Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวแบกเป้ไปเที่ยวเมืองบาร์เซโลน่า 2 วัน Barcelona เมืองใหญ่ติดทะเลแห่งนี้ มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง

แบ่งปันทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เมืองท่าเรือขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งในยุโรปแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า



จัดเสื้อผ้าใส่กระเป่าเป้ใบใหญ่ เตรียมเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมในเมืองอาวียง ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน อีกหนึ่งเมืองที่ตั้งใจ จะไปเที่ยวสักครั้ง เพราะได้เคยเห็นภาพเมืองนี้ตั้งแต่อยู่ในนิตยสารท่องเที่ยวสมัยเด็กๆ 



ต่อจากตอนที่แล้ว ทริปนี้นั่งรถไฟจากเมืองอาวียง ประเทศฝรั่งเศส ไปยังเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน


จำได้ว่าดูภาพเมืองผ่านนิตยสารท่องเที่ยวและรายการท่องเที่ยวทางทีวีเหมือน 20 กว่าปีก่อน ก็เลยต้องจัดทริปมาเที่ยวให้ได้ พอได้โอกาสเหมาะ รอบนี้เลยไม่รีรอ ขอแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวบาร์เซโลน่าจนได้ หลังจากที่บทความก่อนหน้าได้มาแบ่งปันรีวิวการเดินทางไปเที่ยวเมืองอาวียงแล้ว ตามเว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2025/05/Backpack-travel-avignon-france-lonly-diary.html


และก่อนที่จะเข้าสู่ภาพรีวิวท่องเที่ยวแต่ละแห่ง เราก็มาทำความรู้จักเมืองบาร์เซโลน่า กันก่อนสักเล็กน้อย นอกจากที่เราจะรู้จักแค่สโมสรฟุตบอลชื่อดังของเมืองนี้แล้ว ในบาร์เซโลน่ามีประวัติเป็นมาอย่างไรบ้าง จัดมาให้อ่านกันพอสังเขปค่ะ 


เกี่ยวกับเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน 

สาระน่ารู้เกี่ยวกับเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน (Barcelona, Spain)


สำหรับเมืองบาร์เซโลน่า จัดเป็นเมืองบนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นปกครองตนเองคาตาลัน บาร์เซโลนาเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเงินที่สำคัญในยุโรปตะวันตกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีชีวภาพหลักในสเปน ในฐานะเมืองชั้นนำของโลก อิทธิพลของบาร์เซโลนาในกิจการเศรษฐกิจและสังคมระดับโลกทำให้เมืองนี้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับสถานะเมืองระดับโลก และยังเป็นหนึ่งในมหานครที่ใหญ่ที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งอยู่บนชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำยอเบรกัตและเบโซส มีขอบเขตทางทิศตะวันตกโดยเทือกเขาเซอร์ราเดคอลเซโรลา

ชื่อ บาร์เซโลนา มาจากภาษาไอบีเรียโบราณว่า Baŕkeno ซึ่งได้รับการยืนยันในจารึกเหรียญโบราณที่พบทางด้านขวาของเหรียญเป็นอักษรไอ

ทำไมถึงชื่อบาร์เซโลน่า ชื่อเมืองนี้ มีที่มาอย่างไร โดยชื่อ บาร์เซโลนา มาจากภาษาไอบีเรียโบราณว่า Baŕkeno ซึ่งได้รับการยืนยันในจารึกเหรียญโบราณที่พบทางด้านขวาของเหรียญเป็นอักษรไอบีเรียว่า Barkeno ในอักษรไอบีเรียของเลวานไทน์ ในแหล่งที่มาของภาษากรีกโบราณว่า Βαρκινών, Barkinṓn และในภาษาละตินว่า Barcino, Barcilonum และ Barcenona


เมืองบาร์เซโลนาเป็นศูนย์กลางการขนส่ง โดยท่าเรือบาร์เซโลนาเป็นท่าเรือหลักแห่งหนึ่งของยุโรปและเป็นท่าเรือโดยสารที่พลุกพล่านที่สุดในยุโรป

โดยเมืองบาร์เซโลนาเป็นศูนย์กลางการขนส่ง โดยท่าเรือบาร์เซโลนาเป็นท่าเรือหลักแห่งหนึ่งของยุโรปและเป็นท่าเรือโดยสารที่พลุกพล่านที่สุดในยุโรป มีสนามบินนานาชาติ สนามบินบาร์เซโลนา–เอล ปราต ซึ่งรองรับผู้โดยสารมากกว่า 50 ล้านคนต่อปี เครือข่ายทางด่วนที่กว้างขวาง และเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อกับฝรั่งเศสและส่วนอื่นๆ ของยุโรป


ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย หันหน้าไปทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บนพื้นที่ราบกว้างประมาณ 5 กิโลเมตร 

บาร์เซโลนาตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย หันหน้าไปทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บนพื้นที่ราบกว้างประมาณ 5 กิโลเมตร (3 ไมล์) โดยมีเทือกเขา Collserola แม่น้ำ Llobregat ทางตะวันตกเฉียงใต้ และแม่น้ำ Besòs  อยู่ทางเหนือของเมือง


 เมืองบาร์เซโลนาถูกก่อตั้งโดยชาวฟินิเชียนหรือชาวคาร์เธจ ซึ่งมีสถานีการค้าอยู่ตามแนวชายฝั่งคาตาลัน ในยุคกลาง บาร์เซโลนาได้กลายเป็นเมืองหลวงของเคาน์ตี้บาร์เซโลนา

จากตำนานเล่าขานกันมา เมืองบาร์เซโลนาถูกก่อตั้งโดยชาวฟินิเชียนหรือชาวคาร์เธจ ซึ่งมีสถานีการค้าอยู่ตามแนวชายฝั่งคาตาลัน ในยุคกลาง บาร์เซโลนาได้กลายเป็นเมืองหลวงของเคาน์ตี้บาร์เซโลนา หลังจากรวมกับราชอาณาจักรอารากอนเพื่อก่อตั้งระบบราชาธิปไตยแบบผสมของมงกุฎอารากอน บาร์เซโลนาซึ่งยังคงเป็นเมืองหลวงของอาณาเขตคาตาลันก็กลายเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในมงกุฎอารากอนและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการบริหารหลัก ก่อนจะถูกแซงหน้าโดยบาเลนเซีย ซึ่งถูกแย่งชิงจากการควบคุมของชาวมัวร์โดยชาวคาตาลันไม่นานก่อนการรวมตัวของราชวงศ์ระหว่างมงกุฎคาสตีลและมงกุฎอารากอนในปี ค.ศ. 1516

เมืองบาร์เซโลนาได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแบ่งแยกดินแดนคาตาลัน โดยกลายเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศสในช่วงสั้นๆ 

จนกระทั้งต่อมา เมืองบาร์เซโลนาได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแบ่งแยกดินแดนคาตาลัน โดยกลายเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศสในช่วงสั้นๆ ในช่วงสงคราม Reapers' War ในศตวรรษที่ 17 และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1812 จนถึงปี ค.ศ. 1814 ภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียน ในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 เมืองนี้ได้กลายเป็นเมืองหลวงของคาตาลันปกครองตนเองในปี 1931 และเป็นศูนย์กลางของการปฏิวัติที่คาตาลันประสบในช่วงการปฏิวัติสเปนในปี ค.ศ. 1936 จนกระทั่งถูกพวกฟาสซิสต์ยึดครองในปี 1939 หลังจากที่สเปนเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยในช่วงทศวรรษ 1970 บาร์เซโลนาได้กลายเป็นเมืองหลวงของคาตาลันปกครองตนเองอีกครั้ง

อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและปัจจุบันเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญและเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญ ผลงานทางสถาปัตยกรรมของ Antoni Gaudí

บาร์เซโลนาเป็นเมืองที่มีมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและปัจจุบันเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญและเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญ ผลงานทางสถาปัตยกรรมของ Antoni Gaudí และ Lluís Domènech i Montaner ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO มีชื่อเสียงเป็นพิเศษ เมืองนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดสองแห่งในสเปน ได้แก่ มหาวิทยาลัยบาร์เซโลนาและมหาวิทยาลัย Pompeu Fabra  อีกทั้งยังมีสำนักงานใหญ่ของสหภาพเมดิเตอร์เรเนียนตั้งอยู่ในบาร์เซโลนา เมืองนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1992 ตลอดจนการประชุมและนิทรรศการระดับโลก นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติมากมายที่นี่ด้วย เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Barcelona

หลังจากที่ได้อ่านสาระน่ารู้บางส่วนเกี่ยวกับประวัติเมืองบาร์เซโลน่าไปแล้ว ต่อไปก็ตามดูรีวิวภาพท่องเที่ยวกันต่อเลยค่ะ

เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมในเมืองอาวีญง (Avignon) เดินเท้าแบกเป้มาที่สถานีรถไฟ

เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ เขียนต่อจากบทความบล็อกตอนที่แล้ว : https://khunnaiver.blogspot.com/2025/05/Backpack-travel-avignon-france-lonly-diary.html

เพื่อขึ้นรถไฟจากเมืองอาวีญง มุ่งหน้าไปยังเมืองนาบอนเน(Narbonne) 


รถไฟจะลัดเลาะไปตามเลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 


ผ่านเทือกเขาและสวนไร่องุ่นอันกว้างใหญ่ ที่นิยมปลูกไว้ทำไวน์กัน


มาถึงเมืองนาบอนเน่ (Narbon) เพื่อมาขึ้นรถไฟข้ามพรมแดนจากฝรั่งเศสไปยังเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน 

พอมาถึงก็ สิ่งแรกที่ต้องมาดูคือ จอมอนิเตอร์ แสดงหมายเลข ชานชลา ว่าจะไปอยู่ที่ชานชลาหมายเลขอะไร 

ส่วนรถไฟที่เดี๊ยนนั่งมาจากเมืองอาวีญง ก็คันนี้ค่ะ ยังจอดอยู่ที่เดิม

ระหว่างนี้ก็ยืนรอรถไฟไม่นาน รถไฟก็มาแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะมัวอีรุงตุงนัง ว่าจะไปขึ้นโบกี้ขบวนอะไร เพราะเป็นรถไฟความเร็วสูง 

โดยการนั่งรถไฟความเร็วสูง จะต้องจองตั๋วล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตมาก่อนค่ะ เพื่อแสดงตั๋วกับเจ้าหน้าที่บนรถไฟ ว่าเรานั่งตรงกับที่นั่งถูกต้องแน่นอน 

ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 5 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงเมืองบาร์เซโลน่าแล้วค่ะ 


บรรยากาศด้านในสถานีรถไฟ ดูคึกคักมากๆ 

บรรยากาศด้านนอกสถานีรถไฟในช่วงมืดค่ำแล้ว

ส่วนบรรยากาศเดินเท้าไปยังโรงแรม ถนนค่อนข้างเปลี่ยวไปหน่อย พยายามให้โรงแรมที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟที่สุดค่ะ จะไม่ได้ต้องเดินไกล 

เดินแบกเป้จากสถานีรถไฟ ปักหมุดGPS มาไม่ไกลประมาณ 800 เมตร ก็ถึงโรงแรมที่พักคืนนี้ มีชื่อว่าโรงแรม Alberguinn Barcelona 

มาถึงด้านใน ก็ขอวางกระเป้าเป้ใบใหญ่ก่อนเลย เริ่มมีอาการปวดหลังแล้วค่ะ เพราะแบกเป้มาหนักมากๆ 

ส่วนโรงแรมที่พักคืนนี้ ก็เป็นโรงแรมแนวโฮสเทล ห้องนอน ห้องน้ำรวม 

ต้องเสียค่า ภาษีเมืองแยกต่างหากด้วนนะคะ คืนละ 4.13 ยูโร 

จากทริปก่อนได้นอนโรงแรมหรูหรา วันนี้กลับมานอนโรงแรมแนวโฮสเทลแบบเดิมค่ะ ห้องนอนรวม ห้องน้ำรวม ราคาห้องพักคืนละ 1,150 บาท ต่างจากเมื่่อวาน ห้องคืนละ 3,000 เรียกว่าช่วยประหยัดไปได้เยอะ 

สภาพห้องพักแบบโฮสเทล ต้องอดทนกับการฟังเสียงกรน สักหน่อยนะคะ เพราะเป็นห้องที่นอนร่วมกัน 

สภาพห้องพักก็พอใช้ได้ มีห้องน้ำหลายห้อง

ห้องอาบน้ำแบบฝัวบัว 

ในส่วนของอาหารการกินมื้อค่ำ ก็หาซื้อตามร้านใกล้ๆสถานีรถไฟเลยค่ะ

มีห้องครัวส่วนกลางให้ทำอาหารทานได้ด้วย 

อาหารมื้อเช้าก็เดินไปตามซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆโรงแรม มีอาหารขาย ก็ซื้อมาทาน

หรือซื้ออาหารสด ทำกับข้าวกินเองที่ห้องครัว ก็ได้รับความนิยมจากแขกที่มาพักมากด้วยเช่นกัน เพราะค่าครองชีพที่เมืองบาเซโลน่านั้นก็แพงเช่นกัน ทำอาหารทานเอง ประหยัดไปได้เยอะเลยค่ะ

ส่วนถนนหนทางใกล้ๆโรงแรมยามกลางวัน ไม่ค่อยน่ากลัวนะคะ มีคนเดินกันเยอะแยะเลย

ของกินก็เลือกหาทานง่ายดี ถ้าราคาถูก แนะนำเข้าร้านซุปเปอร์มาเก็ตเลยค่ะ มีอาหารกล่องแพ็คไว้พร้อมทานเลย 

ต่อไปก็มารีวิวดูรถไฟใต้ดินในเมืองบาร์เซโลน่า และวิธีซื้อตั๋วรถไฟง่ายๆให้ดูกัน

วิธีการเดินทางและซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินในเมืองบาร์เซโลน่า ที่สามารถซื้อผ่านตั๋วและชำระเงินได้ง่ายๆ มีขั้นตอนมาภาพดังนี้ค่ะ  

ตู้ขายบัตรรถไฟใต้ดินในเมืองบารเซโลน่า 

กดเลือกภาษา และเลือกประเภทของบัตรที่ต้องการซื้อ มีตังแต่ ตั๋วเที่ยวเดียว และ 2 วัน ไปจนถึง 5 วัน  

ถ้าเลือกซื้อตั๋วแบบ 2 วัน ราคา 16.40 ยูโร 

ส่วนเดี๊ยนเลือกซื้อแบบ ตั๋วแบบเที่ยวเดียวค่ะ ราคาอยู่ที่ 2.40 ยูโร ใช้บัตรเดรดิต หรือบัตร Travel Card ที่ทำมาจากเมืองไทยใช้่จ่ายได้เลย สะดวกมากๆ 

เลือกตั๋วแบบ เที่ยวเดียว เพราะกะว่าจะนั่งรถไฟไปย่านใจกลางเมือง และเดินเที่ยวเอาค่ะ 

ส่วนเส้นทางรถไฟก็ดูไม่ยากค่ะ ดูสถานีปลายทาง หรือต้นทางที่จะไปให้ดี จะได้ไม่หลงทางไปชานชลาอื่น

บรรยากาศด้านในขบวนรถไฟใต้ดินสถานีรถไฟในเมืองบาร์เซโลน่า

ต่อไปก็ไปเช็คอินแวะไปดูสถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจในเมืองบาร์เซโลน่ากันต่อค่ะ ซึ่งในเมืองบาร์เซโลน่า มีที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่งเลยค่ะ

แผนที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวในเมืองบาร์เซโลน่า


แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองบาเซโลน่า ที่สามารถนั่งรถเมลหรือเปิดแผนที่ GPA ปักหมุดเดินเท้าเที่ยวได้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ มีดังนี้ (Barcelona tourist attractions places)


1.มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา (Sagrada Família)

1.มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา (Sagrada Família)

1.มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา (Sagrada Família)

1.มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา (Sagrada Família)


1.มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา (Sagrada Família)


1.มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา (Sagrada Família)

จัดเป็นหนึ่งแลนด์มาร์คและสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของเมืองบาเซโลน่า ที่ใครมาเที่ยวเมืองนี้ ก็ต้องไม่พลาดไปถ่ายรูปภาพกันให้ได้ เป็นมหาวิหารคาทอลิกในบาร์เซโลนา สเปน ออกแบบโดยสถาปนิก อันตอนี เกาดี (antoni gaudí sagrada familia)  สุดยิ่งใหญ่อลังการ สร้างชื่อเสียงให้เมืองบาเซโลน่าเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 

เริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2425 มีกำหนดก่อสร้างหอคอยทั้งหมด 18 หอคอย นับตั้งแต่ปีเริ่มสร้างจนถึงปัจจุบันสร้างเสร็จไปแล้วแค่ 8 หอคอย งานคืบหน้าไปประมาณร้อยละ 50 สถาปนิกผู้ออกแบบถูกรถรางทับเสียชีวิตไปเมื่อ พ.ศ. 2469 โดยศพของเขาได้ถูกฝังไว้ในซากราดาฟามิลิอาด้วย


2.พิพิธภัณฑ์คาซา บัตโย (Casa Batlló )

2.พิพิธภัณฑ์คาซา บัตโย (Casa Batlló )

2.พิพิธภัณฑ์คาซา บัตโย (Casa Batlló )

2.พิพิธภัณฑ์คาซา บัตโย (Casa Batlló )

2.พิพิธภัณฑ์คาซา บัตโย (Casa Batlló )


2.พิพิธภัณฑ์คาซา บัตโย (Casa Batlló )

เป็นอาคารที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ออกแบบโดยอันโตนี เกาดี และถือเป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นหนึ่งของเขา คาซา บัตโยเป็นการปรับปรุงบ้านที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ โดยได้รับการออกแบบใหม่ในปี 1904 โดยเกาดี (แต่การก่อสร้างจริงยังไม่ได้เริ่มในตอนนี้) และได้รับการปรับปรุงหลายครั้งตั้งแต่นั้นมา โดยชื่อท้องถิ่นของอาคารนี้คือ Casa dels ossos (บ้านแห่งกระดูก) เนื่องจากมีลักษณะทางกายภาพที่เป็นรูปโครงกระดูก อาคารนี้ตั้งอยู่บน Passeig de Gràcia ในเขต Eixample และเป็นส่วนหนึ่งของบ้านแถวที่เรียกว่า Illa de la Discòrdia (หรือ Mansana de la Discòrdia หรือ "บล็อกแห่งความขัดแย้ง") ซึ่งประกอบด้วยอาคาร 4 หลังที่ออกแบบโดยสถาปนิก Modernista ที่มีชื่อเสียงของบาร์เซโลนา ในปี 2005 Casa Batlló ได้กลายเป็นมรดกโลกของ UNESCO  ปัจจุบันด้านในจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก


3.ประตูชัยเมืองบาเซโลน่า (Arc de Triomf)

3.ประตูชัยเมืองบาเซโลน่า (Arc de Triomf)

3.ประตูชัยเมืองบาเซโลน่า (Arc de Triomf)

3.ประตูชัยเมืองบาเซโลน่า (Arc de Triomf)

3.ประตูชัยเมืองบาเซโลน่า (Arc de Triomf)

3.ประตูชัยเมืองบาเซโลน่า (Arc de Triomf)


3.ประตูชัยเมืองบาเซโลน่า (Arc de Triomf)

ประตูชัยเป็นประตูอนุสรณ์ในบาร์เซโลนา แคว้นคาตาลัน ประเทศสเปน สร้างโดยสถาปนิก Josep Vilaseca i Casanovas เพื่อเป็นประตูทางเข้าหลักของงาน Barcelona World Fair ประจำปี 1888 ประตูชัยนี้ทอดยาวข้ามทางเดินเลียบชายหาดกว้างของบริษัท Passeig de Lluís ไปสู่สวนสาธารณะ Ciutadella ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งสถานที่จัดงาน World Fair ประตูชัยตั้งอยู่บริเวณปลายด้านเหนือของทางเดินเลียบชายหาด ตรงข้ามกับ Passeig de Sant Joan

ปัจจุบันประตูชัยเมืองบาเซโลน่า กลายเป็นจุดเช็คอินและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองบาเซโลน่า ที่มีนักเดินทางแวะเวียนมาถ่ายรูปกันอย่างไม่ขาดสาย 


4.จุดชมวิวบริเวณปราสาทมองต์จูอิก (Montjuïc Castle) 

4.ปราสาทมองต์จูอิก (Montjuïc Castle) 

4.ปราสาทมองต์จูอิก (Montjuïc Castle) 



4.ปราสาทมองต์จูอิก (Montjuïc Castle) 

4.ปราสาทมองต์จูอิก (Montjuïc Castle) 

4.ปราสาทมองต์จูอิก (Montjuïc Castle) 

4.ปราสาทมองต์จูอิก (Montjuïc Castle) 


4.ปราสาทมองต์จูอิก (Montjuïc Castle) 


เป็นปราสาทและป้อมปราการทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เป็นป้อมปราการทางทหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1640 บนยอดเขา Montjuïc ในบาร์เซโลนา แคว้นคาตาลัน ประเทศสเปน ปัจจุบันใช้เป็นอาคารเทศบาลของบาร์เซโลนา

 ปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในหนังสือประวัติศาสตร์คาตาลันเนื่องจากมีบทบาทในสงครามกลางเมืองตั้งแต่ปี 1936 ถึง 1939 เมื่อทั้งสองฝ่ายในความขัดแย้งได้จับกุม ทรมาน และยิงนักโทษการเมืองที่มงต์จูอิก[ต้องการการอ้างอิง] หนึ่งในนั้นคือ ลูอิส คอมปานีส ซึ่งเป็นประธานของเจเนอรัลลิตาตแห่งคาตาลันในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน คอมปานีสถูกประหารชีวิตตามคำสั่งของรัฐสเปนที่ปราสาทมงต์จูอิกในปี 1940

ต่อมาในศตวรรษที่ 20 ปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์การทหาร ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2506 ฟรานซิสโก ฟรังโกได้เปิดพิพิธภัณฑ์ยานเกราะทหาร ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของสถาบันแห่งนี้ 

นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมหลากหลาย เช่น คอนเสิร์ต นิทรรศการศิลปะ และการฉายภาพยนตร์กลางแจ้งของเมืองบาเซโลน่าอีกด้วย 


5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา  (Museu Nacional d'Art de Catalunya) 

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา  (Museu Nacional d'Art de Catalunya) 

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา  (Museu Nacional d'Art de Catalunya) 

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา  (Museu Nacional d'Art de Catalunya) 

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา  (Museu Nacional d'Art de Catalunya) 

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา  (Museu Nacional d'Art de Catalunya) 
5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา  (Museu Nacional d'Art de Catalunya) 

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา  (Museu Nacional d'Art de Catalunya) 

เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะภาพคาตาลันที่ตั้งอยู่ในเมืองบาร์เซโลนา แคว้นคาตาลัน ประเทศสเปน ตั้งอยู่บนเนินเขา Montjuïc ในตอนท้ายของ Avinguda de la Reina Maria Cristina ใกล้กับ Pl Espanya พิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดดเด่นเป็นพิเศษด้วยคอลเลกชันภาพวาดโบสถ์สไตล์โรมาเนสก์อันโดดเด่น และงานศิลปะและการออกแบบคาตาลันตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 รวมถึงศิลปะแบบโมเดิร์นนิสม์และนูเซนติม 

ความโดดเด่นของอาคารสไตล์อิตาลีขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี 1929 Palau Nacional ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Museu d'Art de Catalunya ตั้งแต่ปี 1934 ได้รับการประกาศให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในปี 1990 ตามกฎหมายพิพิธภัณฑ์ที่ผ่านโดยรัฐบาลคาตาลัน Oval Hall ได้เปิดทำการอีกครั้งสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 1992 และมีการติดตั้งและเปิดตัวคอลเลกชันต่างๆ มากมายในช่วงระหว่างปี 1995 (เมื่อมีการเปิดส่วนศิลปะโรมาเนสก์อีกครั้ง) จนถึงปี 2004


6.Catalonia Square (จัตุรัสคาตาลัน) 

6.Catalonia Square (จัตุรัสคาตาลัน) 

6.Catalonia Square (จัตุรัสคาตาลัน) 

6.Catalonia Square (จัตุรัสคาตาลัน) 

6.Catalonia Square (จัตุรัสคาตาลัน) 

6.Catalonia Square (จัตุรัสคาตาลัน) 

6.Catalonia Square (จัตุรัสคาตาลัน) 

บางครั้งเรียกว่า Plaza de Cataluña ซึ่งเป็นชื่อภาษาสเปน เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ในใจกลางเมืองบาร์เซโลนา ซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นทั้งศูนย์กลางเมืองและสถานที่ที่เมืองเก่า (ดู Barri Gòtic และ Raval ในเมือง Ciutat Vella) และเมือง Eixample ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 มาบรรจบกัน 

จัตุรัสแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร จัตุรัสแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในเรื่องน้ำพุและรูปปั้น ความใกล้ชิดกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบางแห่งของบาร์เซโลนา และฝูงนกพิราบที่รวมตัวกันอยู่ใจกลางเมือง จัตุรัสแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในสงครามกลางเมืองสเปน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะสถานที่จัดงานสำคัญในวันเมย์เดย์


7.ถนนลา รัมบลา (La Rambla Road)

7.ถนนลา รัมบลา (La Rambla Road)

7.ถนนลา รัมบลา (La Rambla Road)

7.ถนนลา รัมบลา (La Rambla Road)

7.ถนนลา รัมบลา (La Rambla Road)

สำหรับถนนลารัมบลา หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ลัส รัมบลาส เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบาร์เซโลนา ถนนสายนี้ทอดยาว 1.2 กิโลเมตร (ประมาณ 0.75 ไมล์) จาก Plaça de Catalunya ไปจนถึง Port Vell ซึ่งเป็นท่าเรือเก่าของเมือง ถนนเลียบชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นไม้แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมที่มีชีวิตชีวา เป็นที่นิยมทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น และเป็นที่รู้จักจากร้านค้า ร้านอาหาร นักแสดงริมถนน และอาคารเก่าแก่ที่สำคัญอยู่คู่เมืองบาร์เซโลน่ามาอย่างยาวนานอีกด้วย


8.จุดชมวิวเมืองบาเซโลน่า (Barcelona City Viewpoint) 

8.จุดชมวิวเมืองบาเซโลน่า (Barcelona City Viewpoint) 

8.จุดชมวิวเมืองบาเซโลน่า (Barcelona City Viewpoint) 

8.จุดชมวิวเมืองบาเซโลน่า (Barcelona City Viewpoint) 


8.จุดชมวิวเมืองบาเซโลน่า (Barcelona City Viewpoint) 

8.จุดชมวิวเมืองบาเซโลน่า (Barcelona City Viewpoint) 

8.จุดชมวิวเมืองบาเซโลน่า (Barcelona City Viewpoint) 


8.จุดชมวิวเมืองบาเซโลน่า (Barcelona City Viewpoint) 

สำหรับจุดชมวิวเมืองบาเซโลน่านั้นมีอยู่หลายแห่ง แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็อยู่ที่เขามองจูอิก(Montjuïc) ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนยา และป้อมปราการมองจูอิก ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองบาเซโลน่าได้อย่างสวยงาม


9.สนามกีฬาโอลิมปิกยูอิส กุมปัญส์ (Estadi Olímpic Lluís Companys)

9.สนามกีฬาโอลิมปิกยูอิส กุมปัญส์ (Estadi Olímpic Lluís Companys)

9.สนามกีฬาโอลิมปิกยูอิส กุมปัญส์ (Estadi Olímpic Lluís Companys)

9.สนามกีฬาโอลิมปิกยูอิส กุมปัญส์ (Estadi Olímpic Lluís Companys)

9.สนามกีฬาโอลิมปิกยูอิส กุมปัญส์ (Estadi Olímpic Lluís Companys)


9.สนามกีฬาโอลิมปิกยูอิส กุมปัญส์ (Estadi Olímpic Lluís Companys)

เป็นสนามกีฬาที่มีชื่อเสียงอยู่ในเมืองบาร์เซโลนา  ตั้งอยู่บนเขามองจูอิก  บ้างก็เรียกว่าสนามกีฬามอนต์จูอิก (Estadi de Montjuïc) หรือ สนามกีฬาโอลิมปิกมอนต์จูอิก (Estadi Olímpic de Montjuïc) สร้างขึ้นเพื่อใช้จัดงานนิทรรศการนานาชาติปี 1929 และได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อใช้เป็นสนามกีฬาหลักของกีฬาโอลิมปิกปี 1992. ปัจจุบันเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาเนื่องจากการปรับปรุงสนามคัมป์นู กลายเป็นสนามกีฬาที่มีการแข่งขันมาจนถึงปัจจุบัน 


และสถานที่ท่องเทีย่วยอดฮิตอีกแห่งก็คือ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า 


ซึ่งเป็นสโมรสรที่มีช็อปตั้งอยู่ใกล้กับย่านท่องเที่ยวแถว มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา

โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปถ่ายรูปและเลือกซื้อสินค้าประจำสโมสรนี้ได้


เดินเท้าเที่ยวไปชมตามจุดต่างๆ ของเมืองก็มีตึกอาคารแปลกตา สร้างอยู่หลายแห่ง 

บริเวณนี้ก็เป็นทางเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะของกรุงบาร์เซโลน่า และเทือกเขามองต์จูอิก

ทริปนี้นั่งรถไฟใต้ดินขึ้นมายังย่านใจกลางเมือง แล้วปักหมุดเปิด GPS เดินเที่ยวเอาล้วนเลยค่ะ ได้ออกกำลังกายและได้ผจญภัยด้วย ลุ้นว่าจะมีโจรมาประกบตัวใหม่ แต่ทุกอย่างก็ปลอดภัยดีค่ะ

ก่อนจะกลับโรงแรม ก็มากราบไหว้สมเด็จพระสังฆราช ซึุ่งตั้งอยู่ในตู้โชว์ในร้านขายของที่ระลึกของเมืองบาร์เซโลน่าให้ได้รำลึกกันด้วย 


ขอบพระคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาสไลด์เลื่อนอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในบทความถัดไปนะคะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
--------------------------------------------------------------------------------

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น