Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

เที่ยวเมืองไทยไปต้องรู้ดู พระจุฑาธุชราชฐาน อดีตวังเก่าแก่บนเกาะแห่งเดียวของไทย ที่ใครก็ต้องไปชมกันสักครั้ง

เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอนำเสนอสาระความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ พระตำหนักจุฑาธุชราชฐาน อดีตวังเก่าแก่ของเมืองไทยในเกาะสีชัง ที่ใครก็ต้องไปถ่ายรูปวิวสวยปังกัน

ก็ขอสวัสดีคุณผู้อ่านบนโลกออนไลน์ และทักทายเหล่าเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคน กลับมาพบปะทักทายกันอีกครั้งนะคะ กับสาระความรู้ทั่วฟ้าเมืองไทย ที่จะสรรหาแหล่งท่องเที่ยวมาให้ได้อ่านกัน หลังจากที่บทความก่อนหน้าได้พาไปลั๊ลลาศาลหลักเมืองเก่าแก่ที่สุดของเมืองไทยกันไปแล้ว วันนี้คุณนายเว่อร เธอเป็นคนบ้า ก็ขอพาไปชมอดีตวังเก่าแก่แห่งเดียวของเมืองไทยที่ตั้งอยู่บนเกาะ นั้นก็คือ พระจุฑาธุชราชฐาน กับจุดชมวิวสะพานอัษฎางค์ สะพานไม้สีขาวซึ่งได้กลายเป็นจุดชมวิวชื่อดังที่ใครก็ต้องไปถ่ายรูปเช็กอินกันสักครั้ง เลยขอนำสาระความรู้มาให้อ่านฆ่าเวลากันค่ะ


สาระความรู้เกี่ยวกับ พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี (Phra-Chuthathut-Palace,Koh Sichang, Chonburi province)


สาระความรู้เกี่ยวกับ พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี (Phra-Chuthathut-Palace,Koh Sichang, Chonburi province)


สำหรับพระจุฑาธุชราชฐาน อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   ตั้งอยู่ ณ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี  และหลังจากเหตุการณ์วิกฤต ร.ศ.112 ก็สิ้นสุดการเป็นเขตพระราชฐาน และมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ มาขอใช้พื้นที่ ปัจจุบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอใช้พื้นที่บางส่วนเพื่อเป็นสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและศูนย์ฝึกนิสิต และทำหน้าที่ดูแลรักษาพระจุฑาธุชราชฐานไปในคราวเดียวกัน

  เกาะสีชังยังเป็นที่พักฟื้นของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธอีกพระองค์

ประวัติความเป็นมา ในปี พ.ศ. 2431 พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวีและสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ทรงพระประชวร โดยได้รับคำแนะนำจากแพทย์หลวงให้ให้เสด็จมาประทับรักษาพระองค์ที่เกาะสีชัง จนพระอาการทุเลาลง นอกจากนี้ เกาะสีชังยังเป็นที่พักฟื้นของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธอีกพระองค์



ต่อมา ในปี พ.ศ. 2432 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้สร้าง “อาคารอาไศรยสฐาน” ขึ้น 3 หลังพระราชทานนามว่า "เรือนวัฒนา" ตามพระนามสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี "เรือนผ่องศรี" ตามพระนามของพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวี และ "เรือนอภิรมย์" ตามพระนามของพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์


รัชกาลที่ 5 จึงทรงสร้างพระราชฐานขึ้น และพระราชทานนามพระราชฐานนี้ว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน”ตามพระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก

และเมื่อปี พ.ศ. 2435 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จแปรพระราชฐานมายังเกาะสีชัง ซึ่งในขณะนั้นพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวีทรงพระครรภ์ใกล้มีพระประสูติการ ดังนั้น รัชกาลที่ 5 จึงทรงสร้างพระราชฐานขึ้น และพระราชทานนามพระราชฐานนี้ว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน”ตามพระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก  โดยการก่อสร้างพระราชฐานนั้นมี สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงษ์ กรมพระภาณุพันธุวงษ์วรเดช เป็นแม่กอง 


พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพศาสตรศุภกิจ เป็นนายช่างผู้ออกแบบ โดยประกอบด้วย พระที่นั่ง 4 องค์ ได้แก่ พระที่นั่งโกสีย์วสุภัณฑ์ พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ พระที่นั่งโชติรสประภาต์ พระที่นั่งเมขลามณี และ ตำหนัก 14 ตำหนัก ได้แก่ ตำหนักวาสุกรีก่องเก็จ ตำหนักเพ็ชรระยับ ตำหนักทับทิมสด ตำหนักมรกตสุทธิ์ ตำหนักบุษราคัม ตำหนักก่ำโกมิน ตำหนักนิลแสงสุก ตำหนักมุกดาพราย ตำหนักเพทายใส ตำหนักไพฑูรย์กลอก ตำหนักดอกตะแบกลออ ตำหนักโอปอล์จรูญ ตำหนักมูลการะเวก ตำหนักเอกฟองมุก ซึ่งพระราชทานนามให้สอดคล้องกันหมด


กระทั้งเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 การก่อสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่าง ๆ ก็ชะงักลง นอกจากนี้ พระองค์โปรดให้รื้อถอนพระที่นั่งและตำหนักบางส่วนไปสร้างไว้ที่อื่น

จนกระทั้งถึง พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 การก่อสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่าง ๆ ก็ชะงักลง นอกจากนี้ พระองค์โปรดให้รื้อถอนพระที่นั่งและตำหนักบางส่วนไปสร้างไว้ที่อื่น เช่น พระที่นั่งมันธาตุรัตน์โรจน์ ซึ่งเป็นพระที่นั่งเครื่องไม้สักทอง 3 ชั้น โปรดให้เชิญมาสร้างขึ้นใหม่ใกล้พระที่นั่งอัมพรสถาน ในพระราชวังดุสิต เมื่อพ.ศ. 2443 พระราชทานนามใหม่ว่า "พระที่นั่งวิมานเมฆ" 

หลังจากเหตุการณ์วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 พระจุฑาธุชราชฐานจึงมิได้เป็นพระราชวังในการเสด็จแปรพระราชฐานตั้งแต่นั้นมา


และหลังจากเหตุการณ์วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 พระจุฑาธุชราชฐานจึงมิได้เป็นพระราชวังในการเสด็จแปรพระราชฐานตั้งแต่นั้นมา


หลังจากนั้น พระจุฑาธุชราชฐานจึงใช้เป็นสถานที่ของหน่วยงานราชการหลายแห่ง ปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับมอบสิทธิ์การใช้ที่ดินบางส่วนจากกรมธนารักษ์ เพื่อเป็นสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและศูนย์ฝึกนิสิต และทำหน้าที่ดูแลรักษาพระจุฑาธุชราชฐานซึ่งเป็นโบราณสถานในเขตที่ดินดังกล่าวไปในคราวเดียวกัน

พระจุฑาธุชราชฐานก็ยังเป็นพระราชวังหรือเขตพระราชฐานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วยที่มีที่ตั้งอยู่บนเกาะ

และ พระจุฑาธุชราชฐานก็ยังเป็นพระราชวังหรือเขตพระราชฐานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วยที่มีที่ตั้งอยู่บนเกาะอีกด้วย

สะพานอัษฎางค์

เมื่อ พ.ศ. 2545 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เริ่มทำหารปรับปรุงพระราชฐานขึ้นใหม่ เพื่อจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2547 โดยในส่วนที่ได้ปรับปรุงและจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ และโบราณสถาน ได้แก่

พระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางคนิมิตร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2435 

มีพระตำหนักก็ยังเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางคนิมิตร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2435 ปัจจุบันได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และเปิดให้เข้าชม 

พ.ศ. 2545 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เริ่มทำหารปรับปรุงพระราชฐานขึ้นใหม่ เพื่อจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ 

เรือนไม้ริมทะเล สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 ปัจจุบัน ได้รับการบูรณะ และใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจในเกาะสีชัง 

เรือนวัฒนา สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 โดยพระราชทานนามตามพระนามสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ปัจจุบัน ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชัง สมัยรัชกาลที่ 5 

เรือนผ่องศรี สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 โดยพระราชทานนามตามพระนามของพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวี ปัจจุบัน ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และประวัติบุคคลผู้มีบทบาทกับเกาะสีชังในอดีต 

เรือนอภิรมย์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 โดยพระราชทานนามตามพระนามของพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ปัจจุบัน ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการสิ่งปลูกสร้าง ในสมัยรัชกาลที่ 5

และปัจจุบันพระจุฆาธุราชฐาน หรือที่หลายคนเรียกว่า วังแห่งเกาะสีชัง ก็ยังคงเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวชมอยู่เสมอ เนื่องจากมีร่องรอยของการสร้างวังเก่าและมีพระตำหนักเรือนไม้ สถาปัตยกรรมสวยงามสุดคลาสสิคให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอย่างน่าสนใจ พร้อมได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของวังแห่งนี้ไปด้วย 

เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/พระจุฑาธุชราชฐาน

---------------------------------------------------------------------------------------------

บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้


รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจในสกลนคร คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นจังหวัดสกลนคร ที่ใครก็ต้องมาออนซอนเช็กอินถ่ายรูปกันสักครา ไม่งั้นมาไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองสตูลสุดน่าสนใจ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในตัวเมืองสตูล ที่ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปภาพกระชากใจเว่อร์กัน มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

สถานที่ท่องเที่ยวในเกาะหลีเป๊ะและจุดเช็กอินถ่ายรูปวิวสวยๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะหลีเป๊ะ และจุดเช็กอินถ่ายรูปวิวสวยๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

วมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเชียงราย ใครก็ต้องไปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>>

จัดไปกับ 15 ที่เที่ยวจุดเช็กอินยอดนิยมในเชียงราย ที่ใครก็ต้องปักหมุดไปถ่ายรูปกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวชมกันได้เลย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
 
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองตาก แวะไปเช็ออินถ่ายภาพกันสักครั้ง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
รวมเด่น 12 ที่เที่ยวในเมืองตาก ต้องแวะไปเช็กอินถ่ายภาพสวยสักครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลากันได้เลย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

รวมเด็ด 17 ที่เที่ยวกำแพงเพชรยอดนิยมที่คนไปเช็กอินกันสักครั้ง>>
แนะนำ 17 แหล่งท่องเที่ยวเด็ดในกำแพงเพชร ที่ใครก็ต้องระเหินระเห็ดไปเช็กอินถ่ายรูปกันสักครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลากันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

แนะนำสถานทีท่องเที่ยวในเมืองมหาชัย สมุทรสาคร แวะไปออนซอนได้ชิลๆ>>>

รวมเด็ด 11 สถานที่ท่องเที่ยวสมุทรสาคร สามารถแวะไปเช็กอิน ออนซอนถ่ายรูปได้ชิลๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น