แบ่งปันรีวิวนั่งเรือจากกรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ไปเมืองเฮงซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ตามไปดูสิว่าบนเรือเฟอรี่มีบริการอะไรให้บ้าง |
สวัสดีค่ะเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร ออนซอนหัวใจทุกๆคน หลังจากที่บทความก่อนหน้าได้พาไปเที่ยวเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในกรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดนไปแล้ว ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2024/08/Backpack-travel-Stockholm-sweden.html
ในบทความนี้ก็ได้เวลาที่จะต้องเดินทางออกจากประเทศสวีเดน เพื่อนเดินทางไปเที่ยวต่อที่ประเทศฟินแลนด์แล้วล่ะค่ะ
และการเดินทางจากประเทศสวีเดนไปประเทศฟินแลนด์นั้น ส่วนใหญ่มักจะเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสาร เพราะว่าใช้เวลาที่รวดเร็วกว่า แต่อีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน นั้นก็คือการเดินทางด้วยเรือเฟอรี่ค่ะ แม้จะเป็นการใช้เวลาเดินทางที่ยาวนานมากถึง 17 ชั่วโมง แต่ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางในรูปแบบใหม่ เพราะจะได้ใช้บริการในการนอนในเรือและใช้บริการอื่นๆบนเรือ อีกทั้งยังได้ชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลระห่าง ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศเดินทางไปในตัวค่ะ
และเพื่อไม่ให้เสียเวลา วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอใช้เวลาหลังเลิกงานประจำก่อนเข้านอน มาแบ่งปันรีวิวภาพการเดินทางด้วยเรือเฟอรี่จากท่าเรือกรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ไปยังกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์มาให้เพื่อนๆได้ดูกันค่ะ
เผื่อว่าเพื่อนๆคนใหน ที่กำลังปักหมุดแบกเป้คนเดียวไปเที่ยวประเทศฟินแลนด์ หรือประเทศสวีเดน และกำลังจะวางแผนอยู่ว่าจะเดินทางจากสวีเดนไปฟินแลนด์หรือเครื่องบิน หรือว่านั่งเรือเฟอรี่ไปดี ก็ลองดูภาพรีวิวและนำไปประกอบการตัดสินใจกันได้นะคะ
หวังว่าน่าจะเป็นอีกแนวทางสำหรับเพื่อนๆที่จะเดินทางด้วยเรือเฟอรี่จากสวีเดน ไปเที่ยวฟินแลนด์อยู่บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ
รอขึ้นรถบัสโดยสารหน้าหน้าสถานีรถไฟ ยืนรอไม่นานนัก รถบัสโดยสารก็มาพอดี รถโดยสารที่นี่ก็มาตรงเวลามากๆค่ะ |
ระหว่างอยู่บนรถบัสก็ต้องเปิด Google map GPS นำทางไว้ตลอด เพื่อจะได้รู้ว่าต้องลงป้ายใหน |
นั่งรถบัสหมายเลข 1 ออกจากย่านใจกลางเมือง มาไกลพอสมควร เพื่อไกลถึงป้ายรถเมล ตามที่ Google บอกเดี๊ยนก็กด กริ่งลงจากรถเลยค่ะ เมื่อลงจากรถบัสแล้ว ก็มาตั้งหลัก ดูป้ายที่จะไปยังท่าเรือเฟอรี่ต่อเลยค่ะ
ซึ่งท่าเรือจะต้องเดินไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ข้าวของสัมภาระต่างๆก็พะรุงพะรังอยู่งไม่น้อย แต่ก็ต้องแบกไปค่ะ ถือว่าเดินออกกำลังกายไปในตัว
ในวันที่เดี๊ยนไปเที่ยวนั้น ก็เป็นวันธรรมดา ทำให้ผู้คนไม่ค่อยเยอะมากนัก บรรยากาศค่อนข้างเงียบทีเดียวค่ะ
เวลาเรือออกจากสต็อกโฮล์ม 16.45 น. ไปถึงกรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ เวลา 10.30 น. ใช้เวลาทั้งสิน 17.ชั่วโมงค่ะ |
ราคาเรือเฟอรี่ที่จะเดินทางจากประเทศสวีเดนไปยังประเทศฟินแลนด์ ราคาสุทธิอยู่ที่ 147 EUR เป็นราคารวมค่าห้องนอนและภาษีแล้ว |
ลืมแจ้งไปค่ะ สำหรับใครที่มาครัั้งแรก ต้องนำตั๋วโดยสารที่ซื้อจากมือถือไปแสดงกับเจ้าหน้าที่พร้อมพาสปอร์ตด้วยนะคะ เพื่อจะได้บัตรโดยสารที่มีบาร์โค้ด
เดินเข้ามาก็จะเป็นจุดต้อนรับบนเรือก่อนเลย จะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แนะบอกทางที่จะไปยังห้องพักค่ะ |
หมายเลขห้องของเดี๊ยนอยู่สุดปลายทางเลยค่ะ เพราะอยู่ห้อง 5943 ซึงตามแผนที่คืออยู่สุดผนังด้า่นซ้ายมือเลย
เข้ามาก็มีจุดให้วางสัมภาระกระเป๋า
ภายในห้องพักเป็นห้องขนาดเล็ก มีทั้งหมด 3 เตียงนะคะ ในภาพเหมือเห็นแค่ 2 แต่จะมีเตียงพับได้อีกอันติดอยู่กับผนังด้านซ้ายมือ สามารถเปิดพับออกมาเป็นตียงได้อีก 1 ชั้น ถือว่าคุ้มค่ากับราคา 5400 บาทสำหรับห้องนอนคนเดียว แต่ถ้าอยากได้ราคาถูกๆ แนะนำว่าจองแต่เนิ่นๆแบบหลายเดีอน ราคาจะถูกลงไปมากค่ะ
ขนาดห้องงพักไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่ก็ไม่ได้แออัดเกินไป ถือว่าสามารถนอนพักได้ดีทีเดียวค่ะ
ภายในห้องพักก็มีห้องน้ำส่วนตัวให้ ห้องน้ำก็สะอาดสะอ้านมากทีเดียวค่ะ
เดินกลับเข้ามาด้านในของจุดเช็คอิน เริ่มเห็นผู้โดยสารบนเรือ ออกมาหาอะไรทานและช็อปปิ้งกันเยอะขึ้นเรื่อยๆค่ะ
มีตู้คาสิโน่หรือตู้เกมส์สล็อตให้เสียเงินเพื่อเสี่ยงโชคกันด้วย
เดินมาหน่อยก็เป็นร้านขายเครื่องสำอาง ขายกระเป๋า อารมณ์แบบ Duty Free shop เลยค่ะ
แต่ที่เดี๊ยนชอบที่สุด เห็นจะเป็นบริเวณด้านบนดาดฟ้าของเรือ เพราะอากาศเย็นสบายๆมาก ขึ้นมาบนเรือแล้ว เหมือนมารับลมหนาวๆเหมือนอยู่บนดอยอินทนนท์
เดินลงกลับมายังจุดประชาสัมพันธ์ ก็มาหาอะไรทานตอนเย็ฯ เดี๊ยนเลยเลือกทานปลาซามอล ราคาประมาณ 10 ยูโรกว่าๆค่ะ ซึ่งราคาอาหารบนเรือ ถือว่าแพงพอสมควรค่ะ
และที่ขาดไม่ได้คือ ขนมปังบิสกิตรสขิง ของฝากขึ้นชื่อของกรุงสต็อกโฮล์มประเทศสวีเดน
จัดไปอีก 1 ชุด กับเครื่องสำอางที่ขายบนเรือ ราคาถูกกว่าที่เมืองไทยมากๆ เดี๊ยนเลยเสียเงินจนกระเป๋าหดไปเยอะเลยค่ะ
ซึ่งอาหารเช้าบนเรือ เป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ ราคาตกคนละ 20 ยูโร แต่ถ้าเพื่อนๆคนใหนที่จองตั๋วล่วงหน้า และต้องการทานอาหารเช้า่ด้วย ราคาจะอยู่ที่ 10 ยูโร ถูกกว่ากันครึ่งนึงเลยนะคะ
ซึ่งไลน์อาหารเช้าบนเรือ ก็มีอาหารหลากหลายอย่างให้เลือกทานเยอะแยะเลยจ้า แต่เสียดาย ไม่มีอาหารเอเชีย พวกผัดกะเพรา หรือ ข้าวมันไก่ ถ้ามีให้เลือกทานด้วย เดี๊ยนว่าน่าจะมีคนตักไปทานกันเยอะมากๆเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นขนมปังแบบต่างๆ
และที่สำคัญมีเนื้อเย็นให้เเลือก
มีปลาแซลม่อน และอาหารอื่นๆให้เลือกหลายอย่าง โดยเป็นอาหารสไตล์ตะวันตกค่ะ
ซึ่งไลน์อาหารแต่ละอย่างก็จัดแตกต่างกันออกไป
หากไม่อิ่ม ก็เดินมาตักเพิ่มได้ค่ะ
เดี๊ยนพยามเดินหาข้าวสวยบนเรือ แต่ไม่มีให้เลยต้องเลือกอย่างอื่นมาทานแทนค่ะ
ซื้ออาหารบนเรือก็เน้นไปทางซีเรียล และที่ขายดี เห็นจะเป็นปลาแซลม่อนรมควัน เพราะมีคนตักทานกันเป็นจานๆ บางคนใส่ถ้วยพูนๆก็มี ดูท่าแล้วน่าจะชอบทานปลากันมากๆ
ส่วนโต๊ะที่นั่งก็มีให้เลือกนั่งกว้างขวาง
ทานอาหารตอนเช้าไปเรือก็แล่นเข้าเขตน่านน้ำของประเทศฟินแลนด์แล้วล่ะค่ะ
ท่าเรือเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ |
ระหว่างที่เดินออกจากเรือ จะมีมาสคอสเรียกว่าเจ้า Moomin ให้ได้ถ่ายรูปกันด้วย
แบกกระเป๋าเป้เดินออกจากลำเรือไปยังอาคารท่าเรือ
จบทริป รีวิวนั่งเรือจากสวีเดน มายังกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ใช้เวลาทั้งหมด 17 ชั่วโมงค่ะ |
0 ความคิดเห็น