 |
และเพื่อไม่ให้บทความร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาไปลัดเลาะไหว้พระรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม หนึ่งในวัดที่มีขนาดเล็กมากๆอีกแห่ง |
ก็ขอสวัสดีทักทาย คุณผู้อ่านบนโลกออนไลน์ และเหล่านักรักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกๆคน ก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ กับบทความสาระน่ารู้เล็กๆน้อยๆ ที่จะมาเติมต้อยห้อยติ่งให้ได้อ่านฟรุงฟริ้งกัน ในบทความบล็อกนี้ ก็ยังวนเวียนสิงสถิต ติดตราตรึง ตะลึงตึงตึง ลัดเลาะไหว้พระรอบกรุงเทพเมืองฟ้าอมรเหมือนเดิม หลังจากที่ก่อนหน้าได้ พาไปรู้จักพระอารามหลวงชั้นเอกที่วัดราชบพิธฯ กันไปแล้ว
วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาคุณผู้อ่านไปไหว้พระที่ วัดราชประดิษฐฯ อีกหนึ่งวัดที่อยู่ใกล้ๆวัดพระแก้ว และวัดราชบพิธ และยังเป็นวัดที่ขนาดเล็กที่สุดอีกแห่งในกรุงเทพก็ว่าได้ หากใครไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว ก็ไม่แคล้วต้องเดินข้ามถนนมาสักการะที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามวรวิหาร เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุ ปูชนียสถานมากมายเลยทีเดียวเชียวล่ะ
 |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม (About Wat Ratchapradit Sathitmahasimaram) |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม (About Wat Ratchapradit Sathitmahasimaram)
วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ตั้งอยู่ที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร และถือว่าเป็นวัดที่มีพื้นที่ขนาดเล็กมาก เนื่องจากมีเนื้อที่เพียง 2 ไร่ 2 งานกับ 98 ตารางวาเท่านั้น โดยมีอาณาเขตทิศเหนือจรดกับวังสราญรมย์ หรือกรมแผนที่ทหารในปัจจุบัน ส่วนทางด้านทิศใต้จรดสวนสราญรมย์ และทิศตะวันออกจรดซอยราชินี คลองหลอด และทิศตะวันตกจรดทำเนียบองคมนตรี
 |
ป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น
ตามธรรมเนียมประเพณีโบราณที่ว่า ในราชธานีจะต้องมีวัดสำคัญประจำ 3 วัด คือ
วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดราชประดิษฐาน |
สำหรับประวัติของการสร้างวัดราชประดิษฐฯนั้น เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ตามธรรมเนียมประเพณีโบราณที่ว่า ในราชธานีจะต้องมีวัดสำคัญประจำ 3 วัด คือ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดราชประดิษฐาน ดั้งนั้นพระองค์จึงทรงสร้างวัดขึ้นใหม่เพื่อให้ครบตามโบราณราชประเพณี โดยพระอุทิศถวายแก่พระสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย เพื่อที่พระองค์เองและเจ้านาย ข้าราชการ ที่จะไปทำบุญที่วัดฝ่ายธรรมยุติกนิกายใกล้พระบรมมหาราชวังได้มาได้อย่างสะดวก
 |
วัดราชประดิษฐฯ
จึงเป็นวัดฝ่ายธรรมยุติกนิกายวัดแรกที่สร้างขึ้นเพื่อพระสงฆ์ในนิกายนี้
เพราะวัดอื่น ๆ ของฝ่ายธรรมยุตเป็นวัดที่แปลงมาจากวัดของมหานิกาย |
ดังนั้นวัดราชประดิษฐฯ จึงเป็นวัดฝ่ายธรรมยุติกนิกายวัดแรกที่สร้างขึ้นเพื่อพระสงฆ์ในนิกายนี้ เพราะวัดอื่น ๆ ของฝ่ายธรรมยุตเป็นวัดที่แปลงมาจากวัดของมหานิกาย ด้วยเหตุนี้เองวัดแห่งนี้จึงได้รับยกให้เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 4 อีกด้วย
 |
เดิมทีนั้น วัดราชประดิษฐฯ เคยเป็นสวนกาแฟหลวง สมัยรัชกาลที่ 3
และเป็นโรงเรือนที่อยู่อาศัยของข้าราชการในรัชกาลที่ 4
พระบาทสมเด็จจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขอซื้อที่เพื่อสร้างวัดธรรมยุติกนิกาย
เมื่อ พ.ศ. 2407 |
แต่เดิมทีนั้น วัดราชประดิษฐฯ เคยเป็นสวนกาแฟหลวง สมัยรัชกาลที่ 3
และเป็นโรงเรือนที่อยู่อาศัยของข้าราชการในรัชกาลที่ 4
พระบาทสมเด็จจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขอซื้อที่เพื่อสร้างวัดธรรมยุติกนิกาย
เมื่อ พ.ศ. 2407 เพื่อสำหรับเจ้านาย ข้าราชการ ฝ่ายหน้า-ใน
ได้บำเพ็ญกุศลสะดวกขึ้น เพราะใกล้พระบรมมหาราชวัง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า
"วัดราชประดิษฐสถิตธรรมยุติการาม"
 |
และเมื่อสร้างเสร็จแล้วได้เปลี่ยนเป็น
"วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม" เพื่อให้เหมาะสมกับเป็นที่ประดิษฐานหลักศิลา |
เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้เปลี่ยนเป็น
"วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม" เพื่อให้เหมาะสมกับเป็นที่ประดิษฐานหลักศิลา
ซึ่งเป็นสีมามีจารึกคาถาบาลีและภาษาไทย เป็นบทพระราชนิพนธ์รวม 10 หลักด้วยกัน
 |
ถึงแม้ว่าวัดแห่งนี้จะมีพื้นที่จำกัด เพียงเล็กน้อยมาก แต่ภายในพระอารามนี้ก็ประกอบไปด้วยปูชนียวัตถุ ปูชนียสถานมากมาย |
และถึงแม้ว่าวัดแห่งนี้จะมีพื้นที่จำกัด เพียงเล็กน้อยมาก แต่ภายในพระอารามนี้ก็ประกอบไปด้วยปูชนียวัตถุ ปูชนียสถานมากมาย อาทิเช่น พระวิหารและพระเจดีย์ที่ฉลุด้วยหินอ่อน ปราสาทพระจอม ปราสาทพระไตรปิฏกทรงขอม
 |
ภายในพระวิหารหลวงมีพระที่นั่งทรงธรรมหรือศาลาการเปรียญ ก็ยังเป็นที่ตั้งธรรมาสน์ยอดมงกุฎ
และในพระวิหารของวัดก็เป็นที่สถิตของพระประธาน "พระพุทธสิหิงคปฏิมากร" |
และพระที่นั่งทรงธรรมหรือศาลาการเปรียญ ก็ยังเป็นที่ตั้งธรรมาสน์ยอดมงกุฎ และในพระวิหารของวัดก็เป็นที่สถิตของพระประธาน "พระพุทธสิหิงคปฏิมากร" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง(รัชกาลที่ 4) ให้จำลองจากพระพุทธสิหิงค์องค์จริงที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ มาประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดแห่งนี้
 |
เมื่อปี พ.ศ. 2411 ได้ปรากฏเรื่องประกาศให้เรียกนามวัดราชประดิษฐฯ
ให้ถูกต้อง เพราะมีผู้เรียกวัดราชบัณฑิตบ้าง วัดทรงประดิษฐ์บ้าง |
เมื่อปี พ.ศ. 2411 ได้ปรากฏเรื่องประกาศให้เรียกนามวัดราชประดิษฐฯ
ให้ถูกต้อง เพราะมีผู้เรียกวัดราชบัณฑิตบ้าง วัดทรงประดิษฐ์บ้าง
ไม่ถูกต้องกับที่พระราชทานนามไว้ จึงทรงกำชับว่า ให้เรียกชื่อวัดว่า
"วัดราชประดิษฐฯ" หรือ "วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม"
ให้ถูกต้อง
 |
นอกจากนี้แล้ว ในพระวิหารหลวงมีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพระราชพิธี 12 เดือน
ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้วาดไว้ |
นอกจากนี้แล้ว ในพระวิหารหลวงมีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพระราชพิธี 12 เดือน ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้วาดไว้ มีสถาปัตยกรรมที่น่าชม เช่น ปาสาณเจดีย์, ปรางค์ขอม, ปราสาทพระบรมรูป (ปราสาทพระจอม), ปราสาทพระไตรปิฎก ฯลฯ และเพราะด้วยธรรมยุติกนิกายนั้นเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก เขตสังฆาวาสนั้นจึงห้ามสตรีผ่านเข้าออกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงปัจจุบัน
และในปัจจุบันวัดราชประดิษฐฯ ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญและเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามยิง และยังตั้งอยู่ภายในเขตรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ใกล้วัดพระแก้ว และวัดวาอารามเก่าแก่หลายแห่ง จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
เครดิตข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
-------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้
0 ความคิดเห็น