7 ที่เที่ยวเมืองโคราช ไม่รวมเขาใหญ่ แวะไปสักครา ลั๊ลลาถ่ายรูปเช็คอิน กินของอร่อยแท้ มีหม่องได่แน ไปแลเบิ่งเด้อ

สำหรับบทความในเว็ปบล็อกวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นบ้า มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบางส่วนในเมืองโคราช ที่ใครๆก็ไม่พลาดแวะไปลั๊ลลา ถ่ายรูป เช็คอิน หาของกินอร่อยๆกันสักครั้งครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปช่ะช่ะช่าให้สุดสะแนน แสนโสภากันได้เลยจ้า

เมืองโคราช หรือจังหวัดนครราชสีมา เมืองเศรษฐกิจสำคัญของที่ราบสูงภาคตะวันเฉียงเหนือ ที่ใครๆก็ต้องผ่านเมืองนี้แทบทุกครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นประตูสู่ภาพอีสาน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยสด งดงามร้าวรานถึงทรวงในหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างเขาใหญ่ ปากช่อง ที่ใครๆก็แวะไปเที่ยวชื่มชม ภิรมย์ใจกันอย่างไม่ขากสาย เนื่องจากอยู่ไกลจากกรุงเทพฯ แต่ถ้าหากใครที่ขับรถเลยผ่านมาถึงตัวเมืองโคราช ก็อย่าพึงจรลีขับรถหนีไปจากเมืองนี้ก่อนนะคะ ยังไงแวะมาเที่ยวในเมืองโคราชก่อนก็ดี เพราะในเมืองโคราชอันใหญ่โตแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตา และน่าสนใจ งามวิไลอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

และเพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเลยขอเป็นคนบ้า เลิกจากงานประจำเสร็จแล้ว ขอมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเล็กน้อยๆในเมืองโคราช ให้เพื่อนๆที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเมืองนี้ ได้ชะแว๊ปแวะไปเช็คอิน ถ่ายรูป ลั๊ลลาตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และไปเดินหาของกินอร่อยๆแซ่บๆกันสักครั้งนะคะ ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ขอมาแนะนำที่เที่ยวเบื้องต้นดังนี้จ้า

1.อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (Tao Suranaree monument)

1.ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (Tao Suranaree monument) ภาพในอดีตวันวานยังหวานอยู่ของเมืองโคราชที่เจริญรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน

1.อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (Tao Suranaree monument)

1.ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (Tao Suranaree monument) มาสักการะย่าโม่แล้ว ก็ต้องลอดประตูชุมพล มาถึงโคราชแน่นอนจ้า

1.อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (Tao Suranaree monument)
ว่ากันว่า หากใครที่มาถึงเมืองโคราชแล้ว ไม่ได้มาสักการะนมัสการอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และลอดประตูชุมพล ถือว่ามาไม่ถึงเมืองนี้เลยล่ะ เพราะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่คู่เมืองโคราช มาอย่างยาวนาน หรือมาเที่ยวเมือโดยท้าวสุรนารี หรือ คุณหญิงโม (ต้นฉบับว่า ท่านผู้หญิงโม้) นิยมเรียกว่า ย่าโม (พ.ศ. 2314 — พ.ศ. 2395) เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ไทยในฐานะวีรสตรีมีส่วนกอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์เวียงจันทน์ เมื่อปี พ.ศ. 2369 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังคุณหญิงโมได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นท้าวสุรนารี

ท้าวสุรนารี มีนามเดิมว่า "โม" (แปลว่า ใหญ่มาก) หรือท้าวมะโหโรงเป็นชาวเมืองนครราชสีมาโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีระกา พ.ศ. 2314 มีนิวาสถานอยู่ ณ บ้านตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมา เป็นธิดาของนายกิ่มและนางบุญมา มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แป้นาผล ไม่มีสามี จึงอยู่ด้วยกันจนวายชนม์ มีน้องชายหนึ่งคน ชื่อ จุก (ภายหลังได้เป็นเจ้าเมืองพนมซร็อก ต่อมามีการอพยพชาวเมืองพนมซร็อกมาอยู่ริมคูเมืองนครราชสีมาด้านใต้ จึงเอาชื่อเมืองพนมซร็อกมาตั้งชื่อ บ้านพนมศรก ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็นบ้านสก อยู่หลังสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระจนทุกวันนี้)

ประตูเมืองทางทิศตะวันตกของเขตเมืองเก่า เป็นประตูเมืองเพียงแห่งเดียว ในบรรดาประตูเมืองทั้งหมด 4 ประตูของเมืองนครราชสีมา ที่ยังคงสภาพเดิมอยู่พร้อมกำแพงเมืองเก่า สำหรับ ชื่อประตู "ชุมพล" นั้นหมายความถึง ที่ชุมนุมพลส่วนใหญ่ เป็นประตูสำหรับเตรียมไพร่พล และออกศึก เนื่องจากมีภูมิประเทศเปิดกว้าง ไม่มีป้อมปราการตามธรรมชาติเหมือนประตูอื่น ๆ ในอดีตมีความเชื่อว่า เมื่อลอดผ่านประตูชุมพลไปทำศึกแล้ว จะแคล้วคลาดได้กลับบ้านเมือง

2.วัดศาลาลอย (sala loi temple)

2.วัดศาลาลอย (Sala loi temple)

2.วัดศาลาลอย (sala loi temple)

2.วัดศาลาลอย (Sala loi temple)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองโคราช ที่เหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น ต้องมากันก็คือ วัดศาลาลอย วัดเก่าแก่สำคัญอยู่คู่เมืองโคราชมาอย่างยาวนานเช่นกัน วัดศาลาลอย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวโคราชเคารพนับถือเป็นอย่างมากเป็นเวลากว่า 200 ปี เมื่อครั้งท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม เสร็จศึกสงครามจากทุ่งสัมฤทธิ์ ขณะยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา ได้แวะพักบริเวณท่าตะโก และได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาเสี่ยงทายลอยไปตามลำตะคอง พร้อมตั้งจิตอธิฐาน หากแพรูปศาลานี้ ลอยไปติดอยู่ ณ ที่แห่งใด จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ ซึ่งแพได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นวัดร้าง จึงได้สร้างพระอุโบสถ เป็นวัดศาลาลอยในปัจจุบัน

โดยวัดศาลาลอยนั้น ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารีสร้างขึ้นภายหลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2370 ซึ่งได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และอนุสรณ์สถานเจดีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีขึ้นภายในวัด ภายหลังที่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว จุดเด่นของวัดนี้ อยู่ที่อุโบสถหลังใหม่ ที่ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ปี พ.ศ. 2516

นอกจากนี้ยังเป็นที่บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีภายในวัด ท่านได้นมัสการพระประธาน และพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ อุโบสถหลังเก่า พร้อมชมศิลปะประยุกต์ อุโบสถเรือสำเภาประดับด้วยกระเบื้องดินเผาด่านเกวียนด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นที่เคารพสักการะของชาวโคราชสืบมาจนถึงปัจจุบัน
ภายในมีพระประธานปูนปั้นสีขาว ปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปยืนประทับ ณ ประตูเมืองสังกัสนคร พระนามว่า"พระพุทธประพัฒน์สุนทรธรรมพิศาล ศาลาลอยพิมาลวรสันติสุขมุนินทร์" หน้าประตูอุโบสถมีปูนปั้นรูปท้าวสุรนารีนั่งพนมมือกลางสระน้ำ ตัวอุโบสถล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วรูปเสมา สัญลักษณ์ของเมืองเสมาเดิม ด้านข้างมีสถูปขนาดเล็กซึ่งเคยใช้เป็นที่บรรจุอัฐิท้าวสุรนารี
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดศาลาลอย

3.พิพิธภัณฑ์เมืองโคราช (๋Korat Musuem) หรือชื่อเต็ม พิพิธภัณฑ์ทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของเมืองนครราชสีมา

3.พิพิธภัณฑ์เมืองโคราช (๋Korat Musuem)

3.พิพิธภัณฑ์เมืองโคราช (๋Korat Musuem) ภาพเก่าประตูเมืองโคราชในอดีต

3.พิพิธภัณฑ์เมืองโคราช หรือชื่อเต็ม พิพิธภัณฑ์ทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของเมืองนครราชสีมา (๋Korat Musuem)

หากใครที่อยากรู้เรื่องเมืองโคราชให้มากกว่าเดิม แนะนำมาเดินศึกษาและชมพิพิธภัณฑ์เมืองโคราชกันสักครั้งนะคะ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา มีเป้าหมายในการเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีการบูรณาการความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมา อันควรค่าที่คนโคราชจะได้รับรู้และภาคภูมิใจ เปิดให้บริการเพื่อการศึกษา เรียนรู้และท่องเที่ยวทัศนศึกษาตั้งแต่ พ.ศ.2557

โดยมีเนื้อหาเป็นห้องจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ 8 ห้อง ได้แก่ ห้องเบิกโรง ห้องต้นกำเนิดอารยธรรม ห้องสมัยทวารวดี ห้องสมัยลพบุรี ห้องสมัยอยุธยา ห้องสมัยรัตนโกสินทร์ ห้องมหานครอีสาน และห้องของดีเมืองโคราช นอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้ปฎิบัติการทางด้านวัฒนธรรมในบริเวณใกล้เคียง คือ เรือนโคราช ลานวัฒนธรรม และลานธรรมให้ชมกันอีกด้วย
เปิดให้เช้าชมทุกวัน เวลา 09.00-15.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม

4.ปราสาทหินพิมาย (phimai historical park)

4.ปราสาทหินพิมาย (phimai historical park)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณสถานสำคัญ มีชื่อเสียงอีกแห่งในเมืองโคราช ตั้งอยู่ในอำเภอพิมาย ห่างจากตัวเมืองโคราช 60 กิโลเมตร โดยเป็นปราสาทประกอบด้วยปราสาทหินในสมัยอาณาจักรขะแมร์ที่ใหญ่โตและงดงาม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ ตัวอุทยานตั้งอยู่ฟากทิศตะวันออกของแม่น้ำมูล บนพื้นที่ 115 ไร่ วางแผนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 565 เมตร ยาว 1,030 เมตร ลักษณะพิเศษของปราสาทหินพิมาย คือ ปราสาทหินแห่งนี้สร้างหันหน้าไปทางทิศใต้ ต่างจากปราสาทหินอื่น ๆ ที่มักหันไปทางทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเพื่อให้หันรับกับเส้นทางตัดมาจากเมืองยโศธรปุระ เมืองหลวงในสมัยนั้นของอาณาจักรขะแมร์ ซึ่งเข้ามาสู้เมืองพิมายทางทิศใต้

ประวัติของเมืองพิมายเป็นเมืองที่สร้างตามแบบแผนของศิลปะเขมร มีลักษณะเป็นเวียงสี่เหลี่ยม ชื่อ พิมาย น่าจะมาจากคำว่า วิมาย หรือ วิมายปุระ ที่ปรากฏในจารึกภาษาเขมรบนแผ่นหินตรงกรอบประตูระเบียงคดด้านหน้าของปราสาท จากหลักฐานศิลาจารึกและศิลปะสร้างบ่งบอกว่า ปราสาทหินพิมายคงเริ่มสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในฐานะเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ รูปแบบของศิลปะเป็นแบบบาปวนผสมผสานกับศิลปะแบบนครวัด ซึ่งหมายถึงปราสาทนี้ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นสถานที่ทางศาสนาพุทธในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7เมื่ออิทธิพลของวัฒนธรรมขอมเริ่มเสื่อมลงหลังรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และมีการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยในเวลาต่อมา เมืองพิมายคงจะหมดความสำคัญลง และหายไปในที่สุด เนื่องไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับเมืองพิมายเลยในสมัยสุโขทัย

5.อุทยานไทรงามพิมาย (Sai ngam Phimai (Banyan tree))

5.อุทยานไทรงามพิมาย (Sai ngam Phimai (Banyan tree))
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวคู่ปราสาทหินพิมาย กับต้นไทรขนาดยักษ์ ตั้งอยู่พื้นที่บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ โดยมีพื้นที่ประมาณ 250,000 ตารางฟุต ปกคลุมไปด้วยพืชยืนต้นที่มีชื่อพื้นเมืองว่า ต้นไทรงาม โดยจากการศึกษาพบว่าต้นไทรงามดังกล่าวที่เจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขาในพื้นที่ดังกล่าวกว่า 350 ปี และอุทยานไทรงานก็เป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาประพาสเมืองพิมายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2454 และได้พระราชทานนามสถานที่แห่งนี้ว่า สวนไทรงาม จนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวมาชมทุกวัน

6.ตลาดเก่า100ปีเมืองย่า (100 year market korat)

6.ตลาดเก่า100ปีเมืองย่า ฃ(100 year market korat)
ตั้งอยุ่ติดริมถนน มุขมนตรี ภายในตัวเมืองโคราช เดิมเป็นโรงเลื่อยไม้เก่าแก่และถูกปรับปรุงเป็นร้านค้า ร้านอาหารของกิน ให้นักเดินทางที่มาเที่ยวในเมืองโคราช ได้แวะมาเดินเลือกหาของกินอร่อยๆรองท้องกัน ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 16.00-22.00 น.

7.ตลาดนัดเชฟวัน ตลาดกลางคืนขนาดใหญ่ในเมืองโคราช เครดิตภาพ เฟสบุ๊ค saveonemarket

7.ตลาดนัดเชฟวัน (Saveonemarket)

ตลาดนัดตอนกลางคืน แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ในเมืองโคราชในพื้นที่ขายและที่จอดรถกว่า 130 ไร่ หากใครที่รักการเดินช๊อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ รับรองว่ามาเดินที่ตลาดนี้ เดินจนขาลาก กระชากใจเว่อร์กันอย่างแน่นอน เพราะมีโซนร้านค้ามากมายไม่ว่าจะเป็นของเก่าสะสม หรือโซนของใหม่สุดแนว เสื้อผ้า แฟชั่น และโซนอาหาร ให้ได้แวะไปนั่งทานกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจอีกด้วย และยังมีโซนอื่นๆอีกให้แวะไปเดินช๊อปปิ้งกันมากมาย
ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.30 น.
เว็ปไซต์ : https://www.facebook.com/saveonemarket/

นอกจากที่แนะนำมาทั้งหมด 8 แห่งที่กล่าวแล้วนั้น ในเมืองโคราช ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองที่น่าสนใจอีกหลายแห่งให้แวะไปชมกันอาทิเช่น
- ปราสาทหินพนมวัน
- วัดบึง
- วัดอิสาน
- วัดศาลาทอง
- วัดป่าศาลาวัน
- ศาลหลักเมือง
- ศาลเจ้าพ่อช้างเผือก
- Sky deck หอคอย โคราช เทอมินอล 21 ที่เที่ยวแห่งใหม่ในเมืองโคราช
- หมู่บ้านเครื่องปั่นดินเผา ด่านเกวียน
- สวนไทรงามท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
- วัดหลวงพ่อโต (วัดสรพงษ์) อำเภอสีคิ้ว

หากเพื่อนๆคนใหนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเมืองโคราช ก็แวะเช็คอินไปเที่ยวกันให้ครบเลยนะคะ รับรองว่าไปเที่ยวโคราช นอกจากธรรมชาติงดงามแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจให้ศึกษาและเรียนรู้กันอีกด้วย

สำหรับบทความบล็อกแนะนำที่เที่ยววันนี้ ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
---------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มีดังนี้