|
แบ่งปันสาระดีๆ น่ารู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ วัดไชโย หรือวัดเกษไชโย จังหวัดอ่าง มีประวัติความเป็นมาอย่างไร มาให้อ่าน |
สวัสดีเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามไฉไลทุกคนๆค่ะ หากใครที่มีโอกาสได้แวะผ่านไปจังหวัดอ่างทอง คงไม่พลาดที่ต้องไปกราบสักการะ หลวงพ่อโต หนึ่งในวัดสำคัญคู่บ้าน คู่เมืองของจังหวัดอ่างทอง ที่ใครขับรถผ่านถนนสายเอเชีย เมื่อผ่านจังหวัดอ่างทอง ก็ต้องไม่พลาดเข้ามากราบสักการะ เพื่อขอพรให้เป็นสิริมงคลกันสักครั้ง ซึ่งวัดโชโย ถือเป็นวัดเก่าแก่มีประวัติเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อ วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาแบ่งปันสาระน่ารู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับวัดไชโย วัดสำคัญของจังหวัดอ่างทอง มาให้ได้อ่านฆ่าเวลากันค่ะ
|
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ วัดไชโย (วัดเกษไชโย) อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง (Wat Chaiyo Worawihan, Ang Tong pronvince) |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วัดไชโย (วัดเกษไชโย) อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง (Wat Chaiyo Worawihan, Ang Tong pronvince)
|
เดิมทีนั้นเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่ มีนามว่า วัดไชโย ซึ่งเมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตารามได้เลือกวัดนี้เป็นที่สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ |
สำหรับวัดไชโย ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่และสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอ่างทอง โดยเป็นวัดที่จัดอยู่ในพระอารามหลวงชั้นโท แต่เดิมทีนั้นเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่ มีนามว่า วัดไชโย ซึ่งเมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตารามได้เลือกวัดนี้เป็นที่สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ได้สร้างพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่เป็นปูนขาวไม่ปิดทองไว้กลางแจ้ง ณ วัดแห่งนี้ โดยกล่าวกันว่า ใช้เวลาการก่อสร้างพระพุทธรูปนี้ใช้เวลานานเกือบ 3 ปี
|
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต ต่างเป็นที่ประจักษ์และกล่าวขานกันดีของชาวอ่างทองว่ากันว่า ผู้ที่ก่อกรรมทำชั่วไว้มากจะไม่สามารถเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อโตได้ |
ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต ต่างเป็นที่ประจักษ์และกล่าวขานกันดีของชาวอ่างทองว่ากันว่า ผู้ที่ก่อกรรมทำชั่วไว้มากจะไม่สามารถเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อโตได้ เนื่องจากเมื่อเข้าใกล้องค์พระแล้ว จะมองเห็นหลวงพ่อโต กำลังจะล้มลงมาทับนั่นเอง ทำให้คนที่ทำไม่ดี จะรู้สึกเกรงกลัวและละอายต่อบาป ทำให้การสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ นัั้นถือเป็นกุศโลบาย ที่ให้พุทธศาสนิกชนได้มีที่พึ่งทางใจ ทำแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ปฎิบัติดีและชอบอยู่ในความดีงาม
|
กระทั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงเสร็จ แล้วสมเด็จพุฒาจารย์ได้ถวายวัดไชโยเป็นวัดหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเกษไชโย” |
จนกระทั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงเสร็จ แล้วสมเด็จพุฒาจารย์ได้ถวายวัดไชโยเป็นวัดหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเกษไชโย”แต่ชาวบ้านก็ยังเรียกสั้นๆว่า วัดไชโย มาจนถึงปัจจุบัน
|
ในปี พ.ศ.2430 ได้มีการปฏิสังขรณ์วัดเกษไชโยทั้งพระอาราม ทำให้พระพุทธรูปได้รับแรงกระเทือนจากการก่อสร้างพระวิหารก็พังทลายลง |
และต่อมาในปี พ.ศ.2430 ได้มีการปฏิสังขรณ์วัดเกษไชโยทั้งพระอาราม ทำให้พระพุทธรูปได้รับแรงกระเทือนจากการก่อสร้างพระวิหารก็พังทลายลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ทดแทนโดยโปรดเกล้าฯ ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการเป็นแม่กองช่าง |
ตั้งแต่ระยะแรกของการปฏิสังขรณ์ พร้อมกับพระราชทานนามพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่นี้ว่า “พระมหาพุทธพิมพ์ |
โดยรื้อองค์พระเดิมออกหมด วางรากฐานก่อสร้างใหม่ใช้โครงเหล็กรัดอิฐปูนไว้ภายในลดขนาดจากองค์เดิมลงพระพุทธรูปองค์นี้ ตั้งแต่ระยะแรกของการปฏิสังขรณ์ พร้อมกับพระราชทานนามพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่นี้ว่า “พระมหาพุทธพิมพ์” ขนาดหน้าตักกว้าง 8 วา 6 นิ้ว สูง 11 วา ศอก 7 นิ้ว และโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะวัดไชโยให้เป็นพระอารามหลวง
|
ยังโปรดเกล้าฯ ให้มีมหกรรมเฉลิมฉลองพระอารามวัดไชโยเป็นงานใหญ่ 3 วัน 3 คืน เมื่อวันที่ 5–7 ตุลาคม พ.ศ. 2438 พระราชทานของช่วยงาน |
นอกจากนี้ยังโปรดเกล้าฯ ให้มีมหกรรมเฉลิมฉลองพระอารามวัดไชโยเป็นงานใหญ่ 3 วัน 3 คืน เมื่อวันที่ 5–7 ตุลาคม พ.ศ. 2438 พระราชทานของช่วยงาน ได้แก่ ละคร 1 โรง หนัง 1 โรง ดอกไม้เพลิง 1 ต้น กัลปพฤกษ์ 2 ต้น
|
ในปี พ.ศ. 2531 ได้เริ่มปิดทององค์พระมหาพุทธพิมพ์ โดยดำเนินการภายใต้การควบคุมดูแลของกรมศิลปากร ทำให้เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีความสวยงามเป็นทั้งองค์ |
จนกนะทั้งในปี พ.ศ. 2531 ได้เริ่มปิดทององค์พระมหาพุทธพิมพ์ โดยดำเนินการภายใต้การควบคุมดูแลของกรมศิลปากร ทำให้เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีความสวยงามเป็นทั้งองค์ และยังถูกจัดให้เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของไทยด้วย
|
วิหารองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต |
พระวิหาร มีความสูงใหญ่มากแห่งหนึ่ง รูปทรงสวยงามและวิจิตรตระการแ ด้านนอกมีรูปทวารบาลลายรดน้ำ เป็นรูปเสี้ยวกวาง เสาหารด้านหน้า-หลังพระวิหารมีขนาดใหญ่โตมาก
|
ยังมีการก่อ พระวิหาร สร้างพระอุโบสถเป็นมุขลดยื่นออกมาทางด้านหน้า มีศาลาราย กำแพงแก้ว |
นอกจากนี้ยังมีการก่อ พระวิหาร สร้างพระอุโบสถเป็นมุขลดยื่นออกมาทางด้านหน้า มีศาลาราย กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ หอระฆัง ศาลารายกลางวัด ศาลาท่าน้ำ รวมเวลาการปฏิสังขรณ์นานถึง 8 ปีด้วยกัน
|
กิจกรรมปล่อยปลาลงแม่น้ำเจ้าพระยา |
|
พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีพุทธลักษณะที่โดดเด่นกว่ายุคสมัยที่ไม่ยึดแนวอุดมคติตายตัว พระพักตร์และพระกรรณจึงเหมือนคนธรรมดามากกว่า มีริ้วรอยย่นของ สบง จีวร ชัดเจน |
หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาวัดไชโย สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ ได้แก่ พระมหาพุทธพิมพ์ หรือที่เรียกว่า หลวงพ่อโต เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีพุทธลักษณะที่โดดเด่นกว่ายุคสมัยที่ไม่ยึดแนวอุดมคติตายตัว พระพักตร์และพระกรรณจึงเหมือนคนธรรมดามากกว่า มีริ้วรอยย่นของ สบง จีวร ชัดเจน มีความงดงามยิ่งนัก ซึ่งนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชน ที่มากราบไหว้ขอพระองค์หลวงพ่อโตแล้ว ติดกับวิหารหลวงพ่อโต ก็จะเป็นอุโบสถประดิษฐานพระพุทธพิมพ์
|
และอีกหนึ่งความโดดเด่นของวัดเกษไชโยคือ ภายในพระอุโบสถ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นปางสมาธิ ผนังทุกด้านมีภาพจิตรกรรมฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเรื่องพุทธประวัติ ภาพเหล่าทวยเทพที่วิจิตรงดงาม |
โดยภายในพระอุโบสถ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นปางสมาธิ ผนังทุกด้านมีภาพจิตรกรรมฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเรื่องพุทธประวัติ ภาพเหล่าทวยเทพที่วิจิตรงดงาม ยังอยู่ในสภาพที่ดี บานประตูแกะสลักอย่างประณีต
|
มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ได้แก่ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ |
นอกจากจะเป็นวัดสำคัญของอำเภอไชโยแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ได้แก่ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณนานัปการ ที่พุทธศาสนิกชนที่เคาพรนับถือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ก็มักจะมานิยมกราบกราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยกันทั้งสิ้น
|
การเดินทางไปวัดไชโยวรวิหาร จากอ่างทองใช้ทางหลวงหมายเลข 309 (อ่างทอง-สิงห์บุรี) ประมาณ 17 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณสถานีตำรวจภูธรตำบลไชโยอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงจุดมุ่งหมาย |
การเดินทางไปวัดไชโยวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลไชโย อำเภอไชโย จากอ่างทองใช้ทางหลวงหมายเลข 309 (อ่างทอง-สิงห์บุรี) ประมาณ 17 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณสถานีตำรวจภูธรตำบลไชโยอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงจุดมุ่งหมายที่วัดไชโย โดยบริเวณวัดมีที่จอดรถกว้างขวาง มีห้องน้ำสุขา มีตลาดขายของกิน และของฝากของที่ระลึกให้เลือกซื้อเลือกหากันด้ดวย
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : http://www.angthong.go.th/atg-tour/5wat-chaiyo.html
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดไชโยวรวิหาร
0 ความคิดเห็น