Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

ห้ามพลาด 8 ที่เที่ยวประเทศเอสโตเนีย ในเมืองทาลลินน์ (Tallinn) ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน มีที่ใหนบ้าง

วางแผนแบกเป้เดินทางไปเที่ยวประเทศเอสโตเนีย แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงทาลลินน์ มีจุดถ่ายรูปภาพเช็คอินสวยๆที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า




สวัสดีเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร และเพื่อนๆบนโลกออนไลน์ งามพร่างพรายทุกๆคนค่ะ สำหรับเพื่อนคนใหนที่กำลังจะวางแผนจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า แบกเป้ไปเที่ยวประเทศเอสโตเนีย อีกหนึ่งประเทศเล็กๆในทวีปยุโรป ที่ใครหลายๆคนมีความสนใจ และอยากปักหมุดไปเที่ยวสักครั้ง อยากไปดูว่าในกรุงทาลลินน์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเอสโตเนีย มีอะไรน่าสนใจให้ไปถ่ายรุปเช็คอินบ้าง และเพื่อไม่ให้บทความร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองทาลลินน์ ที่เที่ยวเมืองหลวงของประเทศเอสโตเนีย มาให้เพื่อนได้ปักหมุดไปเที่ยวกันค่ะ ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวกันเลยค่ะ 



เดินเท้าจากโรงแรมมาไม่ไกล เป็นจุดประชาสัมพันธ์แนะนำแหล่งท่องเที่ยวในเมืองทาลลินน์ 
หลังจากที่ได้รีวิวห้องพักของโรงแรมไปแล้ว ต่อมาก็ได้เวลาเดินทางออกไปท่องเที่ยวในเมืองทาลลินน์แล้วล่ะค่ะ 

เจ้าหน้าที่แจกแผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในย่านเมืองเก่ากรุงทาลลินน์ให้ด้วย (Tallinn tourist attraction map)


เดินเท้าจากโรงแรมตรงมาไม่ไกล ประมาณ 100 เมตรจะเป็นจุดประชาสัมพันธ์ จะมีเจ้าหน้าทีแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองทาลลินน์ให้เราด้วยค่ะ 

จากรูปภาพที่ทางเจ้าหน้าที่ใช้ปากกาสีน้ำเงิน วงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในย่านเมืองเก่าทาลลินน์ให้สามารถเดินเท้าเที่ยวชมเมืองได้ด้วยตัวเองใน 1 วันค่ะ

ซึ่งจากภาพแผนที่ตามลายปากกาสีน้ำเงิน ที่ทางเจ้าหน้าที่ใช้ปากกาวงไว้นั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในย่านเมืองเก่าทาลลินน์ที่สามารถเดินเท้าและไปเที่ยวได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆเลยค่ะ เพราะว่าจุดที่เที่ยวแต่ละแห่งอยู่ไม่ไกลกัน เดินเท้าไปได้ไม่ไกล และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มักจะนิยมเดินเที่ยวหรือ Sightseeing ชมเมืองกันเป็นจำนวนมากค่ะ 



แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย ที่ต้องห้ามพลาดไปถ่ายรูปเช็คอินกัน และสามารถเดินเที่ยวได้ง่ายๆด้วยตัวเอง มีดังนี้ค่ะ


1.เมืองเก่าทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna vanalinn หรือ Tallinn old town)  ย่านเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศเอสโตเนีย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1997


1.เมืองเก่าทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna vanalinn หรือ Tallinn old town)  ย่านเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศเอสโตเนีย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1997


1.เมืองเก่าทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna vanalinn หรือ Tallinn old town)  ย่านเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศเอสโตเนีย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1997


1.เมืองเก่าทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna vanalinn หรือ Tallinn old town)  ย่านเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศเอสโตเนีย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1997


1.เมืองเก่าทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna vanalinn หรือ Tallinn old town)

1.เมืองเก่าทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna vanalinn หรือ Tallinn old town)

1.เมืองเก่าทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna vanalinn หรือ Tallinn old town)


1.เมืองเก่าทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna vanalinn หรือ Tallinn old town) เป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย เมืองเก่าของทาลลินน์สามารถรักษาโครงสร้างของยุคกลางและต้นกำเนิดของ Hanseatic ได้อย่างสมบูรณ์ เมืองเก่าแสดงถึงผังเมืองที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ และตั้งแต่ปี 1997 พื้นที่ดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมืองเก่าล้อมรอบด้วยกำแพงทาลลินน์ พื้นที่ของมันคือ 113 เฮกตาร์และมีเขตกันชน 2,253 เฮกตาร์

โครงสร้างเมืองเก่าทาลินน์แห่งนี้ ส่วนใหญ่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13-16 และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของเมืองเก่าทาลลินน์นั้น  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่กองทัพเยอรมันเข้ายึดครองเอสโตเนียในปี พ.ศ. 2484-2487 เมืองเก่าทาลลินน์ต้องทนทุกข์ทรมานจากเหตุระเบิดทางอากาศหลายครั้งโดยกองทัพอากาศโซเวียต ระหว่างการโจมตีทิ้งระเบิดของโซเวียตที่มีการทำลายล้างมากที่สุดในวันที่ 9–10 มีนาคม พ.ศ. 2487 มีการทิ้งระเบิดเพลิงกว่าพันครั้งลงบนทาลลินน์ ทำให้เกิดไฟไหม้อย่างกว้างขวาง ทำลายอาคารประมาณ 10% ในย่านเมืองเก่า คร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยคน และทำให้ผู้คนกว่า 20,000 คนไม่มีที่พักพิง 

และหลังจากช่วงสงครามโลกสงบลง ทางรัฐบาลก็ได้มีการปรับปรุงและดูแลรักษาเมืองเก่าแห่งนี้มีความสมบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้ง จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและดึงดูดนักเดินทางมาเที่ยวเมืองทาลลินน์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงสำคัญของของประเทศเอสโตเนียอย่างไม่ขาดสาย .



2.ศาลาว่าการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าเมืองทาลลินน์ (Tallinn Town Hall) 

2.ศาลาว่าการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าเมืองทาลลินน์ (Tallinn Town Hall) 

2.ศาลาว่าการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าเมืองทาลลินน์ (Tallinn Town Hall) 

2.ศาลาว่าการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าเมืองทาลลินน์ (Tallinn Town Hall) 

2.ศาลาว่าการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าเมืองทาลลินน์ (Tallinn Town Hall) 


2.ศาลาว่าการเก่าแก่ย่านเมืองเก่าเมืองทาลลินน์ (Tallinn Town Hall) 

ศาลากลางทาลลินน์ (เอสโตเนีย: Tallinna raekoda) เป็นอาคารในย่านเมืองเก่า (Vanalinn) ของทาลลินน์ (Reval) ประเทศเอสโตเนีย ติดกับจัตุรัสศาลาว่าการ อาคารนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของจัตุรัสตลาดในยุคกลาง และมีความยาว 36.8 เมตร (121 ฟุต) กำแพงด้านตะวันตกยาว 14.5 เมตร (48 ฟุต) และด้านตะวันออกยาว 15.2 เมตร (50 ฟุต) เป็นอาคารสองชั้นพร้อมชั้นใต้ดินกว้างขวาง เป็นศาลากลางที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคทะเลบอลติกและสแกนดิเนเวีย

 โดยศาลากลางซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 1530 เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองทาลลินน์ ความสูงของหอคอยคือ 64 เมตร ศาลากลางเมืองทาลลินน์ตั้งอยู่ที่จัตุรัสศาลาว่าการ โดยมีถนน Kullassepa, ถนน Dunkri และถนน Vanaturu kael เป็นผู้นำ ถนนสายหนึ่งที่สั้นที่สุดของทาลลินน์คือ Raekoja tänav ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังศาลากลาง

ศาลากลางถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งที่เคยเป็นจัตุรัสตลาด จัตุรัสศาลากลางมีความยาวในปัจจุบันในช่วงทศวรรษที่ 1370 ศาลากลางจังหวัดปกคลุมด้วยหลังคาไม้กระดานในปี 1374 น่าจะเป็นอาคารหินชั้นเดียวและมีชั้นใต้ดิน ห้องใต้หลังคาถูกใช้เป็นห้องเก็บของ ด้านหน้าของอาคารที่ยาวและแคบนี้ปัจจุบันกลายเป็นผนังด้านหลังของอาร์เคด ซึ่งยังคงมองเห็นหน้าต่างกรอบรูปปั้นที่เรียบง่ายจากสมัยนี้อยู่

ในปี พ.ศ. 2548 ศาลากลางเมืองทาลลินน์ได้รับการยอมรับอย่างสูง - รางวัลที่สองในประเภทการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมสำหรับการฟื้นฟูศาลาว่าการแบบโกธิกแห่งสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ในยุโรปเหนือ และการเปิดเผยตัวอย่างชั้นประวัติศาสตร์ทั้งหมดของสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่นี้ ประเพณียุโรปของอำนาจเทศบาล รางวัลนี้มอบให้กับ Elvira Liiver Holmström ผู้อำนวยการศาลากลางเมืองทาลลินน์โดยสมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสเปนในพิธีมอบรางวัล European Heritage Awards ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ที่ Palacio Real de El Pardo กรุงมาดริด เหรียญรางวัล Europa Nostra ได้รับการมอบให้แก่ศาลากลางเมืองทาลลินน์ในพิธีเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2549 โดย Siim Kallas รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และ Thomas Willoch สมาชิกคณะกรรมการของ Europa Nostra


3.มหาวิหารอะเลคซันดร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral)


3.มหาวิหารอะเลคซันดร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral)

3.มหาวิหารอะเลคซันดร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral)


3.มหาวิหารอะเลคซันดร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral)

เป็นอาสนวิหารอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์ ในใจกลางเมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย โดยโบสถ์เก่าแห่งแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี  1894 และ 1900 (พ.ศ. 2437-2443) เมื่อประเทศนี้เป็นส่วนหนึ่งของอดีตจักรวรรดิรัสเซีย อาสนวิหารแห่งนี้  มีลักษณณะเป็นโบสถ์ทรงโดมอันโดดเด่นที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ซึ่งพระสังฆราชอเล็กซีที่ 2 แห่งมอสโกผู้ล่วงลับไปแล้ว (พ.ศ. 2472-2551) เริ่มปฏิบัติศาสนกิจในฐานะปุโรหิตในอาสนวิหาร ในช่วงเวลาที่เอสโตเนียเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย อาสนวิหารอะเลคซันดร์ เนฟสกี เป็นวิหารออร์โธดอกซ์แบบโดมที่ใหญ่ที่สุดของทาลลินน์ สร้างเพื่ออุทิศให้กับนักบุญอะเลคซันดร์ เนฟสกีซึ่งในปี 1242 


ระหว่างการยึดครองเอสโตเนียของโซเวียตในปี พ.ศ. 2487-2534 เนื่องจากระบอบการปกครองของโซเวียตไม่มีศาสนาอย่างเป็นทางการ โบสถ์หลายแห่งรวมทั้งอาสนวิหารจึงอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างมาก อาคารและการตกแต่งภายในได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถันอีกครั้ง นับตั้งแต่เอสโตเนียได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1991


หลังจากที่เอสโตเนียกลายเป็นประเทศเอกราช รัฐสภาและรัฐบาลต้องหารือและพิจารณาถอดอาสนวิหารหลายครั้งตามคำเรียกร้องของประชาชน หลายครั้งในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1920 และ 1930 อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการรื้อถอนอาคารหลังนี้


4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว


4.พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเก่า  (Walls of Tallinn) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองทาลลินน์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

กำแพงทาลลินน์เป็นกำแพงป้องกันยุคกลางที่สร้างขึ้นรอบเมืองทาลลินน์ในเอสโตเนีย จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมือง และยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองที่สวยงามเมืองทาลลินน์อีกแห่งด้วย 

กำแพงแรกรอบทาลลินน์ ถูกให้สร้างโดย Margaret Sambiria ในช่วงปี 1265 จึงมีชื่อเรียกว่า 'กำแพงมาร์กาเร็ต' กำแพงนี้มีความสูงน้อยกว่า 5 เมตร (16 ฟุต) และหนาที่ฐานประมาณ 1.5 เมตร (4.9 ฟุต) นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีการขยายและเข้มแข็งขึ้น กำแพงและประตูหลายแห่งยังคงหลงเหลืออยู่เป็นส่วนใหญ่จนทุกวันนี้ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ย่านเมืองเก่าของทาลลินน์ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก 

ทั้งนี้กำแพงได้รับการขยายใหญ่ขึ้นในศตวรรษที่ 14 และพลเมืองของทาลลินน์จำเป็นต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่เฝ้า ซึ่งหมายถึงต้องสวมชุดเกราะและแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเผชิญหน้ากับผู้รุกราน

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว

5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว


5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว


5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว


5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว


5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว


5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว


5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว


5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (Art Museum of Estonia) อาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมและสวนที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปภาพของนักท่องเที่ยว

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย (เอสโตเนีย: Eesti Kunstimuuseum) ก่อตั้งขึ้นในปี 1919 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เดิมตั้งอยู่ในพระราชวัง Kadriorg และได้ขยายออกไปในหลายพื้นที่ และปัจจุบันจัดแสดงผลงานศิลปะทั้งในระดับนานาชาติและระดับท้องถิ่น ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ในปี 1980 โดยอาคารแรกของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนียได้ก่อตั้งขึ้น เริ่มตั้งแต่ปี 199 โดยห้องที่จัดนิทรรศการให้เรียนรู้และได้ชมมีโปรแกรมการศึกษาที่แตกต่างกันสำหรับเด็กและเยาวชน ในปี 1996 ห้องนิทรรศการบนชั้นหนึ่งของ Rotermann Salt Storage ได้เปิดขึ้น สาขานี้ปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2548


6.จัตุรัสอิสรภาพกรุงทาลลินน์ (Freedom Square)

6.จัตุรัสอิสรภาพกรุงทาลลินน์ (Freedom Square)

6.จัตุรัสอิสรภาพกรุงทาลลินน์ (Freedom Square)

6.จัตุรัสอิสรภาพกรุงทาลลินน์ (Freedom Square)


6.จัตุรัสอิสรภาพกรุงทาลลินน์ (Freedom Square)

จัตุรัสเสรีภาพ (เอสโตเนีย: Vabaduse väljak) เป็นจัตุรัสทางตอนใต้สุดของเมืองเก่าในทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย ซึ่งเป็นที่ที่รัฐทำหน้าที่และจัดคอนเสิร์ตต่างๆ ทิศตะวันออกติดกับโบสถ์เซนต์จอห์น (สร้างเมื่อ พ.ศ. 2405–67) ทางใต้ติดกับถนน Kaarli Boulevard และศูนย์การค้าใต้ดิน (พ.ศ. 2551–2552) และทางทิศตะวันตกมีเสาชัยชนะ (พ.ศ. 2552) เพื่อรำลึกถึงสงครามเอสโตเนีย แห่งอิสรภาพ ค.ศ. 1918–1920 

ซึ่งการออกแบบในปัจจุบันนั้น สร้างโดยสถาปนิก Tiit Trummal, Veljo Kaasik และ Andres Alver ก่อนปี 2553 เป็นลานจอดรถ มีพื้นที่ 7,752 ตร.ม.[1] โดยมีขนาดประมาณ. 110 ม. x 75 ม. จัดเป็นหนึงในสถานที่ท่องเที่ยวและะจุดถ่ายรูปเช็คอินที่สวยงามของเมืองทาลลินน์ 


7.โบสถ์เซ็นต์โอเลวิสเต ทาลลินน์ (St. Olaf's Church, Tallinn)

7.โบสถ์เซ็นต์โอเลวิสเต ทาลลินน์ (St. Olaf's Church, Tallinn)


7.โบสถ์เซ็นต์โอเลวิสเต ทาลลินน์ (St. Olaf's Church, Tallinn)

7.โบสถ์เซ็นต์โอเลวิสเต ทาลลินน์ (St. Olaf's Church, Tallinn)

7.โบสถ์เซ็นต์โอเลวิสเต ทาลลินน์ (St. Olaf's Church, Tallinn)


7.โบสถ์เซ็นต์โอเลวิสเต ทาลลินน์ (St. Olaf's Church, Tallinn)

โบสถ์โอเลวิสเต หรือ โบสถ์เซนต์โอลาฟ (เอสโตเนีย: Oleviste kirik) ในเมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และเป็นศูนย์กลางของชุมชนสแกนดิเนเวียเก่าแก่ในทาลลินน์ ก่อนที่เดนมาร์กจะพิชิตทาลลินน์ในปี 1219 การอุทิศตน เกี่ยวข้องกับพระเจ้าโอลาฟที่ 2 แห่งนอร์เวย์ (หรือที่รู้จักในชื่อนักบุญโอลาฟ, ค.ศ. 995–1030) บันทึกลายลักษณ์อักษรแรกที่ทราบเกี่ยวกับคริสตจักรนี้มีอายุย้อนกลับไปในปี 1267 และได้รับการสร้างขึ้นใหม่อย่างกว้างขวางในช่วงศตวรรษที่ 14



8.ปราสาททุมเป (Toompea Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่ากรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย

8.ปราสาททุมเป (Toompea Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่ากรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย

8.ปราสาททุมเป (Toompea Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่ากรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย

8.ปราสาททุมเป (Toompea Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่ากรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย


8.ปราสาททุมเป (Toompea Castle) 


ปราสาท Toompea สร้างขึ้นบนฐานของปีกด้านตะวันออกที่พังทลายของป้อมปราการ ซึ่งสร้างในช่วงศตวรรษที่ 13 และ 14 ปราสาทที่มีส่วนหน้าอาคารสไตล์บาโรกตอนปลายสร้างขึ้นระหว่างปี 1767 ถึง 1773 โดยตัวปราสาทนั้นมีความโดดเด่นสวยงาม ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวิหารโบสถ์อเล็กซัน  ในช่วงศตวรรษที่ 18 มีการตกแต่งปราสาทแบบบาโรกเพิ่มเติม ทำให้อาคารมีความสวยงามและมีการอนุรักษ์และปรับปรุงให้เป็นสถานที่จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมด้วย


ประวัติความเป็นมาของ Toompea เป็นเรื่องราวของผู้ปกครองและผู้พิชิตเอสโตเนีย ซึ่งแต่ละคนได้หล่อหลอมและเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานที่นี้ตามความต้องการและตามรสนิยมของตนเอง ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ Riigikogu (รัฐสภาเอสโตเนีย) โดยธงชาติสีน้ำเงิน สีดำ ซึ่งเป็นธงชาติประจำเทศ และสีขาวปรากฏอยู่บนยอดหอคอยแฮร์มันน์ ซึ่งสูง 45.6 เมตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพของเอสโตเนียอีกด้วย 


หลังจากที่เอสโตเนียได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2461 รัฐบาลได้ตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่สำหรับรัฐสภาของประเทศ (Riigikogu) ในบริเวณที่เคยเป็นอาคารคอนแวนต์เดิมของลัทธิเต็มตัว อาคารรัฐสภาซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกยูเกน ฮาเบอร์มันน์และเฮอร์เบิร์ต โจแฮนสันใช้เวลาก่อสร้างสองปีจึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2465 แม้ว่าภายนอกจะเป็นแบบดั้งเดิม แต่ภายในก็มีสไตล์แบบ Expressionist ซึ่งเป็นอาคารรัฐสภาแบบ Expressionist แห่งเดียวในโลก

หลังเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2483 ในช่วงที่ชาวต่างชาติยึดครอง โดยสหภาพโซเวียตจนถึงปี พ.ศ. 2484 โดยนาซีเยอรมนีในปี พ.ศ. 2484-2487 และอีกครั้งโดยสหภาพโซเวียตหลัง พ.ศ. 2487 รัฐสภาเอสโตเนียที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยก็ถูกยุบ อย่างไรก็ตาม ปราสาทและอาคาร Riigikogu ถูกใช้โดยสภาโซเวียตสูงสุดในท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติตรายางอย่างเป็นทางการของเอสโตเนียที่โซเวียตยึดครอง โดยไม่มีความหมายใดๆ เลย ระหว่างปี 1947 ถึง 1990


และสำหรับบทความแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย ที่ได้นำเสนอแนะนำไว้ในบล็อกนี้ น่าจะมีประโยชน์และเป็นไกด์ไลน์ให้กับเพื่อนๆที่กำลังวางแผนแบกเป้ไปเที่ยวประเทศเอสโตเนีย หรือว่าจะนั่งเรือข้ามฟากแบบ 1 วันเช้าไปเย็นกลับ จากประเทศฟินแลนด์ในช่วงวันหยุดลาพักร้อนยาวๆปีนี้อยู่ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าวมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น