|
วางแผนไปเที่ยวเมืองออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์นี้ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง แนะนำแหล่งท่องเที่ยวในเมืองออสโล ที่ต้องห้ามพลาดไปเดินถ่ายรูปภาพสวยๆกันสักครั้ง |
สวัสดีเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร เว้าวอนดวงหทัย งามไฉไลเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคนค่ะ สำหรับในช่วงวันหยุดประจำปีนี้ เพื่อนๆคนในทีกำลังจะวางแผนลาพักร้อน และเดินทางไปไกลไปเที่ยวประเทศนอร์เวย์ หนึ่งในประเทศในฝันแห่งดินแดนสแกนดิเนเวีย ที่ใครหลายๆคนหมายปองปักหมุด หยุดงานไปเที่ยวกันสักครั้ง เนื่องจากเป็นประเทศที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม และมีอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี ถ้าไปเที่ยวนอร์เวย์ช่วงฤดูร้อน ก็จะไม่ร้อนมาก เรียกว่าเย็นสบายเลยทีเดียว แต่ถ้ามาเที่ยวช่วงฤดูหนาว ก็จะหนาวแบบสุดขั้ว ทั้งเมืองเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน
และในเมืองออสโล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ ก็เป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว ที่ต้องมาเดินเที่ยวชมและสัมผัสความงามของเมืองนี้กัน เพราะนอกจากเป็นศูนย์กลางแล้ว ในเมืองออสโลแห่งนี้ ยังมีเรื่องราวของประวัติศาสตร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่น่าสนใจให้ไปเช็คอินถ่ายรูปภาพอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว
ส่วนเพื่อนๆคนใหน ที่ปักหมุดมาเที่ยวเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนดี เพื่อไม่ให้บทความร้างไป หลังจากเลิกงานวันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาอัพเดทแนะนำข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองออสโล ที่สามารถเดินเท้าไปเที่ยวด้วยตัวเองได้แบบง่ายๆ เที่ยวได้อย่างสบายใจ มีดังนี้
|
แผนที่แนะนำพิกัดจุดสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ที่สามารถเดินทางไปเช็คอินถ่ายรูปภาพด้ดวยตัวเองได้ |
ซึ่งทางโรงแรมก็มีแผ่นที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจในเมืองออสโล ให้เราสามารถเดินเท้าไปเช็คอินถ่ายรูปได้ด้วยตัวเองค่ะ ส่วนจะมีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้างนั้นเมืองออสโล สรุปมาให้อ่านกันดังนี้ค่ะ
รวมสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ที่สามารถเดินเที่ยวได้ด้วยตัวเอง สรุปข้อมูลบางส่วนของที่พักในออสโส มาให้มีดังนี้
|
1.โรงละครออสโล โอเปร่า (Oslo Opera House) |
|
1.โรงละครออสโล โอเปร่า (Oslo Opera House) |
|
1.โรงละครออสโล โอเปร่า (Oslo Opera House) |
|
1.โรงละครออสโล โอเปร่า (Oslo Opera House) |
|
1.โรงละครออสโล โอเปร่า (Oslo Opera House) |
|
1.โรงละครออสโล โอเปร่า (Oslo Opera House) |
1.โรงละครออสโล โอเปร่า (Oslo Opera House)
หนึ่งที่เที่ยวในเมืองออสโล เป็นจุดเช็คอินและสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อถ่ายรูปภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งในเมืองออสโล เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟใจกลางเมือง อาคารหลังนี้ตั้งอยู่ในย่านBjørvika ใจกลางออสโล ตรงส่วนหัวของออสโลฟจอร์ด ดำเนินการโดย Statsbygg ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลที่จัดการทรัพย์สินให้กับรัฐบาลนอร์เวย์ โครงสร้างประกอบด้วยห้อง 1,100 ห้องในพื้นที่ทั้งหมด 49,000 ตร.ม. (530,000 ตารางฟุต)[2] หอประชุมหลักรองรับได้ 1,364 ที่นั่ง และอีกสองพื้นที่แสดงสามารถรองรับได้ 200 และ 400 ที่นั่ง เวทีหลักกว้าง 16 ม. (52 ฟุต) และลึก 40 ม. (130 ฟุต) พื้นผิวด้านนอกที่ทำมุมของอาคารปูด้วยหินอ่อนจากคาร์รารา ประเทศอิตาลี และหินแกรนิตสีขาว ทำให้ดูเหมือนลอยขึ้นมาจากน้ำ เป็นอาคารทางวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างขึ้นในประเทศนอร์เวย์
|
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) |
|
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) |
|
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) |
|
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) |
|
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) |
|
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) |
|
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) |
|
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress) |
2.ป้อมปราการอาเคร์สฮูส (Akershus Fortress)
สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวออสโลครั้งแรก อยากสัมผัสประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ แนะนำมาเที่ยวชมป้อมปราการที่ปราสาทอาเคร์ฮูส ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านใจกลางเมือง โดยตัวป้อมปราการด้านในเป็นปราสาทยุคกลางในเมืองหลวงออสโลของนอร์เวย์ ที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องและเป็นที่ประทับของราชวงศ์ในเมือง ตั้งแต่ยุคกลาง และป้อมปราการจึงเป็นชื่อเดียวกันและเป็นศูนย์กลางของศักดินาหลักและเขตหลักในเวลาต่อมาคือ Akershus ซึ่งแต่เดิมเป็นหนึ่งในสี่ภูมิภาคหลักของนอร์เวย์ และรวมพื้นที่ส่วนใหญ่ของนอร์เวย์ตะวันออกด้วย
ป้อมปราการแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในเทศมณฑลหลัก Akershus จนถึงปี 1919 และยังอยู่ในเทศมณฑลย่อย Akershus ที่เล็กกว่าจนถึงปี 1842 ปราสาทแห่งนี้ยังใช้เป็นฐานทัพทหาร เรือนจำ และปัจจุบันเป็นสำนักงานชั่วคราวของนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์
|
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo) |
|
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo) |
|
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo) |
|
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo) |
|
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo) |
|
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo) |
|
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo) |
|
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo) |
3.พระราชวังหลวงกรุงออสโล (Royal Palace, Oslo)
พระราชวังหลวง (นอร์เวย์: Slottet หรือ Det kongelige slott) ในออสโล สร้างขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งนอร์เวย์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จอห์น ซึ่งประสูติในฝรั่งเศส ซึ่งครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งนอร์เวย์และสวีเดน โดยพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของกษัตริย์นอร์เวย์องค์ปัจจุบัน ในขณะที่มกุฏราชกุมารประทับอยู่ที่ Skaugum ใน Asker ทางตะวันตกของออสโล พระราชวังตั้งอยู่ที่ปลายสุดของประตูคาร์ล โยฮันส์ ในใจกลางออสโล และล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะพระราชวัง โดยมีจัตุรัสพระราชวังอยู่ด้านหน้า ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงและจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวต้องเดินทางมาเช็คอินกัน
|
4.สวนสาธารณะฟรอกเนอร์ (Frogner Park) |
|
4.สวนสาธารณะฟรอกเนอร์ (Frogner Park) |
|
4.สวนสาธารณะฟรอกเนอร์ (Frogner Park) |
|
4.สวนสาธารณะฟรอกเนอร์ (Frogner Park) |
4.สวนสาธารณะฟรอกเนอร์ (Frogner Park)
อีกหนึ่งสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงของกรุงออสโล ที่นักท่องเที่ยวต้องเดินทางมาถ่ายรูปกัน สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอดีตของ Frogner Manor และเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในออสโล ซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ตลอดเวลา ประกอบด้วยคฤหาสน์ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ออสโล, ศาลา Henriette Wegner Pavilion ที่อยู่ใกล้เคียง, การจัดแสดงประติมากรรมใน Vigeland (นอร์เวย์: Vigelandsanlegget) ที่สร้างโดยประติมากร Gustav Vigeland, Frogner Baths, สนามกีฬา Frogner, Frognerparken Café, ร้านอาหาร Herregårdskroen และร้านที่ใหญ่ที่สุด รวบรวมดอกกุหลาบในประเทศ 14,000 ต้น 150 สายพันธุ์ Frogner Park เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในนอร์เวย์อีกด้วย หากใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวในออสโลครั้งแรก ก็ไม่พลาดมาเดินเที่ยวชมสวนฟรอกเนอร์กัน
|
5.โบสถ์เก่าเมืองออสโล (Oslo Cathedral) |
|
5.โบสถ์เก่าเมืองออสโล (Oslo Cathedral) |
|
5.โบสถ์เก่าเมืองออสโล (Oslo Cathedral) |
|
5.โบสถ์เก่าเมืองออสโล (Oslo Cathedral) |
5.โบสถ์เก่าเมืองออสโล (Oslo Cathedral)
วิหารที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับสถานีรถไฟและย่านการค้า (นอร์เวย์: Vår Frelsers kirke) - เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรแห่งนอร์เวย์สังฆมณฑลแห่งออสโล โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1694 ถึง 1697
ภายในโบสถ์อาสนวิหารออสโลในปัจจุบันเป็นอาสนวิหารแห่งที่สามในเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ แห่งแรกคืออาสนวิหารฮอลวาร์ดส์ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าซีเกิร์ดที่ 1 แห่งนอร์เวย์ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 12 และตั้งอยู่ข้างพระราชวังโอลด์บิชอปในออสโล ห่างจากอาสนวิหารในปัจจุบันไปทางตะวันออกประมาณ 1.5 กิโลเมตร (0.93 ไมล์)
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
|
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping) |
6.ถนนคาร์ล โยฮันส์ ถนนคนเดินช็อปปิ้งในกรุงออสโล (Karl Johans gate street shopping)
อีกหนึ่งเส้นถนนสายช็อปปิ็งมีชื่อเสียงในกรุงออสโล โดยประตูคาร์ล โยฮันส์เป็นถนนสายหลักของเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ถนนสายนี้ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จอห์น ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งสวีเดนในชื่อชาร์ลส์ที่ 14 จอห์น
ประตูคาร์ล โยฮันส์ประกอบด้วยถนนเก่าแก่หลายสายซึ่งเคยเป็นทางสัญจรแยกจากกัน ส่วนด้านตะวันออกเป็นส่วนหนึ่งของเมืองดั้งเดิมของพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 ใกล้กับเชิงเทินที่ล้อมรอบเมือง เมื่อกำแพงถูกถอดออกเพื่อหลีกทางให้กับอาสนวิหารออสโล สามส่วนที่แยกจากกันก็กลายเป็น Østre Gade ในที่สุด
|
7.Norway National museum พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินอร์เวย์ เมืองออสโล |
|
7.Norway National museum พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินอร์เวย์ เมืองออสโล |
|
7.Norway National museum พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินอร์เวย์ เมืองออสโล |
|
7.Norway National museum พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินอร์เวย์ เมืองออสโล |
7.Norway National museum พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินอร์เวย์ เมืองออสโล
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งรวบรวมคอลเล็กชันศิลปะ สถาปัตยกรรม และการออกแบบสาธารณะของรัฐนอร์เวย์ คอลเลกชันมีผลงานมากกว่า 400,000 ชิ้น หนึ่งในนั้นคือสำเนาชุดแรกของ The Scream ของ Edvard Munch จากปี 1893 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นของรัฐและบริหารจัดการโดยกระทรวงวัฒนธรรมของนอร์เวย์
โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินอร์เวย์นั้น เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 โดยการควบรวมระหว่างพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์ศิลปะอุตสาหกรรม พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย พิพิธภัณฑ์ศิลปะและการออกแบบมัณฑนศิลป์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย และหอศิลป์แห่งชาตินอร์เวย์ ในปี 2022 พิพิธภัณฑ์ได้เปิดอาคารใหม่ที่ Vestbanehallen ใจกลางออสโล ซึ่งเป็นที่รวบรวมคอลเล็กชั่นของสะสมทั้งหมดจากพิพิธภัณฑ์ก่อนหน้านี้เหล่านี้มารวมไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้
|
8.พิพิธภัณฑ์ มุงก์ ออสโล The Munch Museum, Oslo |
|
8.พิพิธภัณฑ์ มุงก์ ออสโล The Munch Museum, Oslo |
|
8.พิพิธภัณฑ์ มุงก์ ออสโล The Munch Museum, Oslo |
|
8.พิพิธภัณฑ์ มุงก์ ออสโล The Munch Museum, Oslo |
|
8.พิพิธภัณฑ์ มุงก์ ออสโล The Munch Museum, Oslo |
8.พิพิธภัณฑ์ มุงก์ ออสโล The Munch Museum, Oslo
พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ของกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ที่ออกแบบโดย Estudio Herreros สตูดิโอออกแบบสถาปัตยกรรมสัญชาติสเปนแห่งนี้ คือพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับศิลปินลัทธิสำแดงพลังอารมณ์ (Expressionism) คนดังชาวนอร์สอย่าง เอ็ดวาร์ด มุงค์ ซึ่งที่นี่ก็จะเป็นสถานที่จัดแสดงคอลเลกชันศิลปะของมุงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย แต่เดิมพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่ Tøyen ซึ่งเปิดในปี 1963 ต่อทางพิพิธภัณฑ์ได้ย้ายไปที่อาคารพิพิธภัณฑ์ใหม่ที่ Bjørvika ซึ่งเปิดในวันที่ 22 ตุลาคม 2021
นอกจากนี้แล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ยังรวมถึงเป็นที่จัดแสดงผลงานก้องโลกอย่าง The Scream ด้วย . Munch Museum มีพื้นที่ถึง 26,000 ตารางเมตร ซึ่งด้านในใหญ่กว่าพิพิธภัณฑ์เอ็ดวาร์ด มุงค์ ที่เดิมถึง 5 เท่า และตัวตึกอาคารก็มีความสูงถึง 13 ชั้น โดยชั้นบนสุดจะเป็นจุดชมวิวที่เปิดให้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของกรุงออสโลที่เป็นแรงบันดาลใจให้มุงค์สร้างผลงานออกมา โดยสามารถมองเห็นภูเขาและ Oslo fjord ที่เป็นฉากหลังในภาพ The Scream ฉบับต้นกำเนิดด้วย
|
9.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยออสโล (Natural History Museum at the University of Oslo) |
|
9.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยออสโล (Natural History Museum at the University of Oslo) |
|
9.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยออสโล (Natural History Museum at the University of Oslo) |
|
9.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยออสโล (Natural History Museum at the University of Oslo) |
|
9.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยออสโล (Natural History Museum at the University of Oslo) |
|
9.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยออสโล (Natural History Museum at the University of Oslo) |
|
9.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยออสโล (Natural History Museum at the University of Oslo) |
9.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยออสโล (Natural History Museum at the University of Oslo)
เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์ ตั้งอยู่ในย่านTøyen ในออสโล ประเทศนอร์เวย์ รายละเอียดนิทรรศการอะพอลโล 17 จากพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา จัดแสดงหินพระจันทร์ และพื้นที่ประดับธงชาตินอร์เวย์ มีต้นกำเนิดมาจากสวนพฤกษศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งก่อตั้งขึ้นใกล้กับคฤหาสน์ Tøyen ในปี 1814
พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสัตววิทยา พฤกษศาสตร์ และธรณีวิทยาถูกเพิ่มเข้ามาในอีกประมาณหนึ่งร้อยปีต่อมา เมื่อวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยในออสโลตอนกลางมีขนาดเล็กเกินไปสำหรับจุดประสงค์ดังกล่าว ผู้เสนอหลักคือ วัลเดมาร์ คริสโตเฟอร์ บรอกเกอร์ และนอร์ดัล วิลเลอ ในช่วงศตวรรษที่ 20 พิพิธภัณฑ์และสวนพฤกษศาสตร์ส่วนใหญ่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยแบ่งออกเป็น 5 หน่วยงานที่แตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้ถูกรวมเข้าด้วยกันเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2542 ชื่อปัจจุบันเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548
และสำหรับข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองออสโล ฉบับแบกเป้เดินเที่ยวได้ด้วยตัวเอง ที่ได้นำเสนอ แนะนำไว้ในบทความบล็อกนี้ น่าจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังวางแผนไปเที่ยวประเทศนอร์เวย์ และจะไปเดินเที่ยวเมืองออสโลได้เลือกไปเที่ยวกันอยู่ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าว มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยไว้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาคลิ๊กเปิดสไลด์เลื่อนอ่านกันค่ะ.....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
0 ความคิดเห็น