Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

ห้ามพลาด 10 สถานที่ท่องเที่ยวกรุงวอซอร์ แบบไม่ง้อทัวร์ ไปเดินรื่นระรัวเที่ยวได้ด้วยตัวเอง

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงวอซอร์ ประเทศโปแลนด์ สามารถเดินทางเที่ยวได้ด้วยตัวเองแบบสบายๆ นั่งรถบัส รถรางได้สบายๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า



สำหรับเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร ออนซอนดวงหทัย งามไฉไลสุดเก๋คนใหน กำลังวางแผนจะจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแบกเป้ไปเที่ยวประเทศโปแลนด์ และแวะไปเริ่ดสะแมนแตนเที่ยวในกรุงวอซอร์ เมืองหลวงสำคัญของประเทศโปแแลนด์ เมืองที่หลายๆคนรู้จักผ่านประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นอกจากประวัติศาสตร์ผ่านตำราที่เรารู้จักกันแล้วนั้น ในเมืองวอซอร์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเลยทีเดียว เรียกว่าหากมาเที่ยวเมืองวอซอร์ วันเดียวเที่ยวไม่หมดแน่นอน 

ส่วนนักทัศนาจรสายเที่ยวท่านใด ที่ปักหมุดกำลังกางแผนที่ ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปสวยๆในเมืองวอซอร์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนดี วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาอัพเดทแนะนำแหล่งท่องเที่ยวในเมืองวอซอร์ มาให้เพื่อนๆตามไปเช็คอินถ่ายรูปกันค่ะ 



แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงวอร์ซอ ในประเทศโปแลนด์ เมืองหลวงแห่งนี้ มีที่เที่ยวสำคัญอะไรบ้าง ตามไปดูกัน มีดังนี้ค่ะ 


1.ย่านเมืองเก่ากรุงวอซอร์ (Old Town, Warsaw) 


1.ย่านเมืองเก่ากรุงวอซอร์ (Old Town, Warsaw) 


1.ย่านเมืองเก่ากรุงวอซอร์ (Old Town, Warsaw) 


1.ย่านเมืองเก่ากรุงวอซอร์ (Old Town, Warsaw) 


1.ย่านเมืองเก่ากรุงวอซอร์ (Old Town, Warsaw) 


1.ย่านเมืองเก่ากรุงวอซอร์ (Old Town, Warsaw) 


1.ย่านเมืองเก่ากรุงวอซอร์ (Old Town, Warsaw) 



1.ย่านเมืองเก่ากรุงวอซอร์ (Old Town, Warsaw) 

เมืองเก่าวอร์ซอ[a] หรือที่รู้จักกันในชื่อเมืองเก่า และเป็นที่รู้จักในอดีตในชื่อเมืองเก่าวอร์ซอ เป็นย่านเชื่อมต่อเมืองเก่ากับเมืองใหม่ ในเมืองวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์  ซึ่งย่านเมืองเก่านี้ ตั้งอยู่ในเขต Śródmiescie เป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง โดยมีอาคารเก่าแก่จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่นั้นสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 โดยมีอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญหลายแห่งไม่ว่าจะ ปราสาทหลวง กำแพงเมือง มหาวิหารเซนต์จอห์น และบาร์บิกัน จัตุรัสตลาดเมืองเก่า 


เมืองเก่าวอซอร์ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 13 เดิมล้อมรอบด้วยกำแพงดิน ก่อนปี ค.ศ.1339 ได้มีการเสริมด้วยกำแพงเมืองอิฐ เดิมทีเมืองนี้เติบโตขึ้นรอบๆ ปราสาทของดยุคแห่งมาโซเวีย ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นพระราชวังหลวงที่ตั้งอยู่ในส่วนบริเวณของ Market Square (Rynek Starego Miasta) ซึ่งบริเวณดังกล่างถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 หรือต้นศตวรรษที่ 14 ริมถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างปราสาทกับเมืองใหม่ทางตอนเหนือ

ในย่านแห่งนี้ ประกอบไปด้วยตลาดเมืองเก่า (Rynek Starego Miasta) ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 เป็นย่านใจกลางเมือที่สำคัญของเมืองเก่า ไปจนถึงปลายศตวรรษที่ 18 ที่นี่ก็เป็นศูนย์กลางของกรุงวอร์ซอทั้งหมด โดยเป็นย่านของพ่อค้าพบกันในศาลากลางและมีการจัดงานแสดงสินค้าและการประหารชีวิตเป็นครั้งคราว บ้านที่อยู่รอบๆ แสดงถึงสไตล์โกธิคจนกระทั่งเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1607 หลังจากนั้นจึงถูกสร้างขึ้นใหม่ในรูปแบบสไตล์เรอเนซองส์ตอนปลาย


ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองเก่าถูกทำลายเกือบทั้งหมดและได้รับการบูรณะใหม่ในเวลาต่อมา โครงการนี้เป็นความพยายามครั้งแรกของโลกที่จะฟื้นคืนชีพแก่แกนกลางเมืองประวัติศาสตร์ทั้งหมด และถูกรวมไว้ในรายชื่อมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปี 1980  ความพยายามในการฟื้นฟูได้รับการยอมรับอีกครั้งในปี 2011 เมื่อมีการเพิ่มเอกสารและบันทึกทั้งหมดเข้าไปในโครงการ Memory of the World ของ UNESCO


2.ตลาดเมืองเก่าวอร์ซอ (Old Town Market Place, Warsaw)


2.ตลาดเมืองเก่าวอร์ซอ (Old Town Market Place, Warsaw)


2.ตลาดเมืองเก่าวอร์ซอ (Old Town Market Place, Warsaw)


2.ตลาดเมืองเก่าวอร์ซอ (Old Town Market Place, Warsaw)


2.ตลาดเมืองเก่าวอร์ซอ (Old Town Market Place, Warsaw)



2.Old Town Market Place, Warsaw ตลาดเมืองเก่าวอร์ซอ

ตลาดเมืองเก่าของวอร์ซอ จัดเป็นหนึ่งในย่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของกรุงวอซอร์ โดยเป็นศูนย์กลางและเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเก่าวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ทันทีหลังจากการจลาจลในกรุงวอร์ซอ กองทัพเยอรมันได้ปล่อยระเบิดลงในย่านเมืองเก่า ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลาดเมืองเก่าได้รับการบูรณะและฟื้นฟูให้ดูสวยงามดังเดิม 

ตลาดเมืองเก่าเป็นหัวใจสำคัญของเมืองเก่าวอซอร์  อีกทั้งในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ที่นี่ก็เป็นศูนย์กลางของกรุงวอร์ซอทั้งหมด โดยย่านเมืองเก่านั้นมีต้นกำเนิดในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 พร้อมๆ กับการก่อตั้งเมืองนี้  โดยมีตัวแทนชพ่อค้าพบกันในศาลากลาง (ซึ่งศาลากลางสร้างขึ้นก่อนปี 1429 ถูกรื้อถอนในปี ค.ศ.1817 บ้านที่อยู่รอบๆ มีลักษณะเป็นแบบกอทิกจนกระทั่งเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1607 หลังจากนั้นจึงถูกสร้างขึ้นใหม่ในรูปแบบปลายเรอเนซองส์ และในที่สุดก็เป็นสไตล์บาโรกตอนปลายโดย Tylman Gamerski ในปี ค.ศ. 1701

ซึ่งบริเวณอาณาเขตโดยรอบของเมืองเก่านั้นได้รับความเสียหายจากระเบิดของกองทัพเยอรมันระหว่างการรุกรานโปแลนด์ (พ.ศ. 2482) ตลาดโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่ในช่วงทศวรรษปี ค.ศ.1950 หลังจากถูกทำลายโดยกองทัพเยอรมันหลังจากการปราบปรามการจลาจลในกรุงวอร์ซอในปี 1944 ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดอีกแห่งของกรุงซอซอร์ 


3.ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์ (Royal Castle, Warsaw) 


3.ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์ (Royal Castle, Warsaw) 


3.ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์ (Royal Castle, Warsaw) 


3.ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์ (Royal Castle, Warsaw) 


3.ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์ (Royal Castle, Warsaw) 


3.ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์ (Royal Castle, Warsaw) 


3.ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์ (Royal Castle, Warsaw) 



3.ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์ (Royal Castle, Warsaw) 

ปราสาทหลวงในกรุงวอร์ซอ เป็นพิพิธภัณฑ์ของรัฐและอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของกษัตริย์โปแลนด์หลายพระองค์ ห้องทำงานส่วนตัวของกษัตริย์และสำนักงานบริหารของราชสำนักตั้งอยู่ในปราสาทตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 จนถึงการแบ่งแยกโปแลนด์ครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ.1795 ปราสาทหลวงตั้งอยู่ในจัตุรัสปราสาทตรงทางเข้าเมืองเก่าเพื่อที่เก็บรวมรวมชิ้นสิ่งนชันสำคัญของงานศิลปะโปแลนด์และยุโรป

ปราสาทหลวงแห่งกรุงวอซอร์นั้น อยู่ในเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์ของโปแลนด์ รัฐธรรมนูญฉบับลงวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2334 ซึ่งถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกในยุโรปและเป็นรัฐธรรมนูญแห่งชาติที่มีประมวลกฎหมายที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ได้รับการร่างที่นี่โดยรัฐสภาสี่ปี อาคารหลังนี้ได้รับการออกแบบใหม่ให้เป็นสไตล์นีโอคลาสสิกตามรอยแบ่งของโปแลนด์ ภายใต้สาธารณรัฐโปแลนด์ที่สอง (พ.ศ. 2461-2482) เป็นที่ตั้งของประมุขแห่งรัฐและประธานาธิบดีโปแลนด์

และในช่วง สงครามโลกครั้งที่สองทำให้อาคารเสียหายอย่างสิ้นเชิง ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2482 เครื่องบินตกเป็นเป้าและจุดประกายไฟโดยเครื่องบินรบของกองทัพลุฟท์วัฟเฟอ และจากนั้นถูกโจมตีโดยพวกนาซีหลังจากการจลาจลวอร์ซอที่ล้มเหลวในปี พ.ศ. 2487

 ในปี ค.ศ.1980 ปราสาทหลวงและเมืองเก่าโดยรอบกลายเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับสองในโปแลนด์ (รองจากปราสาท Wawel ในคราคูฟ) และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดอันดับที่ 25 ของโลกด้วยจำนวนผู้เยี่ยมชมมากกว่า 2.02 ล้านคนในปี 2566


4.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกแห่งกรุงวอซอร์  (Warsaw Rising Museum) Powstania Warszawskiego


4.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกแห่งกรุงวอซอร์  (Warsaw Rising Museum) Powstania Warszawskiego


4.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกแห่งกรุงวอซอร์  (Warsaw Rising Museum) Powstania Warszawskiego


4.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกแห่งกรุงวอซอร์  (Warsaw Rising Museum) Powstania Warszawskiego


4.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกแห่งกรุงวอซอร์  (Warsaw Rising Museum) Powstania Warszawskiego


4.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกแห่งกรุงวอซอร์  (Warsaw Rising Museum) Powstania Warszawskiego


4.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกแห่งกรุงวอซอร์  (Warsaw Rising Museum) Powstania Warszawskiego



4.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สงครามโลกแห่งกรุงวอซอร์  (Warsaw Rising Museum) Powstania Warszawskiego


และอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจอย่างนักท่องเที่ยวอีกแห่งนั้นก็คือ พิพิธภัณฑ์วอร์ซอไรซิ่ง (ภาษาโปแลนด์ เรียกพิพิธภัณฑ์นี้ว่า Muzeum Powstania Warszawskiego) โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ในเขตโวลา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหตุการณ์กบฏวอร์ซอในปี 1944 สถาบันของพิพิธภัณฑ์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2526 พิพิธภัณฑ์สนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการลุกฮือ ตลอดจนประวัติศาสตร์และการครอบครองของรัฐใต้ดินในโปแลนด์ รวบรวมและดูแลรักษาสิ่งประดิษฐ์หลายร้อยชิ้น ตั้งแต่อาวุธที่ผู้ก่อความไม่สงบใช้ไปจนถึงจดหมายรัก 

ทั้งนี้เพื่อแสดงภาพรวมของผู้ที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายที่ระบุไว้ของพิพิธภัณฑ์ ได้แก่ การสร้างที่เก็บข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการจลาจลและการบันทึกเรื่องราวและความทรงจำของผู้เข้าร่วมที่ยังมีชีวิตอยู่ ผู้อำนวยการคือ Jan Ołdakowski โดยมี Dariusz Gawin นักประวัติศาสตร์จาก Polish Academy of Sciences เป็นรอง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นองค์กรสมาชิกของ Platform of European Memory and Conscience


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)


5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)



5.พระราชวังวิลานอฟ (Wilanow Palace)

พิพิธภัณฑ์พระราชวังกษัตริย์จอห์นที่ 3 ที่วิลานอฟ (Wilanów)  ถือว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ และเป็นแหล่งรวบรวมมรดกทางศิลปะและราชวงศ์ของประเทศ . ของสะสมประกอบด้วยของมีค่าที่รวบรวมโดยเจ้าของพระราชวัง Wilanów กษัตริย์แห่งโปแลนด์ — John III Sobieski และ Augustus II รวมถึงตัวแทนของตระกูลขุนนาง Potocki และ Lubomirski และคอลเล็กชั่นงานศิลปะ Sarmatian


พระราชวังวิลานอฟ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1805 เมื่อเจ้าของพระราชวัง Stanisław Kostka Potocki และภรรยาของเขา Aleksandra Lubomirska ได้สร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สาธารณะแห่งแรกๆ ในโปแลนด์ ในปี พ.ศ. 2420 พิพิธภัณฑ์ได้รับความนิยมจากสิ่งพิมพ์ชื่อ Wilanów อัลบั้ม widoków i pamiętek... เรียบเรียงโดย Hipolit Skimborowicz และ Wojciech Gerson[2] ตามมาในปี พ.ศ. 2436 โดยมีไกด์นำเที่ยวพระราชวังและของสะสมต่างๆ

ภายในพิพิธภัณฑ์ของพระราชวังนั้น  มีห้องจัดนิทรรศการชั่วคราว การประชุมและการสัมมนา ดำเนินการวิจัย ตีพิมพ์หนังสือ และจัดกิจกรรมการศึกษาเพื่ออุทิศให้กับเจ้าของพระราชวังที่อยู่อาศัย Wilanów  พิพิธภัณฑ์ได้เปลี่ยนชื่อเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังของพระเจ้าจอห์นที่ 3 ที่วิลานอฟ


6.ป้อมปราการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าวอร์ซอ(Warsaw Barbican) 


6.ป้อมปราการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าวอร์ซอ(Warsaw Barbican) 


6.ป้อมปราการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าวอร์ซอ(Warsaw Barbican) 


6.ป้อมปราการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าวอร์ซอ(Warsaw Barbican) 


6.ป้อมปราการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าวอร์ซอ(Warsaw Barbican) 



6.ป้อมปราการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าวอร์ซอ(Warsaw Barbican) 

เป็นหนึ่งในป้อมปราการสวยงามโดดเด่นตั้งอยู่ระหว่างเขตเมืองเก่าและเมืองใหม่ ป้อมปราการแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงเมือง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ป้อมวอร์ซอของเดิมได้ถูกทำลายลงไป  และได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่

Warsaw Barbican ( หรือที่ภาษาโปแลนด์: barbakan warszawski) เป็น barbican (ด่านที่มีป้อมปราการเป็นรูปครึ่งวงกลม) ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ และเป็นหนึ่งในโบราณวัตถุไม่กี่แห่งที่หลงเหลืออยู่ของเครือข่ายป้อมปราการทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนซึ่งครั้งหนึ่งเคยล้อมรอบกรุงวอร์ซอ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ


สำหรับป้อมปราการบาร์บิกันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1540 แทนที่ประตูเก่าเพื่อปกป้องถนน Nowomiejska ได้รับการออกแบบโดย Jan Baptist the Venetian สถาปนิกชาวอิตาลียุคเรอเนซองส์ที่อาศัยและทำงานในภูมิภาค Mazowsze ของโปแลนด์ในศตวรรษที่ 16 และมีบทบาทสำคัญในการออกแบบกำแพงเมืองในศตวรรษที่ 14 ใหม่ ซึ่งในเวลานั้นได้ทรุดโทรมลง ชาวบาร์บิกันมีรูปแบบในการก่อสร้างป้อมปราการครึ่งวงกลมสามระดับที่บรรจุโดยนักหลอม มีความกว้าง 14 เมตร สูง 15 เมตรจากก้นคูน้ำซึ่งล้อมรอบกำแพงเมือง และยื่นออกมาจากกำแพงด้านนอก 30 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นป้อมการที่แข็งแกร่ง มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นยิ่งนัก


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 


7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 



7.พระราชวังลาเซียนกี้ (The Royal Łazienki Palace) 

หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Palace on the Isleล เป็นหนึ่งในพระราชวังบนเกาะ (โปแลนด์: Pałac Na Wyspie) หรือที่รู้จักกันในชื่อพระราชวังบาธ (โปแลนด์: Pałac Łazienkowski) เป็นพระราชวังแบบคลาสสิกใน Royal Baths Park ในกรุงวอร์ซอ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเมืองวอซอร์ โดยมีครอบคลุมพื้นที่กว่า 76 เฮกตาร์จากใจกลางเมือง

ตั้งแต่ปี 1674 พระราชวังลาเซียนกี้ และปราสาท Ujazdów ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันเป็นของเจ้าชาย Stanisław Herakliusz Lubomirski ผู้สร้างโรงอาบน้ำสไตล์บาโรกหรือที่เรียกว่า ลาเซียนกา "Łazienka" ซึ่งมีการตั้งชื่อคล้ายกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ของยุโรป รวมทั้งเมืองบาธของอังกฤษ อาคารหลังนี้สร้างขึ้นบนผังสี่เหลี่ยม ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยปูนปั้น รูปปั้น และภาพวาด การตกแต่งดั้งเดิมและรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมบางส่วนยังคงอยู่


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)



8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)




8.จุดชมวิวพาโนราม่าที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of culture and Science)


หากต้องการชมวิวกรุงวอซอร์ได้แบบ 360 องศา แนะนำให้ไปที่อาคารตึกพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ เป็นอาคารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศโปแลนด์ ด้วยความสูงถึง 237 เมตร ตัวอาคารสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1952 – 1955 และอาคารให้นี้ไม่ได้เป็นพระราชวัง แต่อย่างได้ แต่ด้วยความหรูหราของตึกและอาคารที่ความโดดเด่นและสวยงามสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เป็นอาคารที่ดูเหมือนพระราชวัง จึงตั้งชื่อว่า Palace และด้านในอาคารประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ห้องสมุด และที่น่าสนใจที่สุดคือเทอเรซสำหรับชมวิวเมืองวอร์ซอ ซึ่งจุดชมวิวที่พระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์แห่งนี้นับว่าเป็นจุดชมวิวมุมสูงแบบพาโนรามาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองวอร์ซอ


ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดเป็นอันดับหกในสหภาพยุโรปและเป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป  เมื่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1955 และยังเป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก โดยคงตำแหน่งไว้จนถึงปี พ.ศ. 2504 นอกจากนี้ยังเป็นหอนาฬิกาที่สูงที่สุดในโลกในช่วงสั้นๆ อีกด้วย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 จนถึงปี พ.ศ. 2545 การติดตั้งกลไกนาฬิกาบนอาคาร NTT Docomo Yoyogi ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น


โดยตัวอาคารได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์โปแลนด์และอาคารสูงระฟ้าสไตล์อาร์ตเดโคของอเมริกา ออกแบบโดย Lev Rudnev สถาปนิกชาวโซเวียตรัสเซียในสไตล์ "Seven Sisters ซึ่งความสวยงามโอ่อ่าและโดดเด่นเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงวอซอร์ 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 


9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 



9.ถนนนิวเวิร์ดสตรีท ถนนคนเดินสายช็อปปิ้งแสนสวยในวอซอร์ (Nowy Swiat (New World) Street in Warsaw, Poland) 

สำหรับถนนคนเดินนิวเวิรด์สตรีท หรือโนวี่ สเวียต  Nowy Świat (การออกเสียงภาษาโปแลนด์: รู้จักในภาษาอังกฤษในชื่อ New World Street เป็นหนึ่งในเส้นทางถนนสัญจรสายประวัติศาสตร์สายหลักของวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ประกอบด้วยส่วนหนึ่งของเส้นทางหลวง (Trakt królewski) ที่ทอดยาวจาก Royal Castle ของวอร์ซอและเมืองเก่า ทางใต้สู่ King ที่ประทับของราชวงศ์ John III Sobieski ในศตวรรษที่ 17 ที่ Wilanów


โดยถนนNowy Świat เป็นถนนที่ตัดผ่านจากจัตุรัส Three Crosses Square ไปทางเหนือ ตัดกับถนน Jerusalem Avenue และถนน Świętokrzyska (ถนน Holy Cross) ใกล้กับวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยวอร์ซอและอนุสาวรีย์ Nicolaus Copernicus เปลี่ยนเป็น Krakowskie Przedmieście (ถนนชานเมือง Cracow) ซึ่งทอดยาวไปจนถึง Royal Castle ที่ Castle Square ที่ทางใต้สุดที่จัตุรัส Three Crosses Nowy Świat เปลี่ยนเป็นถนน Ujazdów ซึ่งเปลี่ยนเป็นถนน Belweder ซึ่งกลายเป็นถนน Sobieski ขณะที่ยังคงแล่นไปทางใต้ และในที่สุดก็มาถึง Wilanów


ในช่วงการจลาจลในกรุงวอร์ซอ (สิงหาคม-ตุลาคม พ.ศ. 2487) ถนนคนเดิน New World street ได้ถูกทำลายเกือบทั้งหมด ชาวเยอรมันลดจำนวนอาคารที่สวยงามส่วนใหญ่ลงเนื่องจากเป็นถนนสายสำคัญที่สุดสายหนึ่งในใจกลางกรุงวอร์ซอ และเมื่อสงครามสิ้นสุดลง มีการตัดสินใจที่จะสร้าง Nowy Świat ขึ้นใหม่ เนื่องจากการฟื้นฟูสภาพอาร์ตนูโวก่อนสงครามอาจเป็นสิ่งต้องห้าม จึงถูกเปลี่ยนกลับไปสู่รูปลักษณ์ภายนอกของต้นศตวรรษที่ 19 การฟื้นฟูถนนหลังสงครามนี้กำกับโดยสถาปนิก Zygmunt Stępiński ปัจจุบัน Nowy Świat มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟมากมาย ถือเป็นทำเลทองสำหรับร้านค้าปลีกระดับหรูมากมาย หลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและย่านช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของกรุงวอซอร์ ที่ต้องแวะมาเช็คอินและเดินหาซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับไป


10.สวนสาธารณะแซกซอน (Saxon Garden)  


10.สวนสาธารณะแซกซอน (Saxon Garden)  


10.สวนสาธารณะแซกซอน (Saxon Garden)  


10.สวนสาธารณะแซกซอน (Saxon Garden)  


10.สวนสาธารณะแซกซอน (Saxon Garden)  


10.สวนสาธารณะแซกซอน (Saxon Garden)  


10.สวนสาธารณะแซกซอน (Saxon Garden)  

เป็นสวนสาธารณะขนาด 15.5 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ หันหน้าไปทางจัตุรัส Piłsudski เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง โดยสวนสาธารณะแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในปี ค.ศ.1727 โดยเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของโลกที่มีรถโดยสารสาธาณะผ่านและให้บริการแก่นักเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมสวน


เดิมทีเป็นสวนสาธารณะสไตล์บาโรกฝรั่งเศส ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 19 ได้กลายเป็นสวนภูมิทัศน์สไตล์อังกฤษโรแมนติก และหลังจากนั้นก็ถูกทำลายลงในช่วงระหว่างสงครามโลกและหลังการจลาจลในกรุงวอร์ซอ จนกระทั้งได้รับการสร้างขึ้นใหม่บางส่วนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง


และสำหรับข้อมูลแนะนำที่เที่ยวในเมืองวอซอร์ เมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ ที่ได้นำเสนอไว้ในบทความบล็อกนี้ น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ..........จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น