Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

เรื่องน่ารู้แวะดู วัดเทพธิดารามวรวิหาร วัดที่เคยเป็นที่พำนักของสุนทรภู่ น่าสนใจอย่างไร

ลัดเลาะรอบกรุงเทพเมืองฟ้าอมรวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาไปไหว้พระที่วัดเทพธิดาราม อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่เคยเป็นที่พำนักของกวีเอกไทย ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้จักมาก่อน


สวัสดีเหล่าคุณผู้อ่านบนโลกออนไลน์ และผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคน ก็กลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับเรื่องน่ารู้เล็กๆน้อยๆ ที่จะสรรหามาให้อ่านฆ่าเวลากันค่ะ หลังจากที่บทความก่อนหน้า ได้พาไปยลตระการเที่ยวชม โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามกันแล้ว อีกหนึ่งวัดที่อยู่ติดๆกันก็คือ วัดเทพธิดาราม ว่ากันว่า หากใครไปไหว้พระที่วัดราชนัดดารามแล้ว ยังไงก็ต้องพ่วงไปไหว้พระต่อที่วัดเทพธิดาราม และตามติดจบที่วัดภูเขาทอง ถือเป็นการเที่ยวแบบ 3 วัดที่อยูไม่ไกลกันเลยทีเดียว และในส่วนวัดเทพธิดาราม ก็เป็นที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัดเทพธิดารามวรวิหาร (Wat Thepthidaram,Bangkok)


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัดเทพธิดารามวรวิหาร (Wat Thepthidaram,Bangkok)

วัดเทพธิดารามวรวิหาร ใกล้วัดราชนัดดา วัดเทพธิดารามวรวิหาร เดิมชื่อ วัดบ้านพระยาไกรสวนหลวง โดยเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดฯ ให้สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ หรือ พระเจ้าลูกเธอ พระองศ์เจ้าวิลาส พระราชธิดาองค์ใหญ่ใน รัชกาลที่ 3 สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2379 เสร็จในปี พ.ศ. 2382


ชื่อวัดเดิมคือ วัดบ้านพระยาไกรสวนหลวงนั้น สันนิษฐานว่า เรียกตามบริเวณที่สร้าง ที่เป็นสวนไร่นา
ส่วนชื่อวัดเดิมคือ วัดบ้านพระยาไกรสวนหลวงนั้น สันนิษฐานว่า เรียกตามบริเวณที่สร้าง ที่เป็นสวนไร่นา และคงเป็นที่ของพระยาไกร เจ้านายหรือขุนนาง  โดยเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ที่ริมถนนมหาไชย กรุงเทพมหานคร
สิ่งสำคัญในวัดแห่งนี้คือ พระปรางค์ทิศทั้งสี่ เป็นฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 บุษบกที่รองรับพระประธาน ภายในโบสถ์
จุดเด่นสิ่งสำคัญในวัดแห่งนี้คือ พระปรางค์ทิศทั้งสี่ เป็นฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 บุษบกที่รองรับพระประธาน ภายในโบสถ์ ที่ประดิษฐ์อย่างสวยงามและที่ผนังพระอุโบสถมีภาพเขียนเป็นรูปพุ่มข้าวบิณฑ์ แบบอย่างในรัชกาลที่ 3
ที่สำคัญเลยก็คือวัดเทพธิดาราม เคยเป็นที่พำนักของสุนทรภู่กวีเอกแห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ ระหว่าง พ.ศ. 2383 - 2385
และที่สำคัญเลยก็คือวัดเทพธิดาราม เคยเป็นที่พำนักของสุนทรภู่กวีเอกแห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ ระหว่าง พ.ศ. 2383 - 2385 เมื่อคราวบวชเป็นพระภิกษุ  โดยในช่วงที่สุนทรภู่ได้พำนักอยู่ที่วัดแห่งนี้ ได้ประพันธ์บทกลอนไว้หลายเรื่อง
แต่เรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับวัดเทพธิดารามมากที่สุดคือเรื่อง “รำพันพิลาป” ซึ่งพรรณาถึงความสวยงามวิจิตรพิสดารทิวทัศ
 แต่เรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับวัดเทพธิดารามมากที่สุดคือเรื่อง “รำพันพิลาป” ซึ่งพรรณาถึงความสวยงามวิจิตรพิสดารทิวทัศน์ ตลอดจนเครื่องประดับประดาพระอารามและปูชนียวัตถุหลายประการ ปัจจุบันยังมีกุฏิหลังหนึ่ง เรียกว่า "บ้านกวี" เปิดเป็น พิพิธภัณฑ์ และหล่อรูปเครื่องตัวของสุนทรภู่ไว้ที่กุฏิเพื่อเป็นอนุสรณ์ ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจแวะเวียนเข้ามาชมได้
ส่วนลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้ก็โดดเด่น และไม่เหมือนวัดอื่น โดยเป็นศิลปะในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน
ส่วนลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้ก็โดดเด่น และไม่เหมือนวัดอื่น โดยเป็นศิลปะในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน เนื่องจากในช่วงน้นมีการติดต่อค้าขายกับจีน อิทธิพลของจีนจึงเข้ามามีบทบาท รูปแบบสถาปัตยกรรมจึงเป็นอาคารแบบไม่มีช่อฟ้า ใบระกา แบบวัดในช่วงสมัยอื่น มีเครื่อง ประดับพระอารามที่เป็นตุ๊กตาจีนสลักหิน มีทั้งรูปคนและสัตว์ ตุ๊กตารูปคนบางตัวมีลักษณะท่าทางและการแต่งกายแบบจีน บางตัวแต่งกายแบบไทย ลักษณะพิเศษที่วัดแห่งนี้คือมีรูปสลักผู้หญิงในลักษณะต่าง ๆ เป็นส่วนมาก
ในหอไตรเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ใต้ถุนสูง มีงานศิลปะลายรดน้ำที่ มีอยู่ทุกบานประตู และหน้าต่าง หอไตรมีไว้สำหรับเก็บรักษาพระคัมภีร์ใบลา
ภายในหอไตรเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ใต้ถุนสูง กว้าง 6.50 เมตร สูง 10 เมตร ปิดทอง ล่องชาด มีช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันปิดทองประดับกระจกสี มีงานศิลปะลายรดน้ำที่มีอยู่ทุกบานประตู และหน้าต่าง หอไตรมีไว้สำหรับเก็บรักษาพระคัมภีร์ใบลาน จารึกพระไตรปิฎกและคัมภีร์อื่น ๆ มีตู้พระไตรปิฎกทรงโบราณ กว้าง 1.75 เมตร ยาว 1.70 เมตร สูง 2 เมตร ขาตู้เป็นลักษณะเท้าสิงห์
ที่พระอุโบสถมีหลวงพ่อขาวประดิษฐานบนบุษบก เป็นพระประธานปางมารวิชัย สลักด้วยศิลาขาวบริสุทธิ์
และที่พระอุโบสถมีหลวงพ่อขาวประดิษฐานบนบุษบก เป็นพระประธานปางมารวิชัย สลักด้วยศิลาขาวบริสุทธิ์ หน้าตักกว้าง 15 นิ้ว สูง 21 นิ้ว รัชกาลที่ 9 ทรงถวายพระนามว่า พระพุทธเทววิลาส เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อีกองค์ที่มีความสวยงาม
ใกล้กับอุโบสถยังมีพระวิหาร ด้านในมีรูปหล่อลงรักปิดทอง หมู่ภิกษุณี จำนวน 52 องค์ นั่ง 49 องค์ ยืน 3 องค์ อยู่ในอิริยาบถต่าง ๆ
ใกล้กับอุโบสถยังมีพระวิหาร ด้านในมีรูปหล่อลงรักปิดทอง หมู่ภิกษุณี จำนวน 52 องค์ นั่ง 49 องค์ ยืน 3 องค์ อยู่ในอิริยาบถต่าง ๆ หลากหลายท่า มีทั้งท่านั่งปฏิบัติธรรม ฟังธรรม ฉันหมาก สูบยา ยืนไหว้ นั่งพนมมือ


ว วัดเทพธิดารามมีเครื่องประดับพระอาราม ได้แก่ ตุ๊กตาศิลาจีนที่มีทั้งที่เป็นรูปสัตว์และคน ตุ๊กตารูปคนตั้งอยู่ในบริเวณรอบพระอูโบสถ
นอกจากนี้แล้ว วัดเทพธิดารามมีเครื่องประดับพระอาราม ได้แก่ ตุ๊กตาศิลาจีนที่มีทั้งที่เป็นรูปสัตว์และคน ตุ๊กตารูปคนตั้งอยู่ในบริเวณรอบพระอูโบสถ มีลักษณะที่น่าสนใจคือบางตัวมีลักษณะท่าทางและการแต่งกายแบบจีน บางตัวแต่งตัวแบบไทย เช่น ตุ๊กตาสตรีชาววังนั่งพับเพียบเท้าแขน และตุ๊กตาสตรีอุ้มลูก เป็นต้น

เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดเทพธิดารามวรวิหาร
http://www.resource.lib.su.ac.th/web-temple//
--------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้

รีวิวปั่นจักรยานไปเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า 1 วัน ยลสุขสันต์หาของกินเริ่ดๆ คลิ๊กดูภาพรีวิวจ้า>>>
รีวิวทริปสั้นๆ ใกล้กรุง 1 วัน ปั่นจักรยานไปเที่ยวที่คุ้งบางกะเจ้า กินมะพร้าวอร่อยเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
ทริปรีวิวเที่ยวเมืองไลพ์ซิก(Leipzig) มีที่เที่ยวชิคๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>
แบ่งปันทริปแบกเป้เดินทางแวะเที่ยวเมืองไลพ์ซิก มีแหล่งท่องเที่ยวชิคๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว พาไปเที่ยวเมืองเดรสเดน มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆอะไรบ้าง>>>
ท่องโลกกว้าง..เดินทางแบกเป้ไปเที่ยวเมืองเดรสเดน เดินเล่นรอบเมือง มีที่เที่ยวอะไรให้ชำเลืองบ้าง ตามไปดูสิ คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>
รีวิวเที่ยวเมืองมหาชัย แวะไปสโลว์ไลฟ์ที่บ้านท่าฉลอม 2 วัน 1 คืน คลิ๊กดูรีวิวจ้า>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวมหาชัย ไปสโลว์ไลฟ์ที่ท่าฉลอม แวะไปดอมดมชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น