สาระน่ารู้ในวันนี้ ขอนำเสนอ หอไตรกลางน้ำเก่าแก่และสวยงามที่สุด ที่วัดทุ่งศรีเมือง มาให้อ่านเป็นความรู้กันค่ะ |
สวัสดีคุณผู้อ่านและนักทัศนาจรทุกๆคนค่ะ ก็มาพบปะกันอีกแล้วนะคะกับบทความสาระน่ารู้เล็กๆน้อย ที่จะสรรหามาให้ได้อ่านกัน หลังจากที่บทความเว็ปไซต์บล็อกก่อนหน้าได้พาไปเที่ยวชม วัดจองคำ แห่งเมืองสายหมอกยามเช้า หรือเมืองแม่ฮ่องสอนกันไปแล้ว วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาไปรู้จักวัดเก่าแก่มีหอไตรกลางน้ำที่สวยที่สุดอีกแห่งของเมือง ตั้งอยู่ที่วัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ที่ใครแวะมาเที่ยวเมืองนี้ ต้องมาเช็กอินถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกัน
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ หอไตรกลางน้ำ วัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี (Scripture Hall or Library at Wat Thung Si Muang, Ubon Ratchathani) |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ หอไตรกลางน้ำ วัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี (Scripture Hall or Library at Wat Thung Si Muang, Ubon Ratchathani)
สำหรับหอไตรวัดทุ่งศรีเมือง จัดเป็นหนึ่งในหอไตรของภาคอีสานที่เก่าแก่และงดงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทยก็ว่าได้ เป็นหอไตรที่แตกต่างจากหอไตรแห่งอื่นๆ ด้วยลักษณะของศิลปะผสมระห่าง 3 สกุลช่าง คือ ไทย พม่า และลาว กล่าวคือ มีลักษณะตัวอาคารเป็นแบบไทย ประกอบด้วยเรือนฝาปะกนขนาด 4 ห้อง ผนังภายในห้องเขียนลายลงรักปิดทอง มีรูปทวารบาลอยู่ที่บานหน้าต่าง และบานประตูที่ทำด้วยไม้แผ่นเดียว ส่วนของหลังคาเป็นศิลปะไทยผสมพม่า มีช่อฟ้า ใบระกาแบบไทย ส่วนหลังคาซ้อนกันหลายชั้นเป็นศิลปกรรมแบบพม่า และลวดลายแกะสลักบนหน้าบันทั้งสองด้านเป็นลักษณะศิลปะลาวที่ทำด้วยฝีมือช่าง ชั้นสูง หอไตรแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเมื่อปี พ.ศ.2524 และได้รับรางวัลผลงานอนุรักษ์อีกด้วย
หอไตรกลางน้ำ ก่อตั้งขึ้นราวปี พ.ศ.2356 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 |
ประวัติเกี่ยวกับ หอไตรกลางน้ำ
หอไตรกลางน้ำ ตั้งอยู่ในวัดทุ่งศรีเมือง เป็นวัดสำคัญคู่ บ้านคู่เมืองอุบลราชธานีมาแต่สมัยโบราณ โดยก่อตั้งขึ้นราวปี พ.ศ.2356 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ในยุคสมัยสมเด็จกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ โดยญาครูช่าง พระสงฆ์ชาวเวียงจันทน์ มีพื้นที่ 19 ไร่ 23 ตารางวา เดิมเป็นทุ่งนา จึงได้นามว่าวัดทุ่งศรีเมืองตามประวัติกล่าวว่า ผู้สร้างวัดนี้คือท่านเจ้าคุณพระอริยวงศาจารย์ ญาณวิมล อุบลสังฆปาโมกข์ (สุ้ย หลักคำ) เจ้าคณะเมืองอุบลราชธานีรูปแรกเนื่องจากท่านเคยมาธุดงค์อยู่ ณ ที่แห่งนี้เนือง ๆ จึงได้สร้างวัดบริเวณนี้เริ่มด้วยการสร้างสิมหรือพระอุโบสถ ซึ่งเดิมเรียกว่า หอพระบาท ต่อมาจึงได้สร้างหอไตรกลางน้ำและกุฏิพระสงฆ์สามเณรขึ้นอีก
หอพระไตรปิฎก เป็นสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์พระธรรมวินัย และตำราวิชาการด้านพระพุทธศาสนา |
หอไตรมีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่าหอพระไตรปิฎก เป็นสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์พระธรรมวินัย และตำราวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ซึ่งในสมัยก่อนมีเป็นจำนวนน้อย เพราะไม่สามารถผลิตได้ทีละมาก ๆ เนื่องจากต้องคัดลอกหรือจารขึ้นด้วยมือ อาคารที่สร้างขึ้นจึงมีลักษณะมิดชิดเป็นพิเศษ โครงสร้างแข็งแรงและมีขนาดเล็ก สร้างด้วยเครื่องไม้ลักษณะเป็นเรือนไทย ส่วนใหญ่จะสร้างอยู่กลางสระน้ำ เพื่อป้องกันหนู ปลวก มด และแมลงที่จะมาทำลายหนังสือสมุดไทยหรือใบลานผูก นอกจากนี้ ไอชื้นจากสระน้ำที่อยู่ใต้อาคารและโดยรอบจะช่วยให้อาคารชุ่มเย็น เป็นการรักษาใบลานและเอกสารสำคัญให้มีอายุยืนนานกว่าปกติ ส่วนหอไตรที่สร้างบนพื้นราบนั้นมักจะทำใต้ถุนสูง ไม่มีบันได เมื่อใช้จึงจะนำบันไดมาพาดอีกทีหนึ่ง
หอไตรปิฎกลางน้ำ ได้รับยกย่องว่ามีหอไตรที่มีทรวดทรงสวยงามที่สุดในภาคอีสาน จัดเป็นหนึ่งในของดีประจำจังหวัดอุบลราชธานี |
โดยหอไตรปิฎกลางน้ำ ได้รับยกย่องว่ามีหอไตรที่มีทรวดทรงสวยงามที่สุดในภาคอีสาน จัดเป็นหนึ่งในของดีประจำจังหวัดอุบลราชธานี ดังมีคำกล่าวว่า พระบาทวัดกลาง พระบางวัดใต้ หอไตรวัดทุ่ง นอกจากหอไตร
เป็นเรือนไทยฝาไม้ปะกนแบบเรือนไทยภาคกลางขนาด 4 ห้อง สร้างด้วยไม้เนื้อแข็งอย่างดี ลังคาเป็นชั้นซ้อนกัน 6 ชั้น ลดหลั่นกันเป็นลำดับ |
ลักษณะเด่นโดยทั่วไปของหอไตรนั้น เป็นเรือนไทยฝาไม้ปะกนแบบเรือนไทยภาคกลางขนาด 4 ห้อง สร้างด้วยไม้เนื้อแข็งอย่างดี ตั้งอยู่กลางสระน้ำ มีใต้ถุนสูง กว้างประมาณ 8.20 เมตร ยาว 9.85 เมตร สูงจากพื้นน้ำถึงยอดหลังคาประมาณ 10 เมตร หลังคาเป็นชั้นซ้อนกัน 6 ชั้น ลดหลั่นกันเป็นลำดับและจำหลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจงด้วยช่อฟ้า หางหงส์ โดยเฉพาะคันทวยแกะสลักเป็นรูปเทพนมและนาค ไม้ด้านล่างของฝาปะกนแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ภายในกรอบสี่เหลี่ยมบานประตูหน้าต่างเขียนลายรดน้ำ ภายในทำเป็นห้องสำหรับเก็บพระไตรปิฎกและใบลาน ผนังห้องเขียนลายรดน้ำเช่นเดียวกัน นับเป็นอาคารที่มีความสมบูรณ์แบบและลงตัวอย่างยิ่งในด้านสถาปัตยกรรมและ ศิลปะและด้วยเหตุที่สร้างอยู่กลางสระ จึงดูเด่นเป็นสง่าและสงบร่มเย็น ไม่ว่าจะมองจากด้านใด ก็ยังคงความสวยงามไว้อย่างดีเยี่ยม
หอไตรวัดทุ่งศรีเมืองได้รับการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง คนถึงปี พ.ศ.2517 กรมศิลปากรจัดงบประมาณมาสนับสนุนในการบูรณะอีก ตัวอาคารส่วนรวมจึงมีสภาพดีและอยู่เป็นศรีเมืองอุบลราชธานีมาตราบเท่าทุก วันนี้
นอกจากหอไตรปิฎกกลางน้ำแล้ว ยังมีหอพระบาทหรือโบสถ์ซึ่งสร้างในยุคสมัยเดียวกัน |
นอกจากหอไตรปิฎกกลางน้ำแล้ว ยังมีหอพระบาทหรือโบสถ์ซึ่งสร้างในยุคสมัยเดียวกัน ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามควรชม ซึ่งจำลองพระพุทธบาท ให้คนได้กราบไหว้ ภายในพระอุโบสถหอพระพุทธบาท เป็นที่ประดิษฐาน พระเจ้าใหญ่องค์เงิน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่ชาวเมืองอุบลฯให้ความเคารพศรัทธา
และจุดเด่นที่น่าสนใจดึงดูดต่อผู้มาเยือนคือเป็นหอพระพุทธบาทที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมผสมระหว่างศิลปะเวียงจันทน์ |
และจุดเด่นที่น่าสนใจดึงดูดต่อผู้มาเยือนคือเป็นหอพระพุทธบาทที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมผสมระหว่างศิลปะเวียงจันทน์ และศิลปะรัตนโกสินทร์ เพื่อประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองจากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ส่วนที่เป็นศิลปะแบบเวียงจันทน์ ได้แก่ โครงสร้างช่วงล่าง เช่น ฐานเอวขันธ์ บันไดจระเข้ และเฉลียงด้านหน้า ส่วนที่เป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ได้แก่ช่วงบน เช่น ช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ ภายในหอพระบาทมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ทั้ง 4 ด้าน เป็นภาพเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติ ภาพวิถีชีวิตของผู้คนพลเมืองทั้งชาวไทย และชาวจีนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ และชีวิตผู้คนภายในรั้ววัง รวมทั้งภาพอาคารสถาปัตยกรรมแบบจีน อันเป็นศิลปะที่นิยมสร้างกันมากในสมัยรัชกาลที่ 3
ภายในหอพระบาทมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ทั้ง 4 ด้าน เป็นภาพเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติ ภาพวิถีชีวิตของผู้คนพลเมืองทั้งชาวไทย |
สำหรับหอพระพุทธบาทสร้างโดยให้ครูช่างชาวเวียงจันทน์ เป็นช่างดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งมีความกว้าง 6 เมตร ยาว 13 เมตร หลังคาทรงไทยศิลปะเวียงจันทร์ ต่อมาได้พูนดินบริเวณลานหอพระพุทธบาท เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมในฤดูฝน โดยได้สร้างเป็นเขื่อนกำแพงแก้วหอพระพุทธบาท มีสองชั้นรอบๆพระพุทธบาท ขนาดกว้าง 23 เมตร ยาว 32 เมตร พูนให้สูงเหมือนเป็นฐานรองรับหอพระพุทธบาท โดยได้ขุดเอาดินมาจาดสระด้านทิศเหนือ ซึ่งมีขนาดกว้าง 13 เมตร ยาว 24 เมตร ลึก 3 เมตร ซึ่งสระนี้ ต่อมาภายหลังได้สร้างหอไตรไว้กลางน้ำ จึงได้ ซื่อว่า "สระหอไตร"
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://sites.google.com/site/wchanapai/hxtir-wad-thung-sri-meuxng-1
------------------------------------------------------------------
บทความอื่นๆ มีดังนี้
สถานที่ท่องเที่ยวในเกาะหลีเป๊ะและจุดเช็กอินถ่ายรูปวิวสวยๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะหลีเป๊ะ และจุดเช็กอินถ่ายรูปวิวสวยๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
รวมเด่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเชียงราย ใครก็ต้องไปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>> |
จัดไปกับ 15 ที่เที่ยวจุดเช็กอินยอดนิยมในเชียงราย ที่ใครก็ต้องปักหมุดไปถ่ายรูปกันสักครั้ง มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวชมกันได้เลย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>>
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองตาก แวะไปเช็ออินถ่ายภาพกันสักครั้ง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
รวมเด็ด 17 ที่เที่ยวกำแพงเพชรยอดนิยมที่คนไปเช็กอินกันสักครั้ง>> |
แนะนำสถานทีท่องเที่ยวในเมืองมหาชัย สมุทรสาคร แวะไปออนซอนได้ชิลๆ>>> |
0 ความคิดเห็น