Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวนั่งรถบัสจาก Oslo ไป Bergen เดินทางไปอย่างไร หากตั๋วรถไฟเต็มในช่วง Peak Season

เอาใจเพื่อนๆที่กำลังวาแผนไปเที่ยวประเทศนอร์เวย์ แบ่งปันรีวิวนั่งรถบัสโดยสาร เดินทางจาก Oslo ไป Bergen มาให้อ่านกันจ้า




มาจ้า มาจ้า สวัสดีเพื่อนๆเหล่านักรักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามไฉไลเริดสะแมนแตนกันทุกคนค่ะ มาเที่ยวกันต่อจ้า หลังจากบทความก่อนหน้าได้พาคุณผู้อ่านไปยลตระการ เดินเที่ยวเมืองออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์กันไปแล้ว ซึ่งเดี๊ยนได้แบ่งปันรีวิวที่เที่ยวในเมืองออสโลไว้แล้วตามเว็ปไซต์https://khunnaiver.blogspot.com/2024/06/Backpack-travel-oslo-norway-alone.html


อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวมีชื่อเสียง ยอดนิยมไม่แพ้เมืองออสโล นั้นก็คือ เมืองBergen (เบอร์เกน) เมืองท่าเรือที่สำคัญและยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองออสโลด้วย อีกทั้งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย ทำให้เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ในอดีต โดยใกล้ๆกับท่าเรือ มีย่านชุมชนท่าเรือเก่ามีชื่อว่า Bryggen มีบ้านไม้ทาสีสวยงามเรียงรายเป็นแถวอย่างสวยงาม มีร้านค้า และพิพิธภัณฑ์ อีกทั้งยังมีตลาดปลา อาหารทะเลสดๆจำหน่าย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาที่สวยงาม ทำให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ใครมาเที่ยวนอร์เวย์ ก็ไม่พลาดปักหมุดหยุดงาน ลาพักร้อนมาเที่ยวเมืองBergen กันสักครั้ง


เนื่องจากตั๋วรถไฟถูกจองเต็มหมด เปลี่ยนแผนไปนั่งรถบัสแทน โดยที่นอร์เวย์ จะไม่มีเจ้าหน้าที่ขายตั๋วโดยสารเหมือนในเมืองไทย แต่ต้องซื้อผ่านทางระบบออนไลน์เท่านั้น 

และการเดินทางไปเที่ยวยังเมือง  Bergen ก็มีเส้นทางให้เลือกเดินทางไปหลายเส้นทาง แต่เส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยว ก็คือ การนั่งรถไฟ เนื่องจากเส้นทางจากเมือง Oslo มุ่งหน้าไปยัง Bergen นั้น ตลอดสองข้างทางจะลัดเลาะผ่านขุนเขา ป่าไม้ สายน้ำ และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้เส้นทางรถไฟไป Bergen ถูกขนานนามให้เป็นหนึ่่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย 


ในทริปการเดินทางแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวนอร์เวย์ด้วยตัวเองทริปนี้ เดี๊ยนก็วางแผนไปเที่ยวเมือง Bergen ในช่วงฤดูร้อนด้วย แต่ด้วยตั๋วรถไฟจากเมือง Oslo ไปยังเมือง Bergen ถูกจองเต็มล่วงหน้าอย่างน้อย เนื่องจากเป็นช่วง Peak Season หรือว่าช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวพอดี ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางจากการที่จะได้นั่งรถไฟ ปรับไปเป็นการนั่งรถบัสแทนค่ะ


และในบทความวันนี้ เดี๊ยนคุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาแบ่งปันรีวิวการเดินทางนั่งรถบัสจากเมือง Oslo ไปเมือง Bergen ด้วยตัวเองมาให้เพื่อนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเมืองเบอร์เกนได้อ่านกัน น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ 



เช็คเอาท์สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เดินเท้าออกจากโรงแรมมาที่สถานีขนส่ง หรือ บขส.เมืองออสโล โดยสถานีรถบัสอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟเลยค่ะ 


สามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Vy ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นผู้ให้บริการขนส่งมวลชนใช้ได้เฉพาะในประเทศนอร์เวย์

โดยการซื้อตั๋วรถสามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Vy ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นผู้ให้บริการขนส่งมวลชนใช้ได้เฉพาะในประเทศนอร์เวย์  หรือสามารถซื้อผ่านเว็ปไซต์โดยตรงผู้ให้บริการรถบัสแต่ละบริษัทค่ะ 

ถ้าจองแบบไปกระทันหัน ราคาก็จะแพงมากๆ จากภาพข้างต้น 930 นอร์เวย์โครน เทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3000 บาทเลยทีเดียว แต่ถ้าจองเนิ่นๆล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ ราคาจะถูกลงค่ะ


สำหรับรถบัสโดยสาร มีให้บริการทุกวันค่ะ เริ่มเที่ยวแรกเวลา 8.30 น. และเที่ยวสุดท้าย 23.00 น. 

ส่วนราคารถบัส ถ้าจองแบบไปกระทันหัน ราคาก็จะแพงมากๆ จากภาพข้างต้น 930 นอร์เวย์โครน เทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3000 บาทเลยทีเดียว แต่ถ้าจองเนิ่นๆล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ ราคาจะถูกลงค่ะ




มาถึงด้้านในสถานีขนส่งรถบัสโดยสาร หรือ บขส.เมืองออสโล ก็ต้องมาดูป้ายเที่ยวรถหมายเลขชานชลาที่จะเดินทางไป ว่าตรงกับเวลาเที่ยวรถที่เราจะเดินทางไปหรือไม่ค่ะ ให้สังเกตุที่เวลาและบริษัทรถที่เราจะขึ้นไปค่ะจะได้รู้ว่าอยู่หมายเลขชานชลาอะไร 

สำหรับของเดี๊ยนเดินทางนั่งรถบัสไป Bergen ต้องไปรอขึ้นที่หมายเลข A14 ค่ะ โดยป้ายจะขึ้นบริษัทรถบัส และเวลาให้ว่าไปกี่โมง และสังเกตุป้ายเมืองสุดท้ายที่จะไปลงมี Bergen 


เห็นมีคนมายืนเรียงคิวเข้าแถวกันแล้วค่ะ 

ยังเหลือเวลาอีก 15 นาที ขอเติมพลังก่อนค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ไม่งั้นเดี่ยวอาจจะเป็นโรคกระเพาะได้ 


พอถึงเวลาขึ้นรถ กระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ ต้องเอากระเป๋าไปไว้ใต้ท้องรถเองค่ะ จะไม่มีเจ้าหน้าที่มาช่วยจัดนะคะ ต้องจำกระเป๋าตัวเองให้ได้ว่าเอาไว้ตรงใหน เพราะตอนไปถึงเมือง fagernes skysstasjon ก็ต้องเปลียนรถบัส 
ขึ้นมาด้านในรถบัส มีผู้ใช้บริการรถบัส นั่งกันเกือบเต็มคันเลยค่ะ ขนาดเป็นวันธรรมดานะคะ ถ้าช่วงวันหยุดแน่นกว่านี้มากๆ
บรรยากาศด้านนอกสถานี บขส.เมืองออสโล ฝนโปรยปรายลงมา ทำให้อากาศยิ่งเย็นเข้าไปอีก 


บนที่นั่งรถบัส มีปลั๊กไฟให้ด้วย สามารถใช้ Universal Plug  เสียบใช้ได้ค่ะ ใครที่เกรงว่าแบตจะหมด ก็ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะค่ะ 



ส่วนด้านในห้องน้ำ ก็ค่อนข้างเล็กและกระทัดรัดมากๆ ขยับตัวได้นิดหน่อย 


มีอ่างล่างมือ กระดาษทิชชู และโถชักโครก มีปุ่มกดน้ำอยู่ใกล้ๆกัน 


โดยห้องน้ำบนรถบัส หากเข้ามาใช้ตอนแรกๆก็สะอาดและยังไม่มีกลิ่นมาก แต่พอมีคนใช้บริการเยอะ กลิ่นไม่พึ่งประสงค์นั้นแรงมากๆเลยล่ะค่ะ



หลังจากขึ้นรถบัสออกมาจาก บขส.เมืองออสโล ก็นั่งชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางไปค่ะ แต่วันนี้ฝนตกโปรยปรายและครึ้มตลอดทั้งวันเลยค่ะ

นั่งรถมาได้ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็มาถึงเมือง Fagernes


ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 3 ชั่วโมง จากเมืองออสโล ก็มาถึงเมือง Fagernes

สถานีขนส่งรถบัสโดยสารเมือง Fagernes skysstasjon

พอถึงสถานีขนส่งเมือง fagernes แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ประกาศให้ไป


เมื่อลงจากรถบัสแล้ว ก็ลงไปเอากระเป๋า แล้วเปลี่ยนมาขึ้นรถบัสโดยสารหมายเลข Nw162 ที่เขียนว่าปลายทาง Bergen ค่ะ โดยรถบัสแต่ละคันจะมีป้ายบอกชื่อเมือง


ตอนมาถึงใช้เวลาเปลียนรถบัสประมาณ 10 นาที จะมีเจ้าหน้าที่คนขับรถมาเช็คตั๋วโดยสาร 
เอากระเป๋าไปไว้ใต้ท้องรถเหมือนเดิมค่ะ 

พอขึ้นมาก็มีผู้โดยสารที่มาจากเมืองอื่นๆ มาขึ้นรถบัสที่จะไป Bergen เหมือนกัน 


แต่รถบัสที่นี่ ออกตรงเวลาเป๊ะตามที่ระบุในแอปพลิเคชั่นเลยค่ะ

เดินทางออกจากเมือง fagernes มุ่งหน้าไปเมือง Bergen 

บรรยากาศทัศนียภาพในเมือง Fagernes เป็นเมืองที่อยู่ติดริมทะเลสาบ มีแม่น้ำลำธารไหลผ่านตลอด

ซึ่งการเดินทางจากเมือง fagernes ไปยัง bergen ใช้เวลาอีก 7 ชั่วโมงค่ะ  


เนื่องจากเส้นทางไปจะต้องลัดเลาะผ่านขุนเขาที่คดเคี้ยวมาก แต่ก็ไม่ได้ลาดชันเหมือนบนดอยทางเหนือเรานะคะ 

เส้นทางถนนหนทางในเมืองจะลัดเลาะไปตามแนวภูเขา ผ่านเทือกสวนไร่นา และป่าไม้
ซึ่งทัศนียภาพสองข้างทาง มีความสวยงามมากๆ มีทั้งแอ่งน้ำและเทือกเขา รายล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ 
ซึ่งการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถบัส ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางชมวิวที่สวยงาม ไม่แพ้การนั่งด้วยรถไฟเลยล่ะค่ะ 
เพราะการเดินทางด้วยรถบัส จะผ่านหมู่บ้านและเมืองต่างๆที่ไม่เคยพบทัศนาจรมาก่อนด้วย แต่ละจุดก็มีบ้านเรือนหลังเล็กๆ สร้างอยู่ริมน้ำ 

อีกอย่างจะผ่านอุทยานแห่งชาติที่ส่ำคัญหลายแห่งก็นอร์เวย์ด้วยค่ะ 

นั่งชมวิวทิวทัศน์ริมทางไปค่ะ ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสมีเฆมเป็นสีฟ้า น่าจะสวยงามมากๆทีเดียว


ในช่วงระหว่างนั่งรถบัส ก็นั่งชมวิวทิวทัศน์ริมทางไปค่ะ ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสมีเฆมเป็นสีฟ้า น่าจะสวยงามมากๆทีเดียว

รถบัสแวะหยุดจอดตามเมืองต่างๆด้วย ทำให้สังเกตุว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของนอร์เวย์ ที่เราไม่รู้  ก็สามารถปักหมุด วางแผนมาเที่ยววันหลังได้ค่ะ 
อีกอย่างก็จะได้เห็นจุดที่นักท่องเที่ยวแบกเป้สายลุย รถบัสแวะหยุดจอดตามเมืองต่างๆด้วย ทำให้สังเกตุว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของนอร์เวย์ ที่เราไม่รู้  ก็สามารถปักหมุด วางแผนมาเที่ยววันหลังได้ค่ะ 


เมื่อเช้าก่อนเช็คเอาท์ ก็ทำอาหารที่ห้องพักของโรงแรม เก็บใส่กระปุกเอาไว้ สามารถนำมาทานบนรถได้ค่ะ ประหยัดไปอีก 1 มื้อ 

นั่งรถบัสโดยสารมาจนถึงเวลา บ่ายโมงครึ่ง ก็อย่าลืมทานอาหารนะคะ สำหรับเพื่อนคนใหนสายเที่ยวแบกเป้ พกอาหารมาไว้รับประทานด้วยก็ดีค่ะ  

เมื่อเช้าก่อนเช็คเอาท์ก็ทำอาหารที่ห้องพักของโรงแรม เก็บใส่กระปุกเอาไว้มาทานบนรถได้ค่ะ 


ผ่านเขตอุทยานแห่งชาติที่สำคัญของนอร์เวย์ มีหิมะปกคลุมตลอดปี 
บรรยากาศทิวทัศน์บางช่วงก็จะเห็นหิมะปกคลุมอยู่ด้วย 
ซึ่งภูมิประเทศจะเต็มไปด้วยเทือกเขา มีแม่น้ำไหลผ่านตามแนวถนนที่รถขับผ่าน และตลอดเส้นทางที่นั่งรถผ่านมา จะเห็นบ้านเรือนผู้คนค่อนข้างเบาบางมากๆ 
ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมีชื่อเสี่ยงอีกแห่งของนอร์เวย์ ที่การนั่งรถไฟไม่ได้เห็น นั้นก็คือ ได้เห็นโบสถ์ไม้เก่าแก่ มีชื่อว่า Borgund Stave Church

และบางช่วงก็ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมีชื่อเสี่ยงอีกแห่งของนอร์เวย์ ที่การนั่งรถไฟไม่ได้เห็น นั้นก็คือ ได้เห็นโบสถ์ไม้เก่าแก่ มีชื่อว่า Borgund Stave Church 

โบสถ์ Borgund Stave  ตั้งอยู่ในเมือง Lærdal สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1180 และอุทิศให้กับอัครสาวกแอนดรูว์ โบสถ์แห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและเป็นโบสถ์ไม้ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ คุณลักษณะที่ดีที่สุดบางประการ ได้แก่ พอร์ทัลที่แกะสลักอย่างหรูหราและการแกะสลักหัวมังกรที่หลังคา


โชคดีที่นั่งรถผ่านพอดี เห็นโบสถ์แปลกตา และมีกรุ๊ปกลุ่มนักท่องเที่ยวหลายคน น่าจะเป็นที่เที่ยวสำคัญ เลยค้นหาใน Google ปรากฎว่าเป็นจุดท่องเที่ยวมีชื่อเสียงจริงๆ 

ซึ่่งในนอร์เวย์ก็มีโบสถ์ไม้หลายแห่ง เรียกว่า Stave Church

นานๆจะเห็นบ้านเรือนและผู้คนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเขตอุทยานแห่งชาติ 

ส่วนใหญ่บ้านเรือนที่เห็นมักสร้างตัั้งอยู่ริมแม่น้ำ 
ทัศนียภาพวิวสวยๆระหว่างการเดินทางไป Bergen เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่งดงาม 
มีเรือบริการท่องเที่ยวด้วย 
ผ่านจุดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 

ซึ่งบางเมืองนั่งรถผ่าน ก็เป็นเมืองท่องเที่ยว  มีท่าเรือเล็กๆ มีร้านอาหารและร้านค้า มองลงไปดูเล็กน่ารักมากๆค่ะ 
และบางช่วงที่นั่งรถมา ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก อากาศข้างนอกน่าจะจะเย็นมากๆเช่นกัน 


ในที่สุดก็เดินทางมาถึงสถานีขนส่งรถบัสโดยสารเมือง Bergen แล้วค่ะ 


พอมาถึงก็แบกกระเป๋าเป้มาตั้งหลัก หาป้ายรถเมล์ที่จะเดินทางไปโรงแรมที่พักก่อนค่ะ 

เนื่องจากโรงแรมที่จองไว้อยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างไกลพอสมควร ซึ่งทางที่พักแนะนำให้นั่งรถบัสไปค่ะ 

ใจจริงอยากพักในตัวเมืองใกล้ๆสถานีรถบัสและรถไฟนะคะ แต่ว่าโรงแรมแต่ละแห่งราคาแพงมากๆ และห้องราคาประหยัด ก็ถูกจองเต็มหมดแล้ว

ซึ่งโรงแรมในเมืองbergen ที่เดี๊ยนเลือกพัก ก็เป็นที่พักแนวโฮสเทล มีชื่อ่ว่า HI Bergen Hostel Montana เป็นที่พักราคาถูก ประหยัดสำหรับนักแบกเป้ จากสถานีรถบัสขึ้นรถหมายเลข 12 ใช้เวลา 20 นาที ราคาค่าโดยสาร 40 NOK สามารถใช้บัตร Debit travel Card ที่ทำมาจากเมืองไทยจ่ายได้เลยค่ะ 



เดี๊ยนก็ขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตามที่โรงแรมแจ้งมาค่ะ ระหว่างนั้นก็เปิด GPS ค้างไว้ด้วย เกรงว่าจะนั่งเลยป้ายรถเมลล์ที่ลงหน้าโรงแรมไปซะก่อน เพราะเป็นการเดินทางครั้งแรก ดูตื่นเต้นเล็กน้อย 

ลงจากรถบัสหมายเลข 12 เพื่อเดินเท้าไปทีโรงแรมต่อค่ะ 


ซึ่งโรงแรม HI Bergen Hostel Montana ตั้งอยู่บนเนินเขา

หน้าโรงแรม HI Bergen Hostel Montana มีที่จอดจักรยานและจุดสำหรับนั่งสูบบุหรี่ด้านนอกให้ด้วย



ส่วนห้องพักก็กว้างขวางมาก ไม่แออัด ห้องพักนอนรวม ในห้องมีเตียงนอนน่าจะ 20 กว่าเตียงค่ะ ราคาตกคนละ 1200 บาทต่อคืน ห้องน้ำรวม 


ด้านนอกของโรงแรม HI Bergen Hostel Montana ก็มีจุดให้นั่งพักชมวิวเห็นทิวทัศน์เมือง Bergen ได้อย่างสวยงามทีเดียวค่ะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งโรงแรมราคาถูกในเมือง Bergen ที่นักแบกเป้มานอนพัก


และเดินออกมาด้านนอกของโรงแรม ก็มีจุดให้นั่งพักชมวิวเห็นทิวทัศน์เมือง Bergen ได้อย่างสวยงามทีเดียวค่ะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งโรงแรมราคาถูกในเมือง Bergen ที่นักแบกเป้มานอนพักค้างกันค่ะ 



สำหรับบทความรีวิวนั่งรถบัสจาก Oslo ไป Bergen ที่ได้นำเสนอไว้ในบล็อกนี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่่งข้อมูลต่อเพื่อนๆที่วางแผนไปเที่ยว Bergen และไปเที่ยวประเทศนอร์เวย์กันอยู่ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านกัน จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน 




แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น