สำหรับเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภาคนใหน ที่กำลังวางแผนปักหมุดจะหยุดกาลเวลา ไปช่ะช่ะช่าเริงร่าเที่ยวโอซาก้า และจะมาเที่ยวลั๊ลลาต่อที่เมืองเกียวโต แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวถ่ายรูปภาพสวยๆที่ใหนดี เนื่องจากในเมืองเกียวโต มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งเลยทีเดียว จะมาเที่ยวเกียวโตแบบ 1 วันไปเช้าเย็นกลับ หรือจะขยับทริปโปรแกรมเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืนก็ยังได้ ไปเที่ยวแบบชิลๆ ถ่ายรูปวิวสวยๆไปเรื่อยเปื่อย หรือว่าจะช๊อปปิ้ง กินอาหาร ร้านขนมเค้กอร่อยๆก็ยังมี
วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเลยขอเป็นคนบ้า เลิกจากงานประจำ มาแนะนำที่เที่ยวเกียวโต ยอดนิยม ที่ใครๆก็ต้องไปชื่นชมถ่ายรูปภาพวิวสวยๆ เพื่อเช็คอินน์ลงโซเชียลมีเดียว แวะไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และเดินกางแผนที่หาร้านอาหารอร่อยๆทานสักครั้ง ส่วนที่เที่ยวจะมีที่ใหนบ้างนั้น ลองวางแผนโปรแกรมไปเที่ยวกันได้เลย จะเที่ยว 1 วัน หรือ 2 วันก็ได้ค่ะ แวะมาเที่ยวกันดูนะคะ ลองมาเปิดประสบการณ์รับมุมมองใหม่ๆในต่างแดน เริ่ดสะแมนแตนอย่างแน่นอนจ้า
 |
| 1.ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เสาโทริอิสีแดง (Fushimiinari-taisha) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่คนต้องมาชื่นชมถ่ายรูปกับทางเดินเสาโทริอิสีแดงหมื่นต้นในศาลเจ้าแห่งนี้สักครั้ง |
 |
| 1.ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เสาโทริอิสีแดง (Fushimiinari-taisha) |
 |
| 1.ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เสาโทริอิสีแดง (Fushimiinari-taisha) |
 |
| 1.ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เสาโทริอิสีแดง (Fushimiinari-taisha) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่คนต้องมาชื่นชมถ่ายรูปกับทางเดินเสาโทริอิสีแดงหมื่นต้นในศาลเจ้าแห่งนี้สักครั้ง |
จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งในเมืองเกียวโต เรียกว่าถ้าใครมาเที่ยวเกียวโตแล้ว ไม่ได้มาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ และเดินลอดซุ้มเสาโทริสีแดงหมื่นต้น ว่ากันว่า มาไม่ถึงเมืองเกียวโตเลยล่ะค่ะ เพราะจัดเป็นกิมมิค หนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกให้รู้จักเมืองนี้อีกด้วย
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimiinari-taisha) เป็นศาลเจ้าชินโตของเทพอินาริ อันเป็นเทพแห่งกสิกรรม ตั้งอยู่ในเขตฟูชิมิ นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นตัวศาลเจ้าตั้งอยู่บนพื้นที่เชิงเขาที่ระดับความสูง 233 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งภูเขาก็มีนามเดียวกันคือภูเขาอินาริ ซึ่งรอบเชิงเขานี้ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าเล็กๆอีกมากมายตลอดระยะทาง 4 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินเท้าและเยี่ยมชมได้โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง
โดย ชาวญี่ปุ่นนับถือเทพอินาริในด้านการอุปถัมภ์ค้ำชูและส่งเสริมความเจริญในการงานและกิจการ ซึ่งความศรัทธานี้ยังคงอยู่จนตราบจนปัจจุบัน บรรดาเสาโทริอิที่มากมายของศาลเจ้าแห่งนี้นั้น ล้วนเป็นศรัทธาจากบริษัท ห้างร้าน และโรงงานในญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละต้นจะมีการจารึกผู้บริจาคไว้ และในยุคต้นยุคเฮอัง ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ อยู่ภายใต้พระราชูปถัมภ์ขององค์จักรพรรดิ ใน พ.ศ. 1508 จักรพรรดิมูรากามิทรงบัญชาให้มีการขึ้นบัญชีเหตุการณ์สำคัญของเทพารักษ์แผ่นดิน ซึ่งในบัญชีนี้ ในขั้นต้นกล่าวถึงศาลเจ้า 16 แห่ง ซึ่งศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ก็เป็นหนึ่งในนั้นอีกด้วย
การเดินทาง : แนะนำนั่งรถไฟ JR จากสถานีเกียวโต ลงที่สถานี JR Inari เดินข้ามทางม้าลายไปอีกนิดหน่อยก็ถึงศาลเจ้าฟูชิมิอานาริ
 |
| 2.วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) (Kiyomizu-dera) โบราณสถานที่จัดให้เป็นมรดกโลกในเมืองเกียวโต |
 |
| 2.วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) (Kiyomizu-dera) โบราณสถานที่จัดให้เป็นมรดกโลก |
 |
| 2.วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) (Kiyomizu-dera) โบราณสถานที่จัดให้เป็นมรดกโลก |
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณสถาน และทางศาสนาที่สวยงามอีกแห่ง โดยได้รับการยกให้เป็นมรดกโลกขององค์กรยูเนสโกอีกด้วย ตัววัดตั้งอยู่บนเขาโอโตวะ มีทัศนียภาพที่ดงาม อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเกียวโต ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ (Historic Monuments of Ancient Kyoto) ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์กรยูเนสโก อาคารหลักของวัดคิโยมิซูเดระได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น ชื่อของวัดซึ่งมีความหมายว่าน้ำบริสุทธิ์ มีที่มาจากน้ำตกที่ไหลผ่านเนินเขาลงมาบริเวณวัด
จุดเด่นของวัดนอกจากมีภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว อาคารหลักของวัดคิโยมิซูเดระเป็นที่รู้จักจากระเบียงขนาดใหญ่สูง 13 เมตร มีเสาไม้กว่าร้อยต้นรองรับ สร้างยื่นออกจากด้านข้างของเนินเขา จากระเบียงนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเกียวโตได้ วลีที่กล่าวว่า "กระโดดจากระเบียงวัดคิโยมิซูเดระ" ซึ่งหมายความว่า ตัดสินใจกะทันหัน หรือกล้าตัดสินใจ วลีนี้มีที่มาจากความเชื่อในสมัยเอโดะที่ว่า หากผู้ใดสามารถกระโดดจากระเบียงวัดแล้วสามารถรอดชีวิตได้ ความปรารถนาของผู้นั้นจะสัมฤทธิ์ผลจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวหลายคน นิยมแวะมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย
การเดินทาง : แนะนำนั่งรถไฟใต้ดินสาย Keihan main line ลงที่สถานีรถไฟ Kiyomizu Gojo station เดินเท้าไปอีกประมาณ 300 เมตรก็ถึงวัดคิโยมิซุ
 |
| 3.วัดคินคะคุจิ หรือ วัดทอง (Kinkakuji Temple) สถานที่ตามรอยจากการ์ตูนดังยุค80-90 อิคคิวซัง(Ikkyusan cartoon) |
 |
| 3.วัดคินคะคุจิ หรือ วัดทอง (Kinkakuji Temple) สถานที่ตามรอยจากการ์ตูนดังยุค80-90 อิคคิวซัง(Ikkyusan cartoon) |
 |
| 3.วัดคินคะคุจิ หรือ วัดทอง (Kinkakuji Temple) สถานที่ตามรอยจากการ์ตูนดังยุค80-90 อิคคิวซัง(Ikkyusan cartoon) |
จัดเป็นหนึ่งวัดสวยงาม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองเกียวโต ที่ใครๆก็ต้องไปตามรอยกัน แต่คนไทยส่วนใหญ่ นิยมเรียกวัดนี้ว่า วัดอิคคิวซัง เนื่องจากภาพของปราสาทสีทองที่อยู่ในการ์ตูนดังกล่าว ทำให้ต้องมาเห็นด้วตาตัวเองสักครั้ง เนื่องจากวัดปราสาททองแห่ง นี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดโระคุอนจิ (Rokuonji) ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นบ้านพักตากอากาศ ของรัฐบุรุษนาม ไซออนจิ คิทซึเนะ (Sionji Kitsune) จนกระทั่งในปี 1397 โชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ได้ซื้อสถานที่แห่งนี้ต่อจากไซออนจิ และเปลี่ยนเป็นที่พำนักของโชกุนโดยตั้งชื่อว่า “คิตะยะมะโดโนะ และเมื่อปี ค.ศ. 1419 บุตรชายของโชกุนอาชิคางะได้เปลี่ยนแปลงให้เป็นวัดนิกายเซน สายรินไซ มาจนถึงปัจจุบัน จุดเด่นของวัดคือ อาคารสีทองหลังงาม มี 3 ชั้น จนมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "วัดทอง"
การเดินทาง : แนะนำขึ้นรถประจำทางKyoto City Bus สายตรงหมายเลข 101 หรือ 205 จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ซึ่งจะใช้เวลาเดินทาง 40 นาที
 |
| 4.วัดโทจิ (To-ji Temple) ที่เที่ยวอยู่ใกล้สถานีรถไฟเกียวโต เดินมาได้ไม่ไกล |
 |
| 4.วัดโทจิ (To-ji Temple) |
 |
| 4.วัดโทจิ (To-ji Temple) |
 |
| 4.วัดโทจิ (To-ji Temple) |
จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟเกียวโต ที่สามารถเดินทางมาได้ไม่ไกล โดยลักษณะเด่นของวัดคือเจดีย์ของวัดที่เด่นตระหง่าน สวยงาม ซึ่งใครก็แล้วแต่ที่เดินด้วยรถไฟ มายังเมืองเกียวโต ก็จะสะดุดตากับเจดีย์อันโดดเด่นของวัดแห่งนี้ และเป็นที่เที่ยวที่อยู่ในย่านใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟ JR เกียวโตอีกด้วย
วัดโทสร้างขึ้นเมื่อปี 796 สองปีหลังจากที่ย้ายเมืองหลังมายังเฮอัง หรือเกียวโตในปัจจุบัน ในปี 823 พระโคโบ ไดชิ หรือคูไก ได้เข้ามาดำเนินการต่อเติมและพัฒนาวัดตามพระบัญชาของจักรพรรดิซางะ พระประธานของวัดคือ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา (Yakushi Nyorai) หรือพระพุทธเจ้าหมอ
เจดีย์ของวัดโทมีความสูง 57 เมตร จัดว่าเป็นอาคารไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ประวัติความเป็นมาย้อนหลังไปได้ตั้งแต่สมัยเอโดะ เมื่อครั้งที่เจดีย์ถูกสร้างขึ้นใหม่ตามคำสั่งของโทกูงาวะ อิเอมิตสึ โชกุนรุ่นที่ 3 แห่งตระกูลโทกูงาวะ ปัจจุบันเจดีย์นี้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองเกียวโต ทางเข้าสู่ภายในเจดีย์จะเปิดให้เข้าชมเพียงไม่กี่วันในแต่ละปีเท่านั้น
การเดินทาง : เดินทางด้วยเท้าจากสถานีรถไฟ JR เกียวโตใจกลางเมืองมาประมาณ 1 กิโลเมตร เดินเท้าประมาณ 15 นาที หรือหากใครไม่อยากเดิน ก็นั่งรถไฟเอกชนสาย Kintetsu Line สายสีส้ม มาลงที่สถานี Toji sation เดินเท้าไปอีก 50 เมตรก็จะเจอวัด Toji
 |
| 5.ย่านกิออน (Gion Zone) popular kyoto area |
 |
| 5.ย่านกิออน (Gion Zone) |
 |
| 5.ย่านกิออน (Gion Zone) |
จัดเป็นหนึ่งย่านถนนคนเดินสายท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต ที่ใครมาเยือนเมืองนี้ ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินน์กันสักครั้ง แต่อย่าเผลอไปถ่ายรูปบรรดาสาวเกอิชา หรือไมโกะ เข้าล่ะ ไม่งั้นอาจจะโดนเสียค่าปรับได้นะ แน่นอนว่าย่านดังกล่าว มีชื่อเสียงจากการเป็นย่านของราตรีสถานที่คงความดั้งเดิมของญี่ปุ่นเอาไว้อย่างดี และเป็นย่านเกอิชาของเกียวโตที่มีหญิงสาวแต่งตัวกันในชุดกิโมโนหลากสีสัน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดแสดงระบำเคียวมาอิอันแบบดั้งเดิมได้ให้ชม และยังมีร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกทานอีกหลายร้าน จึงทำให้นักเดินทางหลายคน ที่บินลัดฟ้ามาไกล ต่างแวะมาสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นที่ย่านกิออนกัน
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดง Keihan main line ลงที่สถานี Gion-Shijo
 |
| 6.ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) Kyoto |
 |
| 6.ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) |
 |
| 6.ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) |
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวด้านช๊อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุด เนื่องจากเป็นตลาดเปิดตอนกลางวัน เต็มไปด้วยร้านขายอาหารของกินมากมายให้ลิ้มลองทาน และของฝากขึ้นชื่อประจำเมืองเกียวโต ก็มาซื้อกันที่นี่ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ไม่พลาดที่จะแวะมาฝากท้อง และหาอะไรอร่อยๆทานที่ตลาดนิชิกิกัน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เดินทางมาสะดวก และอยู่ใกล้แม่น้ำKamo และศาลเจ้าซายากะอีกด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียว Karasuma line ลงที่สถานี Shijo เดินเท้ามาอีกประมาณ 50 เมตรก็ถึงตลาด Nishiki หรือนั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดง Keihan main line ลงที่สถานี Gion-Shijo จากนั้นข้ามสะพานมาอีกประมาณ 30 เมตรก็ถึงที่หมายย่าน Nishiki Market
 |
| 7.ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในญี่ปุ่น อยู่ใกล้ย่านกิออน |
 |
| 7.ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในญี่ปุ่น อยู่ใกล้ย่านกิออน |
 |
| 7.ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในญี่ปุ่น อยู่ใกล้ย่านกิออน |
 |
| 7.ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในญี่ปุ่น อยู่ใกล้ย่านกิออน |
และไม่ไกลนักจากตลาดนิชิกิ ก็เป็นที่ตั้งของศาลเจ้ายาซากะ เป็นศาลเจ้าชินโตในเขตกิองของเมืองเกียวโต และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย การก่อสร้างมีขึ้นในปี พ.ศ. 1199 ต่อมาครั้นต้นยุคเฮอัง ศาลเจ้ายาซากะอยู่ภายใต้พระราชูปถัมภ์ขององค์จักรพรรดิ ใน พ.ศ. 1508 จักรพรรดิมูรากามิ ทรงบัญชาให้มีการขึ้นบัญชีเหตุการณ์สำคัญของเทพารักษ์แผ่นดิน ซึ่งในบัญชีนี้ ในขั้นต้นกล่าวถึงศาลเจ้า 16 แห่ง ปัจจุบันศาลเจ้าดังกล่าว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นศาลเจ้าที่ชาวเกียวโตให้ความศรัทธาแวะมาสักการะกราบไหว้อย่างเสมอ
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดง Keihan main line ลงที่สถานี Gion-Shijo เดินเท้าจากสถานีรถไฟไปอีกประมาณ 150 เมตรก็ถึงศาลเจ้าซายากะ
 |
| 8.ทางเดินป่าไผ่ซางาโนะ ในชุมชนอาราชิยามะ (Arashiyama Bamboo Forest) |
 |
| 8.ทางเดินป่าไผ่ซางาโนะ ในชุมชนอาราชิยามะ (Arashiyama Bamboo Forest) |
 |
| 8.ทางเดินป่าไผ่ซางาโนะ ในชุมชนอาราชิยามะ (Arashiyama Bamboo Forest) |
จัดเป็นเมืองท่องเที่ยวนอกชานเมืองโตเกียว ที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่ง พื้นที่บริเวณนี้เป็นทิวเขาขนานไปกับแม่น้ำโออิ ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บริเวณดังกล่าวจะมีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม นอกจากนี้ อาราชิยามะยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของชาติญี่ปุ่น
และมีป่าไผ่ซางาโนะ (Sagano Shikurin) หนึ่งในป่าไผ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ตลอดทางเดิน 500 เมตร ทั้งสองข้างทางล้วนเต็มไปด้วยต้นไผ่ที่สูงกว่า 15 เมตร และทางเดินถ่ายรูปสุดคลาสสิค ที่คู่รักวัยรุ่น และนักเดินทางจากทั่วสารทิศ นิยมมาเช็คอิน ชมความงามของซุ้มทางเดินป่าไผ่ในเมืองอาราชิยาม่ากัน
การเดินทางไปอาราชิยาม่า : นั่งรถไฟ JR จากเกียวโต ลงที่สถานี Torrokko Arashiyama หรือลงที่สถานี Saga Arashiyama ก็ได้หากจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สะพาน Katsura River
สำหรับข้อมูลแนะนำที่เที่ยวในเมืองเกียวโต ที่ได้นำเสนอในเว็ปไซต์บล็อกนี้ น่าจะมีแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่ถ่ายภาพสวยๆให้ เพื่อนที่รักการเดินทางได้แวะไปเที่ยวถ่ายรูป เช็คอินกันอยู่ไม่มากก็น้อยนะคะ หากข้อมูลดังกล่าว มีข้อผิดพลาดสิ่งใด ดิฉันต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาสไลด์เลื่อนเปิดดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ...จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
เครดิตข้อมูล :
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดคิโยมิซูเดระ
https://th.wikipedia.org/wiki/ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดโท
https://th.wikipedia.org/wiki/อาราชิยามะ
-----------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้
 |
| รวมโรงแรมในเมืองเกียวโต สไตล์เรียวกัง นอนแช่ออนเซ็น สบายๆ คลิ๊กดูที่พักค่ะ>> |
หรือดูภาพห้องพักที่เว็ป : http://bit.ly/2Zd7aEn
 |
| แบ่งปันเที่ยวฟูจิปีนี้ พักแถวใหนดีกับโซนยอดฮิต ที่คู่รักมาพิชิตนอนกัน คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูข้อมูลที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/340RSFu
 |
| รวมที่พักราคาประหยัด ใกล้สนามบินนาริตะ (Hotels near Narita Airport) คลิ๊กดูที่พัก>> |
หรือดูข้อมูลที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2ovmvCR
 |
| แนะนำโรงแรมแถวอุเอะโน(Ueno Hotels Zone) ราคาประหยัด มีห้องน้ำในตัว คลิ๊กดูที่พัก>> |
หรือดูข้อมูลที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2mvLJ39
 |
| แนะนำที่พักหมู่บ้านชิราคาวาโกะ วิวสวยๆ โฮมสเตย์ เรียวกัง นอนสบายๆ คลิ๊กดูที่พัก>> |
หรือดูข้อมูลที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2mj3bI1
 |
| รวมรายชื่อที่พักย่านชินจูกุ ราคาสุด ประหยัด ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูข้อมูลที่พัก>> |
 |
| แนะนำโรงแรมในเกาะฮอกไกโด แช่ออนเซ็น เห็นวิวสวยๆ คลิ๊กดูข้อมูลที่พัก>> |
หรือดูข้อมูลที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2M20mpq
0 ความคิดเห็น