รู้เฟื่องเรื่องน่ารู้ที่ วัดพระธาตุแช่แห้ง กับตำนานเล่าขานที่ใครก็ต้องแวะมากราบกรานกันสักครา

เพื่อไม่ให้เว็ปไซตร้างไป บทความน่ารู้วันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอนำเสนอสาระเกี่ยวกับตำนานเล่าขานของ วัดพระธาตุแช่แห้งในเมืองน่าน มาให้อ่านกันอย่างสำราญใจจ้า

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านและเหล่านักรักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคนค่ะ ก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ กับบทความน่ารู้เล็กๆน้อยๆ ที่จะมาเสริมเติมต้อย ให้ได้เลือกสอยอ่านกันค่ะ และบทความน่ารู้ในวันนี้ ก็ยังวนเวียน เขียนวนๆ พาคุณผู้อ่านไปผจญเที่ยวลัดเลาะตามวัดวาอารามต่างๆอีกเหมือนเคยค่ะ โดยวันนี้ขอพาไปไหว้พระที่จังหวัดน่าน

......ว่ากันว่าหากใครไปเที่ยวเมืองน่าน ไม่ได้แวะไปยลตระการ หรือกราบกรานสักการะ พระธาตุแช่แห้ง ถือว่ามาไม่ถึงเมืองน่านเลยนะคะ เพราะพระธาตุดังกล่าวเป็น พระธาตุเก่าแก่คู่บ้าน คู่เมืองน่าน มาอย่างยาวนานมากๆ วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอนำสาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดพระธาตุแช่แห้ง มาได้อ่านฆ่าเวลากันค่ะ

น่ารู้เกี่ยวกับพระธาตุแช่แห้ง (About Wat phra that chae haeng,Nan Province )

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระธาตุแช่แห้ง (About Wat phra that chae haeng,Nan Province )

วัดพระธาตุแช่แห้งนั้น เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกขอแม่น้ำน่าน ณ บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปเพียงประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต และที่สำคัญ เป็นพระธาตุประจำปีเถาะ ตามคติการไว้พระธาตุตามปีนักษัตรของชาวล้านนา

ตามประวัติกล่าวไว้ว่า :

พระธาตุแช่แห้ง หรือชื่อเดิมคือ พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล สมเด็จพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์ซ้าย และเศษสรีรังคารธาตุ มาประดิษฐานไว้บนดอยภูเพียง เพื่อให้มนุษย์และเทวดาสักการบูชาตราบเท่า 5000 พระวัสสา และตามประวัติเท่าที่สืบค้น หลักฐานได้อีกคือ สร้างเมื่อ พ.ศ. 1896 อายุราว 600 ปีเศษ จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง ซึ่งเป็นเจ้าพระยาผู้ครองเมืองวรนคร (อ.ปัวในปัจจุบัน)นครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจาก กรุงสุโขทัย (กระดูกข้อมือข้างซ้าย) มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง

และตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้

และตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้ และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง

ตัวพระธาตุตั้งอยู่บนเชิงเนินปูด้วยอิฐ ลาดขึ้นไปยังยอดเนิน กว้างประมาณ 20 วา มีบันไดนาคขนาบทั้งสองข้าง

โดยตัวพระธาตุตั้งอยู่บนเชิงเนินปูด้วยอิฐ ลาดขึ้นไปยังยอดเนิน กว้างประมาณ 20 วา มีบันไดนาคขนาบทั้งสองข้าง องค์พระเจดีย์เป็นแบบล้านนา ฐานเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนกันขึ้นไปจนสูง ใช้แผ่นทองเหลืองบุรอบฐาน แล้วลงรักปิดทอง

ในส่วนองค์พระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุ ที่มีขนาดสูงถึง 55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 22.5 เมตร มีสีเหลืองอร่าม เนื่องจากบุด้วย แผ่นทองเหลือง พระธาตุนี้ โดยตั้งอยู่ บนยอดดอยภูเพียงแช่แห้ง ซึ่งลักษณะของเจดีย์ทรงระฆัง ส่วนฐานทำเป็นฐาน หน้ากระดานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ รองรับฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดาน สี่เหลี่ยม และแปดเหลี่ยม ซ้อนลดหลั่นกัน 3 ชั้น องค์ระฆังมีขนาดเล็ก บัลลังก์ทำเป็นแท่นสี่เหลี่ยมย่อเก็จ ฐานหน้ากระดาน กลม เป็นกระดานสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยม และชั้นบัวคว่ำเหนือฐานแปดเหลี่ยม ตกแต่งคล้ายกลีบบัว หรือลายใบไม้ แทน ลายดังกล่าวนี้คงได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่า ซึ่งนำมาต่อเติมขึ้นภายหลัง เมื่อล่วงเข้าพุทธศตวรรษที่ 24 แล้ว

ในสถาปัตยกรรมด้านโบสถ์ของวัดพระธาตุแช่แห้งที่สำคัญ แสดงให้เห็นถึงแบบอย่างสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมสกุลช่างน่าน

และในสถาปัตยกรรมด้านโบสถ์ของวัดพระธาตุแช่แห้งที่สำคัญ แสดงให้เห็นถึงแบบอย่างสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมสกุลช่างน่าน แยกออกเป็น 2 แห่ง ได้แก่

1.วิหารหลวง อยู่ทางด้านทิศใต้ขององค์พระธาตุเป็นวิหารขนาดใหญ่ 6 ห้อง ห้องกลางมีขนาด 3 ห้อง และต่อชั้นลดออกไป ทางด้านหน้า 2 ห้องและด้านหลัง 1 ห้อง ดังนั้นหากดูจากภายนอก จะมองเห็นเป็นอาคาร ขนาดใหญ่ หลังคาลาดต่ำลงมาเป็นชั้นซ้อน ด้านละ 3 ชั้น และมีชั้นลดด้านหน้า 2 ชั้น ด้านหลัง 1 ชั้น มีประตูทางด้านหน้า และด้านข้างตรงกลาง ที่น่าสนใจคือ ตรงกลางสันหลังคา ทำเป็นส่วนหางของนาคสองตัว เกี่ยวกระหวัดกันขึ้นไปเป็นสามชั้น เป็นศิลปกรรม ที่งดงามและหาดูได้ยาก

2.วิหารพระนอน อยู่ทางด้านหน้านอกกำแพงแก้วขององค์พระธาตุ วิหารก่อสร้างตามแนวยางขององค์พระ มีประตูทางเข้า ด้านหลัง คือทิศใต้

ในทุกๆปี เมื่อถึงวันขึ้น 11-15 ค่ำ เดือน 6 เหนือ (เดือน 4 ใต้) หรือในราวประมาณเดือน มี.ค. จะมีประเพณีงานหกเป็งนมัสการพระธาตุแช่แห้ง

และในทุกๆปี เมื่อถึงวันขึ้น 11-15 ค่ำ เดือน 6 เหนือ (เดือน 4 ใต้) หรือในราวประมาณเดือน มี.ค. จะมีประเพณีนมัสการพระธาตุแช่แห้ง ที่ชาวน่านเรียกว่า งานหกเป็งนมัสการพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งเป็นการจัดงานฉลองพระธาตุประจำปีอีกด้วย

เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพระธาตุแช่แห้ง

และจากเว็ปไซต์ : https://sites.google.com/site/wachiraya570210046/canghwad-nan-1/khakhway-meuxng-nan/wad-phra-thatu-chae-haeng

-----------------------------------------------------

บทความน่ารู้อื่นๆ มีดังนี้