เที่ยวเมืองไทยไปเยือนอีสาน กับเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วัดภูทอก ประวัติความเป็นมาวัดเก่าแก่อีกแห่งในจังหวัดบึงกาฬ ที่ใครก็ต้องมาเดินพิชิตไหว้พระนมัสการกันสักครั้ง |
ก็ขอสวัสดีทักทักทายคุณผู้อ่านที่น่ารักสดใส รวมทั้งเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจงามวิไลเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคนค่ะ ก็กลับมาพบปะกันอีกเช่นเคยนะคะกับบทความสาระน่ารู้เกี่ยวกับที่เที่ยวในเมืองไทย ที่จะสรรหามาให้อ่านฆ่าเวลากัน หลังจากที่บทความบล็อกก่อนหน้าได้พาไปเที่ยวไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองบึงกาฬที่วัดโพธารามกันไปแล้ว อีกหนึ่งวันเด่น วัดมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากที่สุดของจังหวัดบึงกาฬก็คือ วัดภูทอก วัดเก่าแก่ที่มีบันไดสูงชันกับทางเดินสะพานไม้ที่สร้างริมหน้าให้ได้เดินชมทัศนียภาพอันสวยงาม จนกลายเป็นที่เที่ยวต้องห้ามพลาดมากันเลยทีเดียว
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัดภูทอก จังหวัดบึงกาฬ (Wat Phu Tok, Bueng Kan province) |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดภูทอก จังหวัดบึงกาฬ (Wat Phu Tok, Bueng Kan province)
สำหรับวัดภูทอก "ภูเขาที่โดดเดียว" เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร โดยเป็นวัดป่าพระกรรมฐาน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2483 โดยท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ที่ได้สร้างไว้เป็น "รุกขมูลเสนาสนัง" ในท่ามกลางผืนป่าทึบ สุดเขตชายแดน ด้านอิสาณเหนือ นั้นก็คือ จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านคำแคนพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ 43210 มีฐานะเป็นวัดราษฎร์ โดยท่านได้พารักษาผืนป่าซึ่งมีพื้นที่ถึง 1,700 ไร่ให้คงสภาพอันสมบูรณ์ตลอดมา การรักษาพื้นที่ป่า ทำให้บริเวณวัดเป็นสถานที่อันเงียบสงัด เหมาะสำหรับการปฎิบัติธรรมของพระกรรมฐาน มีความวิเวก สันโดษ ตัดกระแสโลกีย์ เพ่งเพียรในวัตรปฎิบัติ ของจิต ของธรรม มุ่งตามอริยวงศ์ อริยประเพณี
ปัจจุบันแม้ความเจริญทางวัตถุของบ้านเมือง ได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศไทย รวมถึงรอบวัดภูทอก แต่วัดภูทอกยังคงเป็นวัดพระกรรมฐานอันเคร่งครัด |
ในปัจจุบันแม้ความเจริญทางวัตถุของบ้านเมือง ได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศไทย รวมถึงรอบวัดภูทอก แต่วัดภูทอกยังคงเป็นวัดพระกรรมฐานอันเคร่งครัด ด้วยศีลาจริยาวัตรอันสมบูรณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในดินแดนพระพุทธศาสนา
ซึ่งเอกลักษณ์อันมหัศจรรย์ของภูทอก โดยท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้วางไว้เป็นมรดกธรรม แก่ชนรุ่นหลัง |
และเจ้าอาวาสสองท่านคือ ท่านพระอาจารย์แยง สุขกาโม (พระครูสุนทรวิหารธรรม) ได้สืบเนื่องการบำรุงรักษาวัด เสนาสนะ และสร้างสะพานไม้ถึง 7 ชั้น รอบไหล่ผาภูทอก ซึ่งเอกลักษณ์อันมหัศจรรย์ของภูทอก โดยท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้วางไว้เป็นมรดกธรรม แก่ชนรุ่นหลัง
สภาพของวัดเจติยาคิรีวิหาร หรือ ภูทอกนั้นขนาดความสูง โดยวัดจากฐานถึงยอด 460 เมตร |
ในส่วนของสภาพวัดเจติยาคิรีวิหาร หรือ ภูทอกนั้นขนาดความสูง โดยวัดจากฐานถึงยอด 460 เมตร
มีบันไดเรียงขึ้นตามชั้นต่าง ๆ 7 ชั้น และฐานชั้นที่ 6 วัดโดยรอบได้ 800 เมตร เป็นหน้าผาสูงชันมีที่ธรณีสงฆ์ 78 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา |
ซึ่งจะมีบันไดเรียงขึ้นตามชั้นต่าง ๆ 7 ชั้น และฐานชั้นที่ 6 วัดโดยรอบได้ 800 เมตร เป็นหน้าผาสูงชันมีที่ธรณีสงฆ์ 78 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา
คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร |
ส่วนประวัติที่มาของการก่อสร้างวัดภูทอกนั้น โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ ถ้ำบนภูทอก กับพระครูศริธรรมวัฒน์ ต่อมาชาวบ้านคำแคนเห็นพระอาจารย์จวน ธุดงภ์มาอยู่ที่ภูทอก จึงพร้อมใจกันอารธนาให้สร้างวัด ขึ้นที่ภูทอก
ปี พ.ศ. 2512 ชาวบ้านนาคำแคนได้มาช่วยกันสร้างบันได้ขึ้นภูทอก จนถึงชั้นที่ 5-6 |
ในปี พ.ศ. 2512 ชาวบ้านนาคำแคนได้มาช่วยกันสร้างบันได้ขึ้นภูทอก จนถึงชั้นที่ 5-6 และได้ปลูกสร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์อยู่ถึง 2 เดือน 10 วัน จึงเสร็จ
และในปีพุทธศักราช 2513-2514 พระอาจารย์จวน กุลเชตุโฐ ได้ชักชวนชาวบ้าน สร้างทำนบกั้นน้ำขึ้น 2 แห่ง เพื่อใช้เก็บกักน้ำ และจัดระบบน้ำประปาขึ้นภายในวัดภูทอก
นอกจากนี้แล้ว กองทัพอากาศดอนเมืองได้ถวายเครื่องไฟฟ้าแรงสูง สำหรับใช้ ภายในวัด 1 เครื่อง กรมวิเทศสหการได้ถวายพระพุทธรูป หล่อขนาดใหญ่เป็นประธาน 1 องค์ ไว้ที่วิหารชั้น 5 และบรรดาญาติโยมได้ช่วยกันสมทบทุนสร้างโรงฉัน และศาลาที่ชั้น 1 หลัง พร้อมกับการก่อสร้างสะพานลอยฟ้าไปรอบ ๆ ภูทอกในชั้นที่ 5 และชั้นที่ 6 และได้สร้างสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนา แทรกไว้ตาม จุดต่าง ๆ โดยรอบหน้าผา สิ้นค่าก่อสร้าง 45,000 บาท
การก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ |
ซึ่งการก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ ละประมาณ 1 เมตรเศษ ระหว่างคาน จะมีคานรองรับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สะพานแข็งแรงมาก นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง และเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2523 พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐได้รับนิมนต์ไปกรุงเทพฯ และได้ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ สิริรวมอายุได้ 59 ปี 9 เดือน 18 วัน 38 พรรษา
ระหว่างเดินบันไดขึ้นไป ก็จะมีป้ายคำกลอนให้อ่านเตือนสติตลอด เมาเพศ หมดราคา เมาสุรา หมดสำคัญ เมาพนันหมดตัว เมาเพื่อนชั่ว หมดดี |
เมื่อปีพุทธศักราช 2513 ได้ปรับปรุงการสร้างสะพานใน ชั้นที่ 5 โดยทำทางเดินให้เสมอกันและ ขยายให้กว้างขึ้น
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน มีปัญญาแม้เด่นไม่เป็นภัย เขาอยากเห็นเด่นทำดีมีปัญญา |
และเมื่อปี พ.ศ. 2517 ได้ปรับปรุงสะพานในชั้นที่ 6 และทำสะพานในชั้นที่ 4 ให้อยู่ในสภาพที่ ใช้การได้ดี จนมาถึงปี พ.ศ. 2519 ได้จัดทำนบกั้นน้ำในเขตวัดและจัดทำถังน้ำบนภูเขาในชั้นที่ 5 และกุฎิ พระภิกษุ สามเณร กุฎิแม่ชี บนชะง่อนเขาในชั้นที่ 5 เพื่อให้ญาติโยมได้พักอาศัยด้วย
กระทั้งถึงปี พ.ศ. 2523 ได้จัดทำถนนรอบภูเขา 3 ลูก คือ ภูทอกน้อย ภูทอกใหญ่ และภูสิงห์น้อย |
จนกระทั้งถึงปี พ.ศ. 2523 ได้จัดทำถนนรอบภูเขา 3 ลูก คือ ภูทอกน้อย ภูทอกใหญ่ และภูสิงห์น้อยเพื่อ เป็นการกั้นเขตแดนวัด เพื่อให้การเดินทางคมนาคมสะดวกมากขึ้น
นอกจากนั้นแล้วยังมีเจดีย์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ สร้างด้วยคอนกรีต เสริมเหล็กประดับด้วยหินอ่อนขนาดกว้าง 16 เมตร สูง 31 เมตร และมียอดเป็นทองคำแท้ทั้งหมด
ซึ่งสร้างปี พ.ศ.2527 โดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 |
ซึ่งสร้างปี พ.ศ.2527 โดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพกราบไหว้เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ให้เกิดสิริมงคลต่อตัวเองและประเทศชาติศาสนาสืบไป
ปัจจุบันวัดภูทอกเป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนพระปริญัติธรรม แผนกธรรม ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2525 อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬ |
ปัจจุบันวัดภูทอกเป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนพระปริญัติธรรม แผนกธรรม ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2525 อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬ มีนักเดินทางทั้งชาวไทยและชายต่างชาติแวะเวียนมาเยือนกันเรื่อยมา ซึ่งระยะทางของวัดภูทอกนั้น อยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองคาย 186 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวง จังหวัด หมายเลข 212 หนองคาย - บึงกาฬ - ศรีวิไล ระยะทางห่างจากตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 40 กิโลเมตร
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดเจติยาคีรีวิหาร
------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจในสกลนคร คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นจังหวัดสกลนคร ที่ใครก็ต้องมาออนซอนเช็กอินถ่ายรูปกันสักครา ไม่งั้นมาไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองสตูลสุดน่าสนใจ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในตัวเมืองสตูล ที่ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปภาพกระชากใจเว่อร์กัน มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
สถานที่ท่องเที่ยวในเกาะหลีเป๊ะและจุดเช็กอินถ่ายรูปวิวสวยๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะหลีเป๊ะ และจุดเช็กอินถ่ายรูปวิวสวยๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเชียงราย ใครก็ต้องไปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>> |
จัดไปกับ 15 ที่เที่ยวจุดเช็กอินยอดนิยมในเชียงราย ที่ใครก็ต้องปักหมุดไปถ่ายรูปกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวชมกันได้เลย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองตาก แวะไปเช็ออินถ่ายภาพกันสักครั้ง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
รวมเด็ด 17 ที่เที่ยวกำแพงเพชรยอดนิยมที่คนไปเช็กอินกันสักครั้ง>> |
แนะนำสถานทีท่องเที่ยวในเมืองมหาชัย สมุทรสาคร แวะไปออนซอนได้ชิลๆ>>> |
0 ความคิดเห็น