Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

ตะลุยเมืองไทยไปให้รู้ดู วัดพระผุด สุดUnseen กับตำนานเล่าขานพระทองเก่าแก่โบราณ ที่ใครก็ต้องมาไหว้ขอพรกัน

เที่ยวเมืองไทยไปให้ได้ความรู้ ดูประวัติตำนาน วัดพระผุด พระพุทธรูป Unseen เก่าแก่สุดโบราณ ต้องแวะไปยลตระการไหว้ขอพรกันสักครั้ง





สวัสดีทักทาย ซำบายดีเพื่อนๆคุณผู้อ่าน รวมทั้งเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคนค่ะ กลับมาพบกันอีกเช่นเดิมนะคะ กับบทความบล็อกสาระน่ารู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นทั่วฟ้าเมืองไทย ที่จะสรรหาข้อมูลมาให้ได้อ่านกัน หลังจากบทความบล็อกตอนที่แล้ว ได้พาไปรู้จักประวัติของวัดพระนางสร้าง แห่งเกาะไข่มุกอันดามันกันไปแล้วนะคะ อีกหนึ่งวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกันนั้นก็คือ วัดพระผุด หรือ วัดพระทอง จัดเป็นวัดเด่น วัดดัง ที่มีชื่อเสียง และกลายเป็น Unseen สำคัญที่ใครก็ต้องเช็กอินกันสักครั้ง เนื่องจากมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจทีเดียว เลยขอนำมาให้ได้อ่านกันค่ะ



สาระน่ารู้เกี่ยวกับ วัดพะผุด หรือ วัดพระทอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต (Wat Phra Thong, Phuket)



สาระน่ารู้เกี่ยวกับ วัดพะผุด หรือ วัดพระทอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต (Wat Phra Thong, Phuket)


วัดพระทองตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2328 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2523
มีพระพุทธรูปโบราณ มีลักษณะครึ่งองค์โผล่จากพื้น และมีอีกเรื่องเล่าว่า เมื่อคราวพระเจ้าปดุงมาตีเมืองถลางก็พยายามขุดพระไปด้วย แต่ไม่สามารถนำขึ้นได้เช่นกัน จึงสร้างพระครึ่งองค์ครอบไว้เรียกว่า พระผุด จนเมื่อพระธุดงค์มาปักกลดบริเวณนี้แล้วสร้างวัด โดยอัญเชิญพระผุดเป็นพระประธานในโบสถ์ กล่าวกันว่าพระผุดเป็นพระทองคำ จึงพอกปูนทับลงไปอีกครั้งดังที่เห็นในปัจจุบัน นามของวัดชาวบ้านเรียกแตกต่างกันไปว่า วัดนาใน บ้าง วัดพระผุด บ้าง หรือ วัดพระหล่อคอ ตามลักษณะพระพุทธรูป




วัดพระทอง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 21 กิโลเมตร ไปตามถนนเทพกษัตรีผ่านสี่แยกอำเภอถลาง มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 30 ไร่ 3 งาน 98 ตารางวา มีที่ธรณีสงฆ์ 2 แปลง เนื้อที่ 18 ไร่ 


ภายในวัดมีพระพุทธรูปโบราณ มีลักษณะครึ่งองค์โผล่จากพื้น


ด้วยตำนานเรื่องเล่าอันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ซึ่งโผล่พ้นขึ้นมาจากพื้นดินเพียงพระเกตุมาลา และผุดขึ้นมาจากพื้นดินเดียวครึ่งองค์ อันเป็นที่มาของชื่อ "วัดพระผุด" นั่นเอง ที่มาพระผุด มีเรื่องเล่ากันมาว่า เดิมบริเวณที่ตั้งของวัดเคยเป็นทุ่งกว้าง มีนา มีคลอง มีหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "ทุ่งนา" วันหนึ่งมีเด็กชายนำกระบือไปเลี้ยงที่ทุ่ง และได้นำเชือกล่ามกระบือไปผูกไว้กับตอไม้ริมคลองที่มีโคลนตมติดอยู่ ครั้นพอกลับบ้าน เด็กคนนี้ก็เกิดอาการเป็นลมตายและกระบือที่ล่ามไว้กับตอไม้ก็ตายไปด้วยกัน ต่อมาพ่อของเด็กชายฝันว่า การที่เด็กและกระบือตายเพราะนำเชือกล่ามกระบือไปผูกไว้กับเกศพระพุทธรูป เขาจึงชวนเพื่อนบ้านไปขัดล้างตอไม้ริมคลองแห่งนั้น แล้วสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นนั้นกลับมีลักษณะเหมือนเกศ พระพุทธรูปและเป็นทองคำ จนชาวบ้านต่างพากันมาบูชาสักการะกันมากมาย 

 แต่ไม่สามารถขุดขึ้นมาได้ บางคนถูกตัวต่อ ตัวแตนอาละวาด เป็นพิษจนถึงแก่ความตาย



เมื่อเจ้าเมืองทราบ ก็สั่งให้ทำการขุดพระพุทธรูปขึ้นมา ประดิษฐานไว้บูชา แต่ไม่สามารถขุดขึ้นมาได้ บางคนถูกตัวต่อ ตัวแตนอาละวาด เป็นพิษจนถึงแก่ความตาย เจ้าเมืองจึงสั่งให้สร้างสถานที่ขึ้นมาคลุมเอาไว้ และชาวบ้านก็กราบไหว้กันเรื่อยมา พร้อมเรียกพระพุทธรูปองค์นี้เรียกว่าพระผุด เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน เพียงพระเกศมาลา สูงประมาณ 1 ศอก ส่วนคนจีนจะเรียกพระผุดว่า ภูปุ๊ค (พู่ฮุก) เพราะเชื่อว่าเป็นพระผุดมาจากเมืองจีน ครั้นเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน คนจีนในภูเก็ต พังงา ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และกระบี่ จะพากันมานมัสการพระผุด เป็นประจำจนถึงทุกวันนี้


ยังมีเรื่องราวที่เอ่ยถึงพระผุดองค์นี้ ในเหตุการณ์ศึกพระเจ้าปะดุง ที่ยกพลมาตีเมืองถลาง พ.ศ. 2328



นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่เอ่ยถึงพระผุดองค์นี้ ในเหตุการณ์ศึกพระเจ้าปะดุง ที่ยกพลมาตีเมืองถลาง พ.ศ. 2328 ทหารพม่าพยายามขุดพระผุดเพื่อนำกลับไปพม่า แต่ขุดลงไปคราวใดก็มีฝูงแตนไล่ต่อยจนต้องละความพยายาม ต่อมาชาวบ้านได้นำทองมาหุ้มพระพุทธรูปที่ผุดจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ดังที่เห็นในปัจจุบัน



วัดยังมีพิพิธภัณฑ์อยู่ข้างโบสถ์พระทอง เป็นที่รวมโบราณวัตถุและเครื่องใช้ของชาวภูเก็ตที่ชาวบ้านนำมาบริจาคด้านการศึกษาได้เปิดสอนพระปริยัติธรรมเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503




อาคารเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ อุโบสถกว้าง 8 เมตร ยาว 24 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2524 บานประตูหน้าต่างใช้ไม้สักแกะสลักภาพพุทธประวัติ ภายในอุโบสถมีภาพเขียนเรื่องพาหุง พระเจ้าสิบชาติ พระเวสสันดร พื้นปูด้วยหินอ่อน ศาลาการเปรียญกว้าง 16 เมตร ยาว 52 เมตร เป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น กุฏิสงฆ์จำนวน 7 หลัง เป็นอาคารไม้และคอนกรีตชั้นเดียวและสองชั้น

ทางเข้าวิหารพระผุด 

โบส์ถวัดพระทอง 




----------------------------------------------------------------------

บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ


สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตติดลมบนในภูเก็ตปี 2022 ไม่ลองไม่รู้ไปเที่ยวกันดู>>

ล่าสุดกับ 12 ที่เที่ยวสุดฮิตในภูเก็ตปี 2022 ไม่ลองไม่รู้ แวะไปเที่ยวทัศนากันดู ให้จุ๊กกรูหัวใจ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเช็กอินถ่ายรูปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>


สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพังงา ไม่พลาดไปลั๊ลลาถ่ายรูปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยว>>

รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพังงา ที่ห้ามพลาดไปลั๊ลลาถ่ายรูปภาพสวยๆกันสักครา ไม่งั้นไม่มาถึงเลยนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>



แนะนำที่เที่ยวยอดนิยมในอำเภอสังขละบุรี ที่มาเมืองนี้แล้ว ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปกัน ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

ต้องไปเช็กอินกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอไทรโยค คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
รวมเด่น 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต ติดลมบนในอำเภอไทรโยค-อำเภอศรีสวัสดิ์ ที่ต้องห้ามพลาดพลัดไปเช็กอินถ่ายรูปกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

สรุปสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรี ต้องหนีไปถ่ายรูปกัน ดูบทความค่ะ>>

ต้องไปให้ได้กับ 13 ที่เที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรี ที่ต้องจรลีหนีมาเช็กอินถ่ายรูปภาพกัน มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>


รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดกาลในเมืองพัทยา ที่ใครมาก็ต้องไปเช็กอินกันสักครั้ง ถ่ายรูปให้สวยปังปูริเย มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะล้าน ต้องไปสุขสราญถ่ายรูปภาพกัน>>

ไปล่าสุดกับ 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะล้าน ต้องไปเริงสำราญถ่ายรูปภาพกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

น่ารู้กับตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน>>>

ท่องทั่วไทยไปให้รู้ แวะดูตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร จัดมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

ประเพณีกวนข้าวทิพย์มธุปายาสยาคู มีประวัติเป็นมาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน>>

เที่ยวเมืองไทยไปต้องรู้ กับประเพณีกวนข้าวทิพย์มธุปายาสยาคู มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรูป ฝ่าพระบาทที่เท้าพระนอนวัดโพธิ์ มีความหมายว่าอะไร>>

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ฝ่าพระบาทที่เท้าของพระนอนวัดโพธิ์ รูปสัญลักษณ์ที่หลายคนสงสัย มีความหมายว่าอะไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

ตำนานบอกเล่าอันเก่าแก่ของบ่อน้ำพุร้อนพระร่วงในเมืองชากังราว คลิ๊กดูบทความ>>>

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตำนานบอกเล่าอันเก่าแก่ของบ่อน้ำพุร้อนพระร่วง ในเมืองชากังราวสุดน่าสนใจ มาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ ต้องไปเริงสำราญให้ได้ คลิ๊กดูที่เที่ยว>>

รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาในจังหวัดบึงกาฬ ต้องไปเช็กอินให้สำราญกันสักครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปช่ะช่ะช่ากันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น