Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

เรื่องน่ารู้ของวัดพนัญเชิง กับหลวงพ่อซำปอกง พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ใครก็ต้องมากราบไหว้พระขอพรกัน

เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอนำเสนอเรื่องนารู้เกี่ยวกับวัดพนัญเชิง หลวงพ่อซำปอกง องค์ใหญ่ ที่ใครๆก็ต้องมากราบไหว้พระขอพรกัน


 หากจัดทริปมาเที่ยวและไหว้พระอยุธยา หนึ่งในวัดที่พลาดไม่ได้เลย สำหรับพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวต้องแวะมาสักการะไหว้พระกันก็คงต้องไป วัดพนัญเชิง อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในเมืองเก่าอยุธยา ภายในประดิษฐานหลวงพ่อซำปอกง หรือที่คนนิยมเรียกว่า หลวงพ่อโต ว่ากันว่าหากใครได้มาสักการะองค์หลวงพ่อโต และได้ถวายผ้าห่อองค์พระที่วัดพนัญเชิง จัดเป็นบุญที่ใหญ่นัก



และแม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้มีการถวายผ้าห่มองค์หลวงพ่อโตแล้ว แต่พุทธศาสนิกชนที่มาก็สามารถนำผ้ามาถวายด้านหน้าองค์พระแทนได้  หากเอ่ยถึงวัดพนัญเชิงแล้ว ถือว่าเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานไม่น้อย วันนี้ก็เลยขอนำสาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดพนัญเชิงมาให้อ่านเป็นความรู้กันจ้า




เกี่ยวกับวัดพนัญเชิง พระนครศรีอยุธยา (Wat Phanan Choeng,Ayutthaya)
เกี่ยวกับวัดพนัญเชิง พระนครศรีอยุธยา (Wat Phanan Choeng,Ayutthaya)

วัดพนัญเชิง เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนานยิ่งนัก และก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา โดยไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง  ซึ่งตามหนังสือพงศาวดารเหนือ กล่าวไว้ว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และพระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง และพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์กล่าวไว้ว่า ได้สถาปนาพระพุทธรูปพุทธเจ้าพแนงเชิง เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งก่อนพระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี ทำให้วัดพนัญเชิงถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในอยุธยา


สิ่งที่น่าสนใจที่สุดภายในวัดพนัญเชิงคือ ภายในวิหาร ประดิษฐาน พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา



มีจุดเด่นสำคัญ คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา


ชาวบ้านเรียก หลวงพ่อโต หรือ ซำปอกง (ซำปอ แปลว่า ไตรรัตน์ และกง เป็นคำใช้เรียกผู้มีความรู้และคุณธรรม) และเป็นที่เคารพของคนไทยเชื้อสายจีน


สำหรับพระพุทธไตรรัตนนายก หรืออีกชื่อคือ หลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา มีขนาดหน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย เคยได้รับความเสียหายในสมัยเสียกรุง แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2394 ได้โปรดเกล้าให้บูรณะใหม่หมดทั้งองค์ และพระราชทานนามใหม่ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่รู้จักกันในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื้อสายจีนว่า หลวงพ่อซำปอกง



พิธีห่มผ้าองค์หลวงพ่อโตในอดีต โดยผู้เขียนได้ไปเมื่อเดือน ธันวาคมปี พ.ศ. 2555 หรือประมาณ 10 ปีมาแล้ว



ชาวบ้านเรียก หลวงพ่อโต หรือ ซำปอกง (ซำปอ แปลว่า ไตรรัตน์ และกง เป็นคำใช้เรียกผู้มีความรู้และคุณธรรม) และเป็นที่เคารพของคนไทยเชื้อสายจีน


พแนงเชิง มีความหมายว่า นั่งขัดสมาธิ ฉะนั้น คำว่า วัดพนัญเชิง (วัดพระแนงเชิง หรือ วัดพระเจ้าพแนงเชิง) จึงหมายถึง วัดแห่งพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยคือ หลวงพ่อโต

ที่มาของชื่อวัด มาจากคำว่า พแนงเชิง มีความหมายว่า นั่งขัดสมาธิ ฉะนั้น คำว่า วัดพนัญเชิง (วัดพระแนงเชิง หรือ วัดพระเจ้าพแนงเชิง) จึงหมายถึง วัดแห่งพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยคือ หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก นั้นเอง หรืออาจสืบเนื่องมาจากตำนานเรื่องพระนางสร้อยดอกหมาก คือ เมื่อพระนางสร้อยดอกหมากกลั้นใจตายนั้น พระนางคงนั่งขัดสมาธิ เพราะชาวจีนนิยมนั่งขัดสมาธิมากว่านั่งพับเพียบจึงนำมาใช้เรียกชื่อวัด บางคนก็เรียกว่า วัดพระนางเอาเชิง ตามสาเหตุที่ทำให้พระนางถึงแก่ชีวิต ฉะนั้น ถ้าเรียกนามวัดตามความหมายของคำว่า วัดพนัญเชิง ก็ย่อมหมายความถึงวัดที่มีพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ คือหลวงพ่อโต (อ้างอิงจากประวัติวัดพนัญเชิงข้อมูลของทางวัดในปัจจุบัน)


พิธีห่มผ้าองค์หลวงพ่อโตในอดีต โดยผู้เขียนได้ไปเมื่อเดือน ธันวาคมปี 2555 หรือประมาณ 10 ปีมาแล้ว

และการห่มผ้าองค์พระนั้น  ชื่อว่าองค์พระพุทธรูปทุกพระองค์เหมือนตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นแล้วคนโบราณจึงมีความเชื่อกันว่า การได้ถวายให้พุทธองค์จะต้องทำอย่างตั้งใจ เพราะการถวายสิ่งดีๆ งดงามแด่พระองค์ ช่วยให้ชีวิตเราสวยงามและดีไปด้วย แม้พิธีการห่มผ้าองค์พระนั้นจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ก็สามารถผ้าไตรก็ถือว่าได้กุศลเช่นกัน 



วัดพนัญเชิงยังมีอาคารสำคัญและแสดงอิทธิพลความ เชื่อของคนไทยเชื้อสายจีนอีกด้วย คือพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปเรียงกัน 3 องค์ ได้แก่ พระเงิน พระทอง และพระนาก
ภายในวัดพนัญเชิงยังมีอาคารสำคัญและแสดงอิทธิพลความ เชื่อของคนไทยเชื้อสายจีนอีกด้วย คือพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปเรียงกัน 3 องค์ ได้แก่ พระเงิน พระทอง และพระนาก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยปลายสุโขทัย พระวิหารน้อย ภายในมีโต๊ะหมู่บูชาเทพเจ้าตามความเชื่อจีน และฝาพนังจิตรกรรมสมัยใหม่รูปโต๊ะหมู่บูชาแบบจีน เก๋งจีน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก อยู่ด้านหลังพระวิหารใหญ่ เป็นสถาปัตยกรรมจีนที่สร้างล้อมลานขนาดเล็ก ด้านหลังเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นบนมีองค์จำลองของเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก

ที่ตั้งของวัดพนัญเชิงวรวิหาร ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร แบบมหานิกาย และยังเป็นหนึ่งใน 9 วัดสำคัญ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต้องมาไหว้พระกันอีกด้วย


เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Wat_Phanan_Choeng
---------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ 

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น