถ้ำได้สักการะบูชาเป็นสิ่งมงคล
|
ว่ากันว่าหากเข้ามาชมถ้ำในยามเช้า ช่วงเวลาประมาณสายๆ จะเห็นแสงลอดลงมาสู่โถ่งถ้ำเบื้องล่าง สวยงามยิ่งนัก |
มองไปที่เพดานถ้ำด้านบน ก็เป็นปล่อง มีแสงลอดส่องลงมายังเบื้องล่าง ว่ากันว่าหากเข้ามาชมถ้ำในยามเช้า ช่วงเวลาประมาณสายๆหน่อยสัก 10 โมง จะเห็นแสงลอดลงมาสู่โถ่งถ้ำเบื้องล่าง สวยงามยิ่งนัก
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปที่กำลังสร้างใหม่ มีเที่ยวจุดอยู่หน้าฐานให้แสงสว่าง สำหรับถ้ำเหวตากฟ้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งถ้ำสวยงาม และศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าผู้รักการเดินทางน่าจะมายลโฉมกันสักครั้ง
|
ออกจากถ้ำเหวตากฟ้าขึ้นมา ก็เดินไปชมวิวทิวทัศน์เขาขุนพนม |
พอเดินออกจากจากถ้ำมา ใกล้ๆบริเวณเดียวกัน ก็มีจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเขาขุนพนมอีกด้วย
เดินลงบันใดนาคมา ก็ตกเย็นพอดีค่ะ
|
ออกจากถ้ำเหวตากฟ้า วัดเขาขุนพนม ก็เดินทางกลับโรงแรมที่พักในเมืองนครศรีธรรมราชโดยสวัสดิภาพ |
หลังจากที่ได้แวะไปชมถ้ำตากฟ้าในวัดเขาขุนพนมแล้วนะคะ ดิฉันก็แว๊นๆ เดินทางขับรถมอเตอร์ไซต์กลับโรงแรมที่พักโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริปเก็บตกเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราชประจำปีนี้แล้วจ้า โอกาศหน้าฟ้าใหม่ หากมีโอกาคงได้ไปไฉไลยังเมืองคอนแห่งนี้ คงต้องจรลี ฉิมพลีความงามตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้ครบ จบทีเดียว เพราะเมืองนี้ยังมี สถานที่ทัศนาจรอีกมากโขเลยเชียว
หากเพื่อนๆคุณผู้อ่านท่านใดที่กำลังวางแผนไปเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชอยู่ ก็ลองปักหมุดแวะไปเที่ยวที่น้ำตกพรหมโลกและวัดเขาขุนพนมกันสักครั้งนะคะ สำหรับบทความแนะนำที่เที่ยว ก็ขอจบเพียงเท่านี้ หากมีข้อผิดพลาดสิ่งใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่แวะเข้ามาสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------
บทความอื่นๆมีดังนี้
0 ความคิดเห็น