Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

ตะลุยเมืองไทยไปต้องรู้ดู วัดภูทอก เดินพิชิตบันไดไม้ริมหน้าผาสูงหวาดเสียวสุดใจ ที่ใครก็ต้องขึ้นมาพิชิตกันสักครา

เที่ยวเมืองไทยไปเยือนอีสาน กับเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วัดภูทอก ประวัติความเป็นมาวัดเก่าแก่อีกแห่งในจังหวัดบึงกาฬ ที่ใครก็ต้องมาเดินพิชิตไหว้พระนมัสการกันสักครั้ง


ก็ขอสวัสดีทักทักทายคุณผู้อ่านที่น่ารักสดใส รวมทั้งเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจงามวิไลเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคนค่ะ ก็กลับมาพบปะกันอีกเช่นเคยนะคะกับบทความสาระน่ารู้เกี่ยวกับที่เที่ยวในเมืองไทย ที่จะสรรหามาให้อ่านฆ่าเวลากัน หลังจากที่บทความบล็อกก่อนหน้าได้พาไปเที่ยวไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองบึงกาฬที่วัดโพธารามกันไปแล้ว อีกหนึ่งวันเด่น วัดมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากที่สุดของจังหวัดบึงกาฬก็คือ วัดภูทอก วัดเก่าแก่ที่มีบันไดสูงชันกับทางเดินสะพานไม้ที่สร้างริมหน้าให้ได้เดินชมทัศนียภาพอันสวยงาม จนกลายเป็นที่เที่ยวต้องห้ามพลาดมากันเลยทีเดียว 


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัดภูทอก  จังหวัดบึงกาฬ (Wat Phu Tok, Bueng Kan province)


สาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดภูทอก  จังหวัดบึงกาฬ (Wat Phu Tok, Bueng Kan province)

สำหรับวัดภูทอก "ภูเขาที่โดดเดียว" เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร  โดยเป็นวัดป่าพระกรรมฐาน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2483 โดยท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ที่ได้สร้างไว้เป็น "รุกขมูลเสนาสนัง" ในท่ามกลางผืนป่าทึบ สุดเขตชายแดน ด้านอิสาณเหนือ นั้นก็คือ จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านคำแคนพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ 43210 มีฐานะเป็นวัดราษฎร์  โดยท่านได้พารักษาผืนป่าซึ่งมีพื้นที่ถึง 1,700 ไร่ให้คงสภาพอันสมบูรณ์ตลอดมา การรักษาพื้นที่ป่า ทำให้บริเวณวัดเป็นสถานที่อันเงียบสงัด เหมาะสำหรับการปฎิบัติธรรมของพระกรรมฐาน มีความวิเวก สันโดษ ตัดกระแสโลกีย์ เพ่งเพียรในวัตรปฎิบัติ ของจิต ของธรรม มุ่งตามอริยวงศ์ อริยประเพณี 


ปัจจุบันแม้ความเจริญทางวัตถุของบ้านเมือง ได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศไทย รวมถึงรอบวัดภูทอก แต่วัดภูทอกยังคงเป็นวัดพระกรรมฐานอันเคร่งครัด

ในปัจจุบันแม้ความเจริญทางวัตถุของบ้านเมือง ได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศไทย รวมถึงรอบวัดภูทอก แต่วัดภูทอกยังคงเป็นวัดพระกรรมฐานอันเคร่งครัด ด้วยศีลาจริยาวัตรอันสมบูรณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในดินแดนพระพุทธศาสนา 

 ซึ่งเอกลักษณ์อันมหัศจรรย์ของภูทอก โดยท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้วางไว้เป็นมรดกธรรม แก่ชนรุ่นหลัง

และเจ้าอาวาสสองท่านคือ ท่านพระอาจารย์แยง สุขกาโม (พระครูสุนทรวิหารธรรม) ได้สืบเนื่องการบำรุงรักษาวัด เสนาสนะ และสร้างสะพานไม้ถึง 7 ชั้น รอบไหล่ผาภูทอก ซึ่งเอกลักษณ์อันมหัศจรรย์ของภูทอก โดยท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้วางไว้เป็นมรดกธรรม แก่ชนรุ่นหลัง 

สภาพของวัดเจติยาคิรีวิหาร หรือ ภูทอกนั้นขนาดความสูง โดยวัดจากฐานถึงยอด 460 เมตร


ในส่วนของสภาพวัดเจติยาคิรีวิหาร หรือ ภูทอกนั้นขนาดความสูง โดยวัดจากฐานถึงยอด 460 เมตร 

มีบันไดเรียงขึ้นตามชั้นต่าง ๆ 7 ชั้น และฐานชั้นที่ 6 วัดโดยรอบได้ 800 เมตร เป็นหน้าผาสูงชันมีที่ธรณีสงฆ์ 78 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา

ซึ่งจะมีบันไดเรียงขึ้นตามชั้นต่าง ๆ 7 ชั้น และฐานชั้นที่ 6 วัดโดยรอบได้ 800 เมตร เป็นหน้าผาสูงชันมีที่ธรณีสงฆ์ 78 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา

คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร 


ส่วนประวัติที่มาของการก่อสร้างวัดภูทอกนั้น โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ ถ้ำบนภูทอก กับพระครูศริธรรมวัฒน์ ต่อมาชาวบ้านคำแคนเห็นพระอาจารย์จวน ธุดงภ์มาอยู่ที่ภูทอก จึงพร้อมใจกันอารธนาให้สร้างวัด ขึ้นที่ภูทอก


ปี พ.ศ. 2512 ชาวบ้านนาคำแคนได้มาช่วยกันสร้างบันได้ขึ้นภูทอก จนถึงชั้นที่ 5-6 

ในปี พ.ศ. 2512 ชาวบ้านนาคำแคนได้มาช่วยกันสร้างบันได้ขึ้นภูทอก จนถึงชั้นที่ 5-6 และได้ปลูกสร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์อยู่ถึง 2 เดือน 10 วัน จึงเสร็จ



และในปีพุทธศักราช 2513-2514 พระอาจารย์จวน กุลเชตุโฐ ได้ชักชวนชาวบ้าน สร้างทำนบกั้นน้ำขึ้น 2 แห่ง เพื่อใช้เก็บกักน้ำ และจัดระบบน้ำประปาขึ้นภายในวัดภูทอก

นอกจากนี้แล้ว กองทัพอากาศดอนเมืองได้ถวายเครื่องไฟฟ้าแรงสูง สำหรับใช้ ภายในวัด 1 เครื่อง กรมวิเทศสหการได้ถวายพระพุทธรูป หล่อขนาดใหญ่เป็นประธาน 1 องค์ ไว้ที่วิหารชั้น 5 และบรรดาญาติโยมได้ช่วยกันสมทบทุนสร้างโรงฉัน และศาลาที่ชั้น 1 หลัง พร้อมกับการก่อสร้างสะพานลอยฟ้าไปรอบ ๆ ภูทอกในชั้นที่ 5 และชั้นที่ 6 และได้สร้างสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนา แทรกไว้ตาม จุดต่าง ๆ โดยรอบหน้าผา สิ้นค่าก่อสร้าง 45,000 บาท

การก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ 


ซึ่งการก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ ละประมาณ 1 เมตรเศษ ระหว่างคาน จะมีคานรองรับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สะพานแข็งแรงมาก นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง และเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2523 พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐได้รับนิมนต์ไปกรุงเทพฯ และได้ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ สิริรวมอายุได้ 59 ปี 9 เดือน 18 วัน 38 พรรษา

ระหว่างเดินบันไดขึ้นไป ก็จะมีป้ายคำกลอนให้อ่านเตือนสติตลอด  เมาเพศ หมดราคา เมาสุรา หมดสำคัญ เมาพนันหมดตัว เมาเพื่อนชั่ว หมดดี

เมื่อปีพุทธศักราช 2513 ได้ปรับปรุงการสร้างสะพานใน ชั้นที่ 5 โดยทำทางเดินให้เสมอกันและ ขยายให้กว้างขึ้น

จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน มีปัญญาแม้เด่นไม่เป็นภัย เขาอยากเห็นเด่นทำดีมีปัญญา 

และเมื่อปี พ.ศ. 2517 ได้ปรับปรุงสะพานในชั้นที่ 6 และทำสะพานในชั้นที่ 4 ให้อยู่ในสภาพที่ ใช้การได้ดี จนมาถึงปี พ.ศ. 2519 ได้จัดทำนบกั้นน้ำในเขตวัดและจัดทำถังน้ำบนภูเขาในชั้นที่ 5 และกุฎิ พระภิกษุ สามเณร กุฎิแม่ชี บนชะง่อนเขาในชั้นที่ 5 เพื่อให้ญาติโยมได้พักอาศัยด้วย


กระทั้งถึงปี พ.ศ. 2523 ได้จัดทำถนนรอบภูเขา 3 ลูก คือ ภูทอกน้อย ภูทอกใหญ่ และภูสิงห์น้อย

จนกระทั้งถึงปี พ.ศ. 2523 ได้จัดทำถนนรอบภูเขา 3 ลูก คือ ภูทอกน้อย ภูทอกใหญ่ และภูสิงห์น้อยเพื่อ เป็นการกั้นเขตแดนวัด เพื่อให้การเดินทางคมนาคมสะดวกมากขึ้น 


นอกจากนั้นแล้วยังมีเจดีย์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ สร้างด้วยคอนกรีต เสริมเหล็กประดับด้วยหินอ่อนขนาดกว้าง 16 เมตร สูง 31 เมตร และมียอดเป็นทองคำแท้ทั้งหมด 


ซึ่งสร้างปี พ.ศ.2527 โดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9

ซึ่งสร้างปี พ.ศ.2527 โดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพกราบไหว้เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ให้เกิดสิริมงคลต่อตัวเองและประเทศชาติศาสนาสืบไป

ปัจจุบันวัดภูทอกเป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนพระปริญัติธรรม แผนกธรรม ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2525 อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬ

ปัจจุบันวัดภูทอกเป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนพระปริญัติธรรม แผนกธรรม ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2525 อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬ มีนักเดินทางทั้งชาวไทยและชายต่างชาติแวะเวียนมาเยือนกันเรื่อยมา  ซึ่งระยะทางของวัดภูทอกนั้น อยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองคาย 186 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวง จังหวัด หมายเลข 212 หนองคาย - บึงกาฬ - ศรีวิไล ระยะทางห่างจากตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 40 กิโลเมตร


เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดเจติยาคีรีวิหาร

------------------------------------------------------------------------------------------

บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ

รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจในสกลนคร คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นจังหวัดสกลนคร ที่ใครก็ต้องมาออนซอนเช็กอินถ่ายรูปกันสักครา ไม่งั้นมาไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองสตูลสุดน่าสนใจ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในตัวเมืองสตูล ที่ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปภาพกระชากใจเว่อร์กัน มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

สถานที่ท่องเที่ยวในเกาะหลีเป๊ะและจุดเช็กอินถ่ายรูปวิวสวยๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะหลีเป๊ะ และจุดเช็กอินถ่ายรูปวิวสวยๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

วมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเชียงราย ใครก็ต้องไปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>>

จัดไปกับ 15 ที่เที่ยวจุดเช็กอินยอดนิยมในเชียงราย ที่ใครก็ต้องปักหมุดไปถ่ายรูปกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวชมกันได้เลย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
 
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองตาก แวะไปเช็ออินถ่ายภาพกันสักครั้ง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
รวมเด่น 12 ที่เที่ยวในเมืองตาก ต้องแวะไปเช็กอินถ่ายภาพสวยสักครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลากันได้เลย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

รวมเด็ด 17 ที่เที่ยวกำแพงเพชรยอดนิยมที่คนไปเช็กอินกันสักครั้ง>>
แนะนำ 17 แหล่งท่องเที่ยวเด็ดในกำแพงเพชร ที่ใครก็ต้องระเหินระเห็ดไปเช็กอินถ่ายรูปกันสักครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลากันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

แนะนำสถานทีท่องเที่ยวในเมืองมหาชัย สมุทรสาคร แวะไปออนซอนได้ชิลๆ>>>
รวมเด็ด 11 สถานที่ท่องเที่ยวสมุทรสาคร สามารถแวะไปเช็กอิน ออนซอนถ่ายรูปได้ชิลๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น