Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

วิธีทำข้าวหมากโบราณ ประโยชน์มหาศาล ไม่ต้องมีหวดนึ่ง ก็ทำทานได้ตราตรึงแบบง่ายๆ ลองไปทำดูค่ะ

กักตัวอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปเริงสำราญที่ใหนในช่วงนี้ วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอแนะนำวิธีการทำข้าวหมากทานเองง่าย อยู่หอพัก ไม่มีหวยนึ่ง ก็ใช้หม้อหรือซึ่งนึ่งทำแทนได้ รสชาติข้าวหมากหอมหวาน มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย (Thai fermented sweet rice dessert)
สวัสดีคุณผู้อ่านบนโลกออนไลน์ และเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคน ในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปเริงสำราญที่ใหนไกลๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องการหากิจกรรมอะไรทำ เพื่อจะได้ไม่เครียดกับข่าวสาร โรคระบาด ระเบ้อ ในช่วงนี้ และกิจกรรมที่เดี๊ยนชอบทำอีกอย่าง นอกจากการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว ก็คือการทำอาหารทั้งคาวและหวาน ที่รับประทานเองได้แบบง่ายๆ แม้จะไม่อร่อยก็ตาม แต่ก็ทานไปงั้นๆเพื่อประทังชีวิต

และในเมื่อไม่ได้ออกไปทัศนา เริงร่าที่ใหน บทความบล็อกในวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอเริ่มมาเขียนบล็อกวิธีการทำอาหาร  เริ่มต้นที่เมนูโบราณแบบไทยอย่าง ข้าวหมาก อีกหนึ่งเมนูอาหารว่าง หวานๆแบบไทยที่เดี๊ยนเองชอบทานตั้งแต่เด็กๆ เพราะข้าวหมากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักจุลินทรีย์กลุ่มแบคทีเรียแลคติก (lactic acid bacteria หรือ LAB)  สามารถก่อประโยชน์ต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่ โดยการปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร และมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากมายเชียวล่ะ ไปอ่านบทความวิชาการหลายๆเว็ป หลายบทความก็บอกสรรพคุณโน้นนี้นั้นหลายอย่างเชียว ได้แก่
1.ในข้าวหมาก มีโปรไบโอติก ที่ดีต่อลำไส้ ช่วยรักษาสมดุลต่อเระบบทางเดินอาหาร ช่วยในเรื่องการเผาพลาญ และช่วยให้ร่างกายผลิตกรดอินทรีย์ช่วยในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี
2.ช่วยทำให้กระดูกและเม็ดเลือดแข็งแรง ปรับความสมดุลให้กับแบคทีเรียในร่างกาย
3.สร้างภูมิคุ้มกันช่วยให้ไม่เป็นไข้หวัด และทำให้ร่างกายไม่อ่อนล้าอ่อนเพลียอีกด้วย
4.กระตุ้นให้มีการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ

และข้าวหมากยังสามารถนำไปประยุก์ทำเป็นลูกแป้งเชื้อสำหรับทำขนมถ้วยฟู ทำเป็นแป้งเชื้อทำขนมตาล เนื่องจากข้าวหมากมีเชื้อยีสต์ทำให้ขนมนั้นขึ้นฟูได้ด้วย แบบไม่ต้องง้อผงฟูหรือวัตถุเจื้อปนทางเคมีเลยล่ะค่ะ

เอาเป็นว่าหากใครที่อยากทานข้าวหมากทานช่วงนี้ ลองทำทานดูนะคะ วันนี้คุณนายเว่อร์ อยู่ห้องเช่า หอพัก ไม่ได้ออกไปใหน เลยขอมาแนะนำวิธีการทำข้าวหมากทานเองแบบง่ายๆ ไม่ต้องมีหวดนึ่ง ก็ใช้หม้อหรือซึ่งนึ่งได้ค่ะ

วัตถุดิบและอุปกรณ์สำกรับทำข้าวหมากสำหรับคนอยู่หอพักมีดังนี้ 
1.ข้าวเหนียวเก่า 500 กรัม
2.ลูกแป้ง 1 ลูก
(ตามสูตรจริงๆใช้ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม  แต่พอดีในห้องพักของดิฉันเหลืออยู่แค่ครึ่งโล)
3.ซึ่งนึ่ง หม้อนึ่งชั้นเดียว
4.ผ้าขาวบาง
4.กะละมัง
5.ถุงมือ
6.ตะแกรงตาถี่สำหรับกรองข้าวเหนียวเพื่อล้าง
7.ทัพพี
8.กล่องใส่ข้าวหมาก,ใบตอง หรือวัสดุหีบห่ออื่นๆที่บรรจุข้าวหมากไว้บ่มได้อย่างง่ายๆ

เริ่มแรกนำข้าวเหนียวเก่าที่เหลือยู่แค่ครึ่งกิโล นำไปแช่ไว้ประมาณ 4-5 ชั่วโมงค่ะ
เริ่มแรกนำข้าวเหนียวที่เหลืออยู่แค่ครึ่งกิโล นำไปแช่ไว้ประมาณ 4-5 ชั่วโมงค่ะ หากใครที่ใช้ข้าวเหนียวกลางปี แนะนำแช่ไว้แค่ประมาณ2-3 ชั่วโมงพอนะคะ ไม่งั้นหากข้าวไปนึ่ง ข้าวจะเละตุ้มเป๊ะเอา
จากนั้นก็นำผ้าขาวบางชุ่บน้ำให้หมาดๆ วางไว้บนหม้อนึ่งก่อน
จากนั้นก็นำผ้าขาวบางชุ่บน้ำให้หมาดๆ วางไว้บนหม้อนึ่งก่อน
นำข้าวเหนียวที่แช่ไว้แล้ว นำมาใส่หม้อนึ่งได้เลย
 นำข้าวเหนียวที่แช่ไว้แล้ว นำมาใส่หม้อนึ่งได้เลย
เปิดไฟกลางนึ่งประมาณ 20 นาที หรือใครอยู่หอพัก ไม่ได้ใช้แก๊ส ก็ใช้เตาไฟฟ้านึ่งได้เลยค่ะ
 แล้วก็เปิดไฟกลางนึ่งประมาณ 20 นาที หรือใครอยู่หอพัก ไม่ได้ใช้แก๊ส ก็ใช้เตาไฟฟ้านึ่งได้เลยค่ะ
โดย 10 นาทีแรก นึ่งไปข้าวเริ่มสุก ให้ยกผ้าข้าวบางที่ห่อข้าวขึ้นมา จากนั้นสลับข้าวด้านบนลงล่าง
 โดย 10 นาทีแรก นึ่งไปข้าวเริ่มสุก ให้ยกผ้าข้าวบางที่ห่อข้าวขึ้นมา จากนั้นสลับข้าวด้านบนลงล่าง ข้าวที่อยู่ด้านล่างขึ้นบน เพื่อให้สุกทั่วถึงกัน
แล้วก็นึ่งต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
แล้วก็นึ่งต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
นึ่งข้าวเหนียวจนครบเวลาตามกำหนดการ ข้าวสุกทั่วถึงกัน
นึ่งข้าวเหนียวจนครบเวลาตามกำหนดการ ข้าวสุกทั่วถึงกัน แต่ข้าวที่ทำมา เม็ดหักเยอะเลยค่ะ ปกติถ้าใครที่ทำข้าวหมาก จะเลือกข้าวเหนียวอย่างดีมาทำนะคะ เม็ดข้าวจะเรียวสวยงามไม่หักง่าย แต่พอดีอันนี้ทำกินเองค่ะ
ข้าวเหนียวสุกได้ที่แล้ว ก็นำเทใส่ถาดหรือกระด้ง แล้วผึ่งให้แห้งสนิทเลยนะคะ อย่าพึ่งเอาไปล้างเด็ดขาด ไม่งั้นข้าวจะเละตุ้มเป๊ะเอาค่ะ
 พอข้าวเหนียวสุกได้ที่แล้ว ก็นำเทใส่ถาดหรือกระด้ง แล้วผึ่งให้แห้งสนิทเลยนะคะ อย่าพึ่งเอาไปล้างเด็ดขาด ไม่งั้นข้าวจะเละตุ้มเป๊ะเอาค่ะ  หากใครที่อยากให้ข้าวเหนียวเย็นเร็ว ก็นำพัดลมมาเป่าได้ค่ะ ส่วนใครที่ไม่รีบร้อน ก็ทิ้งข้าวเหนียวให้เย็นสนิทประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแห้งสนิทแล้วนะคะ ก็นำมาล้างน้ำประมาณสัก 2-3 น้ำ เพื่อล้างยางข้าวออกให้หมดค่ะ โดยใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
 และเมื่อข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแห้งสนิทแล้วนะคะ ก็นำมาล้างน้ำประมาณสัก 2-3 น้ำ เพื่อล้างยางข้าวออกให้หมดค่ะ โดยใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ (โดยน้ำที่ล้าง ห้ามล้างด้วยน้ำประปาเด็ดขาดค่ะ แนะนำเป็นน้ำดื่ม น้ำกรองสะอาดอย่างดี)  ขั้นตอนนี้ตอนล้าง ต้องเบามือมากๆนะคะ ไม่งั้นเม็ดข้าวแตก

นำมาแผ่กับผ้าข้าวบางผึ่งให้แห้งอีกครั้ง ใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เม็ดข้าวชื้นจนเกินไปหรือมีน้ำติดมากเกินไป
 และเมื่อล้างข้าวแล้ว ก็นำมาแผ่กับผ้าข้าวบางผึ่งให้แห้งอีกครั้ง ใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เม็ดข้าวชื้นจนเกินไปหรือมีน้ำติดมากเกินไป เพราะไม่งั้นตอนเอาไปคลุกกับลูกแป้งข้าวหมาก ข้าวอาจจะเปรี้ยวได้
เมื่อข้าวเหนียวที่ผึ่งจนไม่มีน้ำแชะแล้ว ก็เตรียมอุปกรณ์ กะละมัง ถุงมือ ทัพพี ลูกแป้งข้าวหมาก ครกตำลูกแป้ง และกล่องสำหรับใส่ข้าวหมาก
 และเมื่อข้าวเหนียวที่ผึ่งจนไม่มีน้ำแชะแล้ว ก็เตรียมอุปกรณ์ กะละมัง ถุงมือ ทัพพี ลูกแป้งข้าวหมาก ครกตำลูกแป้ง และกล่องสำหรับใส่ข้าวหมาก
ข้าวเหนียวใส่กะละมัง จากนั้นนำลูกแป้งบดให้ละเอียด ค่อยๆโรยข้าว แล้วคลุกให้ทั่ว
 นำข้าวเหนียวใส่กะละมัง จากนั้นนำลูกแป้งบดให้ละเอียด ค่อยๆโรยให้ทั่วข้าวเหนียว แล้วคลุกให้ทั่วถึงกัน
จากนั้นก็นำข้าวเหนียวที่คลุกลูกแป้งจนทั่วแล้ว นำมาใส่ในกล่อง
 จากนั้นก็นำข้าวเหนียวที่คลุกลูกแป้งจนทั่วแล้ว นำมาใส่ในกล่อง
ใส่ข้าวเหนียวที่คลุกกับลูกแป้งทั่วแล้ว ก็ใส่กล่องที่เตรียมไว้ให้หมด มีกล่องอะไรก็เอามาใส่ได้หมด
ใส่ข้าวเหนียวที่คลุกกับลูกแป้งทั่วแล้ว ก็ใส่กล่องที่เตรียมไว้ให้หมด มีกล่องอะไรก็เอามาใส่ได้หมด
ทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน 2 คืน หรือถ้าอากาศร้อนๆหน่อยแค่ 2 วัน ก็เป็นข้าวหมากให้ทานแล้วค่ะ
 จากนั้นก็ทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน 2 คืน หรือถ้าอากาศร้อนๆหน่อยแค่ 2 วัน ก็เป็นข้าวหมากให้ทานแล้วค่ะ แต่อย่าเผลอหมักทิ้งไว้เกินนั้นล่ะ ไม่งั้นจะกลายเป็นน้ำสาโท กินไปแล้วอาจจะเมาได้ค่ะ
ข้าวหมากที่ทำกับข้าวเหนียวครึ่งกิโล จะได้น้ำสีขาวๆออกมาเยอะมากๆ เรียกว่าน้ำต้อย มีกลิ่นแอลกอฮอล์นิดๆ ติดจมูกฉุนเล็กน้อย แต่รสชาติหวานกำลังดี
ข้าวหมากที่ทำกับข้าวเหนียวครึ่งกิโล จะได้น้ำสีขาวๆออกมาเยอะมากๆ เรียกว่าน้ำต้อย มีกลิ่นแอลกอฮอล์นิดๆ ติดจมูกฉุนเล็กน้อย แต่รสชาติหวานกำลังดี ไม่หวานมาก แ่ต่หน้าตาข้าวหมากที่ได้ก็ไม่ค่อยสวยนัก เพราะเม็ดหักเยอะค่ะ ถ้าหากทำขายคงต้องฝึกอีกนาน แต่ถ้าหากทำกิน ก็พอดีได้ค่ะ รสชาติอร่อยหวานกำลังดี ทิ้งไว้นานกว่านี้ จะหวานและมีกลิ่นฉุนได้

ข้าวหมากที่ได้ เข้าไปข้าวตู้เย็นเก็บไว้ทานได้อีกนาน หรือจัดห่อใส่ใบตองเสริฟทานหลังอาหารคาว
นำข้าวหมากที่ได้ เข้าไปข้าวตู้เย็นเก็บไว้ทานได้อีกนาน หรือจัดห่อใส่ใบตองเสริฟทานหลังอาหารคาว ก็มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารได้ดีนักแล หรือทานเป็นอาหารว่าง ทานคู่กับข้าวหลามตัด หรือข้าวเหนียวตัด ก็อร่อยเริ่ดสะแมนแตนเช่นกัน

หากใครที่เป็นคนชอบทานข้าวหมาก ก็ลองไปทำทานกันดูนะคะ ทำได้ไม่ยาก แต่ทำให้อร่อยนั้นก็ยากกว่า เพราะว่ากันว่าเป็นเมนูที่ต้องใช้ความพิถีพิถันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด ว่ากันว่าอุปกรณ์ที่ทำข้าวหมากนั้น จะต้องแยกไว้เฉพาะเลย หรือหากจะนำอุปกรณ์ที่ใช่ร่วมกับข้าวหมาก ต้องนำไปล้างและต้มให้สะอาดเฉพาะ เพราะหากไม่สะอาด ข้าวหมากอาจจะเปรี้ยวหรือมีราขึ้นได้ และน้ำที่แช่หรือว่าทำความสะอาดข้าวเหนียว ต้องเป็นน้ำดื่มกรองสะอาดเทานั้น สมัยอดีตใช้น้ำฝน นำมาใส่โอ่งไว้ แต่ปัจจุบันมีน้ำประปา ก็ต้องนำมากรองให้สะอาด แล้วนำมาล้างข้าวเหนียวอีกทีค่ะ เอาเป็นว่า ใครนึกถึงข้าวหมาก ลองทำทานได้ได้ค่ะ รับรองว่าอร่อยแน่นอนจ้า
--------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
รวมคำอวยพรวันสงกรานต์ ข้อความทางออนไลน์ มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียด>>
น่ารู้กับคำอวยพรวันสงกรานต์ภาษาอังกฤษ-แปลไทย ข้อความส่งทางออนไลน์ให้กับผู้รับอย่างสุขใจ มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้เกี่ยวกับชื่อสถานที่ต่างๆ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
แนะนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้เกี่ยวกับชื่อสถานที่ต่างๆ ที่อาจไม่รู้มาก่อน มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
แนะนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวห้องครัว อุปกรณ์ของใช้ต่างๆที่จำเป็น มีอะไรบ้าง>>>
น่ารู้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับห้องครัว อุปกรณ์ของใช้จำเป็นต่างๆ ที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
น่ารู้กับคำคมภาษาอังกฤษ แปลไทย เพื่อสร้างกำลังใจให้ดำเนินชีวิต คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
สาระน่ารู้กับคำคมภาษาอังกฤษ แปลไทย เพื่อสร้างกำลังใจในการดำเนินชีวิตให้สู้ต่อไปอย่างสดใส มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
เมนูอาหารว่างคาวหวานแบบไทยทานคลายร้อนยอดนิยม มีเมนูอะไรบ้าง>>>
รวมเมนูอาหารว่างคาวหวานไทยๆยอดนิยมช่วยคลายร้อน ที่ใครก็ต้องสรรหามาทานกัน มีเมนูอะไรบ้าง จัดมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
น่ารู้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอุปกรณ์สำนักงาน มีคำว่าอะไรบ้าง>>>
 สาระน่ารู้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอุปกรณ์สำนักงานที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
รวมดอกไม้ประจำ 77 จังหวัดในเมืองไทย มีดอกไม้อะไรบ้าง คลิ๊กดูบทวามค่ะ>>
เรื่องน่ารู้กับดอกไม้ประจำ 77 จังหวัดในเมืองไทย มีดอกไม้อะไรบ้าง จัดมาให้อ่านเป็นความรู้กัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
พืชผักสมุนไพรไทยสู้กับโรคหวัด Virus Covid 19 มีอะไรบ้าง คลิ๊กดูบทความค่ะ>
รวมพืชผักสมุนไพรไทยสู้โรคหวัดไวรัส Corona Covid 19 ที่ต้องมีติดครัว ทำอาหารอร่อยได้ประโยชน์ มีอะไรบ้าง จัดมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่สามารถทำที่บ้านได้อย่างสำราญใจ คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
น่ารู้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษกับงานอดิเรกที่สามารถทำที่บ้านได้อย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ มีอะไรบ้าง จัดมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>
น่ารู้กับคำพูดภาษาอังกฤษสั้นๆ เพื่อสร้างกำลังใจให้ผ่านวิกฤต คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
รวมวลีคำพูดภาษาอังกฤษ-ไทย เพื่อสร้างกำลังให้ตนเองและผู้อื่นผ่านช่วงวิกฤต มีคำว่าอะไรบ้าง จัดมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>
เมนูขนมไทยในชื่อภาษาอังกฤษ ที่ชางต่างชาติต้องลิ้มลองทาน คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
น่ารู้กับเมนูขนมไทยในชื่อภาษาอังกฤษ ที่ชาวต่างชาติต้องมาลิ้มลองทานกันสักครั้ง มีขนมอะไรบ้าง จัดมาให้อ่านกันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
คำศัพท์ภาษาอังกฤษอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย มีอะไรบ้าง คลิ๊กดูคำศัพท์ค่ะ>>
รวมคำศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย ที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดคำศัพท์ค่ะ>>>
สำนวนประโยคภาษาอังกฤษสำหรับตอบอีเมลง่ายๆ มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
รวมสาระสำนวนประโยคภาษาอังกฤษสำหรับโต้ตอบทางอีเมลเพื่อการทำงานที่เป็นประโยค มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
สาระน่ารู้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยต่างๆ คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มีคำว่าอะไรบ้าง จัดมาให้อ่านกันค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น