|
แผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองยอร์ค ซึ่งที่เที่ยวแต่ละแห่งสามารถเดินเท้าไปหากันได้ไม่ไกลค่ะ |
และนอกจากกำแพงเมืองโบราณแล้ว ในเมืองยอร์ค ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเลยค่ะ โดยที่เที่ยวแต่ละแห่งอยู่ใกล้ๆกับ สามารถเดินเท้าเที่ยวชมเมืองได้ด้วยตัวเองค่ะ ซึ่งสำหรับเพื่อนๆคนใหนที่วางแผนมาเที่ยวเมืองยอร์ค แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนดี วันนี้เดี๊ยนเลยสรุป สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองยอร์คมาให้อ่านกันดังนี้
|
1.อาสนวิหารยอร์ก (York Minster) ถือเป็นอาสนวิหารสไตล์กอธิคที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
|
|
1.อาสนวิหารยอร์ก (York Minster) ถือเป็นอาสนวิหารสไตล์กอธิคที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
|
|
1.อาสนวิหารยอร์ก (York Minster) ถือเป็นอาสนวิหารสไตล์กอธิคที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
|
|
1.อาสนวิหารยอร์ก (York Minster) |
|
1.อาสนวิหารยอร์ก (York Minster) ถือเป็นอาสนวิหารสไตล์กอธิคที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ |
1.อาสนวิหารยอร์ก (York Minster)
ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงและโดดเด่นที่สุดอีกแห่ง ที่ใครมาเมืองยอร์ค ต้องได้เห็นมหาวิหารขนาดใหญ่ ซึ่งมีชื่อว่า อาสนวิหารยอร์ก (York Minster) มีชื่อเป็นทางการว่า "อาสนวิหารและคริสตจักรมหานครแห่งนักบุญเปโตรในกรุงยอร์ก" (The Cathedral and Metropolitical Church of St Peter in York) เป็นคริสต์ศาสนสถานประเภทอาสนวิหารที่สร้างเป็นแบบกอธิคที่ใหญ่ ที่เป็นที่สองรองจากอาสนวิหารโคโลญในประเทศเยอรมนี ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป
อาสนวิหารยอร์กตั้งอยู่ที่เมืองยอร์กในยอร์กเชอร์ ทางตอนเหนือของ สหราชอาณาจักร เป็นโบสถ์ประจำตำแหน่งของของอาร์ชบิชอปแห่งยอร์กซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในคริสตจักรแห่งอังกฤษรองจากอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี อาสนวิหารยอร์กถือกันว่าเป็น “high church” ของนิกายแองโกล-คาทอลิก (Anglo-Catholicism) ของคริสตจักรแองกลิคัน (เครดิต : https://th.wikipedia.org/wiki/อาสนวิหารยอร์ก)
|
2.หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ (Clifford's Tower) เป็น 1 ใน 2 ปราสาทที่หลงเหลืออยู่ และยังเคยเป็นศูนย์การการปกครองของอังกฤษฝั่งเหนือ ตั้งอยู่บนเนินเล็กๆใกล้กับย่านถนนคนเดินเมืองเก่า
|
|
2.หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ (Clifford's Tower)
|
|
2.หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ (Clifford's Tower) เป็น 1 ใน 2 ปราสาทที่หลงเหลืออยู่ และยังเคยเป็นศูนย์การการปกครองของอังกฤษฝั่งเหนือ ตั้งอยู่บนเนินเล็กๆใกล้กับย่านถนนคนเดินเมืองเก่า
|
|
2.หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ (Clifford's Tower) เป็น 1 ใน 2 ปราสาทที่หลงเหลืออยู่ และยังเคยเป็นศูนย์การการปกครองของอังกฤษฝั่งเหนือ ตั้งอยู่บนเนินเล็กๆใกล้กับย่านถนนคนเดินเมืองเก่า
|
|
2.หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ (Clifford's Tower) เปิดให้เข้าชมเวลา 10 โมงเช้า ถึง 16 นาฬิกา ส่วนค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 12.5 ปอนด์ แต่ถ้าผู้ใหญ่ 2 คน จ่ายแค่ 22.5 ปอนด์ ส่วนเด็กอายุ 5-17 ปี จ่ายเพียง 7.5 ปอนด์ต่อคนเท่านั้น |
2.หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ (Clifford's Tower)
สำหรับหอคอยคลิฟฟอร์ด จัดเป็นหนึ่งในหอคอยที่เก่าแก่อีกแห่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านถนนคนเดินเมืองเก่า โดยเป็น 1 ใน 2 ปราสาทที่หลงเหลืออยู่ และยังเคยเป็นศูนย์การการปกครองของอังกฤษฝั่งเหนือ ตั้งอยู่บนเนินเล็กๆใกล้กับย่านถนนคนเดินเมืองเก่า ซึ่งแต่เดิมทีในอดีตเคยเป็นทั้งคุก ปราสาทยอร์ค (York Castle) และป้อมปราการของเมืองยอร์ค ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ร่องรอยอิฐที่เป็นรูปอาคารหักพังอยู่บนเนินดินสูงที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองยอร์ค โดยเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเดินชม ซึ่งด้านบนหอคอยมีการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆของประวัติหอคอยแห่งนี้ และยังเป็นจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ย่านตัวเมืองเก่ายอร์ค
|
3.วิหารเซนต์ แมรี่ย์ แอบบีย์ (St. Mary’s Abbey) ซากกลุ่มอาคารนิกายเบเนดิกตินที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าวิลเลียมในศตวรรษที่ 11 แอบบีย์อันใหญ่โต และในอดีตก่อนที่จะกลายเป็นซากปรับหักพังตามภาพที่เห็น |
|
3.วิหารเซนต์ แมรี่ย์ แอบบีย์ (St. Mary’s Abbey) ซากกลุ่มอาคารนิกายเบเนดิกตินที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าวิลเลียมในศตวรรษที่ 11 แอบบีย์อันใหญ่โต และในอดีตก่อนที่จะกลายเป็นซากปรับหักพังตามภาพที่เห็น |
|
3.วิหารเซนต์ แมรี่ย์ แอบบีย์ (St. Mary’s Abbey) ซากกลุ่มอาคารนิกายเบเนดิกตินที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าวิลเลียมในศตวรรษที่ 11 แอบบีย์อันใหญ่โต และในอดีตก่อนที่จะกลายเป็นซากปรับหักพังตามภาพที่เห็น |
|
3.วิหารเซนต์ แมรี่ย์ แอบบีย์ (St. Mary’s Abbey) ซากกลุ่มอาคารนิกายเบเนดิกตินที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าวิลเลียมในศตวรรษที่ 11 แอบบีย์อันใหญ่โต และในอดีตก่อนที่จะกลายเป็นซากปรับหักพังตามภาพที่เห็น |
|
3.วิหารเซนต์ แมรี่ย์ แอบบีย์ (St. Mary’s Abbey) ซากกลุ่มอาคารนิกายเบเนดิกตินที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าวิลเลียมในศตวรรษที่ 11 แอบบีย์อันใหญ่โต และในอดีตก่อนที่จะกลายเป็นซากปรับหักพังตามภาพที่เห็น |
3.วิหารเซนต์ แมรี่ย์ แอบบีย์ (St. Mary’s Abbey)
จัดเป็นวิหารเก่าแก่ อยู่ในกลุ่มซากอาคารโบราณสถานที่สำคัญของเมืองยอร์ค โดยวิหารเซนต์ แมรี่ย์ แอบบีย์ นั้นตั้งอยู่ในสวนใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ยอร์ก มีพื้นที่กว้างใหญ่ พร้อมทัศนียภาพที่สวยงาม วิหารเซนต์แมรีส์แอบบีย์ ซากกลุ่มอาคารนิกายเบเนดิกตินที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าวิลเลียมในศตวรรษที่ 11 แอบบีย์อันใหญ่โต และในอดีตก่อนที่จะกลายเป็นซากปรับหักพังตามภาพที่เห็นนั้น เคยเป็นอารามที่ยิ่งใหญ่และหรูหรามากที่สุดของประเทศ จนกระทั่ง พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ปฏิรูปโบสถ์ในทศวรรษ 1500 มีผลให้ถูกยกเลิกใช้งาน และชาวบ้านมาขนหินเพื่อไปต่อเติมบ้านของตัวเอง ปัจจุบันซากปรักหักพัง กำแพงบางส่วน รวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของตัวอาคาร King’s Manor เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยยอร์ก จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
|
4.ถนนคนเดินแชมเบิ้ล (The Shambles) ถนนสายเก่าแก่ในยุคกลางใจกลางเมืองยอร์ก ที่เต็มไปด้วยร้านค้า และอาคารบ้าเรือนเก่าแก่มากมาย |
|
4.ถนนคนเดินแชมเบิ้ล (The Shambles) ถนนสายเก่าแก่ในยุคกลางใจกลางเมืองยอร์ก ที่เต็มไปด้วยร้านค้า และอาคารบ้าเรือนเก่าแก่มากมาย |
|
4.ถนนคนเดินแชมเบิ้ล (The Shambles) ถนนสายเก่าแก่ในยุคกลางใจกลางเมืองยอร์ก ที่เต็มไปด้วยร้านค้า และอาคารบ้าเรือนเก่าแก่มากมาย |
|
4.ถนนคนเดินแชมเบิ้ล (The Shambles) ถนนสายเก่าแก่ในยุคกลางใจกลางเมืองยอร์ก ที่เต็มไปด้วยร้านค้า และอาคารบ้าเรือนเก่าแก่มากมาย |
|
4.ถนนคนเดินแชมเบิ้ล (The Shambles) ถนนสายเก่าแก่ในยุคกลางใจกลางเมืองยอร์ก ที่เต็มไปด้วยร้านค้า และอาคารบ้าเรือนเก่าแก่มากมาย |
4.ถนนคนเดินแชมเบิ้ล (The Shambles) ถนน
และสำหรับสายเที่ยวคนใหน ที่เดินทางมาเที่ยวเมืองยอร์คแล้ว ไม่ได้มาเช็คอินเดินชมถนนแชมเบิ้ล ถือว่ามาไม่ถึงเมืองยอร์คเลยล่ะค่ะ เพราะ แชมเบิลส์ คือ ถนนสายเก่าแก่ในยุคกลางใจกลางเมืองยอร์ก ที่เต็มไปด้วยร้านค้า และอาคารบ้าเรือนเก่าแก่มากมาย โดยตัวถนนนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเอาส์ใจกลางเมืองยอร์ก โดยอยู่ระหว่างวิหารเซนต์แมรีส์แอบบีย์และหอคอยคลิฟฟอร์ดส์
ถนนแชมเบิลส์เป็นถนนสายเก่าในยอร์ก สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยคริตศตวรรษที่ 14 เนื่องจากการตกแต่งตัวอาคารที่มี Fleshammels ยื่นอยู่ใต้ชายคาไว้แขวนโชว์เนื้อสัตว์นั่นเอง
โดยชื่อ “แชมเบิลส์” มาจากคำว่า “Fleshhammels” (เฟลชแฮมเมลส์) ในภาษาแซกซอน ซึ่งมีที่มาจากการเป็นย่านชำแหละสัตว์ในอดีต
ซึ่งผังถนนที่ยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีแกลเลอรี และร้านขายของที่ระลึกกระจายตัวอยู่ตลอดแนวถนนแคบๆ ถนนแชมเบิลส์ ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำตรอก Diagon Alley ในภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้วย และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เมืองยอร์กแกลายเป็นสถานที่่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของอังกฤษมากขึ้น โดยทีมงานกูเกิลสตรีทได้โหวตให้สถานที่แห่งนี้ กลายเป็นถนนที่งดงามที่สุดในประเทศอังกฤษอีกด้วย
|
5.สวนสาธารณะพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ค (York Museum Gardens) |
|
5.สวนสาธารณะพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ค (York Museum Gardens) |
|
5.สวนสาธารณะพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ค (York Museum Gardens) |
|
5.สวนสาธารณะพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ค (York Museum Gardens) |
|
5.สวนสาธารณะพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ค (York Museum Gardens) |
|
5.สวนสาธารณะพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ค (York Museum Gardens) |
5.สวนสาธารณะพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ค (York Museum Gardens)
สวนพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ก ถือว่าเป็นสวนสาธารณะกลางเมืองที่ติดอยู่กับแม่น้ำอูส Ouse ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10 เอเคอร์รวมบริเวณโบสถ์เซนต์แมรี่ (St Mary’s Abbey) ที่ถูกสร้างขึ้นในยุค 1830 โดยเป็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพันธุ์พืชหลากหลาย ภายในสวนเป็นที่ตั้งของโบราณสถาน ซากปรักหักพังของโบถส์ในยุคกลางอย่าง St Mary Abbey กำแพงและหอคอยจากยุคโรมัน รวมถึงพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในประเทศอังกฤษสร้างขึ้นมาเพื่อเก็บชิ้นส่วนและวัตถุทางประวัติศาสตร์ ‘Yorkshire Museum’ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมและเรียนรู้เรื่องราวที่น่าใจด้วย
|
6.พิพิธภัณฑ์ปราสาทแห่งเมืองยอร์ค (York Castle Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ปราสาทแห่งเมืองยอร์ค (York Castle Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ปราสาทแห่งเมืองยอร์ค (York Castle Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ปราสาทแห่งเมืองยอร์ค (York Castle Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ปราสาทแห่งเมืองยอร์ค (York Castle Museum) ค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 16 ปอนด์ |
6.พิพิธภัณฑ์ปราสาทแห่งเมืองยอร์ค (York Castle Museum)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจ ตัั้งอยู่ใกล้ๆกับ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้น หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ (Clifford's Tower) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย John L. Kirk ในปี 1938 และตั้งอยู่ภายในเรือนจำเก่าของปราสาทสมัยศตวรรษที่ 11 ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์เป็นประตูประตูเมืองบูทแธม ที่เป็นประตูเข้าไปในย่านตัวเมืองเก่า จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งครอบคลุมยุคจาโคเบียนและยุควิกตอเรียจนถึงศตวรรษที่ 20 นักโบราณคดีค้นพบพิพิธภัณฑ์ในอาคารเรือนจำสมัยศตวรรษที่ 18 ในปี 1938 สัมผัสบรรยากาศชีวิตนักโทษ ขณะที่คุณเดินผ่านระเบียงอันน่ากลัว ภายในพิพิธภัณฑ์มีแกลเลอรีแบบถาวรหลายแห่ง และนิทรรศการหมุนเวียน มีพื้นที่เด็กเล่น Teddy Trail พื้นที่ส่วน The Sixties เป็นอีกสถานที่ยอดนิยมภายในพิพิธภัณฑ์ เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่วงการดนตรีและศิลปะก่อให้เกิดขึ้นในสังคมอังกฤษในยุค 60 เรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ที่ไม่ควรพลาดไปเลยล่ะค่ะ
|
7.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองยอร์ค (York Art Gallery) |
|
7.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองยอร์ค (York Art Gallery) |
|
7.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองยอร์ค (York Art Gallery) |
|
7.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองยอร์ค (York Art Gallery) |
|
7.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองยอร์ค (York Art Gallery) |
7.พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองยอร์ค (York Art Gallery)
จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงภาพแกลอรี่และศิลปะของเมืองยอร์ค มีภาคคอลเลกชั่น สะสมภาพวาดตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นภาพพิมพ์ ภาพวาดใช้สีน้ำ และยังมีเครื่องเซรามิกที่จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมกันด้วย
|
ไปเที่ยวชมย่านเมืองเก่าในเมืองยอร์กกันต่อค่ะ |
0 ความคิดเห็น