Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

ท่องแดนไทยไปต้องรู้ดู ตรอกบ้านจีน ชุมชนโบราณอายุกว่า 100 ปี ในเมืองระแหง ที่ใครก็ต้องปักลายแทงมาเช็คอินกัน

เที่ยวทั่วไทยไปให้รู้ในวันนี้ ขอนำเสนอสาระเกี่ยวกับ ตรอกบ้านจีน ชุมชนเก่าแก่โบราณอีกแห่งในเมืองตาก ที่ใครก็ไม่พลาดไปเที่ยวชมสถาปัตยกรรมบ้านเรือนไม้ที่นี่สักครา


ก็ขอสวัสดีคุณผู้อ่าน รวมทั้งเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกๆคนค่ะ กลับมาพบกับเช่นเคยนะคะ กับบทความบล็อกสาระน่ารู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั่วฟ้าเมืองไทย ที่จะนำมาให้อ่านฆ่าเวลากัน หลังจากที่บทความก่อนหน้าได้พาไปเที่ยวชมวัดเก่าแก่บนภูเขาแห่งลุ่มน้ำสะแกกรังกันไปแล้ว วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาลัดเลาะจากภาคกลาง เดินทางมายังภาคตะวันตกของไทยไปเที่ยวเมืองระแหง แวะไปรู้จัก "ตรอกบ้านจีน" อีกหนึ่งย่านชุมชนเก่าแก่โบราณที่ยังอนุรักษ์เสน่ห์ของบ้านเรือนไม้เอาไว้ให้ชมอย่างน่าสนใจ ใครมาเที่ยวเมืองนี้ ก็ไม่พลาดมาเดินเช็กอินเที่ยวถ่ายรูปที่ตรอกถนนเส้นนี้กันสักครั้ง 


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ตรอกบ้านจีน อำเภอเมือง จังหวัดตาก (Trog Ban Chin Historical, Tak Province)

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ตรอกบ้านจีน อำเภอเมือง จังหวัดตาก (Trog Ban Chin Historical, Tak Province)


สำหรับ ตรอกบ้านจีน เป็นชุมชนตรอกเล็กๆในอดีตเคยเป็นย่านค้าขายที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ถนนตากสิน ใกล้วัดสีตลาราม ตำบลระแหง อำเภอเมือง จังหวัดตาก  ซึ่งเป็นย่านชุมชนเก่าแก่โบราณอายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง เคยเป็นท่าเรือสำคัญเชื่อมกึ่งกลางระหว่างเชียงใหม่กับปากน้ำโพ ชาวชุมชนได้ทำการค้าขายจนมีฐานะ สามารถสร้างบ้านเรือนไม้ทรงไทยปั้นหยา ประดับลวดลายไม้แกะสลัก ซึ่งทุกวันนี้ยังคงเก็บรักษาไว้เป็นมรดกทางวิถีชุมชนของท้องถิ่น และยังมีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่งดงามอยู่คู่กับชุมชนแห่งนี้ และสิ่งที่ไม่พลาดเลยเมื่อมาเยือนชุมชนแห่งนี้ มีอาหารชวนชิมประจำชุมชนได้แก่ ผัดไทยสูตรโบราณขนานแท้ที่ขายกันมากว่า 50 ปี ให้ได้ลิ้มลองทานกันอีกด้วย 

ชุมชนที่มาก่อร่างสร้างตัวที่นี่ก็เป็นชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ จึงได้ชื่อว่า ตรอกบ้านจีน โดยมีชาวจีนชื่อ "จีนเต็ง"

ส่วนชุมชนที่มาก่อร่างสร้างตัวที่นี่ก็เป็นชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ จึงได้ชื่อว่า ตรอกบ้านจีน โดยมีชาวจีนชื่อ "จีนเต็ง" ซึ่งอพยพเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ มาทำการค้าขายไปถึงเชียงใหม่ และได้ขยายกิจการลงมาถึงเมืองตาก ได้เข้าหุ้นส่วนค้าขายกับพ่อค้าจีนอีกสองคนชื่อ "จีนบุญเย็น" และ "จีนทองอยู่


ตรอกบ้านจีนในสมัยก่อน มีอยู่ด้วยกัน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านเสาสูง หมู่บ้านปากคลองน้อยและหมู่บ้านบ้านจีน

และแม้ว่าปัจจุบันนี้บรรยากาศความคึกคักของชุมชนค้าขายอาจไม่หลงเหลือให้เห็นแล้วก็ตามก แต่ตรอกบ้านจีนก็ยังคงมีบ้านเก่าที่ได้รับการรักษาสภาพเดิมให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม ท่ามกลางสายลมแห่งวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ตรอกบ้านจีนในสมัยก่อน มีอยู่ด้วยกัน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านเสาสูง หมู่บ้านปากคลองน้อยและหมู่บ้านบ้านจีน ต่อมาปี พ.ศ. 2495 ทางเทศบาลได้รื้อสะพานทองและถมเป็นถนน และได้เริ่มมีรถยนต์ใช้ อย่างไรก็ตาม ในย่านตรอกบ้านจีนนั้น เริ่มซบเซาลงหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2484 ร้านค้าที่เคยเปิดกันอย่างคึกคักก็อพยพไปอยู่ที่อื่น ตรอกบ้านจีนได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิด ชาวบ้านต้องอพยพย้ายถิ่นจึงทำให้ชุมชนเงียบเหงา และได้ปิดฉากความเจริญที่เคยคึกคักตั้งแต่นั้นมา เหลือไว้แต่ความทรงจำ และสถาปัตยกรรมบ้านไม้เก่าเท่านั้นที่ยังมีให้เห็น 


ถึงแม้ชุมชนตรอกบ้านจีนจะเงียบเหงา แต่บ้านเรือนสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ กลับทรงคุณค่า และได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองตาก

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ชุมชนตรอกบ้านจีนจะเงียบเหงา แต่บ้านเรือนสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ กลับทรงคุณค่า และได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองตาก ที่ใครก็ไม่พลาดแวะมาเที่ยวเช็กอินถ่ายรูปกัน โดยชุมชนได้รวมตัวกันดูแลรักษาฟื้นฟูและซ่อมแซมบ้านเก่าที่ยังมีอยู่ในตรอกจีนให้มีชีวิตชีวา จึงทำให้ชุมชนนี้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง และในย่านบริเวณชุมชนตรอกบ้านจีน มีบ้านที่อนุรักษ์และปรับปรุงให้เป็นแหล่งเรียนรู้เด่นๆ สำคัญให้เดินชมและเรียนรู้กันอีกด้วยได้แก่ 

1.บ้านตระกูลวงศ์เสรี เรือนหลังนี้มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเรือนไทยชั้นเดียวยกใต้ถุน ตัวเรือนใหญ่วางขนานตามตรอก ด้านหน้าถนนตรอกจีน

1.บ้านตระกูลวงศ์เสรี

1.บ้านตระกูลวงศ์เสรี เรือนหลังนี้มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเรือนไทยชั้นเดียวยกใต้ถุน ตัวเรือนใหญ่วางขนานตามตรอก ด้านหน้าถนนตรอกจีน

1.บ้านตระกูลวงศ์เสรี เดิมเป็นที่ดินของนางสาว มิ้ม โสภโณดร ได้ยกให้นายชิด นางพวง วงศ์เสรี ปลูกเรือนอยู่อาศัยใน พ.ศ. 2460 และตกทอดมาถึง นายเสรี-นางแฟง ทายาทรุ่นที่สองของตระกูล ทำการค้าขายจำพวกของชำ ยารักษาโรค เต้าเจี้ยว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวไทยที่ทำเส้นเองและเพาะถั่วงอกเอง ภายหลังขยายกิจการจนมีโรงสีข้าว ทำมาหากินอย่างขยันขันแข็งจนได้ "แหวนคนขยันของชาติ" โดยมุ่งเก็บเงินส่งลูกเรียนหนังสือ เพื่อจบมาจะได้รับราชการ ด้วยความเชื่อที่ว่า สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพญาเลี้ยง 

เรือนหลังนี้มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเรือนไทยชั้นเดียวยกใต้ถุน ตัวเรือนใหญ่วางขนานตามตรอก ด้านหน้าถนนตรอกจีน เป็นส่วนค้าขายพบปะผู้คน ประตูเป็นแบบบานเฟี้ยมสามารถเปิดด้านหน้าได้ตลอดในช่วงเวลาค้าขาย ส่วนภายในเรือนถัดไปเป็นที่อยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัว ด้านหลังเป็นยุ้งข้าวขนาดใหญ่และห้องน้ำ 

ปัจจุบันเรือนไม้ทรงไทยหลังนี้ได้รับการตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นของลูกหลานตระกูลวงศ์เสรี ซึ่งได้เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ให้เป็นสมบัติคู่ตรอกเรือนจีน จึงมีการซ่อมแซ่มและปรับปรุงเรือนหลังนี้สืบต่อมา 



2.บ้าน(จีนทองอยู่) สร้างขึ้นใน พ.ศ.2444-2446 โดยหลวงบริรักษ์ประชากร (ตังกวย)  ลักษณะสถาปัตยกรรมจะเป็นแนวผสมผสานไทยตะวันตกและจีน

2.บ้าน(จีนทองอยู่) สร้างขึ้นใน พ.ศ.2444-2446 โดยหลวงบริรักษ์ประชากร (ตังกวย)  ลักษณะสถาปัตยกรรมจะเป็นแนวผสมผสานไทยตะวันตกและจีน
2.บ้าน(จีนทองอยู่) สร้างขึ้นใน พ.ศ.2444-2446 โดยหลวงบริรักษ์ประชากร (ตังกวย)  ลักษณะสถาปัตยกรรมจะเป็นแนวผสมผสานไทยตะวันตกและจีน


2.บ้าน(จีนทองอยู่) สร้างขึ้นใน พ.ศ.2444-2446 โดยหลวงบริรักษ์ประชากร (ตังกวย)  ลักษณะสถาปัตยกรรมจะเป็นแนวผสมผสานไทยตะวันตกและจีน ทางเข้าโดดเด่นด้วยซุ้มประตูแบบตะวันตก มีบันได้โค้งเดินขึ้นด้านบน ภายในเป็นบ้านไม้เรือนทรงไทยขนาดใหญ่  ประกอบด้วยเรือนหลายหลัง ได้แก่เรือนนอนแฝด มีทางเดินผ่านกลางเรือนทั้งสอง เรือนครัว และเรือนทาส ลักษณะการวางแผนเรือนขนานตามแนวแกนถนนตรอกบ้านจีน และแนวแม่น้ำปิง และภายในบ้านมีลวดลายสลักเสลาด้วยไม้ประดับสวยงาม และมีการสะสมของเก่าของโบราณ เช่น โถกระเบื้องเคลือบ ปิ่นโต ตะเกียง เครื่องถ้วยชามโบราณ ภาพเก่าเตียงโบราณที่ใช้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เปิดให้เข้าชมและมีห้องพักไว้บริการ


3.บ้านสีฟ้า เป็นบ้านของตระกูลโสภโณดร-เหนือ
3.บ้านสีฟ้า เป็นบ้านของตระกูลโสภโณดร-เหนือ
3.บ้านสีฟ้า เป็นบ้านของตระกูลโสภโณดร-เหนือ

3.บ้านสีฟ้า เป็นบ้านของตระกูลโสภโณดร-เหนือ เป็นอาคารไม้แบบตะวันตก 2 ชั้น ทรงขนมปังขิง ขอบประตู หน้าต่าง และเชิงชายหลังคาเป็นไม้ฉลุลายโปร่งแบบตะวันตก สร้างโดยหลวงบริรักษ์ประชากร ในอดีตบ้านหลังนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองหรือข้าราชการต่างๆ ที่ต้องเดินทางโดยทางน้ำเพื่อติดต่อราชการขึ้นล่องระหว่างเชียงใหม่กับกรุงเทพมหานคร




3.ร้านจันทรประสิทธิ์โอสถ เป็นร้านมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี เจ้าของคนแรกของบ้านนึ้คือ จีนบุญจันทร์ แซ่เต็ง(สุประกอบ) เป็นชาวจีนที่อพยพเข้ามาทำมาหากินในตรอกบ้านจีนช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 4 โดยได้เปิดร้านขายยาแผนโบราณใช้ชื่อว่า “จันทรประสิทธิ์โอสถ” และมีการสืบต่อภูมิปัญญาด้านยาแผนโบราณมาจนถึงปัจจุบัน

4.บ้านของตระกูลไชยนันท์ บ้านไม้หลังใหญ่ติดป้ายพรรคประชาธิปัตย์ 

4.บ้านของตระกูลไชยนันท์ บ้านไม้หลังใหญ่ติดป้ายพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีระเบียงฉลุลายสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ของ ส.ส.เทอดศักดิ์ ไชยอนันต์ ด้านในมีห้องสมุดการเมืองที่สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้

ร้านขายผัดไทยสูตรโบราณในตรอกบ้านจีน
นอกจากนี้ในย่านชุมชนตรอกบ้านจีนยังมีสถานที่สำคัญโดดเด่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสาสูงหรือเสาโทรเลข

และนอกจากนี้ในย่านชุมชนตรอกบ้านจีนยังมีสถานที่สำคัญโดดเด่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสาสูงหรือเสาโทรเลข ที่เดินสายข้ามแม่น้ำปิงมาจากเสาที่ตั้งบนเกาะอีจอนอีกด้วย จึงทำให้บางคนเรียกตรอกบ้านจีนนี้อีกชื่อว่า ตรอกเสาสูฃ อีกทั้งยังมีวัดสำคัญของชุมชนได้แก่ วัดมะเขือแจ้ วัดสระเกศ วัดสีตลาราม รวมถึงศูนย์ราชการ ศาลากลาง ที่อยู่ใกล้เคียงกับปากตรอกทางของชุมชนบ้านจีนอีกด้วย ถือว่าได้เป็นเส้นถนนตรอกเล็กที่เป็นสายเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งของเมืองตากมากๆ

เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/ตรอกบ้านจีน

https://www.trokbanchintak.com/page-about-2/

--------------------------------------------------------------------------------

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น