| ตะลอนเมืองไทยไปต้องรู้ในวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอนำสาระรู้เกี่ยวดประวัติ วัดบ้านถ้ำ แห่งเมืองลำน้ำแควใหญ่ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร นำมาให้อ่านกันค่ะ |
ก็ขอสวัสดี ทักทายซำบายดีคุณผู้อ่าน รวมทั้งเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนทุกๆคนค่ะ ก็กลับมาพบปะกันอีกแล้วนะคะ กับบทความบล็อกสาระน่ารู้เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวทั่วแคว้นแดนไทย ที่จะสรรหา เลือกมาให้ลั๊ลลาได้อ่านฆ่าเวลากัน หลังจากที่บทความก่อนหน้าได้พาไปเที่ยวอย่างสุขสม ภิรมย์ใจและรู้จักวัดถ้ำเสือ แห่งเมืองลำน้ำแควใหญ่กันไปแล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งวัดที่อยู่ไม่ไกลจากวัดถ้ำเสือ นั้นก็คือ วัดบ้านถ้ำ จัดเป็นอีกหนึ่งวัดเด่น วัดดัง และเป็นวัดเก่าแก่ มีประวัติเป็นมาที่ยาวนาน และเพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอนำสาระน่ารู้เล็กๆน้อยเกี่ยวกับประวัติ วัดบ้านถ้ำ มาให้ได้อ่านกันค่ะ
| เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วัดบ้านถ้ำ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร (About Wat Ban Tham, Tha Muang District, Kanchanaburi province) |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ วัดบ้านถ้ำ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร (About Wat Ban Tham, Tha Muang District, Kanchanaburi province)
วัดบ้านถ้ำ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 ตำบลเขาน้อย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากวัดถ้ำเสือไปทางตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร โดยวัดบ้านถ้ำถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยตอนปลาย โดยวัดได้จดทะเบียนกรมพระพุทธศานาเมื่อปี พ.ศ.2325 ภายในวัดมีเนื้อที่ทั้งหมด 35 ไร่ 1 งาน 36 ตารางวา บริเวณวัดด้านทิศเหนือจรดแม่น้ำแม่กลอง ด้านทิศใต้จรดแนวภูเขา ด้านทิศตะวันออกจรดหมู่บ้าน และด้านทิศตะวันตกจรดไร่เกษตร
| โดยภายในวัดบ้านถ้ำ มีพระพุทธรูป หลวงพ่อใหญ่ชินราช และโบราณวัตถุที่สำคัญหลายอย่าง |
โดยภายในวัดบ้านถ้ำ มีพระพุทธรูป หลวงพ่อใหญ่ชินราชและโบราณวัตถุที่สำคัญหลายอย่าง ทางกรมศิลปากรได้เข้ามาสำรวจเมื่อปี พ.ศ.2492 โดยพระยาอนุมานราชธน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมศิลปากร ท่านได้ใหคำสันนิฐานไว้ว่า ที่เป็นพระประธานในถ้ำ และในพัทธสีมาอุโบสถเก่าของวัดบ้านถ้ำนั้น ถือว่าเป็นของสมัยสุโขทัยและสมัยกรุงศรีอยุธยาติดต่อกัน เพราะพระพุทธรูปที่เป็นพระประธานในถ้ำนั้น เป็นพระพุทธรูปที่อยู่วัดในสมัยสุโขทัย ส่วนพระพุทธรูปหินทราย เป็นโบราณวัตถุสำคัญสมัยกรุงศรีอยุธยา อนึ่งเกี่ยวกับถ้ำของวัดบ้านถ้ำ มีเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์เสด็จมาที่วัดบ้านถ้ำหลายพระองค์
| ในช่วงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชกาลที่ 1 ได้มีสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เสด็จมาวัดบ้านถ้ำเมื่อครั้งไปรบกับพม่า ที่สมรภูมิทุ่งลาดหญ้า |
ในช่วงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชกาลที่ 1 ได้มีสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เสด็จมาวัดบ้านถ้ำเมื่อครั้งไปรบกับพม่า ที่สมรภูมิทุ่งลาดหญ้า และในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าจอมอยู่หัว ก็ได้เอ่ยถึงวัดบ้านถ้ำ เมื่อครั้นเสด็จประพาสไทรโยค ในปี พ.ศ.2420 ว่า "เห็นเขาบ้านถ้ำริมน้ำอยู่ทางขวามือ บ่ายสองโมงครึ่ง เขาถ้ำนี้ทูลกระหม่อมได้เสด็จขึ้นไป ท่านรับสั่งไว้ว่าเสด็จแต่คราวยังทรงพระเยาว์ ทรงจำต้นไม้ที่ปากถ้ำได้ ที่บ้านล้อมีจีนอยู่มาก แต่เห็นเรือริมน้ำสักสี่หลัง ที่แผ่นดินข้างบนเป็นที่ราบ จะเป็นไร่ยา แต่ตลิ่งสูงนักไม่แลเห็นเขาตั้งโต๊ะ ตีม้าพอรับ ถึงตรงบ้านถ้ำบ่ายสามโมงสี่ มีพระลงมาชยันโต เขาว่าบ้านถ้ำมีมะตูมดีนัก เราเคยได้กินแล้วเป็นมะตูมไม่มียาง ครั้นค่ำนี้พระกระยาหาร ก็เอามาให้ว่าเป็นมะตูมบ้านนี้เอง " ซึ่งมะตูมอย่างที่ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงเสวย เป็นมะตูมผลยาวเนื้อฟุ้ง ไม่มีเมล็ด ไม่มียาง รสอร่อย ขี้นอยู่บริเวณหน้าวัด ปัจจุบันได้สูญพันธ์ไปแล้ว
| ประมาณปี พ.ศ.2469 ภายในถ้ำหลวงพ่อใหญ่ชินราช ได้มีการบรูณะโดยหลวงจีนองค์หนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงตาเห็น" |
เมื่อประมาณปี พ.ศ.2469 ภายในถ้ำหลวงพ่อใหญ่ชินราช ได้มีการบรูณะโดยหลวงจีนองค์หนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงตาเห็น" ท่านบวชและจำศึลอยู่ในถ้ำนี้อยู่เป็นเวลานาน และที่ฐานแท่นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ท่านได้จารึกว่า "ซ่อมแซ่มของเก่าปิดทองเสร็จ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2472" และต่อมาท่านได้เริ่มก่อสร้างบันได ก่ออิฐบริเวณปากถ้ำ แต่ไม่ทันสำเร็จ ท่านก็ถูกคนร้ายทุบเสียชีวิต
| ทางวัดได้จัดการฌาปนกิจศพหลวงตาเห็น แล้วนำอัฐิของท่าน บรรจุไว้ที่ปากถ้ำ |
ทั้งนี้ทางวัดได้จัดการฌาปนกิจศพหลวงตาเห็น แล้วนำอัฐิของท่าน บรรจุไว้ที่ปากถ้ำ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2492 ได้มีพระญวนพร้อมกับผู้ใหญ่ฝา ตลาดลูกแก ได้พร้อมใจกัน หาเงินสร้างบันไดต่อจากที่หลวงตาเห็นสร้างไว้ จากเชิงเขาถึงปากถ้ำเชื่อมต่อกัน
และในสมัยรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2532 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชกุมาร พร้อมข้าราชบริพาล เสด็จมาทำพิธีบวงสรวงในถ้ำหลวงพ่อใหญ่ชินราช
| โดยบันไดขึ้นถ้ำมีทั้งหมด 269 ขั้น จากหัวนาคถึงมังกร 114 ขั้น จากปากมังกรถึงหาง 105 ขั้น เดินเข้าถ้ำ 50 ขั้น |
ต่อมาในปี พ.ศ.2533 พระมหาปราโมทย์เจ้าอาวาส วัดบ้านถ้ำ ปัจจุบันเป็น พระสุธี ธรรมนาท ท่านได้สร้างบันได คอนกรีตเสริมเหล็ก ช่วงล่างสร้างเป็นพญานาคสองข้างราวบันได ส่วนช่วงกลางบันไดสร้างเป็นมังกรจนถึงปากถ้ำทางเข้าเพื่อไปนมัสการหลวงพ่อใหญ่ชินราช โดยบันไดขึ้นถ้ำมีทั้งหมด 269 ขั้น จากหัวนาคถึงมังกร 114 ขั้น จากปากมังกรถึงหาง 105 ขั้น เดินเข้าถ้ำ 50 ขั้น
และทางขึ้นถ้ำเป็นบันไดลึกเข้าไปในปากมังกรตัวใหญ่ได้กลายเป็นจุดโดดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนกันสักครั้ง ซึ่งภายถ้ำคูหามังกรสวรรค์ หรือถ้ำนางบัวคลี่ เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อใหญ่ชินราช ที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวให้ความศรัทธาเข้ามากราบไหว้ขอพรอย่างไม่ขาดสาย
และภายในบริเวณวัดยังมีความพิเศษให้ไปชมหลายอย่าง อาทิเช่น พระอุโบสถหลังเก่าที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิพร้อมด้วยพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรที่ทำด้วยหินทรายลงรักปิดทองอันเป็นของเก่าที่มีมาแต่เดิม ส่วนภายในพระอุโบสถหลังใหม่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง ที่ทำพิธีหล่อขึ้น ณ วัดชีปะขาวหาย จังหวัดพิษณุโลก
นอกจากนี้ยังสามารถชมถ้ำที่สวยงามต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น ถ้ำม่านวิจิตร ถ้ำขุนแผน ถ้ำดอกจอก อุทยานถ้ำดุสิต ถ้ำหมื่นหาญ ถ้ำนางนวล ถ้ำนางนอน
| หนึ่งไฮไลท์ทีนักท่องเที่ยวแวะมาวัดบ้านถ้ำไม่ควรพลาด ใช้ความศรัทธาอันแรงกล้า ออกกำลังแข้งขา เพื่อเดินบันไดขึ้นไปยังภูเขาด้านบน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ |
นอกจากนี้แล้วจากบริเวณถ้ำนางบัวคลี่ ยังมีบันไดทางเดินขึ้นไปที่ถ้ำม่านวิจิตรและไปนมันการองค์พระเจดีย์ด้านบนภูเขาที่บรรจุองค์พระบรมสารีริกธาตุ ให้ไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นหนึ่งไฮไลท์ทีนักท่องเที่ยวแวะมาวัดบ้านถ้ำไม่ควรพลาด เนื่องจากต้องใช้ความศรัทธาอันแรงกล้า เพื่อเดินบันไดขึ้นไปยังภูเขาด้านบน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระเจดีย์ธาตุ
| ซึ่งเป็นหนึ่งไฮไลท์ทีนักท่องเที่ยวแวะมาวัดบ้านถ้ำไม่ควรพลาด เนื่องจากต้องใช้ความศรัทธาอันแรงกล้า เพื่อเดินบันไดขึ้นไปยังภูเขาด้านบน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระเจดีย์ธาตุ |
| จุดชมวิวบนยอดเขา จากพื้นรวม 707 ขั้นบันได เมื่อขึ้นมาถึงแล้ว สามารถมองเห็นทัศนียภาพลำน้ำแควใหญ่ ที่ไหลไปบรรจบที่เขื่อนแม่กลอง |
| จากจุดชมวิวบนภูเขาวัดบ้านถ้ำ สามารถมองเห็น วัดถ้ำเสืออีกด้วย ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 5 กิโลเมตร |
| บริเวณเขื่อนแม่กลอง |
ซึ่งจุดชมวิวบนยอดเขา จากพื้นรวม 707 ขั้นบันได เมื่อขึ้นมาถึงแล้ว สามารถมองเห็นทัศนียภาพลำน้ำแควใหญ่ ที่ไหลไปบรรจบที่เขื่อนแม่กลอง และยังมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนโอบล้อมเอาไว้ได้อย่างสวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายรูปต้องเดินขึ้นมาเที่ยวชมกัน
| ามารถใช้เส้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี มุ่งหน้าไปสู่กาญจนบุรี โดยผ่านอ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ใช้ทางแยกแสงชูโต เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 3209 เพื่อเข้าสู่วัดบ้านถ้ำ |
ส่วนการเดินทางมาวัดบ้านถ้ำ เดินทางมาอย่างไร สำหรับใครที่มาเที่ยววัดถ้ำเสือ ตัววัดบ้านถ้ำห่างจากวัดถ้ำเสือประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้น ส่วนใครที่ขับรถส่วนตัวมา สามารถใช้เส้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี มุ่งหน้าไปสู่กาญจนบุรี โดยผ่านอ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ใช้ทางแยกแสงชูโต เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 3209 เพื่อเข้าสู่วัดบ้านถ้ำ
ข้อมูลดีๆจาก : ป้ายประชาสันพันธ์ประวัติที่ติดไว้ภายในวัดบ้านถ้ำ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้
| แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองกาญจน์ตอนที่ 2 ท่องแดนดินถิ่นน้ำตกสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบ่งปันทริปรีวิวเช่ารถขับเที่ยวเมืองกาญจน์ตอนที่ 2 ท่องแดนดินถิ่นน้ำตกสวย รุ่มระรวยด้วยธรรมชาติงดงาม มีที่เที่ยวใหนต้องแวะไปเช็กอินบ้าง ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงนะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
| รีวิวเที่ยวเมืองกาญจน์ ย้อนวันวานชมเมืองประวัติศาสตร์สงครามโลก คลิ๊กดูรีวิว>> |
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองกาญจนบุรี นั่งรถไฟฉิมพลี ย้อนวันวานอีกสักครั้งครา ในตัวเมือง มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้างหนา ตามไปลั๊ลลาเช็กอินกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
![]() |
| น่ารู้กับตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน>>> |
ท่องทั่วไทยไปให้รู้ แวะดูตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร จัดมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
![]() |
| ประเพณีกวนข้าวทิพย์มธุปายาสยาคู มีประวัติเป็นมาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน>> |
เที่ยวเมืองไทยไปต้องรู้ กับประเพณีกวนข้าวทิพย์มธุปายาสยาคู มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
![]() |
| เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรูป ฝ่าพระบาทที่เท้าพระนอนวัดโพธิ์ มีความหมายว่าอะไร>> |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ฝ่าพระบาทที่เท้าของพระนอนวัดโพธิ์ รูปสัญลักษณ์ที่หลายคนสงสัย มีความหมายว่าอะไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
![]() |
| ตำนานบอกเล่าอันเก่าแก่ของบ่อน้ำพุร้อนพระร่วงในเมืองชากังราว คลิ๊กดูบทความ>>> |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตำนานบอกเล่าอันเก่าแก่ของบ่อน้ำพุร้อนพระร่วง ในเมืองชากังราวสุดน่าสนใจ มาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
![]() |
| แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ ต้องไปเริงสำราญให้ได้ คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาในจังหวัดบึงกาฬ ต้องไปเช็กอินให้สำราญกันสักครา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปช่ะช่ะช่ากันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>
![]() |
| รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจในสกลนคร คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นจังหวัดสกลนคร ที่ใครก็ต้องมาออนซอนเช็กอินถ่ายรูปกันสักครา ไม่งั้นมาไม่ถึงนะ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
![]() |
| แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองสตูลสุดน่าสนใจ มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
รวมเด่นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในตัวเมืองสตูล ที่ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปภาพกระชากใจเว่อร์กัน มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>















































0 ความคิดเห็น