Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

ต้องไป 7 แหล่งท่องเที่ยวของไทยล่าสุด ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย

ตามไปเช็คอินถ่ายรูปกันให้ได้ อัพเดท 7 ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากอองค์การยูเนสโก้ มีที่ใหนบ้าง ไปเที่ยวกันเลย




สวัสดีเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคนค่ะ เดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ในบทความนี้ ขอนำเสนอสาระดีๆเล็กๆน้อยเที่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แน่นอนว่า คำว่ามรดกโลก จะต้องเป็นอะไรที่มีคุณค่ามากๆ 


โดยความหมาของคำว่า แหล่งมรดกโลก นั้นหมายถึง แหล่งมรดกโลก คือ พื้นที่ซึ่งอาจจะเป็น ป่าไม้ ภูเขา ทะเลสาบ สิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมไปถึงเมือง ที่ได้รับการคัดเลือกจากยูเนสโก ว่าเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญ มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือด้านอื่นๆด้วย  ซึ่งมรดกโลกในปัจจุบันนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติ และในประเทศไทยเรานั้นก็มีแหล่งมรดกโลก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดมีถึง 7 แห่งด้วยกัน ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเช็คอินกันได้เลยจ้า



ปัจจุบันประเทศไทยมีแหล่งมรดกโลกอยู่ 7  แห่ง 

แบ่งออกเป็นแ่หล่งมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ โบราณสถาน 4 แห่ง 
และแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ อีก 3 แห่ง 


1.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร (Ayutthaya Historical park)

1.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร (Ayutthaya Historical park)

1.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร (Ayutthaya Historical park)

1.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร (Ayutthaya Historical park)



1.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร (Ayutthaya Historical park)

ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ในนามนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (Historic City of Ayutthaya)   หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันเก่าแก่ของไทยที่สร้างชื่อเสียงดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกที่สนใจประวัติศาสตร์ต้องมาเช็คอินเที่ยวที่เมืองเก่าแห่งนี้ เหตุผลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพราะเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว 

โดยพระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นในวันที่ 3 เมษายน 1893 พ.ศ. 1893 และได้ถูกพม่าทำลายลงในพุทธศตวรรษที่ 23 ในการสู้รบกับพม่า จนถึงวันที่ 7เมษายน 2310 โดยเป็นอยุธยาเป็นเมืองที่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นเวลายาวนานถึง 417 ปี  แม้จะถูกทำลายลงก็ยังคงมีร่องรอยความยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองของเมืองดังที่ปรากฏมาจนถึงปัจจุบัน 



2.อุทยานประวัติศาตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร รวมทั้งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และศรีสัชนาลัย (Sukhothai Historical Park)

2.อุทยานประวัติศาตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร รวมทั้งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และศรีสัชนาลัย (Sukhothai Historical Park)

2.อุทยานประวัติศาตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร รวมทั้งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และศรีสัชนาลัย (Sukhothai Historical Park)

2.อุทยานประวัติศาตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร รวมทั้งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และศรีสัชนาลัย (Sukhothai Historical Park)



2.อุทยานประวัติศาตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร รวมทั้งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และศรีสัชนาลัย (Sukhothai Historical Park)

โดยทางองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2534 โดยอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต้องไปเยีอนชม เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นรุ่งอรุณแห่งความสุข โดยเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรสุโขทัยซึ่งมีอำนาจอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18–19 โดยผังเมืองสุโขทัยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1.6 กิโลเมตร มีประตูเมืองอยู่ตรงกลางกำแพงเมืองแต่ละด้าน ภายในยังเหลือร่องรอยพระราชวังและวัดอีก 26 แห่ง


3.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (Ban Chiang archaeological site)

3.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (Ban Chiang archaeological site)

3.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (Ban Chiang archaeological site)

3.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (Ban Chiang archaeological site)



3.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (Ban Chiang archaeological site)

ตั้งอยู่ในบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี จัดเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งก็ว่าได้ที่ทำให้รับรู้ถึงการดำรงชีวิตในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปกว่า 5,000 ปี  ทำให้ได้รับการจดทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535 

 โดยชาวบ้านเชียงโบราณนิยมทำเครื่องมือเครื่องใช้และเครื่องประดับจากสำริดในระยะแรก ก่อนที่จะได้รู้จักใช้การใช้เหล็ก ชาวพอลินีเซียมีหลักฐานว่านิยมใช้สำริดเช่นกัน เช่นใช้ทำเป็นกลองมโหระทึก การวาดเขียนลวดลายลงในภาชนะ หม้อดินเผาอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่สร้างภาพจำให้กับบ้านเชียงเป็นอย่างมาก

4.อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ (Si Thep Historical Park) เครดิตภาพจากfacebok อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ


4.อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ (Si Thep Historical Park) เครดิตภาพจากfacebok อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ



4.อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ (Si Thep Historical Park)

 (เป็นแหล่งมรดกโลกล่าสุดของไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้  ภายใต้ชื่อ "เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานทวารวดีที่เกี่ยวเนื่อง"  เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2566  โดยเมืองโบราณศรีเทพ ตั้งอยู่ในอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์  อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 232 กิโลเมตร เนื่องจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เป็นเมืองโบราณศรีเทพ  มีอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8-18 เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งในสมัยทวารวดี มีการติดต่อรับคติความเชื่อทางศาสนาหลายศาสนาและนิกาย ทั้งพุทธศาสนาแบบเถรวาทและมหายาน รวมไปถึงศาสนาพราหมณ์-ฮินดู บริเวณเมืองฯ พบหลักฐานการพัฒนาการอย่างต่อเนื่องใน 3 สมัย ได้แก่ ชุมชนยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยทวารวดี และสมัยวัฒนธรรมขอมแผ่ขยายเข้ามามีอิทธิพลในตอนปลาย ก่อนจะหมดความสำคัญกลายเป็นเมืองร้าง (เครดิตข้อมูลดีๆ จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ )





แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติไทยมี  3 แห่ง 




5.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง  (Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary)


5.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง  (Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary)

ถูกจัดให้เป็นเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองค์การยูเนสโกเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด บางชนิดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ เช่น สมเสร็จ, เก้งหม้อ, เลียงผา, กระทิง, วัวแดง, ควายป่า ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ทางธรรมชาติแห่งสุดท้ายแล้วในประเทศไทย 

อีกทั้งยังเป็นต้นน้ำของแหล่งน้ำสำคัญ 3 สาย คือ ลำน้ำทับเสลา ซึ่งไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำทับเสลา และไหลลงสู่แม่น้ำสะแกกรังจนกระทั่งลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา, ลำน้ำห้วยขาแข้งไหลลงสู่เขื่อนศรีนครินทร์ และลำน้ำแม่กลอง–อุ้มผาง ที่ไหลจากจังหวัดกาญจนบุรีและตาก ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตไฟฟ้ารวมถึงน้ำประปาในภาคตะวันตกและกรุงเทพมหานครอีกด้วย 


6.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ผืนป่าดงพญาเย็น  (Khao Yai National Park) 

6.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ผืนป่าดงพญาเย็น  (Khao Yai National Park) 

6.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ผืนป่าดงพญาเย็น  (Khao Yai National Park) 

6.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ผืนป่าดงพญาเย็น  (Khao Yai National Park) 



6.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ผืนป่าดงพญาเย็น  (Khao Yai National Park) 

สำหรับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโกเมื่อวันที่  14 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 โดยร่วมกับอุทยานแห่งชาติอีกสามแห่งได้แก่ อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติปางสีดา และอุทยานแห่งชาติตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกหนึ่งแห่งได้แก่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ภายใต้ชื่อ "กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่"


7.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - กลุ่มป่าแก่งกระจาน (Kaeng Krachan National Park)

7.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - กลุ่มป่าแก่งกระจาน (Kaeng Krachan National Park)



7.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - กลุ่มป่าแก่งกระจาน (Kaeng Krachan National Park)

จัดเป็นหนึ่งในอุทยาแห่งชาติทีมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกจากยูเนสโกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 
โดยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานแห่งชาติที่สมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำลำธารของลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม ทั้งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดของประเทศ




เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Huai_Kha_Khaeng_Wildlife_Sanctuary

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น