Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

เที่ยวไทยไปต้องรู้ดู เจดีย์กู่กุด วัดจามเทวี ประวัติเล่าขานอายุนานนับพันปี ที่ใครแวะมาเมืองนี้ ต้องจรลีมาเยือนชมกัน

ท่องเที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ในวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอนำเสนอสาระน่ารู้เกี่ยวกับประวัติตำนานเล่าขาน  วัดจามเทวี เจดีย์กุดกู่ ในเมืองลำพูน มาให้ได้อ่านฆ่าเวลากันค่ะ



กลับมาทักทาย สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเหล่าผู้หลงใหลในการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามไฉไลเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคนค่ะ ก็มาพบกันอีกครั้งนะคะ กับบทความบล็อกสาระน่ารู้เกี่ยวกับสถานท่องเที่ยวทั่วฟ้าเมืองไทย ที่จะสรรหามาบอกเล่าเก้าสิบ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาให้ได้อ่านฆ่าเวลากัน หลังจากที่บทความบล็อกก่อนหน้านี้ ได้พาไปรู้จัก วัดพระยืน อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ในเมืองหริภุญชัยกันไปแล้ว 



เพื่อไม่ให้บทความบล็อกร้างไป ในวันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ก็ยังวนเวียนสิงสถิตอยู่ในเมืองหริภุญชัย พาไปชมและรู้จักประวัติความเป็นมาของ เจดีย์กุดกู่ วัดจามเทวี ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในวัดที่มีความเก่าแก่ อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนาน หากใครที่จัดโปรแกรมไหว้พระ 9 วัด ก็ต้องไม่พลาด มากราบพระขอพรที่วัดนี้กันสักครั้งครา 


น่ารู้เกี่ยวกับ เจดีย์กุดกู่ วัดจามเทวี อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน (Wat Chamthewi, Lamphun Province)

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเจดีย์กู่กุด วัดจามเทวี อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน (Wat Chamthewi, Lamphun Province)


สำหรับ วัดจามเทวี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดกู่กุด เดิมชื่อ วัดกู่กุด ถือวัดเก่าแก่ที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยล้านนาไทย   ตั้งอยู่ริมถนนจามเทวี ตำบลในเมือง สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 1298 เป็นฝีมือช่างละโว้ พระนางจามเทวีนำช่างละโว้ (ปัจจุบันคือ จังหวัดลพบุรี) ไปสร้างพระเจดีย์สุวรรณจังโกฎ เป็นพระเจดีย์สี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย ทุก ๆ ด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรศิลปกรรมของลพบุรีมีพระพุทธรูปยืนอยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้าน ทั้งนี้วัดจามเทวี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2478 จัดเป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่มีความสำคัญอยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนาน


 บ้างก็ว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวี ได้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของพระนาง เดิมมียอดพระเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ

ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้น ๆ อยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้าน ด้านละ 15 องค์ รวม 60 องค์ 


โดยประวัติความเป็นของวัดจามเทวีนั้น  บ้างก็ว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวี ได้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของพระนาง เดิมมียอดพระเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้น ๆ อยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้าน ด้านละ 15 องค์ รวม 60 องค์ 


ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบแน่ชัดยอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด 

ซึ่งภายในบรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งหริภุญไชย ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบแน่ชัดยอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด พระเจดีย์องค์นี้มีชื่อเป็นทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฎ 


พระสุวรรณจังโกฏเจดีย์ หรือชื่อเรียกที่รู้จักกันดีคือ เจดีย์กู่กุด เพราะมีส่วนยอดหลุดหรือหักส่วนมหาพลเป็นชื่อดีตที่ตั้งของวัดนี้ เอามาตั้งเป็นชื่อเจดีย์

สำหรับพระสุวรรณจังโกฏเจดีย์ หรือชื่อเรียกที่รู้จักกันดีคือ เจดีย์กู่กุด หรือ เจดีย์กู่กุฎ หรือ เจดีย์มหาพล ที่เรียกกู่กุด เพราะมีส่วนยอดหลุดหรือหักส่วนมหาพลเป็นชื่อดีตที่ตั้งของวัดนี้ เอามาตั้งเป็นชื่อเจดีย์

เจดีย์ทรงปราสาทแบบหริภุญชัยองค์นี้เคยมียอด จึงเรียกทรงปราสาทยอดได้ด้วย

และเจดีย์ทรงปราสาทแบบหริภุญชัยองค์นี้เคยมียอด จึงเรียกทรงปราสาทยอดได้ด้วย มีลักษณะแปลกแตกต่างไปจากเจดีย์ทรงปราสาทในศิลปะล้านนาและศิลปะขอม คือ นับจากส่วนฐานทรงสี่เหลี่ยมมาเป็นเรือนธาตุทรงสี่เหลี่ยมเช่นกัน ตั้งซ้อนกันลดขนาดเป็นลำดับขึ้นไป 5 ขั้น แต่ละชั้นมีเจดีย์ประดับทิศทั้งสี่ และด้านทั้งสี่ของแต่ละชั้น มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในซุ้มจระนำ และยอดแหลมที่หักหายคงเป็นกรวยเหลี่ยม

เจดีย์ขนาดเล็ก ด้านทั้งแปดของเรือนธาตุเจดีย์องค์นี้ ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนไว้ในซุ้มจระนำ  พระพุทธรูปปางต่าง ๆ ในแต่ละชั้นของเจดีย์แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธา

ซึ่งสถาปัตยกรรมเจดีย์ทรงปราสาทแบบหริภุญชัยอีกแบบองค์ มีทรงแปดเหลี่ยม จึงนิยมเรียกตามทรงว่า เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ขนาดเล็ก ด้านทั้งแปดของเรือนธาตุเจดีย์องค์นี้ ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนไว้ในซุ้มจระนำ เหนือเรือนธาตุเป็นหลังคาซ้อนชั้นลดหลั่นขึ้นรับทรงระฆัง เหนือขึ้นไปเป็นยอดซึ่งหักหายแล้ว เจดีย์ลักษณะนี้ได้พบแพร่หลายทางภาคกลางด้วย เช่น วัดพระแก้ว จังหวัดชัยนาท วัดพระรูป จังหวัดสุพรรณบุรี และสืบเนื่องมาจนถึงตอนต้นของกรุงศรีอยุธยา


และพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ในแต่ละชั้นของเจดีย์แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธา และการเข้าถึงพระพุทธศาสนาของพระนางจามเทวี โดยสุวรรณจังโกฎเจดีย์เป็นต้นแบบของเจดีย์ทั้งหลาย ซึ่งบางครั้งเรียกเจดีย์ทรงนี้ว่า เจดีย์ทรงขัตติยะนารี


ภายในวัดยังมีรัตนเจดีย์ ตั้งอยู่ทางขวามือของวิหาร สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ปี พ.ศ. 1184

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีรัตนเจดีย์ ตั้งอยู่ทางขวามือของวิหาร สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ปี พ.ศ. 1184  ซึ่งรัตนเจดีย์ปราสาทในผังแปดเหลี่ยม มีเรือนธาตุในผังแปดเหลี่ยมซ้อนกัน 2 ชั้น พระพุทธรูปที่ประดิษฐานในซุ้มจระนำชั้นที่ 1 เป็นพระพุทธรูปประทับยืนยกพระหัตถ์ พระกรช่วงล่างชำรุด แต่ยังแสดงการยกพระหัตถ์ทั้งสองด้าน เรือนธาตุชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่ง แสดงปางสมาธิศิลปะหริภุญไชยที่ได้รับอิทธิพลของศิลปะทวารดีในภาคกลาง


กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จมาพบศิลาจารึกอักษรขอม บริเวณฐานเจดีย์กู่กุฎิและรัตนเจดีย์แห่งนี้ ข้อความจารึกกล่าวถึงการปฎิสังขรณ์รัตนเจดีย์ที่พังทลายลง เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว

ซึ่งใน พ.ศ.2467 กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จมาพบศิลาจารึกอักษรขอม บริเวณฐานเจดีย์กู่กุฎิและรัตนเจดีย์แห่งนี้ ข้อความจารึกกล่าวถึงการปฎิสังขรณ์รัตนเจดีย์ที่พังทลายลง เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว แต่ปัจจุบันเชื่อว่า รัตนเจดีย์ ที่ระบุในศิลาจารึกคือ เจดีย์กู่กุด ส่วนเจดีย์แปดเหลี่ยมนี้ ไม่มีประวัติปรากฎเป็นหลักฐานในเอกสารใดๆ แต่จากรูปแบบสถาปัตยกรรม และศิลปะกรรมที่ปรากฎเชื่อว่า สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 17-18

วัดจามเทวี ก็เป็นวัดที่เกี่ยวพันกับประวัติของพระนางจามเทวี  มีพระฤๅษีไปพบทารกหญิง ถูกพญานกคาบมาทิ้งไว้บนใบบัวหลวง จึงเลี้ยงดูและสอนสรรพวิทยาการต่าง ๆ ให้

สำหรับวัดจามเทวี ก็เป็นวัดที่เกี่ยวพันกับประวัติของพระนางจามเทวี  มีพระฤๅษีไปพบทารกหญิง ถูกพญานกคาบมาทิ้งไว้บนใบบัวหลวง จึงเลี้ยงดูและสอนสรรพวิทยาการต่าง ๆ ให้ เมื่อพระนางจามเทวี เจริญวัยได้ 13 พรรษา พระฤๅษีจึงต่อนาวายนต์พร้อมด้วยฝูงวานรเป็นบริวารลอยล่องไปตามลำน้ำ ถึงยังท่าน้ำวัดชัยมงคล เมื่อพระเจ้ากรุงละโว้และพระมเหสีพบเห็น จึงได้นำกุมารีน้อยนั้นเข้าสู่พระราชวัง และตั้งให้เป็นพระราชธิดา นามว่า "จามเทวีกุมารี" และให้ศึกษาศิลปวิทยาการตำราพิชัยสงคราม และดนตรีทุกอย่าง พ.ศ. 1198 


มีพระฤๅษีไปพบทารกหญิง ถูกพญานกคาบมาทิ้งไว้บนใบบัวหลวง จึงเลี้ยงดูและสอนสรรพวิทยาการต่าง ๆ ให้


ต่อมา พ.ศ. 1204 พระนามจามเทวีมีพระชนม์ 20 พรรษา เป็นกษัตรีย์วงศ์จามเทวีแห่งนครหริภุญชัย

ครั้นพระนางจามเทวีมีพระชนม์ 14 พรรษา ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายราม แห่งนครรามบุรี ต่อมา พ.ศ. 1204 พระนามจามเทวีมีพระชนม์ 20 พรรษา เป็นกษัตรีย์วงศ์จามเทวีแห่งนครหริภุญชัย โดยพระนางเจ้าได้อัญเชิญพระแก้วขาว (พระเสตังคมณี) จากเมืองละโว้ เมื่อปี 700 ขึ้นมา เพื่อประดิษฐานเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง (ปัจจุบัน พระเสตังคมณีองค์นี้ยังประดิษฐานอยู่ที่วัดเชียงมั่น จังหวัดเชียงใหม่) 


พระนางจามเทวี มีพระโอรส 2 องค์ องค์พี่มีนามว่ามหายศ (มหันตยศ) องค์น้องมีนามว่าอินทวร(อนันตยศ)


โดยพระนางจามเทวี มีพระโอรส 2 องค์ องค์พี่มีนามว่ามหายศ (มหันตยศ) องค์น้องมีนามว่าอินทวร(อนันตยศ) โดยพระเจ้ามหายศ ได้ขึ้นเสวยครองเมืองหริภุญชัยนคร(ปัจจุบันคือจ.ลำพูน) แทนพระมารดา ส่วนพระองค์น้องพระเจ้าอินทวรไปครองเมืองเขลางค์นคร(ปัจจุบันคือ จ.ลำปาง) 


พระนางจามเทวีมีพระชนม์ได้ 60 พรรษา ได้สละราชสมบัติทุกอย่าง ให้พระโอรสทั้งสอง โดยพระนางออกบวชชีบำเพ็ญพรตอยู่ที่วัดจามเทวีแห่งนี้ พ.ศ. 1276


เมื่อพระนางจามเทวีมีพระชนม์ได้ 60 พรรษา ได้สละราชสมบัติทุกอย่าง ให้พระโอรสทั้งสอง โดยพระนางออกบวชชีบำเพ็ญพรตอยู่ที่วัดจามเทวีแห่งนี้ พ.ศ. 1276 พระนางจามเทวีได้ปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดแห่งนี้ พระชนม์ครบ 92 พรรษา พระนางจึงได้สิ้นพระชนม์ 


 พระนางจามเทวีได้ปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดแห่งนี้ พระชนม์ครบ 92 พรรษา พระนางจึงได้สิ้นพระชนม์  ได้จัดถวายพระเพลิงภายในวัดดังกล่าวอย่างสมพระเกียรติ และได้สร้างเจดีย์สี่เหลี่ยมบรรจุพระอัฐิของพระนางไว้ ณ ที่นี้ 

และได้สร้างเจดีย์สี่เหลี่ยมบรรจุพระอัฐิของพระนางไว้ ณ ที่นี้ โดยให้ชื่อเจดีย์ว่า สุวรรณจังโกฎเจดีย์ 


ซึ่งทางพระมหันตยศ และพระอนันตยศ ก็ได้จัดถวายพระเพลิงภายในวัดดังกล่าวอย่างสมพระเกียรติ และได้สร้างเจดีย์สี่เหลี่ยมบรรจุพระอัฐิของพระนางไว้ ณ ที่นี้ โดยให้ชื่อเจดีย์ว่า สุวรรณจังโกฎเจดีย์ ที่ได้เป็นต้นแบบของเจดีย์ในแถบล้านนา ที่นักท่องเที่ยวและสายบุญต้องห้ามพลาดมากราบไหว้พระขอพรที่วัดแห่งนี้กันเพื่อความเป็นสิริมล

ภายในอุโบสถวัดพระนางจามเทวี 


เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2525 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จมาเปิดอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก ซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของตลาดหนองดอก สร้างเป็นอนุสรณ์แก่พระนางจามเทวี เป็นปฐมกกษัตริย์แห่งหริภุญชัย เป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม มีความสามารถ กล้าหาญ ได้นำพระพุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่จนมีความรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน


เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดจามเทวี

https://th.wikipedia.org/wiki/วัดจามเทวี

------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความบล็อกที่เที่ยวเมืองอื่นๆ มีดังนี้ 


แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดลำพูน เมืองรองต้องห้ามพลาดไปเที่ยวถ่ายภาพเช็กอินกัน ไม่งั้นมาไม่ถึง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>>


แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในจังหวัดลำปาง ต้องปักหมุดไปถ่ายภาพกัน>>>

เที่ยวไทยไปล่าสุดกับ 16 พิกัดที่เที่ยวจังหวัดลำปางปี 2022 มองวิวสวยๆ รุ่มระรวยด้วยอาหารอร่อยๆ ตามรอยไปเช็กอินถ่ายภาพกันที่ใหนบ้าง แวะไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>


สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตติดลมบนในภูเก็ตปี 2022 ไม่ลองไม่รู้ไปเที่ยวกันดู>>

ล่าสุดกับ 12 ที่เที่ยวสุดฮิตในภูเก็ตปี 2022 ไม่ลองไม่รู้ แวะไปเที่ยวทัศนากันดู ให้จุ๊กกรูหัวใจ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเช็กอินถ่ายรูปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>


สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพังงา ไม่พลาดไปลั๊ลลาถ่ายรูปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยว>>

รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพังงา ที่ห้ามพลาดไปลั๊ลลาถ่ายรูปภาพสวยๆกันสักครา ไม่งั้นไม่มาถึงเลยนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>



แนะนำที่เที่ยวยอดนิยมในอำเภอสังขละบุรี ที่มาเมืองนี้แล้ว ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปกัน ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

ต้องไปเช็กอินกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอไทรโยค คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
รวมเด่น 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต ติดลมบนในอำเภอไทรโยค-อำเภอศรีสวัสดิ์ ที่ต้องห้ามพลาดพลัดไปเช็กอินถ่ายรูปกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

สรุปสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรี ต้องหนีไปถ่ายรูปกัน ดูบทความค่ะ>>

ต้องไปให้ได้กับ 13 ที่เที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรี ที่ต้องจรลีหนีมาเช็กอินถ่ายรูปภาพกัน มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>


รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดกาลในเมืองพัทยา ที่ใครมาก็ต้องไปเช็กอินกันสักครั้ง ถ่ายรูปให้สวยปังปูริเย มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะล้าน ต้องไปสุขสราญถ่ายรูปภาพกัน>>

ไปล่าสุดกับ 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะล้าน ต้องไปเริงสำราญถ่ายรูปภาพกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

น่ารู้กับตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน>>>

ท่องทั่วไทยไปให้รู้ แวะดูตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร จัดมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

ประเพณีกวนข้าวทิพย์มธุปายาสยาคู มีประวัติเป็นมาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน>>

เที่ยวเมืองไทยไปต้องรู้ กับประเพณีกวนข้าวทิพย์มธุปายาสยาคู มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรูป ฝ่าพระบาทที่เท้าพระนอนวัดโพธิ์ มีความหมายว่าอะไร>>

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ฝ่าพระบาทที่เท้าของพระนอนวัดโพธิ์ รูปสัญลักษณ์ที่หลายคนสงสัย มีความหมายว่าอะไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

ตำนานบอกเล่าอันเก่าแก่ของบ่อน้ำพุร้อนพระร่วงในเมืองชากังราว คลิ๊กดูบทความ>>>

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตำนานบอกเล่าอันเก่าแก่ของบ่อน้ำพุร้อนพระร่วง ในเมืองชากังราวสุดน่าสนใจ มาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ ต้องไปเริงสำราญให้ได้ คลิ๊กดูที่เที่ยว>>

รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาในจังหวัดบึงกาฬ ต้องไปเช็กอินให้สำราญกันสักครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปช่ะช่ะช่ากันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจในสกลนคร คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นจังหวัดสกลนคร ที่ใครก็ต้องมาออนซอนเช็กอินถ่ายรูปกันสักครา ไม่งั้นมาไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองสตูลสุดน่าสนใจ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในตัวเมืองสตูล ที่ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปภาพกระชากใจเว่อร์กัน มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น