แบ่งปันสาระดีๆเล็กน้อยเกี่ยวกับ พระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม (Drottningholms palace) พระราชวังแสนสวยงามอลังการใหญ่โตในประเทศสวีเดนแห่งนี้ มีที่มาอย่างไร |
สวัสดีเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคนค่ะ สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่วางแผนแบกเป้เดินทางไกลไปเที่ยวประเทศสวีเดน และปักหมุดแวะไปเยือนกรุงสต็อกโฮล์ม เมืองหลวงเก่าแก่แสนสวยงามที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในแถบสแกนดิเนเวีย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายหลายแห่ง และหากใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปภาพ ชอบเที่ยวเดินชมเวียง ชมวัง สถาปัตยกรรมสวยงามอลังการ แน่นอนเลยว่า ต้องไม่พลาดไปเดินเที่ยวชม พระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นพระราชวังที่มีความใหญ่โตโอ่อ่าและมีความสวยงามเป็นอย่างมาก และมีประวัติศาสตร์เรื่่องราวที่น่าสนใจทีเดียว วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาแบ่งปันสาระน่ารู้เล็กๆน้อยเกี่ยวกับพระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ
สาระน่ารู้เล็กๆน้อยเกี่ยวกับพระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม (Drottningholms palace) ประเทศสวีเดน |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม (Drottningholms palace) ประเทศสวีเดน
พระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม (สวีเดน: Drottningholms slott) เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์สวีเดน ตั้งอยู่ในดร็อตนิงฮ็อล์ม บนเกาะโลววน เทศบาลเอเคเรอ มณฑลสต็อกโฮล์ม และเป็นหนึ่งในพระราชวังหลวงของสวีเดน สร้างขึ้นครั้งแรกในปลายศตวรรษที่ 16 และเป้นที่ประทับฤดูร้อนของราขสำนักสวีเดนในศตวรรษที่ 18 ในปัจจุบัน นอกจากพระราชวังนี้จะเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของราชวงศ์แล้ว ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญชานเมืองสต็อกโฮล์มเช่นกัน
โดยชื่อ Drottningholm แปลตรงตัวว่า "Queen's islet" (เกาะเล็กเกาะน้อยของพระราชินี) |
สำหรับชื่อ Drottningholm แปลตรงตัวว่า "Queen's islet" (เกาะเล็กเกาะน้อยของพระราชินี) และเป็นชื่อของอาคารหลังเดิมที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมเรเนสซองส์ ผลงานออกแบบของวิลเลิมโบย ที่ซึ่งก่อนหน้าเคยเป็นพระที่นั่งเดิมชื่อ โทร์เวซุนด์ (Torvesund)
พระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม (Drottningholms palace) |
พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก สาเหตุหลักมาจากโรงละครพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์มและศาลาจีน ซึ่งถูกเพิ่มเข้าไปในปี 1991 และด้วยความเห็นของ UNESCO คือ: อาณาเขตหลวงแห่งดรอตต์นิงโฮล์มตั้งอยู่บนเกาะในทะเลสาบมาลาร์ในย่านชานเมืองของสตอกโฮล์ม ด้วยพระราชวัง โรงละครที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ (สร้างตั้งแต่ปี 1766) ศาลาจีนและสวน ที่นี่จึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของที่ประทับของราชวงศ์ยุโรปตอนเหนือในศตวรรษที่ 18 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชวังแวร์ซายส์ ทำให้ได้พระราชวังแห่งนี้ควรแก่การอนุรักษ์และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
สวนตกแต่งอย่างงดงามภายในพระราชวัง |
ทั้งนี้พระราชวังและบริเวณโดยรอบมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และต่อเติมหลายครั้งตลอดในข่วง 400 ปีที่ผ่านมา การบูรณะครั้งใหญ่ที่สุดซึ่งมีการติดตั้งหรือปรับปรุงไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน ท่อน้ำทิ้ง และท่อน้ำ และหลังคาปราสาทถูกเปลี่ยนใหม่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2450 ถึง พ.ศ. 2456 ซึ่งในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ พื้นที่สำคัญหลายแห่งของพระราชวังถูก บูรณะและสร้างใหม่ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดและห้องโถงแห่งชาติก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งมีการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยทั่วทั้งพระราชวัง ในปี 1997 งานเริ่มทำความสะอาดและสร้างผนังด้านนอกขึ้นใหม่ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2545
ตั้งแต่ปี ค.ศ.1981 กษัตริย์คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน ประทับอยู่ที่ปีกด้านใต้ของพระราชวัง |
ทะเลสาบติดริมพระราชวัง |
พระราชวังเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ นอกจากนี้ในช่วงเวลานี้ก็มีหน่วยราชองครักษ์ประจำการอยู่ที่พระราชวังเช่นเดียวกับที่พระราชวังสตอกโฮล์ม |
ตั้งแต่ปี ค.ศ.1981 กษัตริย์คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน ประทับอยู่ที่ปีกด้านใต้ของพระราชวัง ส่วนอื่นๆ ของพระราชวังเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ นอกจากนี้ในช่วงเวลานี้ก็มีหน่วยราชองครักษ์ประจำการอยู่ที่พระราชวังเช่นเดียวกับที่พระราชวังสตอกโฮล์ม
ภายในสวนและบริเวณสวนสาธารณะรอบๆ ปราสาทและอาคารต่างๆ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนพระราชวังในแต่ละปี สวนต่างๆ ได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นระยะๆ นับตั้งแต่ปราสาทถูกสร้างขึ้น ส่งผลให้สวนสาธารณะและสวนมีรูปแบบที่แตกต่างกัน
สวนสไตล์บาโรก ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของสวนถูกสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 |
ทางเดินภายในสวนสไตล์บาโรก |
บริเวณด้านนอกพระราชวังหลัก ขนาบข้างด้วยถนนต้นไม้หนาทึบ อีกทั้งยังมีรูปปั้นจำนวนมากที่ตั้งเรียงรายไปทั่วบริเวณ |
และสวนสไตล์บาโรก ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของสวนถูกสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 ภายใต้การดูแลของ Hedwig Eleonora พ่อและลูกชาย Tessin เป็นผู้นำโครงการที่สร้างสวนสไตล์บาโรกอยู่บริเวณด้านนอกพระราชวังหลัก ขนาบข้างด้วยถนนต้นไม้หนาทึบ อีกทั้งยังมีรูปปั้นจำนวนมากที่ตั้งเรียงรายไปทั่วบริเวณ ซึ่งสวนแห่งนี้สร้างขึ้นโดยศิลปิน Adrian de Vries เป็นกองทัพสวีเดน ในขณะที่สิงโตหินอ่อนสองตัวที่ประตูหลักของพระราชวังถูกส่งมาจากปราสาทอูจาซโดฟในกรุงวอร์ซอ สวนสไตล์บาโรกถูกละเลยพร้อมกับพื้นที่อื่นๆ ในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่ได้รับการบูรณะใหม่ในช่วงทศวรรษปี 1950 และ 1960 ตามความคิดริเริ่มของกุสตาฟที่ 6 อดอล์ฟแห่งสวีเดน
วิธีการเดินทางไปยังพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม นั่งรถบัสโดยสารสาย 176 ไปลงที่ทางเข้าหน้าพระราชวัง |
วิธีการเดินทางไปยังพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม นั่งรถบัสโดยสารสาย 176 ไปลงที่ทางเข้าหน้าพระราชวัง |
วิธีการเดินทางไปยังพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม นั่งรถบัสโดยสารสาย 176 ไปลงที่ทางเข้าหน้าพระราชวัง
พระราชวัง Drottningholm อยู่ห่างจากใจกลางสตอกโฮล์มประมาณ 12 กิโลเมตร ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงถึงคือการเดินทาง
เดินเข้ามาจะมีร้านคาเฟ่ขายเครื่องดื่มและอาหารให้เลือกทานด้วย |
โดยการขนส่งสาธารณะ รถไฟใต้ดิน (T-bana) ไปยัง Brommaplan เปลี่ยนเป็นรถบัสไปยัง Drottningholm วางแผนการเดินทางของคุณที่ การขนส่งสาธารณะลิงก์ภายนอก เลือกสถานี/ป้าย/ที่อยู่: Drottningholms Slott, Drottningholm
โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วได้ผ่านแอป SL - Travel Planner ซึ่งเป็นการซื้อตั๋วที่สะดวกและง่ายที่สุดเพราะสามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น และใช้ Code ในการแสดงขับเจ้าหน้าที่ขับรถได้
และสำหรับบทความน่ารู้เกี่ยวกับพระราชวังดร็อตนิงฮ็อล์ม (Drottningholms palace) ที่เที่ยวพระราชวังสวยงามในกรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ที่ได้นำมาเสนอให้ได้อ่านกันในบทความนี้ น่าจะมีประโยชน์อยู่ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
0 ความคิดเห็น