ท่องเที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ในวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอนำเสนอสาระน่ารู้เกี่ยวกับประวัติตำนานเล่าขาน วัดจามเทวี เจดีย์กุดกู่ ในเมืองลำพูน มาให้ได้อ่านฆ่าเวลากันค่ะ |
กลับมาทักทาย สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเหล่าผู้หลงใหลในการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามไฉไลเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคนค่ะ ก็มาพบกันอีกครั้งนะคะ กับบทความบล็อกสาระน่ารู้เกี่ยวกับสถานท่องเที่ยวทั่วฟ้าเมืองไทย ที่จะสรรหามาบอกเล่าเก้าสิบ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาให้ได้อ่านฆ่าเวลากัน หลังจากที่บทความบล็อกก่อนหน้านี้ ได้พาไปรู้จัก วัดพระยืน อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ในเมืองหริภุญชัยกันไปแล้ว
เพื่อไม่ให้บทความบล็อกร้างไป ในวันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ก็ยังวนเวียนสิงสถิตอยู่ในเมืองหริภุญชัย พาไปชมและรู้จักประวัติความเป็นมาของ เจดีย์กุดกู่ วัดจามเทวี ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในวัดที่มีความเก่าแก่ อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนาน หากใครที่จัดโปรแกรมไหว้พระ 9 วัด ก็ต้องไม่พลาด มากราบพระขอพรที่วัดนี้กันสักครั้งครา
น่ารู้เกี่ยวกับ เจดีย์กุดกู่ วัดจามเทวี อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน (Wat Chamthewi, Lamphun Province) |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเจดีย์กู่กุด วัดจามเทวี อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน (Wat Chamthewi, Lamphun Province)
สำหรับ วัดจามเทวี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดกู่กุด เดิมชื่อ วัดกู่กุด ถือวัดเก่าแก่ที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยล้านนาไทย ตั้งอยู่ริมถนนจามเทวี ตำบลในเมือง สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 1298 เป็นฝีมือช่างละโว้ พระนางจามเทวีนำช่างละโว้ (ปัจจุบันคือ จังหวัดลพบุรี) ไปสร้างพระเจดีย์สุวรรณจังโกฎ เป็นพระเจดีย์สี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย ทุก ๆ ด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรศิลปกรรมของลพบุรีมีพระพุทธรูปยืนอยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้าน ทั้งนี้วัดจามเทวี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2478 จัดเป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่มีความสำคัญอยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนาน
บ้างก็ว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวี ได้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของพระนาง เดิมมียอดพระเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ |
ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้น ๆ อยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้าน ด้านละ 15 องค์ รวม 60 องค์ |
โดยประวัติความเป็นของวัดจามเทวีนั้น บ้างก็ว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวี ได้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของพระนาง เดิมมียอดพระเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้น ๆ อยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้าน ด้านละ 15 องค์ รวม 60 องค์
ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบแน่ชัดยอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด |
ซึ่งภายในบรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งหริภุญไชย ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบแน่ชัดยอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด พระเจดีย์องค์นี้มีชื่อเป็นทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฎ
พระสุวรรณจังโกฏเจดีย์ หรือชื่อเรียกที่รู้จักกันดีคือ เจดีย์กู่กุด เพราะมีส่วนยอดหลุดหรือหักส่วนมหาพลเป็นชื่อดีตที่ตั้งของวัดนี้ เอามาตั้งเป็นชื่อเจดีย์ |
สำหรับพระสุวรรณจังโกฏเจดีย์ หรือชื่อเรียกที่รู้จักกันดีคือ เจดีย์กู่กุด หรือ เจดีย์กู่กุฎ หรือ เจดีย์มหาพล ที่เรียกกู่กุด เพราะมีส่วนยอดหลุดหรือหักส่วนมหาพลเป็นชื่อดีตที่ตั้งของวัดนี้ เอามาตั้งเป็นชื่อเจดีย์
เจดีย์ทรงปราสาทแบบหริภุญชัยองค์นี้เคยมียอด จึงเรียกทรงปราสาทยอดได้ด้วย |
และเจดีย์ทรงปราสาทแบบหริภุญชัยองค์นี้เคยมียอด จึงเรียกทรงปราสาทยอดได้ด้วย มีลักษณะแปลกแตกต่างไปจากเจดีย์ทรงปราสาทในศิลปะล้านนาและศิลปะขอม คือ นับจากส่วนฐานทรงสี่เหลี่ยมมาเป็นเรือนธาตุทรงสี่เหลี่ยมเช่นกัน ตั้งซ้อนกันลดขนาดเป็นลำดับขึ้นไป 5 ขั้น แต่ละชั้นมีเจดีย์ประดับทิศทั้งสี่ และด้านทั้งสี่ของแต่ละชั้น มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในซุ้มจระนำ และยอดแหลมที่หักหายคงเป็นกรวยเหลี่ยม
เจดีย์ขนาดเล็ก ด้านทั้งแปดของเรือนธาตุเจดีย์องค์นี้ ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนไว้ในซุ้มจระนำ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ ในแต่ละชั้นของเจดีย์แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธา |
ซึ่งสถาปัตยกรรมเจดีย์ทรงปราสาทแบบหริภุญชัยอีกแบบองค์ มีทรงแปดเหลี่ยม จึงนิยมเรียกตามทรงว่า เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ขนาดเล็ก ด้านทั้งแปดของเรือนธาตุเจดีย์องค์นี้ ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนไว้ในซุ้มจระนำ เหนือเรือนธาตุเป็นหลังคาซ้อนชั้นลดหลั่นขึ้นรับทรงระฆัง เหนือขึ้นไปเป็นยอดซึ่งหักหายแล้ว เจดีย์ลักษณะนี้ได้พบแพร่หลายทางภาคกลางด้วย เช่น วัดพระแก้ว จังหวัดชัยนาท วัดพระรูป จังหวัดสุพรรณบุรี และสืบเนื่องมาจนถึงตอนต้นของกรุงศรีอยุธยา
และพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ในแต่ละชั้นของเจดีย์แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธา และการเข้าถึงพระพุทธศาสนาของพระนางจามเทวี โดยสุวรรณจังโกฎเจดีย์เป็นต้นแบบของเจดีย์ทั้งหลาย ซึ่งบางครั้งเรียกเจดีย์ทรงนี้ว่า เจดีย์ทรงขัตติยะนารี
ภายในวัดยังมีรัตนเจดีย์ ตั้งอยู่ทางขวามือของวิหาร สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ปี พ.ศ. 1184 |
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีรัตนเจดีย์ ตั้งอยู่ทางขวามือของวิหาร สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ปี พ.ศ. 1184 ซึ่งรัตนเจดีย์ปราสาทในผังแปดเหลี่ยม มีเรือนธาตุในผังแปดเหลี่ยมซ้อนกัน 2 ชั้น พระพุทธรูปที่ประดิษฐานในซุ้มจระนำชั้นที่ 1 เป็นพระพุทธรูปประทับยืนยกพระหัตถ์ พระกรช่วงล่างชำรุด แต่ยังแสดงการยกพระหัตถ์ทั้งสองด้าน เรือนธาตุชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่ง แสดงปางสมาธิศิลปะหริภุญไชยที่ได้รับอิทธิพลของศิลปะทวารดีในภาคกลาง
กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จมาพบศิลาจารึกอักษรขอม บริเวณฐานเจดีย์กู่กุฎิและรัตนเจดีย์แห่งนี้ ข้อความจารึกกล่าวถึงการปฎิสังขรณ์รัตนเจดีย์ที่พังทลายลง เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว |
ซึ่งใน พ.ศ.2467 กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จมาพบศิลาจารึกอักษรขอม บริเวณฐานเจดีย์กู่กุฎิและรัตนเจดีย์แห่งนี้ ข้อความจารึกกล่าวถึงการปฎิสังขรณ์รัตนเจดีย์ที่พังทลายลง เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว แต่ปัจจุบันเชื่อว่า รัตนเจดีย์ ที่ระบุในศิลาจารึกคือ เจดีย์กู่กุด ส่วนเจดีย์แปดเหลี่ยมนี้ ไม่มีประวัติปรากฎเป็นหลักฐานในเอกสารใดๆ แต่จากรูปแบบสถาปัตยกรรม และศิลปะกรรมที่ปรากฎเชื่อว่า สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 17-18
วัดจามเทวี ก็เป็นวัดที่เกี่ยวพันกับประวัติของพระนางจามเทวี มีพระฤๅษีไปพบทารกหญิง ถูกพญานกคาบมาทิ้งไว้บนใบบัวหลวง จึงเลี้ยงดูและสอนสรรพวิทยาการต่าง ๆ ให้ |
สำหรับวัดจามเทวี ก็เป็นวัดที่เกี่ยวพันกับประวัติของพระนางจามเทวี มีพระฤๅษีไปพบทารกหญิง ถูกพญานกคาบมาทิ้งไว้บนใบบัวหลวง จึงเลี้ยงดูและสอนสรรพวิทยาการต่าง ๆ ให้ เมื่อพระนางจามเทวี เจริญวัยได้ 13 พรรษา พระฤๅษีจึงต่อนาวายนต์พร้อมด้วยฝูงวานรเป็นบริวารลอยล่องไปตามลำน้ำ ถึงยังท่าน้ำวัดชัยมงคล เมื่อพระเจ้ากรุงละโว้และพระมเหสีพบเห็น จึงได้นำกุมารีน้อยนั้นเข้าสู่พระราชวัง และตั้งให้เป็นพระราชธิดา นามว่า "จามเทวีกุมารี" และให้ศึกษาศิลปวิทยาการตำราพิชัยสงคราม และดนตรีทุกอย่าง พ.ศ. 1198
มีพระฤๅษีไปพบทารกหญิง ถูกพญานกคาบมาทิ้งไว้บนใบบัวหลวง จึงเลี้ยงดูและสอนสรรพวิทยาการต่าง ๆ ให้ |
ต่อมา พ.ศ. 1204 พระนามจามเทวีมีพระชนม์ 20 พรรษา เป็นกษัตรีย์วงศ์จามเทวีแห่งนครหริภุญชัย |
ครั้นพระนางจามเทวีมีพระชนม์ 14 พรรษา ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายราม แห่งนครรามบุรี ต่อมา พ.ศ. 1204 พระนามจามเทวีมีพระชนม์ 20 พรรษา เป็นกษัตรีย์วงศ์จามเทวีแห่งนครหริภุญชัย โดยพระนางเจ้าได้อัญเชิญพระแก้วขาว (พระเสตังคมณี) จากเมืองละโว้ เมื่อปี 700 ขึ้นมา เพื่อประดิษฐานเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง (ปัจจุบัน พระเสตังคมณีองค์นี้ยังประดิษฐานอยู่ที่วัดเชียงมั่น จังหวัดเชียงใหม่)
พระนางจามเทวี มีพระโอรส 2 องค์ องค์พี่มีนามว่ามหายศ (มหันตยศ) องค์น้องมีนามว่าอินทวร(อนันตยศ) |
โดยพระนางจามเทวี มีพระโอรส 2 องค์ องค์พี่มีนามว่ามหายศ (มหันตยศ) องค์น้องมีนามว่าอินทวร(อนันตยศ) โดยพระเจ้ามหายศ ได้ขึ้นเสวยครองเมืองหริภุญชัยนคร(ปัจจุบันคือจ.ลำพูน) แทนพระมารดา ส่วนพระองค์น้องพระเจ้าอินทวรไปครองเมืองเขลางค์นคร(ปัจจุบันคือ จ.ลำปาง)
พระนางจามเทวีมีพระชนม์ได้ 60 พรรษา ได้สละราชสมบัติทุกอย่าง ให้พระโอรสทั้งสอง โดยพระนางออกบวชชีบำเพ็ญพรตอยู่ที่วัดจามเทวีแห่งนี้ พ.ศ. 1276 |
เมื่อพระนางจามเทวีมีพระชนม์ได้ 60 พรรษา ได้สละราชสมบัติทุกอย่าง ให้พระโอรสทั้งสอง โดยพระนางออกบวชชีบำเพ็ญพรตอยู่ที่วัดจามเทวีแห่งนี้ พ.ศ. 1276 พระนางจามเทวีได้ปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดแห่งนี้ พระชนม์ครบ 92 พรรษา พระนางจึงได้สิ้นพระชนม์
และได้สร้างเจดีย์สี่เหลี่ยมบรรจุพระอัฐิของพระนางไว้ ณ ที่นี้ โดยให้ชื่อเจดีย์ว่า สุวรรณจังโกฎเจดีย์ |
ซึ่งทางพระมหันตยศ และพระอนันตยศ ก็ได้จัดถวายพระเพลิงภายในวัดดังกล่าวอย่างสมพระเกียรติ และได้สร้างเจดีย์สี่เหลี่ยมบรรจุพระอัฐิของพระนางไว้ ณ ที่นี้ โดยให้ชื่อเจดีย์ว่า สุวรรณจังโกฎเจดีย์ ที่ได้เป็นต้นแบบของเจดีย์ในแถบล้านนา ที่นักท่องเที่ยวและสายบุญต้องห้ามพลาดมากราบไหว้พระขอพรที่วัดแห่งนี้กันเพื่อความเป็นสิริมล
ภายในอุโบสถวัดพระนางจามเทวี |
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2525 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จมาเปิดอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก ซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของตลาดหนองดอก สร้างเป็นอนุสรณ์แก่พระนางจามเทวี เป็นปฐมกกษัตริย์แห่งหริภุญชัย เป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม มีความสามารถ กล้าหาญ ได้นำพระพุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่จนมีความรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดจามเทวี
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดจามเทวี
------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกที่เที่ยวเมืองอื่นๆ มีดังนี้
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในจังหวัดลำปาง ต้องปักหมุดไปถ่ายภาพกัน>>> |
เที่ยวไทยไปล่าสุดกับ 16 พิกัดที่เที่ยวจังหวัดลำปางปี 2022 มองวิวสวยๆ รุ่มระรวยด้วยอาหารอร่อยๆ ตามรอยไปเช็กอินถ่ายภาพกันที่ใหนบ้าง แวะไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตติดลมบนในภูเก็ตปี 2022 ไม่ลองไม่รู้ไปเที่ยวกันดู>> |
ล่าสุดกับ 12 ที่เที่ยวสุดฮิตในภูเก็ตปี 2022 ไม่ลองไม่รู้ แวะไปเที่ยวทัศนากันดู ให้จุ๊กกรูหัวใจ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเช็กอินถ่ายรูปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพังงา ไม่พลาดไปลั๊ลลาถ่ายรูปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพังงา ที่ห้ามพลาดไปลั๊ลลาถ่ายรูปภาพสวยๆกันสักครา ไม่งั้นไม่มาถึงเลยนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
ต้องไปเช็กอินกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอไทรโยค คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
สรุปสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรี ต้องหนีไปถ่ายรูปกัน ดูบทความค่ะ>> |
ต้องไปให้ได้กับ 13 ที่เที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรี ที่ต้องจรลีหนีมาเช็กอินถ่ายรูปภาพกัน มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะล้าน ต้องไปสุขสราญถ่ายรูปภาพกัน>> |
ไปล่าสุดกับ 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะล้าน ต้องไปเริงสำราญถ่ายรูปภาพกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
น่ารู้กับตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน>>> |
ท่องทั่วไทยไปให้รู้ แวะดูตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร จัดมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
ประเพณีกวนข้าวทิพย์มธุปายาสยาคู มีประวัติเป็นมาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน>> |
เที่ยวเมืองไทยไปต้องรู้ กับประเพณีกวนข้าวทิพย์มธุปายาสยาคู มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรูป ฝ่าพระบาทที่เท้าพระนอนวัดโพธิ์ มีความหมายว่าอะไร>> |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ฝ่าพระบาทที่เท้าของพระนอนวัดโพธิ์ รูปสัญลักษณ์ที่หลายคนสงสัย มีความหมายว่าอะไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
ตำนานบอกเล่าอันเก่าแก่ของบ่อน้ำพุร้อนพระร่วงในเมืองชากังราว คลิ๊กดูบทความ>>> |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตำนานบอกเล่าอันเก่าแก่ของบ่อน้ำพุร้อนพระร่วง ในเมืองชากังราวสุดน่าสนใจ มาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ ต้องไปเริงสำราญให้ได้ คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาในจังหวัดบึงกาฬ ต้องไปเช็กอินให้สำราญกันสักครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปช่ะช่ะช่ากันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจในสกลนคร คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นจังหวัดสกลนคร ที่ใครก็ต้องมาออนซอนเช็กอินถ่ายรูปกันสักครา ไม่งั้นมาไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองสตูลสุดน่าสนใจ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในตัวเมืองสตูล ที่ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปภาพกระชากใจเว่อร์กัน มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
0 ความคิดเห็น